สองวันต่อมา ในกองยานเทพอำนวย กลุ่มบรรพชนนั่งเป็นวงกลมล้อมโซโรคิน กำลังเล่นไพ่ขระจับตาดูโซโรคินตลอดเวลา
โซโรคินนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กตรงกลางวง จ้องพวกเขาเล่นไพ่ ให้คำแนะนำเป็นระยะ ไม่ทำตัวเหมือนคนนอกเลย
ครั้งนี้ ประตูเปิด ผู้รักษาสัจจะเดินเข้ามา และเสียงในห้องก็เงียบ ทุกคนรวมถึงโซโรคินมองไป
ผู้รักษาสัจจะมองรอบๆ ก้าวไปหาโซโรคินและพูด ฉันพิจารณาเรื่องนี้แล้ว ฉันจะยอมรับนายเข้าเทพอำนวย
ความสุขปรากฏบนหน้าของโซโรคิน ขณะที่เขากำลังจะพูด ผู้รักษาสัจจะก็หยุดและพูดเสริม แต่ก่อนหน้านั้น นายต้องแก้ไขความขัดแย้งของนายกับแบล็คสตาร์ก่อน ฉันไม่อยากให้นายนำปัญหามาสู่องค์กร เมื่อได้ยิน สีหน้าของโซโรคินก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง นายมีความคิดยังไง?
ผู้รักษาสัจจะค่อยๆพูด ก่อนอื่น เราต้องทดสอบความเสี่ยงก่อน ซึ่งคือแบล็คสตาร์อยากฆ่านายมากแค่ไหน ดังนั้น เราจะใช้ตำแหน่งนายเป็นเหยื่อและดูว่าแบล็คสตาร์จะไล่ตามไหม
เราจะทำแบบนั้นได้ไง?
ผุ้รักษาสัจจะเปิดแผนที่ดาว ชี้ดาวศูนย์กลางการขนส่งในทะเลทรายดวงดาวโฐราณ เราจะหาทางกระจายข่าวลือว่านายผ่านดาวเดียร์ จากนั้นก็ตั้งกล้องเพื่อดูว่าแบล็คสตาร์ตอบสนองอย่างไร ถ้าคนของเขามาทันทีเพื่อตรวจสอบ มันก็หมายความว่าเขากำลังจะล่านาย ถ้าแบล็คสตาร์บุกโหนดโดยใช้การบุกรุกเสมือน คนของเราจะพบมัน เพื่อแสดงความจริงใจของเรา เราจะแบ่งปันสถานการณ์การเฝ้าระวังกับนาย
โซโรคินคิดถึงมันสักพักและเห็นด้วยกับแผนการนี้ แม้เขาจะไม่คิดว่าแบล็คสตาร์จะตามล่าเขา แต่การปลอมที่อยู่ของเขาก็ไม่ได้คุกคามความปลอดภัยเขา เขาจึงไม่คัดค้าน เขากลับประทับใจกับความระมัดระวังของผู้รักษาสัจจะ มันเหมาะกับรสนิยมเขา
จากมุมมองเขา เขาสามารถเกษียณได้และไม่ต้องทำอะไรเลย แต่เทพอำนวยไม่ยอม พวกเขากังวลว่าแบล็คสตาร์อาจพบพวกเขาเหมือนที่เขาทำ ดังนั้นพวกเขาต้องกำจัดภัยคุกคามลับนี้ก่อน เขาไม่สามารถตัดสินใจแทนเทพอำนวยได้ เขาจึงต้องให้ความร่วมมือ
ถ้าแบล็คสตาร์กำลังล่าเขาจริง เราจะทำไงกัน? บีเกอร์พูด
งั้นก็มีแค่สองทางในการแก้ปัญหานี้ ผู้รักษาสัจจะเหลือบมองโซโรคิน ทำเหมือนเขาเป็นตัวปัญหา เรากำจัดแบล็คสตาร์ หรือนายแกล้งตายเพื่อหลอกแบล็คสตาร์
นั่นเข้าท่า บีเกอร์พูดเสริม แบล็คสตาร์จะเลิกตามล่าเขาก็ต่อเมื่อเขาคิดว่าเขาตายแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด คนตายไม่พูด ยังไงก็ตาม โซโรคินรู้วิธีแกล้งตาย เขาคงทำมันได้อีกอยู่แล้ว
โซโรคินรู้สึกว่านี่สมเหตุสมผลและพยักหน้า แต่ทว่า เมื่อคิดคิดดู เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจ แต่นั่นเสี่ยงเกินไป แบล็คสตาร์รู้ตัวตนแัน เขาจะต้องระวังถึงการแกล้งตายของฉัน ฉันกังวลว่าถ้าเขาพบ ฉันจะตายจริง..
