เขาถาม มีคนน้อยมากในผู้คืนชีพกลุ่มสองที่เต็มใจเข้าร่วมสมาคม หานเซี่ยวจดจำชื่อพวกเขา มองสมาชิกเทพอำนวยและพยักหน้า”งั้นฉันจะฝากส่วนที่เหลือให้พวกนาย พวกนายมักไม่มีอะไรอยู่แลล้ว นายควรไม่ว่าอะไรที่จะช่วยพวกเขาให้คุ้นเคยกับยุคนี้ ใช่ไหม?”
บีเกอร์ยิ้มและตอบรับในนามคนอื่น”ไม่ต้องห่วง เราเชี่ยวชาญเรื่องนี้ เรายังต้องการเพื่อนร่วมเล่นไพ่ใหม่เช่นกัน”
ผู้รักษาสัจจะพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่ทันใดนั้นก็ตระหนัก รอเดี๋ยว นี่องค์กรของฉันไม่ใช่เหรอ?ทำไมนายถึงเป็นคนออกคำสั่ง?
“เอ่อ…”ผู้รักษาสัจจะกำลังจะพูด
แต่ทว่า ก่อนเขาจะได้พูด หานเซี่ยวก็ปรบมือและยิ้ม
“ฉันดีใจที่เราบรรลุข้อตกลง มาทำความคุ้นเคยกับยุคนี้กันก่อนดีกว่า”
บรรยากาศในสถานที่กลายเป็นสงบลง เทพอำนวยนำคนอื่นออกห้งอไปขณะคุย เสียงของพวกเขาค่อยๆห่าง
ริมฝีปากของผู้รักษาสัจจะกระตุก
ฉัน ผู้นำองค์กรกลับโดนเมิน?ไม่ไว้หน้ากันเลยหรือไง?!
ครั้งนี้ หานเซี่ยวเดินมาตบไหล่เขา.”เกรงว่านายคนต้องยุ่งสักพัก ผู้คืนชีพเหล่านี้โดนข่มขู่อยู่ แต่ฉันไม่สามารถจับตาดูได้ตลอด จะต้องมีบางคนที่อยากหนีไป นายต้องจับตาดูให้ดี แต่ต้องไม่ทำให้ชัดไปเพราะพวกเขาคงไม่พอใจ”
“เข้าใจแล้ว..”เขากระแอม”อะแฮ่ม ฉันรู้ว่าต้องทำอะไร นายไม่ต้องสอน”
หานเซี่ยวยิ้ม อัญเชิญจอเสมือนและททำรายการ
“นี่คือรายการกุญแจบางส่วนสำหรับวิหารอื่น พวกเขาเชี่ยวชาญเรื่องนี้ มันดีสุดที่จะเก็บพวกมัน ยิ่งมีกุญแจเยอะยิ่งดี”
“นายพบสิ่งนี้ในวิหารสาม?”ผู้รักษาสัจจะแปลกใจ”ทำไมฉันถึงไม่เห็นมันตอนเข้าไป?”
“มันอาจเพราะระดับอำนาจนายต่ำไป..”หานเซี่ยวส่ายหัวและอธิบายสั้นๆถึงระดับอำนาจ สำหรับว่าผู้รักษาสัจจะจะกลับมันเป็นความลับไหม ตอนนี้ไม่ใช่เวลลามากังวลเรื่องเล็กน้อยแบบนี้
“เอาล่ะ แบบนี้ การเปิดวิาหรในอนาคตจะง่ายขึ้น”ผู้รักษาสัจจะดีใจ
แม้ข้อมูลที่บันทึกไว้ในวิหารจะต่างกัน แต่การคืนชีพวิหารใช้ได้ผลหมด การมีวิธีเปิดวิหารอื่นหมายความว่าคุณสมบัติคืนชีพวิหารสามารถทำได้หลายครั้งขึ้น
เขารับรายการ หยุดและถาม”นายตัดสินใจเวลาที่จะให้ผู้คืนชีพกลุ่มแรกปรากฏตัวหรือยัง?”
“อาจเป็นอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”หานเซี่ยวตอบ “หลังพวกเขาปรากฏ ท่าทีของสามอารยธรรมจักรวาลจะเปลี่ยนไปมาก นายพร้อมแล้วเหรอ?”ผู้รักษาสัจจะฟังดูเป็นห่วง
ไม่ว่าจะเตรียมใจมาล่วงหน้าแค่ไหน ในฐานะคนที่เริ่มพายุนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่กังวล นั่นโดยเฉพาะเมื่อนี่เป็นชนวนที่จะทำให้โครงสร้างจักรวาลพลิกผัน รวมถึงเป็นจุดเปลี่ยนของผู้อยู่เหนือ อิทธิพลของมันยิ่งใหญ่ มันอาจนำอนาคตไปสู่ทิศทางที่ไม่รู้
“ฉันรู้ว่าฉันจะทำอะไร นี่คือก้าวที่เราต้องเดิน ไม่ต้องกังวลนัก”
หานเซี่ยวยิ้มและตบไหล่เขา
ผู้รักษาสัจจะขมวดคิ้วและค่อยๆพูด”นอกจากนี้..เราได้ซ่อนความจริงเกี่ยวกับวิหาร ทำให้คนอื่นคิดว่าพวกเขาสามารถคืนชีพได้ครั้งเดียว นี่หมายความว่าแม้สามอารยธรรมจักรวาลจะกังวล พวกเขาก็อาจไม่ยอมแพ้ความคิด’กวาดล้าง’ ..เราไม่คิดจะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการคืนชีพจริงเหรอ?”
