ในอวกาศสับสนวุ่นวายคล้ายพายุสายฟ้า ยานอวกาศทรงกลมสีเงินตัดผ่านคลื่นด้วยความเร็วสูง เหมือนเรือลำน้อยที่แล่นบนทะเลเปิด พบกับความปั่นป่วนไม่รู้จบ
หานเซี่ยวกับคาซูยิอยู่ในห้อง สังเกตแบบจำลองแผนที่ของมิติที่สอง
เราจะไปลึกกว่านี้… หานเซี่ยวมองพิกัดและขบปาก แน่ใจนะว่าเราไม่ได้ไปผิดทาง?
สัมผัสทิศทางฉันบอกว่านี่เป็นทางเดิม ตามประสบการณ์ฉัน เราควรเกือบถึงแล้ว คาซูยิพยักหน้า
เพราะคาซูยิไม่สามารถเข้ามิติที่สองของเป้าหมายเขาได้ เขาจึงไม่มีพิกัดยึดเหนี่ยวใด ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เดินทางผ่านมิติที่สองก่อนเพื่อย่นระยะทางให้มากที่สุดก่อนฝ่ากระแสอวกาศโกลาหล
ทั้งคู่บินกันหลายวันและออกพื้นที่ควบคุมของสามอารยธรรมจักรวาลไปไกล เจาะลึกไปในมิติที่สองและผ่านยานบินแปลกๆมากมาย
โลกของมิติที่สองเหมือนจักรวาลหลัก ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทุกวินาทีที่ผ่าน โลกนับไม่ถ้วนจะเกิดหรือตาย สามอารยธรรมจักรวาลสำรวจได้เพียงส่วนหนึ่งของพื้นที่เสถียรและเรียกยุคสำรวจนี้ว่า’ชั้นตื้น’ ส่วนพื้นที่ไร้การสำรวจเรียกว่า’ชั้นลึก’ แต่ทว่า ไม่มีความแตกต่างสำคัญระหว่างชั้นตื้นกับลึกในมิติที่สอง
เพราะมันยากจะก้าวไปข้างหน้าโดยไร้พิกัดที่เหมาะสม สิ่งเดียวที่ทั้งคู่ทำได้คือพึ่งพาสัมผัสของคาซูยิเป็นตัวนำทาง โชคดี เพราะเขาเคยมา จึงมีหลักฐานว่าวิธีนี้เป็นไปได้
ครั้งนี้ รอยแตกที่แทบมองไม่เห็นปรากฏในอวกาศปั่นป่วนข้างหน้า ดวงตาของคาซูยิพลันสว่าง นั่น!
วินาทีที่เขาได้ยินมัน หานเซี่ยวก็หักลำยานอวกาศ ตรงเข้ารอยแยก บูม!
ตามทฤษฏี การเผชิญหน้ากับรอยแยกในพายุอวกาศหมายความว่าคนเราจะเข้ามิติที่สองโดยยตรง แต่ครั้งนี้ต่างออกไป ทั้งคู่รู้สึกแค่ว่าตัวยานสั่นเล็กน้อย แต่โลกด้านนอกหน้าต่างยังเป็นอวกาศว่างเปล่า ตรงหน้าพวกเขา กำแพงอวกาศรูปรังผึ้งทอดยาวไร้สิ้นสุด เปล่งแสงสีม่วงอมฟ้า นี่คือกำแพงชั้นนอกของโลกมิติที่สอง
และด้านนอกกำแพงอวกาศ มีสัตว์ประหลาดกลุ่มใหญ่ พวกมันคือกลุ่มที่คาซูยิกล่าวอ้าง
ถึงแล้ว?