ผู้รักษาสัจจะส่ายหัว พูดตามตรง นั่นน่าเชื่อถือกว่า เรามีวิหาร ถ้านายตายจริง เราสามารถคืนชีพนายได้ ไม่เพียงจะกำจัดภัยคุกคามได้ แต่นายจะกลายเป็นหนึ่งในพวกเรา
โซโรคินหัวเราะอย่างอึดอัด ฉันขอผ่าน แถม เขามีกาลอวกาศแอมเบอร์ ฉันกังวลว่าเขาอาจผนึกฉัน..
มันฟังดูเหมือนแผนดี แต่เขาจะไว้ใจเทพอำนวยได้ไง?แล้วถ้าพวกเขาไม่คืนชีพเขาหลังเขาตายล่ะ?
ผู้รักษาสัจจะขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แผนนี้มีความเสี่ยงต่ำสุดแล้วและมีอัตราสำเร็จสูงสุด สุดท้าย นายบอกว่านายอยากเข้าร่วมเทพอำนวย แต่นายไม่เห็นว่าเราเป็นพวกเลย
ฉันจริงใจมากถึงการเข้าร่วมเทพอำนวย แต่ความไว้วางใจเป็นเรื่องของเวลา..
โซโรคินดูหนักใจแต่ก็บ่นอยู่ข้างใน
แผนนี้หมายความว่าพวกแกรับความเสี่ยงต่ำ เพราะพวกแกไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ปัญหาคือฉันจะตายหรือไม่..
ตรงกันข้าม การสู้กับแบล็คสตาร์มีความเสี่ยงมากสำหรับเทพอำนวย แต่เสี่ยงน้อยกว่าสำหรับเขา เขาจึงชอบแผนนี้กว่า
อืม นายยังบังคับให้เราช่วยนายฆ่าแบล็คสตาร์’ท่านหญิงราคะพูด
โซโรคินไม่พูดอะไร
..เราจะพูดถึงมันตอนเวลามาถึง มาดูกันว่าแบล็คสตาร์จะตอบสนองต่อข้อมูลปลอมไหม
ผู้รักษาสัจจะจงใจเหลือบมองโซโรคินด้วยความไม่พอใจ เขาไม่พูดอะไรมากและเดินออกไป
ไม่นานหลังจากนั้น ผ่านช่องทางลับ ข้อมูลที่โซโรคินส่งผ่านดาวเดียร์ได้กระจายออกไป ในเวลาเดียวกัน เทพอำนวยก็วางคนหลายคนไว้ดาวเดียร์เพื่อเฝ้าระวัง
เวลาผ่านพ้นไปและข้อมูลก็แพร่กระจายไปมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ว่าแบล็คสตาร์ได้รับข่าวสารหรือยัง พวกเขาจึงทำได้แค่นั่งรอทั้งวัน
เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเขา โซโรคินจึงกังวลสุด เขาจ้องหน้าจอตาแทบไม่กะพริบ
หลังผ่านไปเกือบสิบวัน เทพอำนวยก็ได้ยินว่ามีกองยานหนึ่งจากกองทัพแบล็คสตาร์มาถึงดาวเดียร์และค้นหาข้อมูลของโซโรคินบนดาว
…
สถานการณ์ชัดเจนมาก แบล็คสตาร์กำลังตามล่านาย นายทำให้เรามีความเสี่ยง!
ในห้องเฝ้าระวัง ผู้รักษาสัจจะจ้องโซโรคิน น้ำเสียงเขาไม่พอใจอย่างมาก
โซโรคินไม่ตอบ เขาดูหงุดหงิดมาก
เขาไม่สามารถคัดค้านหลักฐานนี้ได้ เขาไม่คิดว่าแบล็คสตาร์จะอยากฆ่าเขามากขนาดนี้
งั้น ชายคนนี้ก็ไม่ได้ต้องการแค่เงินของฉัน แต่ยังรวมถึงชีวิตฉัน!
ชั่วร้ายมาก!