หานเซี่ยวส่ายหัว “ไม่เป็นไร เราต้องซ่อนไพ่ตายนี้ไว้สักพัก แม้การปล่อยข้อมูลนี้จะทำให้สามอารยธรรมจักรวาลระวังตัว พวกเขาก็อาจเปลี่ยนกลยุทธ์นี้เพราะมันเช่นกัน มันดีกว่าที่จะให้พวกเขาเข้าใจผิด เหนือสิ่งอื่นใด การสามารถคืนชีพได้ไม่จำกัดจำนวน..จะโน้มน้าวได้ก็ต่อเมื่อมันเกิดขึ้นจริง ถ้าการกวาดล้างเกิดจริง มันไม่สายเกินไปที่จะเปิดเผยมันตอนนั้น แบบนั้น ไม่เพียงสามอารยธรรมจักรวาลจะเซ มันยังทำให้พวกที่ตายแปลกใจด้วย”
“แถม ความกลัวยังเป็นสิ่งฉุดรั้งพวกคืนชีพ มันไม่ง่ายที่จะจัดการกับพวกเขาทุกคน”
ผู้รักษาสัจจะถอนหายใจ”แต่นายจะต้องเจอกับแรงกดดันมากมาย..นายเป็นคนที่นำผู้คืนชีพเข้าสมาคม ทุกคนย่อมคิดว่านายรู้ความจริง สามอารยธรรมจักรวาลจะเล่นงานนายแน่ นายจะรับมือได้เหรอ?”
“มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ทันทีทีี่สมาคมเห็นว่าวิหารสามารถคืนชีพได้ ผู้อยู่เหนือจะรวมตัวกันรอบฉันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นอกจากนี้ ด้วยความสามารถของฉัน ขุมกำลังฉันและโลกใต้พิภพ มันไม่ใช่ปัญหาที่จะยืนหยัดต่อต้านสามอารยธรรมสักพัก แบบนั้น จะมีที่ว่างสำหรับการเจรจา”
หานเซี่ยวยิ้มและทำให้ผู้รักษาสัจจะไม่กังวลนัก
ผู้รักษาสัจจะพยักหน้า พูดต่อ”ตราบเท่าที่นายมีแผน ยังไงซะ ไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหนล้วนขึ้นอยู่กับนายแล้ว”
…
วันต่อมา หานเซี่ยวกลับไปสมาคมและคาซูยิก็ก้าวลงตำแหน่ง คาซูยิติดต่อหานเซี่ยวหลายครั้ง พยายามหาว่าหานเซี่ยวได้รับอะไรในการเดินทางนี้ แต่หานเซี่ยวกลับเลี่ยงหัวข้อตลอด
การปรากฏตัวใหม่อีกครั้งหลังหายตัวไปสี่เดือนไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากนัก มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้อยู่เหนือที่จะเดินทาง ดังนั้นองค์กรต่างๆจึงไม่คิดมากเกี่ยวกับสิ่งที่หานเซี่ยวทำตอนหายตัวไป
หลังรออย่างอดทนมานานกว่าครึ่งเดือน สามอารยธรรมก็ลงมือ และส่งคำเชิญหาหานเซี่ยว
“หลังสังเกตอยู่นาน ในที่สุดพวกเขาก็เคลื่อนไหว..”
ในห้อง เมื่อเห็นคำเชิญบนอุปกรณ์สื่อสาร หานเซี่ยวก็นั่งตัวตรง
เขาเปิดเครือข่ายในจดหมาย และภาพฉายก็เข้าห้องประชุม
วินาทีต่อมา เขามาถึงห้องประชุมลับ ภาพฉายของผู้นำสหพันธ์ จักรวรรดิและศาสนจักรล้วนอยู่
“แบล็คสตาร์ คุณมาแล้ว”มาร์บรูซยิ้ม
หานเวี่ยวมองรอบๆ ส่งรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์”ท่านทั้งหลาย มีอะไรให้ผมรับใช้งั้นเหรอ?”
“เรายังไม่ได้แสดงความยินดีกับคุณแบบเป็นทางการที่ได้รับตำแหน่งประธานสมาคม”มาร์บรูซพยักหน้า
“ขอบคุณ”หานเซี่ยวยิ้ม”มันต้องขอบคุณการสนับสนุนของสมาชิกทุกคน”
“เราหวังกับคุณไว้สูงมาก คุณเหมาะกับการนำสมาคมมากกว่าแมนิสัน เราต่างยอมรับว่าภายใต้การนำของคุณ สมาคมผู้อยู่เหนือจะเดินต่อไปบนเส้นทางที่ถูก..”