ใช่ ระวังตัวด้วย สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่เพียงก้าวร้าวแต่ยังมีความยืดหยุ่นมาก มันยังมีความต้านทานที่น่าทึ่งต่อการโจมตีทางจิตและพลังงานรวมถึงสามารถปลดปล่อยพลังงานที่คล้ายกับสายฟ้ามิติ พวกมันสามารถสะท้อนกัน กลายเป็นโล่ขนาดใหญ่เพื่อแยกโลกภายนอก ซึ่งไม่สามารถทำลายได้โดยปราศจากการฆ่าพวกมัน นี่คือสาเหตุที่ฉันเร่งเข้าไปไม่ได้ คาซูยิตอบ
หานเซี่ยวศึกษาพวกมันอย่างรอบคอบ พวกมันค่อนข้างใหญ่ และด้วยความที่เขาขาดข้อมูลอ้างอิง เขาจึงคาดว่าพวกมันน่าจะยาวประมาณสามร้อยกิโลเมตร พวกมันมีลักษณะของแมลงปีกแข็ง ด้วยโ๕รงกระดูกสีขาวขุ่นทั่วตัวและร่างกายที่แบ่งเป็นสัดส่วน ตอนแรก พวกมันดูเหมือนตะขาบไร้เท้า แต่ทว่า ตามช่องว่างระหว่างเปลือก พวกมันมีปีกพังผืดสีฟ้าอ่อนแทน
ทุกส่วนของปีกพังผืดมีข้อต่อคล้ายกับแขนขา ด้วยกระดูกกลวงติดอยู่ที่ปลาย ราวกับทำหน้าที่เป็นอวัยวะช่วยหายใจ หัวพวกมันไม่มีอวัยวะที่มองเห็นได้อย่างปาก มีแค่กรวยแหลมขนาดใหญ่ที่มีรูเรียงกันหนาแน่นรอบมัน
ตัวอะไรเนี่ย แค่เพราะไม่มีใครสามารถเห็นพวกมัน พวกมันจึงเลือกเติบโตในแบบที่ต้องการ? หานเซี่ยวลอบดูถูก ขณะคุยกัน สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นก็เห็นยานและเปิดฉากโจมตีทันที พวกเขาเห็นหนึ่งในพวกมันสูดเอาพายุอวกาศจำนวนมากเข้าไปก่อนสายฟ้าสีดำอมม่วงจะปรากฏรอบมัน ยิงใส่ยาน
บูซ!
ดวงตาของคาซูยิสว่างวาบและโล่พลังจิตขนาดใหญ่ก็โผล่ขึ้นเพื่อปกป้องยาน สายฟ้าทั้งหมดกระกบกับมัน ระเบิดเป็นพลุไฟ แต่เขาก็ยังอัดพลังเข้าไปเพื่อให้แน่ใจว่าโล่พลังจิตยังเสถียร ด้วยพลังมานาจำนวนมาก คาซูยิจึงไม่กลัวการผลาญพลังเลย พวกมันหนังหนามากและมีความต้านทานจิตสูง ประสิทธิภาพการทำความเสียหายของฉันต่ำมาก..คงต้องเป็นหน้าที่นายแล้ว แบล็คสตาร์
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง
หานเซี่ยวเปิดกล่องกองทัพมิติที่สอง และทหารจักรกลก็กรูกันออกมา ระดมยิงสิ่งมีชีวิตด้วยอำนาจการยิงรุนแรง
ช่างกลสายกองทัพเก่งสุดในการต่อสู้ขนาดใหญ่ แม้คาซูยิจะเก่งการสร้างความเสียหายวงกว้าง สายเขาก็เน้นพลังจิต ตราบเท่าที่เขาพบเป้าหมายที่มีความต้านทานจิตสูง ความเสียหายเขาจะลดลง
พลังงานไซโอนิคระเบิดใส่พวกมัน ทิ้งช่องว่างไหม้เกรียมในโครงกระดูกพวกมัน ความต้านทานของสัตว์ประหลาดกลุ่มนี้สูงจริงๆ แต่หานเซี่ยวไม่เหมือนในอดีต หลังการยกระดับ ค่าสถานะของเขาก็เพิ่มขึ้นมาก พัฒนาพลังโจมตีและโบนัสพลังจักรกลเขา ภายใต้พลังจักรกลรุนแรง สัตว์ประหลาดจึงโดนระเบิดจนแหลก
ตอนนี้ สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่เร่งมา จำนวนพวกมันดูเหมือนไร้สิ้นสุด พวกมันสู้กับกองทัพจักรกลโดยไม่มีความกลัว
พลังงานพวกมันสะท้อนและเชื่อมต่อกัน สร้างเป็นโล่สีดำอมม่วงหนามากปกคลุมพวกมัน ชะลออัตราการสูญเสีย ยิ่งพวกมันมาถึงมาก พลังของการโจมตีและการป้องกันก็ยิ่งสูง แม้จะสู้อย่างรุนแรง ทั้งสองก็ยังอยู่ในยานโดยไม่ขยับ
เมื่อสังเกตสนามรบด้านนอกหน้าต่าง คาซูยิก็ดูเหมือนจะแปลกใจ
แบล็คสตาร์ ทำไมจักรกลนายถึงแข็งแกร่งขึ้นกัน?
