ด้วยการถอนตัวของพันธมิตรกลุ่มดาวชั้นยอดและการละทิ้งแผนของสามอารยธรรม เมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือที่ได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนาจึงไม่พบทีมล่าอีก ทั้งหมดมาถึงสาขาของกองทัพแบล็คสตาร์ได้สำเร็จก่อนถูกส่งไปฐานหลักของกองทัพในโลกริบหรี่ด้วยชุดราชา
การเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ของเมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือยังกระตุ้นความสนใจของจักรวาล ไม่ช้าทุกคนก็รู้ความจริงว่าเมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือจำนวนมากได้ไปรวมกันในสมาคมระหว่างวันเหล่านี้
จำนวนเมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือภายในทุ่งดาวมักมีจำนวนมากกว่าร้อย ด้วยทุ่งดาวห่างไกลที่จะยิ่งน้อยลงขณะที่กาแล็กซี่กลางกับพื้นที่ของพันธมิตรกลุ่มดาวชั้นยอดจะมีหนาแน่นสุด จำนวนนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น และด้วยการสะสมหลายปี จำนวนเมล็ดพันธ์ุที่นับได้ในจักรวาลจึงมากประมาณสามพัน นี่เป็นยี่สิบเท่าของจำนวนผู้อยู่เหนือในรุ่นนี้
หากไม่รวมพันธมิตรและสายตรงของแต่ละอารยธรรม รวมถึงคนที่อยู่ในกองกำลัง เมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือเป็นกลางก็อยู่ที่ประมาณสองในห้า ประมาณ 1200 คน แต่ด้วยการเบี่ยงเบนนี้ จึงมีคนกว่าห้าร้อย หรือเกือบครึ่งของเมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือเป็นกลางที่ตรงมาเข้าร่วมองค์กรผู้อยู่เหนือ ซึ่งจำนวนคนที่เข้าร่วมกองทัพแบล็คสตาร์นั้นเยอะสุด!
นี่เท่ากับการเก็บเกี่ยวจำนวนมหาศาล มันไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าผู้มีพรสวรรค์ชุดใหม่จะเติบโต!
ไม่ว่าจะเป็นผู้อยู่เหนือหรือเมล็ดพันธุ์ผู้อยู่เหนือ พวกเขาต่างเป็นบุคคลสำคัญของยอดปิรามิดและครอบครองลักษณะของผู้นำ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ การเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เป็นสัญญาณและส่งผลต่อผู้ใช้พลังหลายคน แม้กระทั่งเมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือคนอื่น นี่ทำให้ทุกคนคิดว่าการเข้าร่วมสมาคมผู้อยู่เหนือครั้งนี้เป็นทางเลือกที่ฉลาด!
การรวมกันของเมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือทำให้เกิดแรงกระเพื่อมไปอีกหลายเดือนข้างหน้า ผู้ใช้พลังจำนวนมากวิง่ตามรอยเท้าพวกเขา…ในฐานะส่วนหนึ่งของจุดสุดยอดของปิรามิด คำพูดและการกระทำของพวกเขาจะส่งผลต่อผู้คนด้านล่าง นี่เป็นความหมายของแบบอย่าง
เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็น’การเคลื่อนไหว’ที่มีนัยสำคัญ ชื่อ’การหวนกลับของดาวที่กระจัดกระจาย’ถูกตั้งให้โดยพลเรือน พวกเขาเปรียบเมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือเป็นดาวดวงใหม่ที่กระจัดกระจายไปทั่วที่สุดท้ายก็กลับบ้าน กลุ่มขนาดใหญ่เริ่มบูชาสมาชิกสมาคม
เกี่ยวกับ’การกลับมานี้’ สังคมยังวิเคราะห์ถึงผลกระทบของเหตุการณ์นี้จากทุกมุม ค่อยๆมีข่าวลือกระจายว่าหน้าที่ของสมาคมเปลี่ยนไป อิทธิพลของพวกเขาแผ่กระจายไปหาผู้ใช้พลังทั้งหมด วันหนึ่งจะมาถึงเมื่อสมาคมไม่ใช่แค่กลุ่มผู้อยู่เหนืออย่างเดียวอีก มันกลายเป็นองค์กรใหม่ที่นำผู้ใช้พลังทั้งหมด กลายเป็นอีกขุมกำลังที่เป็นอิสระจากสามอารยธรรมจักรววาล กลายเป็นผู้ปกครองจักรวาลอีกหนึ่ง!