พวกเขาพูดชมกันตามพิธีก่อนเข้เาเรื่องหลัก
ประธานสหพันธ์ ลูอิสลูบหนวดของเขา”วันนี้เราเรียกคุณมาเพราะเราต้องการความช่วยเหลือจากคุณ…ปัญหาของสมาชิกสมาคมที่กระจายความรู้ขั้นสูงสุดกันเองเกิดขึ้นมานานแล้ว แมนิสันจงใจยอมรับตอนเขาดำรงตำแหน่งและไม่สนใจมัน ตอนนี้ที่คุณกลายเป็นประธาน เราหวังว่าคุณจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้”
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว”ผมจะพยายาม แต่ผมไม่สามารถรับปากได้ เหนือสิ่งอื่นใด ผมไม่สามารถยุ่งชีวิตส่วนตัวของสมาชิกทุกคนได้” เมื่อรู้ว่านี่เป็นการตอบสนองอย่างเหมาะสม ผู้นำศาสนจักรจึงกระแอมและพูด’แบล็คสตาร์ เรื่องนี้สำคัญต่อเรามาก สิ่งนี้กินเวลามานานหลายทศวรรษแล้ว เราไม่สามารถยอมให้มันเป็นต่อได้ ทุกอย่างมีขีดจำกัด เราหวังว่าคุณจะแก้ไขสถานการณ์ได้”
“ผมจะพยายาม.”หานเซี่ยวยังคงยิ้มและไม่ปฏิเสธ
สามอารยธรรมจักรวาลไม่เคยเปิดข้อจำกัดการกระจายความรู้ขั้นสูงสุดอย่างถูกกฏหมาย ดังนั้นสมาชิกสมาคมจึงได้แต่ลอบกระจายเป็นการส่วนตัว นี่เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดพวกเลือดใหม่ แน่นอนว่าหานเซี่ยวไม่เห็นด้วย สามอารยธรรมจักรวาลก็รู้ชัดเจนเช่นกัน เหตุผลส่วนหนึ่งที่พวกเขายังจงใจหยิบยกประเด็นนี้มาคือการทดสอบตำแหน่งของเขาในฐานะประธานคงใหม่และอีกเหตุผลคือเพื่อกำหนดเส้นทางสำหรับการ’กวาดล้าง’
ถ้าเขาปฏิเสธมัน สามอารยธรรมก็จะมีเหตุผลเหมาะสมเพื่อเล่นงานสมาคม ถ้าสมาคมประนอม สมาชิกก็ต้องสั่นคลอน การโต้แย้งและความคิดเห็นแตกต่างจะเกิด
ทั้งสามมองหานเซี่ยวอย่างมีความหมาย
“งั้นเราจะรอผลจากคุณ คุณคงไม่ทำให้เราผิดหวังหรอกมั้ง?”
“แน่นอน ผมมักเชื่อในเส้นทางที่ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พวกคุณก็รู้”หานเซี่ยวยิ้ม”ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมก็ขอตัว”
“อืม เชิญ”
หานเซี่ยวแสดงท่าทางอำลาและตัดสาย
เมื่อภาพฉายของเขาหายไป ผู้นำทั้งสามก็มองหน้ากันและตกใจ
“ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาลงมือแล้ว”
แบล็คสตาร์มาแทนจักรพรรรดิจักรกลและเข้ารับตำแหน่งใหม่ มันเป็นโอกาสให้ลงมือ นี่เพราะสำหรับพวกเขา ความแตกต่างระหว่างแบล็คสตาร์กับจักรพรรดิจักรกลคือแบล็คสตาร์รู้ดีถึงการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ไม่เหมือนจักรพรรดิจักรกล ผู้หัวแข็งมากโอกาสที่แบล็คสตาร์จะพลิกกระดานนั้นต่ำมาก นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่พวกเขารอจนกว่าหานเซี่ยวจะรับตำแหน่ง นิสัยของผู้นำนั้นสำคัญมาก
ทั้งสามไม่วางแผนเล่นงานแบล็คสตาร์ แผนของพวกเขาคือฆ่าบางคนและชิงตัวบางคน ผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดไม่ใช่เป้าหมายของสามอารยธรรมจักรวาล พวกเขายังคิดชดเชยพวกเขาเพื่อให้สามารถแบ่งแยกผู้อยู่เหนือได้
ตามการวิเคราะห์ตามฐานข้อมูลพวกเขา แบล็คสตาร์มีแนวโน้มที่จะเลี่ยงความขัดแย้งและหาผลกำไร เพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนตน มีโอกาสน้อยมากที่เขาจะยืนอยู่ตรงข้ามสามอารยธรรม ตราบเท่าที่ปฏิบัติการมั่นคงและโหดร้ายพอ แบล็คสตาร์น่าจะก้าวถอยเพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งมอบโอกาสให้แบ่งแยกสมาคม
ผลลัพธ์ที่ดีสุดคือสมาคมผู้อยู่เหนือแตกแยก สมาชิกระดับต้นและกลางตายหมด ความไม่แน่นอนส่วนใหญ่โดนกำจัด ทิ้งไว้แค่สมาชิกสายตรงกับผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด แบบนี้ สามอารยธรรมจักรวาลจะได้รับอำนาจกลับคืนมาอีกครั้ง
เมื่อทั้งสามหารือถึงแผน ภายในห้องทำงานของหานเซี่ยว เขาวางอุปกรณ์สื่อสารลงและพึมพำ”สถานการณ์มาถึงจุดนี้แล้ว ดูเหมือนมันถึงเวลาที่ฉันต้องนำผู้คืนชีพออกมา..มันดันว่ามีสมาชิกใหม่ขอเข้าร่วมสมาคมเร็วๆนี้ ฉันสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อประกาศการดำรงอยู่ของพวกเขาต่อจักรวาลได้”
…
ครึ่งเดือนต่อมา ที่ศูนย์ใหญ่สมาคมผู้อยู่เหนือบนดาวฟินน์ กองยานขนาดเล็กค่อยๆเทียบท่า
ด้านหน้าหน้าต่างที่ห้องบัญชาการของยานหลัก ชายผมมองออกไป
“ในที่สุดสมาคมผู้อยู่เหนือก็ตอบรับคำขอของฉัน..”