ในความคิดเขา ต่อให้แบล็คสตาร์สามารถจัดการศัตรูได้ มันก็ไม่ควรง่ายแบบนี้
คาซูยิรู้จักแมนิสันมาหลายปีและมีความรู้มาก ครั้งนี้ พลังรบของกองทัพจักรกลของแบล็คสตาร์เหนือกว่าที่เขาคิด เทียบกับครั้งก่อนที่เขาได้เห็นพัลงของหานเซี่ยวระหว่างการโจมตีฮีล่า แบล็คสตาร์นั้นพัฒนาขึ้นมาก
มาตรฐานฉันก็เหมือนกับคนอื่น
หานเซี่ยวยิ้ม โบกมือ ไม่ตั้งใจเผยอะไร
เมื่อเห็นหานเซี่ยวไม่เต็มใจพูด คาซูยิก็ไม่คาดคั้น เขาเปลี่ยนเรื่อง ช่างกลเป็นสายที่สะดวกสบายจริง สามารถแก้ปัญหาแบบนี้ได้โดยแค่นั่งในยาน มันเป็นข้อได้เปรียบของสายเรา แม้เราช่างกลจะมีอาวุธมากมายและ สามารถปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์ และโดยเฉพาะฉันที่ถึก…แต่ฉันไม่มีทางมีความสามารถพลังจิต หานเซี่ยวพูดติดตลก
นี่ก็ไม่ใช่การปลอมฉันเหมือนกัน
ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันต่อ หานเซี่ยวก็เหลือบมองข้อมูลการต่อสู้ แม้หานเซี่ยวจะไม่รู้ต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ แต่เขาจะรู้โดยการมองหน้าต่างสถานะ
หน้าต่างสถานะได้ตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตนี้ว่า’เหาอวกาศ’ ด้วยระดับเฉลี่ย 240-260 มันเป็นสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพแบบพิเศษที่มีพรสวรรค์เผ่าสุดขั้ว ตัดสินจากสถานะและทักษะพวกมัน มันดูเหมือนพลังของพวกมันตัวเดียวจะสูงกว่าภัยพิบัติทั่วไป แต่ยังห่างไกลกับผู้อยู่เหนือ มันเพราะความต้านทานแสนน่าทึ่งของพวกมันได้รับจากการอาศัยในกระแสอวกาศโกลาหล อสูรดวงดาวเหล่านั้นที่เขาเคยพบมากก่อนล้วนกระจอกไปหากเทียบกับพวกมัน
เหาอวกาศยังมีความสามารถแบ่งปันพลังงานกัน ยิ่งเผ่าพวกมันมีมาก พวกมันยิ่งเสริมพลังกัน พวกมันยังสามารถแบ่งปันความเสียหายและโอนค่าสถานะ แต่ก็มีขีดจำกัด แต่ทว่า พวกมันก็ยังสามารถต้านทานการโจมตีของผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดได้
สิ่งมีชีวิตประเภทนี้ทรงพลังมาก ตราบเท่าที่จำนวนพวกมันมากพอ พวกมันสามารถเทียบได้กับผู้อยู่เหนือ ฉันอยากจะเอามันมาขยายพันธ์ุ แต่ไม่รู้นิสัยหรือว่าพวกมันสามารถใช้ชีวิตในจักรวาลหลักได้หรือไม่… หานเซี่ยวลูบคาง
ฉันไม่สนใจเรื่องนั้น คาซูยิโบกมือ เขาแค่อยากเข้ามิติที่สองนี้เพื่อรับโอกาสได้รับการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพ
ถูกต้อง มาจัดการธุระเรากันก่อนดีกว่า
หานเซี่ยวพยักหน้าและกำลังจะสั่งให้จักรกลเขายิง โจมตีกลุ่มเหาอวกาศเพื่อสร้างช่องทางไปยังมิติที่สอง ตอนนั้นเอง…
บูม!