คำกล่าวนี้ได้รับการยอมรับและรับรองโดยผู้ใช้พลังจำนวนมาก ผู้ใช้พลังหลายคนโห่ร้อง ตื่นเต้นขณะรอด้วยความคาดหวัง ในสายตาคนส่วนใหญ่ สมาคมผู้อยู่เหนือมีคุณสมบัติพอเป็นผู้นำ
ขณะที่มีการเรียกสมาคมระดบัภูมิภาคสำหรับผู้ใช้พลังในจักรวาล ผู้บงการเบื้องหลังฉากก็คือสามอารยธรรมจักรวาล ซึ่งใช้สมาคมเหล่านี้เป็นแค่เครื่องมือจัดการผู้ใช้พลัง
ในสายตาคน ถ้าสมาคมผู้อยู่เหนือกลายเป็นองค์กรที่รับผู้ใช้พลังทั้งหมด มันจะกลายเป็นองค์กรที่รับใช้ผู้ใช้พลังอย่างแท้จริง เป้าหมายพวกเขาย่อมไม่เหมือนกับสามอารยธรรม
ความคิดของผู้ใช้พลังมาจากข้อเท็จจริงที่ว่าไม่มีเสียงเป็นหนึ่งเดียวที่พูดเพื่อพวกเขามานาน และพวกเขาก็ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะมี’บ้าน’ พูดง่ายๆ มันคือความรู้สึกของคนที่พบบ้านให้อยู่
แต่ทว่า การโต้แย้งแบบนี้ย่อมไม่เกิดขึ้นเอง บางคนเบื้องหลังมันได้สุมไฟ ผลักดันสมาคมผู้อยู่เหนือไปด้านหน้า จุดประกายความคิดเห็นสาธารณะ
ขณะที่จักรวาลโกรธกับข่าวลือ หานเซี่ยวก็ยุ่งกับการต้อนรับเมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือใหม่ในวังแบล็คสตาร์
…
โถงใหญ่ของวังแบล็คสตาร์ใหญ่มาก ด้วยคนแค่สามร้อยตรงกลาง มันจึงดูโล่ง พวกเขาทั้งยืนหรือลอยในอากาศ คุยกันขณะจ้องประตูที่นำไปในโถง คอยมองหาหานเซี่ยว
ทุกคนควรมาถึงกันแล้ว แบล็คสตาร์ยังไม่มาอีก?เรารอมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะ
จิ๊ นายอยากเจอผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด แต่กลับไม่อดทน คิดว่าคนแบบนั้นจะมาเจอนายแค่เพราะนายอยากเจอพวกเขาหรือไง?
แค่อดทนต่อไป บางทีท่านแบล็คสตาร์อาจกำลังมองเราอยู่ในความมืด คอยสังเกตความอดทนของเรา.
ทุกคนคุยกัน หันไปมองคนอื่นเป็นครั้งคราว มีความระมัดระวังเล็กน้อยในสายตาพวกเขา
พวกเขาหลายคนคุ้นเคยกันดี หรือเคยสู้ด้วยกันมาก่อน และพวกเขาก็มองกันเป็นหินลับมีด ทุกคนรู้ว่าจำนวนที่ข้างแบล็คสตาร์กับผู้อยู่เหนือคนอื่นมีจำกัด ด้วยคนมากมายในกองทัพตอนนี้ มีโอกาสสูงที่พวกเขาต้องแข่งขันกัน ทุกคนจึงถือเป็นคู่แข่งกัน
ตอนนี้ ประตูพลันเปิด หานเซี่ยวก้าวเข้ามาพร้อมเจ้าหน้าที่ด้านหลัง
เมื่อเห็นแบบนี้ เมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือนับร้อยก็หยุดคุย ยืดตัวตรงขณะแสดงความเคารพพื้นฐาน
เราขอแสดงความนับถือต่อท่านแบล็คสตาร์!