มาเฮลโล่งใจ รู้สึกเหมือนภูเขาโดนยกออกจากไหล่
เขาคือผู้อยู่เหนือใหม่ที่เพิ่งก้าวสู่อาณาจักรนี้ไม่กี่ปีก่อน เขาโดยเลี้ยงโดยอารยธรรมระบบดาวบางแห่ง แม้โอกาสที่เรื่องแบบนี้จะเกิดนั้นต่ำมาก มันก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ อารยธรรมบางแห่งนั้นโชคดีพอ
ในฐานะผู้อยู่เหนือหนึ่งเดียวของอารยธรรม มาเฮลแบกรับความรับผิดชอบมากมาย หลังเขาก้าวอาณาจักรผู้อยู่เหนือ เขากลายเป็นผู้พิทักษ์อารยธรรม ได้รับผลประโยชน์มากมายและสร้างขุมกำลังอันมั่นคง เขาไม่เข้าร่วมสมาคมทันทีที่กลายเป็นผู้อยู่เหนือ แต่กลับปฏิเสธข้อเสนอของอารยธรรมอื่น”
เขาเพิ่งขอเข้าร่วมสมาคมและก็มาด้วยภารกิจ เขาหวังจะได้รับที่มั่นในสมาคมผู้อยู่เหนือ และนำผลประโยชน์สู่อารยธรรมของเขาโดยใช้ทรัพยากรของสมาชิกอื่น
วันนี้คือวันต้อนรับสมาชิกใหม่ที่จัดเพื่อเขา มาเฮลเตรียมการมามาก เขายังจ้างมืออาชีพมาร่างบทพูด เขาท่องจำมันและวางแผนได้รับความโปรดปรานจากสมาชิกคนอื่น
“หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น”
ยานอวกาศหยุดที่ท่า มาเฮลเดินออกมาและติดตามพนักงานต้อนรับไปห้องรับรองชั่วคราว ระหว่างทาง เขายังคงท่องบท
ไม่ช้า มาเฮลก็มาถึงประตูห้องรับรอง เขาผลักเปิดเดินเข้าไป มองรอบๆและตกตะลึง
ในห้อง มีคนนับสิบยืนและนั่งอยู่ขณะคุยกันลั่น เมื่อได้ยินว่ามีคนเข้ามา พวกเขาจึงหยุดหันมามองเขา
“ไม่ใช่ว่าห้องรับรองชั่วคราวมีไว้สำหรับคนเดียว?ฉันเข้าผิดห้อง?’
มาเฮลตกตะลึง ก้าวถอยหลัง มองหมายเลขห้องแล้วสับสน
ฉันเข้าถูก นี่คือห้องรับรองสำหรับมือใหม่ที่จะรอเข้าห้องประชุม นี่ควรเป็นห้องฉันสิ?คนเหล่านี้มาจากไหน?
ครั้งนี้ คนด้านในห้องเริ่มหัวเราะ คนใกล้ประตูยืนขึ้น ดึงมาเฮลเข้าไปและกดเขาลงบนโซฟา
“โอ้ ในที่สุดเด็กใหม่ตัวจริงก็มาถึง”
“นั่งสินั่ง มีของกินด้วยนะ’
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเด็กใหม่ของยุคใหม่”
คนอื่นล้อมเขาและสำรวจเขาด้วยความอยากรู้
มาเฮลติดอยู่ตรงกลางโดยไม่รู้ว่าต้องทำอะไร เขาไม่สามารถทนได้อีกและตะโกน”พวกนายเป็นใคร?นี่ควรจะเป็นห้องของฉัน ออกไป!”
เมื่อได้ยิน คนอื่นก็สบตากันและยิ้ม ทันใดนั้น ตัวของทุกคนก็สั่น
บูม!
พลังของผู้อยู่เหนือปะทุขึ้นและหายไปในชั่วพริบตา
มาเฮลตกใจ เขาตัวแข็ง คนแปลกหน้าเหล่านี้เป็นผู้อยู่เหนือ?!’
“พะ-พวกคุณเป็น..”
ดวงตาของมาเฮลเบิกกว้าง สมองทำงานติดขัด
บีเกอร์พูดติดตลก”ไม่ต้องกังวลไป เราเหมือนนาย แค่หน้าใหม่ที่กำลังจะเข้าร่วมสมาคม”
“เป็นไปไม่ได้!จะมีผู้อยู่เหนือใหม่นับสิบปรากฏในจักรวาลแบบเงียบๆได้ยังไง?!พวกนายเป็นใคร?!”
มาเฮลยืนขึ้น
ไม่ใช่ว่าวันนี้เป็นงานต้อนรับฉันคนเดียว?!
บีเกอร์ยิ้มและโบกมือ”เราไม่ใช่คนแปลกหน้า ดูให้ดีสิ จำเราได้ไหม?”
เมื่อได้ยิน มาเฮลก็รีบสังเกตพวกเขา ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“ฉันเคยเห็นข้อมูลพวกนาย..พวกนายคือบรรพชน?!” “ฮ่าๆ ฉันรู้ว่านายจะจำเราได้..ไม่เอาสิ อย่ามองเราแบบนั้น เราแค่คืนชีพมา มันไม่ใช่เรื่องใหญ่”
บีเกอร์ตบไหล่อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
ราวกับว่ากระดูกเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ มาเฮลนอนแผ่บนโซฟา ไร้สีในดวงตาเขาเหมือนเขาวิญญาณหลุดออกจากร่าง
ตอนนี้ สมองของเขาขาวโพลน มีแค่ความคิดเดียวในหัวเขา..