บ้าจริง แม้ฉันจะหลอกแกหลายครั้ง แต่ฉันก็จ่ายไปหมดแล้ว!แบล็คสตาร์ ทำไมแกถึงอยากให้ฉันตายขนาดนี้/!
ครั้งนี้ ผู้รักษาสัจจะพูด’นายไม่เต็มใจแกล้งตายเพื่อหลอกแบล็คสตาร์/
ไม่ โซโรคินส่ายหัวโดยไม่ลังเลเลย
ผู้รักษาสัจจะดูไม่พอใจ เขาเดินไปมา ราวกับกำลังลังเล หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดอย่างไม่เต็มใจ
ในเมื่อเป็นแบบนี้ เราก็ต้องกำจัดแบล็คสตาร์เท่านั้น!
ทันทีที่เขาพูด บรรพชนคนอื่นก็’ตกใจ’และแสดงการคัดค้านอย่างรุนแรง
เราไม่มีความขัดแย้งกับแบล็คสตาร์ ทำไมเราถึงควรตอแยศัตรูแบบนั้นแค่เพื่อโซโรคินฦ.
การสู้กับแบล็คสตาร์จะทำให้การดำรงอยู่ของเราหลุดออกไป
ชายคนนี้แค่ขู่เรา อย่าไปหลงเชื่อ!’
อารมณ์ที่สูงปรี้ดของทุกคนทำให้โซโรคินตกใจ เขาไม่กล้าแสดงความคิดเห็น
หยุด! ผู้รักษาสัจจะเถียงพวกเขาเล็กน้อย จากนั้นก็ขึ้นเสียง จะไม่มีครั้งหน้าอีก!’
จากนั้น เขาก็จ้องโซโรคิน นายพอใจหรือยัง?
ไร้สาระ ฉันไม่ใช่คนที่บังคับพวกนาย นี่คือการตัดสินใจของพวกนาย ฉันไม่สนใจเขา โซโรคินถอนหายใจ
เดิมเขาไม่ได้วางแผนขู่องค์กรเทพอำนวยเพื่อสู้กับแบล็คสตาร์เพราะเขาต้องตอแยพวกเขาด้วยวิธีนั้น แต่ทว่า เขาไม่ใช่คนที่เลือก
ด้วยตำแหน่งเขา เขาไม่สามารถเปลี่ยนความคิดดื้อรั้นและโน้มน้าวเทพอำนวยให้เมินแบล็คสตาร์ได้ มันเหมือนกับคนที่เป็นหนี้จำนวนมากและต้องไปหลบบ้านคนอื่น มันไม่เพียงทำให้พวกเขาเดือดร้อนไปด้วย แต่ยังพยายามโน้มน้าวให้พวกเขาทนต่อการคุกคามของคนปล่อยเงินกุ้..แม้กระทั่งโซโรคินก็ยังรู้สึกอับอาย
ผู้รักษาสัจจะแค่นเสียง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะนาย นายต้องแก้ไขมัน เนื่องจากแบล็คสตาร์กำลังล่านาย นายจะต้องเป็นเหยื่อล่อเขามาติดกับ
คนเดียว? โซโรคินถาม
แน่นอน เราสามคนจะไปกับนาย สองคนเพื่อป้องกันนายจากการหลบหนีและเพื่อช่วยนายสู้กับแบล็คสตาร์ ผู้รักษาสัจจะส่ายหัว สำหรับคนอื่น เราจะให้พวกเขาตั้งการซุ่มโจมตีอยู่ไกลออกไปและเข้าร่วมเมื่อได้เวลาเหมาะสม’
มันจะได้ผลไหม?แบล็คสตาร์มีชุดราชาและไม่กลัวคนจำนวนมาก บีเกอร์พูด
ไม่ต้องห่วง แบล็คสตาร์ต้องไม่คาดคิดว่าเราจะมีกันเป็นสิบ และนั่นจะเป็นข้อได้เปรียบของเรา!กับดักที่โซโรคินตั้งไว้จะมีแค่สี่คน มันคือมาตรการแรกของเราแต่จะดูเหมือนการซุ่มโจมตีทั้งหมดแล้ว ด้วยพลังของแบล็คสตาร์ เขาไม่น่าจะหนีกับคนสี่คนและต้องพยายามสู้ ดังนั้น กลุ่มโซโรคินจะมีหน้าที่รั้งแบล็คสตาร์ น้ำเสียงของผู้รักษาสัจจะฟังเหมือนจริง
จากนั้น?