ยินดีต้อนรับสู่กองทัพ เราจะเป็นครอบครัวกันนับจากนี้ ไม่ต้องทำท่าแบบนี้หรอก
หานเซี่ยวโบกมือ สวมรอยยิ้มอบอุ่น
เมื่อเห็นว่าเมล็ดพันธ์ุนับร้อยเหล่านี้ หานเซี่ยวอดก็รู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ ยอดฝีมือจำนวนมากนี้หมายถึงพลรบระดับสูงของกองทัพ
จำนวนนี้เกินจริงไปมาก มันดูเหมือนกับว่าเขาจะประเมินผลกระทบของวิหารต่ำไป ถ้าไม่มีของแบบนี้ ทรัพยากรทั่วไปที่เสนอคงไม่สามารถสั่นคลอนพวกเขาได้สักคน
ตอนนี้ หานเซี่ยวรู้สึกภาคภูมิใจ แน่นอนเขารู้สึกมีความสุขมากขึ้นที่ได้เก็บเกี่ยวกระเทียมชั้นดีแบบนี้
จากการสแกนกลุ่ม หานเซี่ยวสังเกตเห็นสายตาที่ลุกโชนของทุกคนและยิ้ม ฉันรู้ว่าทำไมพวกนายถึงมาที่นี่ เกณฑ์สำหรับการคืนชีพวิหารคืออาณาจักรผู้อยูเหนือ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยพวกนาย แต่สุดท้ายแล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น มันขึ้นอยู่กับชะตากรรมของพวกนาย..
ทุกคนพยักหน้า ดวงตาของพวกเขาเป็นประกาย
หานเซี่ยวพูดเพิ่มอีกเล็กน้อยก่อนจัดให้ทุกคนเดินมาข้างหน้า รับการตรวจสอบของเขา จากนั้นเขาก็ดูค่าสถานะทีละคน
เมล็ดพันธ์ุผู้อยู่เหนือไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งหมดล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาตน แต่ทว่า จากมุมมองของหานเซี่ยว ส่วนใหญ่แทบหมดศักยภาพแล้ว มีคนแค่หยิบมือที่มีโอกาสยกระดับชีวิต เขาตั้งเกณฑ์ตัดสินศักยภาพคนไว้ ส่วนใหญ่เป็นความเชี่ยวชาญและทักษะ ความแตกต่างของพวกเขาถูกจัดระดับโดยเขาและคนที่มีศักยภาพก็ถูกคัดเลือกเงียบๆ
หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้ หานเซี่ยวก็มีความคิดในใจ เขาถอยไปสองก้าว พูดเสียงดัง ทุกคน ฉันมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับระดับของพวกนายแล้ว ฉันจะจัดตำแหน่งตามความสามารถส่วนตัวของพวกนาย แน่นอน พวกนายสามารถยื่นคำขอตำแหน่งที่ต้องการมาได้ และฉันจะพิจารณา’
แต่ฉันต้องบอกล่วงหน้าว่าบางตำแหน่งมีจำกัด ถ้ามีผู้สมัครมากเกิน พวกนายอาจต้องแข่งขันกัน ตัวอย่างเช่น องครักษ์ของสองรองผู้บัญชาการกองทัพและฉันที่สามารถท้าทายกันได้ โดยจะมีการหมุนเวียนผู้ชนะในตำแหน่ง ทุกคนควรเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้
เมื่อเจอกับคนที่หลั่งไหลมา การปฏิบัติต่อคนปกติของพวกเขาคือการแจกจ่ายอย่างเป็นธรรม แต่ทว่า สำหรับคนเหล่านี้ หานเซี่ยวจงใจใช้รูปแบบการแข่งขันเพื่อเลี่ยงความไม่พอใจ ในเวลาเดียวกัน เขาจะเปิดโอกาสให้คนที่ไม่ประสบความสำเร็จได้ท้าทายคนที่ประสบความสำเร็จอีกครั้งเพื่อกระตุ้นแรงจูงใจของทุกคนในการบ่มเพาะ…
แม้วิธีนี้จะไม่มีประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน แต่คนในสายนักสู้ต่างรู้สึกฮึกเหิม
ทุกคนเหลือบมองกันโดยไม่รู้ตัว เจตนาต่อสู้พวกเขาเฉียบคมขึ้น
ตอนนี้ บางคนพูดขึ้น ขอบคุณมาก ผู้บัญชาการกองทัพที่ให้ความคุ้มครอง ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน เราคงตายกันไปแล้ว ผมอยากถาม ท่านรู้ต้นกำเนิดของกลุ่มนักล่าไหม?