ฉันเผลอหลับไปตอนไหน?
บีเกอร์ยิ้มและตอบรับในนามคนอื่น”ไม่ต้องห่วง เราเชี่ยวชาญเรื่องนี้ เรายังต้องการเพื่อนร่วมเล่นไพ่ใหม่เช่นกัน”
ผู้รักษาสัจจะพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่ทันใดนั้นก็ตระหนัก รอเดี๋ยว นี่องค์กรของฉันไม่ใช่เหรอ?ทำไมนายถึงเป็นคนออกคำสั่ง?
“เอ่อ…”ผู้รักษาสัจจะกำลังจะพูด
แต่ทว่า ก่อนเขาจะได้พูด หานเซี่ยวก็ปรบมือและยิ้ม
“ฉันดีใจที่เราบรรลุข้อตกลง มาทำความคุ้นเคยกับยุคนี้กันก่อนดีกว่า”
บรรยากาศในสถานที่กลายเป็นสงบลง เทพอำนวยนำคนอื่นออกห้งอไปขณะคุย เสียงของพวกเขาค่อยๆห่าง
ริมฝีปากของผู้รักษาสัจจะกระตุก
ฉัน ผู้นำองค์กรกลับโดนเมิน?ไม่ไว้หน้ากันเลยหรือไง?!
ครั้งนี้ หานเซี่ยวเดินมาตบไหล่เขา.”เกรงว่านายคนต้องยุ่งสักพัก ผู้คืนชีพเหล่านี้โดนข่มขู่อยู่ แต่ฉันไม่สามารถจับตาดูได้ตลอด จะต้องมีบางคนที่อยากหนีไป นายต้องจับตาดูให้ดี แต่ต้องไม่ทำให้ชัดไปเพราะพวกเขาคงไม่พอใจ”
“เข้าใจแล้ว..”เขากระแอม”อะแฮ่ม ฉันรู้ว่าต้องทำอะไร นายไม่ต้องสอน”
หานเซี่ยวยิ้ม อัญเชิญจอเสมือนและททำรายการ
“นี่คือรายการกุญแจบางส่วนสำหรับวิหารอื่น พวกเขาเชี่ยวชาญเรื่องนี้ มันดีสุดที่จะเก็บพวกมัน ยิ่งมีกุญแจเยอะยิ่งดี”
“นายพบสิ่งนี้ในวิหารสาม?”ผู้รักษาสัจจะแปลกใจ”ทำไมฉันถึงไม่เห็นมันตอนเข้าไป?”
“มันอาจเพราะระดับอำนาจนายต่ำไป..”หานเซี่ยวส่ายหัวและอธิบายสั้นๆถึงระดับอำนาจ สำหรับว่าผู้รักษาสัจจะจะกลับมันเป็นความลับไหม ตอนนี้ไม่ใช่เวลลามากังวลเรื่องเล็กน้อยแบบนี้
“เอาล่ะ แบบนี้ การเปิดวิาหรในอนาคตจะง่ายขึ้น”ผู้รักษาสัจจะดีใจ
แม้ข้อมูลที่บันทึกไว้ในวิหารจะต่างกัน แต่การคืนชีพวิหารใช้ได้ผลหมด การมีวิธีเปิดวิหารอื่นหมายความว่าคุณสมบัติคืนชีพวิหารสามารถทำได้หลายครั้งขึ้น
เขารับรายการ หยุดและถาม”นายตัดสินใจเวลาที่จะให้ผู้คืนชีพกลุ่มแรกปรากฏตัวหรือยัง?”
“อาจเป็นอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”หานเซี่ยวตอบ “หลังพวกเขาปรากฏ ท่าทีของสามอารยธรรมจักรวาลจะเปลี่ยนไปมาก นายพร้อมแล้วเหรอ?”ผู้รักษาสัจจะฟังดูเป็นห่วง
ไม่ว่าจะเตรียมใจมาล่วงหน้าแค่ไหน ในฐานะคนที่เริ่มพายุนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่กังวล นั่นโดยเฉพาะเมื่อนี่เป็นชนวนที่จะทำให้โครงสร้างจักรวาลพลิกผัน รวมถึงเป็นจุดเปลี่ยนของผู้อยู่เหนือ อิทธิพลของมันยิ่งใหญ่ มันอาจนำอนาคตไปสู่ทิศทางที่ไม่รู้
“ฉันรู้ว่าฉันจะทำอะไร นี่คือก้าวที่เราต้องเดิน ไม่ต้องกังวลนัก”
หานเซี่ยวยิ้มและตบไหล่เขา
ผู้รักษาสัจจะขมวดคิ้วและค่อยๆพูด”นอกจากนี้..เราได้ซ่อนความจริงเกี่ยวกับวิหาร ทำให้คนอื่นคิดว่าพวกเขาสามารถคืนชีพได้ครั้งเดียว นี่หมายความว่าแม้สามอารยธรรมจักรวาลจะกังวล พวกเขาก็อาจไม่ยอมแพ้ความคิด’กวาดล้าง’ ..เราไม่คิดจะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการคืนชีพจริงเหรอ?”
หานเซี่ยวส่ายหัว “ไม่เป็นไร เราต้องซ่อนไพ่ตายนี้ไว้สักพัก แม้การปล่อยข้อมูลนี้จะทำให้สามอารยธรรมจักรวาลระวังตัว พวกเขาก็อาจเปลี่ยนกลยุทธ์นี้เพราะมันเช่นกัน มันดีกว่าที่จะให้พวกเขาเข้าใจผิด เหนือสิ่งอื่นใด การสามารถคืนชีพได้ไม่จำกัดจำนวน..จะโน้มน้าวได้ก็ต่อเมื่อมันเกิดขึ้นจริง ถ้าการกวาดล้างเกิดจริง มันไม่สายเกินไปที่จะเปิดเผยมันตอนนั้น แบบนั้น ไม่เพียงสามอารยธรรมจักรวาลจะเซ มันยังทำให้พวกที่ตายแปลกใจด้วย”
“แถม ความกลัวยังเป็นสิ่งฉุดรั้งพวกคืนชีพ มันไม่ง่ายที่จะจัดการกับพวกเขาทุกคน”
ผู้รักษาสัจจะถอนหายใจ”แต่นายจะต้องเจอกับแรงกดดันมากมาย..นายเป็นคนที่นำผู้คืนชีพเข้าสมาคม ทุกคนย่อมคิดว่านายรู้ความจริง สามอารยธรรมจักรวาลจะเล่นงานนายแน่ นายจะรับมือได้เหรอ?”
“มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ทันทีทีี่สมาคมเห็นว่าวิหารสามารถคืนชีพได้ ผู้อยู่เหนือจะรวมตัวกันรอบฉันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นอกจากนี้ ด้วยความสามารถของฉัน ขุมกำลังฉันและโลกใต้พิภพ มันไม่ใช่ปัญหาที่จะยืนหยัดต่อต้านสามอารยธรรมสักพัก แบบนั้น จะมีที่ว่างสำหรับการเจรจา”
หานเซี่ยวยิ้มและทำให้ผู้รักษาสัจจะไม่กังวลนัก
ผู้รักษาสัจจะพยักหน้า พูดต่อ”ตราบเท่าที่นายมีแผน ยังไงซะ ไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหนล้วนขึ้นอยู่กับนายแล้ว”
…
วันต่อมา หานเซี่ยวกลับไปสมาคมและคาซูยิก็ก้าวลงตำแหน่ง คาซูยิติดต่อหานเซี่ยวหลายครั้ง พยายามหาว่าหานเซี่ยวได้รับอะไรในการเดินทางนี้ แต่หานเซี่ยวกลับเลี่ยงหัวข้อตลอด
การปรากฏตัวใหม่อีกครั้งหลังหายตัวไปสี่เดือนไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากนัก มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้อยู่เหนือที่จะเดินทาง ดังนั้นองค์กรต่างๆจึงไม่คิดมากเกี่ยวกับสิ่งที่หานเซี่ยวทำตอนหายตัวไป
หลังรออย่างอดทนมานานกว่าครึ่งเดือน สามอารยธรรมก็ลงมือ และส่งคำเชิญหาหานเซี่ยว
“หลังสังเกตอยู่นาน ในที่สุดพวกเขาก็เคลื่อนไหว..”
ในห้อง เมื่อเห็นคำเชิญบนอุปกรณ์สื่อสาร หานเซี่ยวก็นั่งตัวตรง
เขาเปิดเครือข่ายในจดหมาย และภาพฉายก็เข้าห้องประชุม
วินาทีต่อมา เขามาถึงห้องประชุมลับ ภาพฉายของผู้นำสหพันธ์ จักรวรรดิและศาสนจักรล้วนอยู่
“แบล็คสตาร์ คุณมาแล้ว”มาร์บรูซยิ้ม
หานเวี่ยวมองรอบๆ ส่งรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์”ท่านทั้งหลาย มีอะไรให้ผมรับใช้งั้นเหรอ?”
“เรายังไม่ได้แสดงความยินดีกับคุณแบบเป็นทางการที่ได้รับตำแหน่งประธานสมาคม”มาร์บรูซพยักหน้า
“ขอบคุณ”หานเซี่ยวยิ้ม”มันต้องขอบคุณการสนับสนุนของสมาชิกทุกคน”
“เราหวังกับคุณไว้สูงมาก คุณเหมาะกับการนำสมาคมมากกว่าแมนิสัน เราต่างยอมรับว่าภายใต้การนำของคุณ สมาคมผู้อยู่เหนือจะเดินต่อไปบนเส้นทางที่ถูก..”