คลื่นพลังงานรุนแรงปะทุขึ้น เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
เมื่อสัมผัสถึงความผันผวน สีหน้าของหานเซี่ยวกับคาซูยิก็เปลี่ยนไป
พลังงานนี้.. คาซูยิมีสีหน้าเคร่งขรึม
นี่คือผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด อาณาจักรของเขาไม่ต่ำไปกว่าฉันหรือนาย! หานเซี่ยวขมดคิ้ว
ในระยะรับรู้พวกเขา แหล่งพลังงานนี้กำลังพุ่งมาด้วยความเร็วสูง นำมาซึ่งภัยคุกคาม
ทั้งสองร่างรีบพุ่งออกยาน พวกเขายังเปิดเผยกลิ่นอาย จับจ้องไปยังทางที่เกิดความผันผวน
ไม่นาน ดาวหางก็พุ่งมา หยุดด้านหน้าพวกเขา เผยตัวมันเองเป็นร่างสูงสามเมตรสวมเกราะประหลาดทั้งตัว เหลือแค่จุดแสงสีฟ้าสองจุดที่ดวงตาของหมวก
หานเซี่ยวกับคาซูยิสำรวจผู้มาเยือน สบสายตากันเงียบๆก่อนสื่อสารกันทางจิต
ครั้งก่อนนายเห็นคนคนนี้ไหม?
ไม่
หรือว่าเขาจะเป็นคนที่ซ่อนตัวในมิติที่สองมาทั้งชีวิต บ่มเพาะจนกระทั่งเป็นผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด?
เป็นไปได้
ฉันจะลองคุยกับเขา
ทั้งสองบรรลุข้อตกลงกันอย่างรวดเร็ว คาซูยิปล่อยสัญญาณจิตเป็นมิตรออกไป ส่งข้อความจิตเพื่อพยายามสื่อสาร
หานเซี่ยวไม่แทรกแซง แต่หลังผ่านไปสักพัก เขาก็เห็นว่าใบหน้าของคาซูยิบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด
เขาพูดว่าไง?
ไม่ว่าฉันจะพูดอะไร คำตอบของเขาก็เหมือนเดิม เขาขอให้เราออกไป ไม่งั้นพวกเขาจะฆ่าเรา ผู้รุกราน
เขาเรียกเราว่าผู้รุกราน? หานเซี่ยวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ หรือมิติที่สองนี้จะเป็นดินแดนของเขา?
เมื่อพิจารณาถึงความยากของภารกิจ หานเซี่ยวรู้ดีว่าภารกิจคงไม่ง่ายตั้งแต่แรก แต่เขาก็คิดแค่ว่ามิติที่สองนี้เป็นรังของเหาอวกาศ ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิด แถม เหาอวกาศรอบๆยังไม่โจมตีผู้มาใหม่ ราวกับพวกมันเป็นเผ่าเดียวกัน ดังนั้นความจริงจึงไม่เรียบง่ายอีก ฉันจะไปรู้ได้ไง?มันดูเหมือนจะไม่มีอะไรให้พูดกันอีก เตรียมลงมือได้
คาซูยิหรี่ตา เขาได้รับโอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมประนอม
ได้ แต่ไม่ต้องสู้กับเขา เราแค่ต้องทำให้เขาถอย เราสามารถเข้ามิติที่สองได้โดยตรงเพื่อดูว่าข้างในมีอะไร หานเซี่ยวแนะนำ
คาซูยิพยักหน้า และโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า การโจมตีทางจิตที่รุนแรงระเบิดออกจากตัวเขา ทำลายกระแสอวกาศโกลาหลรอบๆ
บุคคลลึกลับโจมตีทันที พลังงานสีฟ้าพุ่งออกมา ปะทะกับพลังงานจิตของคาซูยิ
บูม!คลื่นพลังงานรุนแรงระเบิด กวาดออกไปทั่ว มานาของคาซูยิไร้ขีดจำกัด สไตล์ของเขาจึงเกรี้ยวกราด แต่ทว่า อีกฝ่ายก็ไม่ตระหนี่ในการใช้พลังงานเช่นกัน พลังงานของทั้งคู่ปะทะกันกลางอากาศ แผ่ออกไปเหมือนคลื่นกระแทก
แต่ทว่า พลังของบุคคลึกลับกลับน่าประทับใจพอๆกับคาซูยิ!