พยายามสร้างโอกาสสิ!เราสิบคนจะสะสมพลังงาน ตราบเท่าที่นายสามารถรั้งแบล็คสตาร์ไว้ได้สักพัก ทำให้เขาไม่มีเวลาใช้ชุดราชา เราจะบุกเข้าไปด้วยคาถาเคลื่อนย้ายของบีเกอร์ โจมตีเขาพร้อมกัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิญญาณจะพยายามสร้างความเสียหายให้กับวิญญาณของแบล็คสตาร์!
น้ำเสียงของเขาแน่วแน่ เต็มไปด้วยความมั่นใจ แม้กระทั่งเขาเองก็แทบเชื่อตัวเอง
โซโรคินวิเคราะห์แผนและรู้สึกว่าอัตราสำเร็จสูง
เขาเชื่อว่าตราบเท่าที่แบล็คสตาร์ไม่ใช่กาลอวกาศแอมเบอร์เพื่อป้องกันการโจมตี แม้กระทั่งเขาก็ไม่น่าทนการโจมตีของผู้อยู่เหนือนับสิบได้
แม้ไฟวิญญาณจะไม่อยู่ในืมอเขา ผู้รักษาสัจจะก็สามารถใช้มันได้เหมือนกัน นอกจากนี้ ไม่ได้มีแค่พวกเขาสองที่ถนัดในด้านวิญญาณ ซึ่งทำให้โซโรคินรู้สึกเชื่อมั่นขึ้น
แผนนี้ควรได้ผล อัตราสำเร็จสูงกว่า 70% สังคมกาแล็กซี่ทั้งหมดมองแบล็คสตาร์เป็นเทพเจ้า แต่เขาต้องมีขีดจำกัดไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน
โซโรคินโล่งใจและสนับสนุนต่อแผนดังกล่าว
เมื่อเห็นว่าปลากินเบ็ดแล้ว ผู้รักษาสัจจะก็เลี้ยงมันอย่างดี พูดด้วย้นำเสียงเตือน อย่าเพิ่งรีบดีใจไป นายต้องทำหน้าที่เหยื่อให้ดีแผนถึงสำเร็จ ไม่งั้น ถ้าแบล็คสตาร์หลบหนี เขาจะต้องปล่อยข้อมูลเช่นกัน จากนั้นไพ่ที่นายมีจะไร้ค่าและฉันจะจัดการนาย นายสามารถเดาได้ว่าเราจะทำอะไรกับนาย…ดังนั้น เพื่อตัวนายเอง นายควรทุ่มสุดตัวในภารกิจนี้!’
เมื่อได้ยิน สีหน้าของโซโรคินก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง เขาพยักหน้า
…
ครึ่งเดือนต่อมา ในแถบจักรวาลรกร้างของทะเลทรายดวงดาวโบราณ ยานลำเล็กลอย มีคนแค่สี่คนในยาน โซโรคิน บีเกอร์กับผู้อยู่เหนืออีกสอง บีเกอร์ยืนกอดอก เขาเหลือบมองโซโรคินที่อยู่ด้านข้าง พูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ จิ๊ ไม่คิดเลยว่าฉันต้องมาสู้เคียงข้างนาย
จิ๊ นายคิดว่าฉันดีใจหรือไงที่เห็นหน้านาย? โซโรคินแค่นเสียง เขาไม่อยกาเถียงกับอีกฝ่าย เขาจึงเปลี่ยนเรื่อง มันนานแล้ว แบล็คสตาร์จะมาไหม?
ใครจะไปรู้?เราได้ส่งพิกัดไปแล้ว มันขึ้นอยู่กับว่าเขารักนายแค่ไหน บีเกอร์พูดติดตลก
โซโรคินกำลังจะสวนกลับแต่แขกที่ไม่ต้อนรับก็เข้าสู่ระยะสัมผัสก่อน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
มีคนมาที่นี่’
อีกสามคนรู้สึกได้เหมือนกันและเงียบไป พวกเขามองไปทิศทางนั้น
หลังจากนั้นไม่นาน ดาวหางก็เข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง มันดูเหมือนจะสังเกตเห็นทั้งสี่เช่นกัน มันหยุดอยู่ไม่ไกลและใบหน้าคุ้นเคยก็ปรากฏ
มันคือแบล็คสตาร์!เขามาจริง!’