พวกเขาพูดชมกันตามพิธีก่อนเข้เาเรื่องหลัก
ประธานสหพันธ์ ลูอิสลูบหนวดของเขา”วันนี้เราเรียกคุณมาเพราะเราต้องการความช่วยเหลือจากคุณ…ปัญหาของสมาชิกสมาคมที่กระจายความรู้ขั้นสูงสุดกันเองเกิดขึ้นมานานแล้ว แมนิสันจงใจยอมรับตอนเขาดำรงตำแหน่งและไม่สนใจมัน ตอนนี้ที่คุณกลายเป็นประธาน เราหวังว่าคุณจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้”
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว”ผมจะพยายาม แต่ผมไม่สามารถรับปากได้ เหนือสิ่งอื่นใด ผมไม่สามารถยุ่งชีวิตส่วนตัวของสมาชิกทุกคนได้” เมื่อรู้ว่านี่เป็นการตอบสนองอย่างเหมาะสม ผู้นำศาสนจักรจึงกระแอมและพูด’แบล็คสตาร์ เรื่องนี้สำคัญต่อเรามาก สิ่งนี้กินเวลามานานหลายทศวรรษแล้ว เราไม่สามารถยอมให้มันเป็นต่อได้ ทุกอย่างมีขีดจำกัด เราหวังว่าคุณจะแก้ไขสถานการณ์ได้”
“ผมจะพยายาม.”หานเซี่ยวยังคงยิ้มและไม่ปฏิเสธ
สามอารยธรรมจักรวาลไม่เคยเปิดข้อจำกัดการกระจายความรู้ขั้นสูงสุดอย่างถูกกฏหมาย ดังนั้นสมาชิกสมาคมจึงได้แต่ลอบกระจายเป็นการส่วนตัว นี่เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดพวกเลือดใหม่ แน่นอนว่าหานเซี่ยวไม่เห็นด้วย สามอารยธรรมจักรวาลก็รู้ชัดเจนเช่นกัน เหตุผลส่วนหนึ่งที่พวกเขายังจงใจหยิบยกประเด็นนี้มาคือการทดสอบตำแหน่งของเขาในฐานะประธานคงใหม่และอีกเหตุผลคือเพื่อกำหนดเส้นทางสำหรับการ’กวาดล้าง’
ถ้าเขาปฏิเสธมัน สามอารยธรรมก็จะมีเหตุผลเหมาะสมเพื่อเล่นงานสมาคม ถ้าสมาคมประนอม สมาชิกก็ต้องสั่นคลอน การโต้แย้งและความคิดเห็นแตกต่างจะเกิด
ทั้งสามมองหานเซี่ยวอย่างมีความหมาย
“งั้นเราจะรอผลจากคุณ คุณคงไม่ทำให้เราผิดหวังหรอกมั้ง?”
“แน่นอน ผมมักเชื่อในเส้นทางที่ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พวกคุณก็รู้”หานเซี่ยวยิ้ม”ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมก็ขอตัว”
“อืม เชิญ”
หานเซี่ยวแสดงท่าทางอำลาและตัดสาย
เมื่อภาพฉายของเขาหายไป ผู้นำทั้งสามก็มองหน้ากันและตกใจ
“ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาลงมือแล้ว”
แบล็คสตาร์มาแทนจักรพรรรดิจักรกลและเข้ารับตำแหน่งใหม่ มันเป็นโอกาสให้ลงมือ นี่เพราะสำหรับพวกเขา ความแตกต่างระหว่างแบล็คสตาร์กับจักรพรรดิจักรกลคือแบล็คสตาร์รู้ดีถึงการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ไม่เหมือนจักรพรรดิจักรกล ผู้หัวแข็งมากโอกาสที่แบล็คสตาร์จะพลิกกระดานนั้นต่ำมาก นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่พวกเขารอจนกว่าหานเซี่ยวจะรับตำแหน่ง นิสัยของผู้นำนั้นสำคัญมาก
ทั้งสามไม่วางแผนเล่นงานแบล็คสตาร์ แผนของพวกเขาคือฆ่าบางคนและชิงตัวบางคน ผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดไม่ใช่เป้าหมายของสามอารยธรรมจักรวาล พวกเขายังคิดชดเชยพวกเขาเพื่อให้สามารถแบ่งแยกผู้อยู่เหนือได้
ตามการวิเคราะห์ตามฐานข้อมูลพวกเขา แบล็คสตาร์มีแนวโน้มที่จะเลี่ยงความขัดแย้งและหาผลกำไร เพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนตน มีโอกาสน้อยมากที่เขาจะยืนอยู่ตรงข้ามสามอารยธรรม ตราบเท่าที่ปฏิบัติการมั่นคงและโหดร้ายพอ แบล็คสตาร์น่าจะก้าวถอยเพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งมอบโอกาสให้แบ่งแยกสมาคม
ผลลัพธ์ที่ดีสุดคือสมาคมผู้อยู่เหนือแตกแยก สมาชิกระดับต้นและกลางตายหมด ความไม่แน่นอนส่วนใหญ่โดนกำจัด ทิ้งไว้แค่สมาชิกสายตรงกับผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด แบบนี้ สามอารยธรรมจักรวาลจะได้รับอำนาจกลับคืนมาอีกครั้ง
เมื่อทั้งสามหารือถึงแผน ภายในห้องทำงานของหานเซี่ยว เขาวางอุปกรณ์สื่อสารลงและพึมพำ”สถานการณ์มาถึงจุดนี้แล้ว ดูเหมือนมันถึงเวลาที่ฉันต้องนำผู้คืนชีพออกมา..มันดันว่ามีสมาชิกใหม่ขอเข้าร่วมสมาคมเร็วๆนี้ ฉันสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อประกาศการดำรงอยู่ของพวกเขาต่อจักรวาลได้”
…
ครึ่งเดือนต่อมา ที่ศูนย์ใหญ่สมาคมผู้อยู่เหนือบนดาวฟินน์ กองยานขนาดเล็กค่อยๆเทียบท่า
ด้านหน้าหน้าต่างที่ห้องบัญชาการของยานหลัก ชายผมมองออกไป
“ในที่สุดสมาคมผู้อยู่เหนือก็ตอบรับคำขอของฉัน..”