เมื่อเห็นหานเซี่ยวจึงเข้าร่วมด้วย มันกลายเป็นศึกสองรุมหนึ่งขณะที่พลังจักรกลของเขาลากทหารนับไม่ถ้วนมาหาเขา
วินาทีต่อมา เทพจักรกลขนาดเล็กก็จุติลงมา เหวี่ยงคมดาบออกไป
เพราะพลังรบของอีกฝ่ายต้องเป็นขั้น SSอย่างไม่ต้องสงสัย ผลของ[ใจไร้ความกลัว’จึงทำงาน!
ซวบ!
คมดาบลงทัณฑ์เฉือนผ่านเหมือนมีดร้อนผ่าเนย ฟันพลังงานที่บุคคลลึกลับใช้เป็นโล่และฟาดใส่แผ่นหลังเขาอย่างรวดเร็วจนเขาเปลี่ยนเป็นดาวหาง หายลับไปจากสายตา
พลังงานของคาซูยิพลันไม่เหลือแรงต้านทาน เขาตอบสนองแทบไม่ได้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงตกตะลง
นาย..ซัดเขาออกไป?นั่นไม่เร็วไปเหรอ?
คาซูยิอยู่ในอารมณ์ละเอียดอ่อน เขารู้สึกว่าแบล็คสตาร์ดูเหมือนจะแกร่งกว่าที่เขาคิด
เอาล่ะ ตัดการพูดคุยอื่นไป ฉันแค่ซัดเขาออกไป ถ้าเขากลับมา เราจะต้องสู้กับเขาต่อ แค่เข้าไปตรวจสอบด้านในกันเถอะ
เขาลงมือเอง ใช้เทพจักรกลเพื่อนำทางโดยใช้คมดาบเขาแหวกเปิดเส้นทางผ่านเหาอวกาศ เขาระเบิดม่านพลังที่สร้างโดยการสะท้อนพลังงานของพวกเหาอวกาศ เผยให้เห็นกำแพงมิติของมิติที่สอง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ คาซูยิก็ไม่มีเวลาไปถามถึงพลังของหานเซี่ยว เขารีบตามไป เร่งเข้าไปในมิติที่สองพร้อมกับคลื่นกองทัพจักรกล
ตอนนี้เอง บุคคลลึกลับได้บินกลับมา เมื่อมองกำแพงมิติที่กำลังปิดตัวลง แสงสีฟ้าตรงตำแหน่งดวงตาของเขาก็กะพริบอย่างรวดเร็ว พลันเปลี่ยนเป็นสีแดง
ผู้รุกรานบุกฝ่าแนวป้องกันสองได้สำเร็จ รีบใช้แผนสามทันที กำลังเปลี่ยนโหมดปฏิบัติการ…การเปลี่ยนสำเร็จ โหมดปัจจุบัน : ไล่ฆ่า!
หานเซี่ยวเพิ่งเข้ากำแพงมิติ และเมื่อเห็นกระแสอวกาศโกลาหลสีฟ้ากับม่วง ร่วมกับความรู้สึกหายใจไม่ออก เขาก็ประหลาดใจมาก
ความรู้สึกนี้ดูเหมือนจะต่างกับตอนฉันเข้ามิติที่สองอื่น..