สีหน้าโซโรคินดำมืด เขาบินออกยานและยืนตรงข้ามหานเซี่ยว บีเกอร์กับอีกสองตามไปด้วย
หานเซี่ยวสำรวจพวกเขาและหัวเราะในช่องสื่อสาร
โอ้โห ฉันเข้าใจแล้ว แกจงใจปล่อยพิกัดแกเพื่อล่อฉันมาติดกับ?งั้น ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่แกก็เป็นข้อมูลปลอมที่แกแต่งสินะ..ฮี่ๆ ฉันไม่รู้ว่าแกไปขอความช่วยเหลือจากไหนแต่โซโรคิน โอ้โซโรคิน แกประเมินฉันต่ำไป กล้าโจมตีฉันด้วยคนแค่สี่คนเนี่ยนะ?
แบล็คสตาร์ ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะดื้อดึงไล่ตามฉันมา แกทำมากเกินไป!อย่าโทษฉัน แกทำให้ฉันไม่มีทางเลือก!
นี่คือสิ่งที่โซโรคินหงุดหงิดสุด จากที่เขามอง เขาคือคนที่เสียหายหนักสุด แต่แบล็คสตาร์ยังล่าเขาไม่หยุด มันเกินไป ขอโทษ ฉันไม่ใช่คนให้อภัย แกวางแผนร้ายกับฉันหลายครั้งเกินไป จะมีปัญหามากมายถ้าฉันปล่อยแกไป ดังนั้น มันดีกว่าที่แกจะอาศัยในอำพัน
ขณะพูด หานเซี่ยวยังเหลือบมองพวกบีเกอร์ด้วยสายตาเยาะเย้ย
มีแค่ห้าคนที่นี่และแบ่งเป็นสองฝ่าย แต่กลับมีสามกลุ่มสนทนา หนึ่งคือช่องสาธารณะ และอีกนึ่งคือช่องสนทนาชั่วคราวของโซโรคิน บีเกอร์กับอีกสอง
สามคือช่องสนทนา’นักแสดง’ที่หานเซี่ยว บีเกอร์ กับอีกสองและสมาชิกเทพอำนวยทั้งหมดอยู่ ยกเว้นโซโรคิน
ลงมือเลย!
โซโรคินไม่อยากพูดพล่ามกับหานเซี่ยวและโจมตีทันทีขณะบอกพวกบีเกอร์ให้โจมตีพร้อมกัน
เมื่อเห็นว่าโซโรคินรีบมากแค่ไหน ทุกคนก็หัวเราะลั่นไม่หยุดในกลุ่มนักแสดง เขาใจร้อนมาก..
ฮ่าๆๆ ทำไมฉันถึงรู้สึกสงสารเขาจัง’
มันน่าเศร้ามาก ฉันทนดูแทบไม่ไหว
ดูอีกนิดดีกว่า ฉันกลัวว่าเราจะไม่ได้เจอเขาอีก..
ผู้คนต่างพากันพูดติดตลก กลุ่มนักแสดงเต็มไปด้วยบรรยากาศสนุกสนาน
พอ เรากำลังแสดงกันอยู่นะ จริงจังหน่อย หานเซี่ยวพูดขณะหัวเราะ เขาเรียกกองทัพจักรกลออกมาและโจมตี
บีเกอร์กับอีกสองรีบเข้าร่วมการต่อสู้ พวกเขาพยายามเต็มที่ที่จะไม่ระเบิดหัวเราะและสู้เคียงข้างโซโรคินราวกับพวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวกัน
การต่อสู้แตกหัก พลังงานของทั้งห้าทิ้งรอยไหม้ไว้ในอวกาศ
โอกาสมีอยู่แค่ชั่วพริบตา ถ้าพวกเขาไม่สามารถกำจัดโซโรคินได้ทันที ชายคนนี้จะปล่อยข้อมูล ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ดังนั้นเทพอำนวยจึงแสดงต่อไป
โซโรคินคิดว่าชัยชนะอยู่ในมือและทุ่มความสนใจทั้งหมดกับหานเซี่ยว แต่ทว่า สิ่งที่เขาไม่รู้คือพวกพ้องที่เขาหวังไว้สูงคือนักแสดงที่พร้อมแทงข้างหลังเขา