วินาทีที่เสียงนี้ดัง ทั้งห้องก็เงียบสงัด
สีหน้าของทุกคนแสดงความสงสัย พวกเขาไม่พูดถึง แต่ไม่มีใครไม่สนใจกับเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตพวกเขา
หานเซี่ยวหยุดยิ้ม เขาหยุดก่อนพูดด้วยน้ำเสียงมีความหมาย. นายมีคำตอบอยู่ในหัวใจแล้วไม่ใช่เหรอ?
เมื่อได้ยิน สีหน้าของฝูงชนก็ยิ่งซับซ้อน และความปั่นป่วนก็ดังขึ้น ถึงเวลาละทิ้งจินตนาการกับภาพลวงตาของนายแล้ว มันดูเหมือนว่านี่จะเป็นฝีมืออารยธรรมขั้นสูงและพวกเขาก็อยากได้ชีวิตเรา
ความสัมพันธ์ระหว่างสมาคมกับอารยธรรมขั้นสูงได้มาถึงจุดๆนี้แล้ว?มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคต?
เห้อ เป้าหมายระหว่างโศกนาฏกรรมถูกส่งต่อมาถึงเราแล้ว การคืนชีพวิหารเองก็เป็นดาบสองคมเช่นกัน
ถ้าฉันรู้ถึงสถานการณ์นี้แต่แรก ฉันอาจคงกลัวจนถอยไปแล้ว
คนเหล่านี้ถอนหายใจ เมื่อเจอกับท่าทีไม่เป็นมิตรของสามอารยธรรมจักรวาล พวกเขาต่างหวาดกลัวเล็กน้อย
ก่อนพวกเขาเลือกข้าง พวกเขาไม่คาดหวังว่าอารยธรรมขั้นสูงจะตอบโต้รุนแรงขนาดนี้ ไม่มีทางที่พวกเขาจะแสดงความเสียใจอีกต่อไป เอาล่ะ อย่าไปคิดมากเลย พวกนายได้เลือกเส้นทางไปแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือเดินหน้าต่อไป
หานเซี่ยวปรบมือขณะที่ปลอบทุกคน จากนั้นเจ้าหน้าที่ของเขาก็พาฝูงชนไปห้องเพื่อพักผ่อน รอคอยคำสั่ง
ขณะที่ส่งทุกคนออกไป ดวงตาของหานเซี่ยวเป็นประกาย จากนั้นเขาก็หันหัว ออกโถงไป เดินสักพักก่อนไปถึงห้องลับ
ประตูโดนผลักเปิด ห้องนี้เต็มไปด้วยเตียงสองชั้น แต่ส่วนใหญ่ว่าง มีแค่หนึ่งที่โดนจับจ้อง
หานเซี่ยวเดินไป กดปุ่มหยุดการจำศีล ด้วยเสียงฟู่ ประตูเลื่อนเปิด เผยให้เห็นคนข้างใน มันคือคาร์ล็อตที่นอนด้วยใบหน้าสงบ
คิ้วของคาร์ล็อตสั่นขณะที่เขาลืมตาขึ้นช้าๆ แวบแรกที่เขาเห็นหานเซี่ยวยืนอยู่ตรงหน้า เขาก็ตกใจ
ท่านแบล็คสตาร์? คาร์ล็อตตกตะลึง
ในอดีต เขายังเด็ก และไม่รู้ถึงตัวตนของแบล็คสตาร์ เมื่อเขาโต เขาถึงเข้าใจว่าแบล็คสตาร์ได้มอบโอกาสแบบไหนให้เขา และเขาก็กลายเป็นแฟนคลับของแบล็คสตาร์ แต่ทว่า เขารู้ว่าสถานะพวกเขาในจักรวาลห่างกันมาก มันจึงยากสำหรับพวกเขาที่จะมีโอกาสได้พบกันในอนาคต เขารู้สึกว่าแบล็คสตาร์อาจลืมเขาไปนานแล้ว เขาจึงแค่ติดตามการกระทำของหานเซี่ยวเงียบๆ
แต่เขาไม่คิดว่าไอดลอของเขาจะปรากฏตัวต่อหน้าเขา
วินาทีต่อมา คาร์ล็อตจำสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาก่อนเขาจำศีลได้และสีหน้าก็เปลี่ยนไป
มันเป็นท่านที่ทำให้ผมหมดสติและพาผมมาที่นี่?ผมอยู่ที่ไหน?