ก่อนเขาจะได้เห็นฉากนี้ชัด ภาพด้านหน้าเขาก็เปลี่ยนไป
เมื่อเห็นภาพใหม่ เขาก็หยุดด้วยความประหลาดใจ
เขาอยู่สูงเหนือฟ้า ด้วยเมืองกาแล็กซี่แสนเจริญรุ่งเรืองกำลังหันหน้ามาหาเขา เมืองมีอาคารสูงกับแสงสว่าง ร่วมกับยานพาหนะบินนับไม่ถ้วน และผู้คนมากมายบนท้องถนน ซึ่งทั้งหมดเป็นเผ่าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
นี่…นี่คืออะไร?
ด้านข้าง คาซูยิเองก็ตกใจ เขาไม่คิดว่าข้างในจะมีลักษณะเป็นแบบนี้
ตอนนี้หานเซี่ยวนึกถึงข้อมูลการต่อสู้เกี่ยวกับบุคคลลึกลับ อีกฝ่ายถูกเรียกว่า’ผู้พิทักษ์สูงสุด’ งั้น เป้าหมายของคนคนนั้นก็คือการปกป้องอารยธรรมนี้?
เมื่อมองย้อนกลับไป พวกเขาก็ต้องตกใจอีกครั้ง สิ่งที่ปรากฏไม่ใช่กำแพงมิติของมิติที่สอง แต่เป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเหมือนจักรวาลหลัก
ขณะที่ทั้งสองกำลังงงวย การเปลี่ยนแปลงก็พลันเกิดขึ้น
หวอ หวอ หวอ หวอ!อพยพฉุกเฉิน!อพยพฉุกเฉิน!’เสียงเตือนภัยดังไปทั่วทั้งเมือง และพื้นก็สั่นสะเทือน ผิวเหล็กเลื่อนออก เผยให้เห็นทางเข้าที่หลบภัยต่างๆ คนเดินเท้าและยานพาหนะบินดูเหมือนจะผ่านการฝึกหลบภัยมานับพันครั้ง พวกเขารีบวิ่งเข้าไปในนั้น
ในเวลาเดียวกัน ป้อมปืนรูปทรงแปลกๆก็ยืนขึ้นจากพื้น เล็งทั้งสอง
เห้ เราถูกมองว่าเป็นผู้รุกรานอย่างสมบูรณ์แล้ว..นี่คืออะไร? ก่อนหานเซี่ยวจะพูดจบ เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้อยู่เหนือหกคน ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
ในะระยะไกล บุคคลหกคนบินขึ้นฟ้าจากทุกทิศทางของเมือง เร่งมาทางทั้งคู่
เมื่อเห็น หานเซี่ยวกับคาซูยิก็สบตากันดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ นอกจากผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดด้านนอก ตอนนี้มีเจ็ดผู้อยู่เหนือในมิติที่สองนี้!สถานที่นี้มันอะไรกัน?
โชคดี ทั้งหกเป็นแค่ผู้อยู่เหนือ เราควรสามารถจัดการได้..หือ?
จู่ๆคาซูยิก็หยุดพูดกลางคัน สีหน้าของเขาไม่สู้ดี
เกิดอะไรขึ้น?
การเชื่อมต่อของฉันกับมิติว่างเปล่า..ดูเหมือนจะโดนตัดขาด? ดวงตาของคาซูยิเบิกกว้าง
หานเซี่ยวขมวดคิ้ว ลอบสัมผัสถึงมันก่อนตระหนักว่าเขาเองก็เช่นกัน
เขารีบเปิดหน้าต่างสถานะ ตรวจสอบว่าเขาได้รับผลจากสถานะผิดปกติหรือเปล่า แต่สถานะเขาปกติ ไม่ได้รับผลใด
แต่เมื่อเขาเลื่อนลง เขาก็พบบางสิ่งแปลกๆ ไม่เพียงพรสวรรค์ของเขาที่เกี่ยวกับมิติว่างเปล่าจะเป็นสีเทา แต่แม้กระทั่งกล่องกองทัพมิติที่สองกับโรงงานมิติก็ยังโดนผนึก ไม่สามารถใช้งานได้
เกิดอะไรขึ้น?
หานเซี่ยวรู้สึกสับสนมาก