มาเฮลโล่งใจ รู้สึกเหมือนภูเขาโดนยกออกจากไหล่
เขาคือผู้อยู่เหนือใหม่ที่เพิ่งก้าวสู่อาณาจักรนี้ไม่กี่ปีก่อน เขาโดยเลี้ยงโดยอารยธรรมระบบดาวบางแห่ง แม้โอกาสที่เรื่องแบบนี้จะเกิดนั้นต่ำมาก มันก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ อารยธรรมบางแห่งนั้นโชคดีพอ
ในฐานะผู้อยู่เหนือหนึ่งเดียวของอารยธรรม มาเฮลแบกรับความรับผิดชอบมากมาย หลังเขาก้าวอาณาจักรผู้อยู่เหนือ เขากลายเป็นผู้พิทักษ์อารยธรรม ได้รับผลประโยชน์มากมายและสร้างขุมกำลังอันมั่นคง เขาไม่เข้าร่วมสมาคมทันทีที่กลายเป็นผู้อยู่เหนือ แต่กลับปฏิเสธข้อเสนอของอารยธรรมอื่น”
เขาเพิ่งขอเข้าร่วมสมาคมและก็มาด้วยภารกิจ เขาหวังจะได้รับที่มั่นในสมาคมผู้อยู่เหนือ และนำผลประโยชน์สู่อารยธรรมของเขาโดยใช้ทรัพยากรของสมาชิกอื่น
วันนี้คือวันต้อนรับสมาชิกใหม่ที่จัดเพื่อเขา มาเฮลเตรียมการมามาก เขายังจ้างมืออาชีพมาร่างบทพูด เขาท่องจำมันและวางแผนได้รับความโปรดปรานจากสมาชิกคนอื่น
“หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น”
ยานอวกาศหยุดที่ท่า มาเฮลเดินออกมาและติดตามพนักงานต้อนรับไปห้องรับรองชั่วคราว ระหว่างทาง เขายังคงท่องบท
ไม่ช้า มาเฮลก็มาถึงประตูห้องรับรอง เขาผลักเปิดเดินเข้าไป มองรอบๆและตกตะลึง
ในห้อง มีคนนับสิบยืนและนั่งอยู่ขณะคุยกันลั่น เมื่อได้ยินว่ามีคนเข้ามา พวกเขาจึงหยุดหันมามองเขา
“ไม่ใช่ว่าห้องรับรองชั่วคราวมีไว้สำหรับคนเดียว?ฉันเข้าผิดห้อง?’
มาเฮลตกตะลึง ก้าวถอยหลัง มองหมายเลขห้องแล้วสับสน
ฉันเข้าถูก นี่คือห้องรับรองสำหรับมือใหม่ที่จะรอเข้าห้องประชุม นี่ควรเป็นห้องฉันสิ?คนเหล่านี้มาจากไหน?
ครั้งนี้ คนด้านในห้องเริ่มหัวเราะ คนใกล้ประตูยืนขึ้น ดึงมาเฮลเข้าไปและกดเขาลงบนโซฟา
“โอ้ ในที่สุดเด็กใหม่ตัวจริงก็มาถึง”
“นั่งสินั่ง มีของกินด้วยนะ’
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเด็กใหม่ของยุคใหม่”
คนอื่นล้อมเขาและสำรวจเขาด้วยความอยากรู้
มาเฮลติดอยู่ตรงกลางโดยไม่รู้ว่าต้องทำอะไร เขาไม่สามารถทนได้อีกและตะโกน”พวกนายเป็นใคร?นี่ควรจะเป็นห้องของฉัน ออกไป!”
เมื่อได้ยิน คนอื่นก็สบตากันและยิ้ม ทันใดนั้น ตัวของทุกคนก็สั่น
บูม!
พลังของผู้อยู่เหนือปะทุขึ้นและหายไปในชั่วพริบตา
มาเฮลตกใจ เขาตัวแข็ง คนแปลกหน้าเหล่านี้เป็นผู้อยู่เหนือ?!’
“พะ-พวกคุณเป็น..”
ดวงตาของมาเฮลเบิกกว้าง สมองทำงานติดขัด
บีเกอร์พูดติดตลก”ไม่ต้องกังวลไป เราเหมือนนาย แค่หน้าใหม่ที่กำลังจะเข้าร่วมสมาคม”
“เป็นไปไม่ได้!จะมีผู้อยู่เหนือใหม่นับสิบปรากฏในจักรวาลแบบเงียบๆได้ยังไง?!พวกนายเป็นใคร?!”
มาเฮลยืนขึ้น
ไม่ใช่ว่าวันนี้เป็นงานต้อนรับฉันคนเดียว?!
บีเกอร์ยิ้มและโบกมือ”เราไม่ใช่คนแปลกหน้า ดูให้ดีสิ จำเราได้ไหม?”
เมื่อได้ยิน มาเฮลก็รีบสังเกตพวกเขา ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“ฉันเคยเห็นข้อมูลพวกนาย..พวกนายคือบรรพชน?!” “ฮ่าๆ ฉันรู้ว่านายจะจำเราได้..ไม่เอาสิ อย่ามองเราแบบนั้น เราแค่คืนชีพมา มันไม่ใช่เรื่องใหญ่”
บีเกอร์ตบไหล่อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
ราวกับว่ากระดูกเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ มาเฮลนอนแผ่บนโซฟา ไร้สีในดวงตาเขาเหมือนเขาวิญญาณหลุดออกจากร่าง
ตอนนี้ สมองของเขาขาวโพลน มีแค่ความคิดเดียวในหัวเขา..
ฉันเผลอหลับไปตอนไหน?