นี่เป็นฐานฉันเอง หานเซี่ยวยิ้ม
ตอนนี้ ความสัมพันธ์ของเขากับคาร์ล็อตนั้นฝืด มันต้องใช้เวลาเพื่อแกะรอยที่อยู่ของคาร์ล็อต แต่ทว่า คาร์ล็อตไม่รู้ถึงพรสวรรค์ของตัวเอง เขาจึงไม่เคยได้รับการดูแลอย่างจริงจัง และการจับจึงง่ายขึ้น
ท่าน.. คาร์ล็อตลังเล ทำไมถึงพาผมมาที่นี่?ท่านยังจำผมได้?
ถ้ามันเป็นคนอื่น เขาคงดิ้นรนเพื่อให้เป็นอิสระ แต่นี่คือหานเซี่ยว ผู้มีตำแหน่งพิเศษในหัวใจเขา เขาจึงพบว่ามันยากที่จะโกรธ
แน่นอน และความประทับใจก็ยังลึกซึ้งด้วย หานเซี่ยวสำรวจคาร์ล็อตด้วยสายตายอมรับ เราแยกทางกันหลายปีก่อน ตอนนี้นายโตขึ้นแล้ว ไม่เลว
เมื่อได้ยิน คาร์ล็อตก็รู้สึกสะเทือนใจ ไม่คิดว่าหานเซี่ยวจะยังจำเขาได้แม่น
เมื่อคิดว่าหานเซี่ยวมองเขาในแง่ดีเช่นกัน คาร์ล็อตพลันรู้สึกละอายใจ ผมขอโทษที่ทำให้ท่านผิดหวัง ศักยภาพของผมไม่ดีอย่างที่ท่านคิด
เขาสามารถเข้าสู่ระดับภัยพิบัติได้สำเร็จในสี่สิบปี แต่หลังจากนั้น มันดูเหมือนจะหยุดนิ่ง มันราวกับว่าศักยภาพของเขาหมดแล้ว หยุดที่แค่ระดับภัยพิบัติธรรมดา
คาร์ล็อตไม่สนใจความคิดของคนนอก แต่ต่อหน้าแบล็คสตาร์ เขาอดรู้สึกโกรธไม่ได้ คิดว่าเขาทำให้อีกฝ่ายผิดหวัง
นายกำลังบอกว่าฉันผิด? หานเซี่ยวพูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่เหมือนรอยยิ้ม
คาร์ล็อตไม่พูด แค่พยักหน้ายอมรับ
หานเซี่ยวหัวเราะ ยกมือขึ้นตบหน้าอกคาร์ล็อต อย่าดูถูกตัวเอง จักรวรรดิไม่ให้คุณค่ากับนายเพราะพวกเขาตาไม่ถึง ฉันมักเชื่อในศักยภาพของนาย
เมื่อได้ยิน คาร์ล็อตก็รู้สึกหวั่นไหวอีกครั้งและละอายใจ
นายอยากรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงพานายมา?นี่คือเหตุผล หานเซี่ยวหรี่ตา จริงๆแล้ว ฉันมักสนใจนาย จักรวรรดิไม่เคยเห็นพรสวรรค์นาย พวกเขาจึงไม่เคยให้ทรัพยากรนาย ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของนาย ฉันไม่สามารถทนเห็นพรสวรรค์โดนกลบฝังได้ ฉันจึงพานายมาเพื่อกระตุ้นศักยภาพนาย!
..งั้น ท่านก็มักจับตาดูผม?
คาร์ล็อตมีสีหน้าประหลาดใจ เขารู้สึกตื้นตันใจอย่างมาก
หานเซี่ยวยิ้มขณะสกิดคาร์ล็อต
อย่าดูถูกศักยภาพในตัวนาย นายอาจคิดว่าภัยพิบัติคือขีดจำกัดนาย แต่ขอฉันบอก ภัยพิบัติยังห่างไกลจากทางตันของนาย!
ท่านคิดว่าผมจะเป็นผู้อยู่เหนือได้? ดวงตาของคาร์ล็อตเปิดกว้าง
ไม่ใช่แค่นั้น..ฉันคิดว่านายอาจไปถึงอาณาจักรผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดได้ กลายเป็นหนึ่งในแนวหน้าของจักรวาล!
น้ำเสียงของหานเซี่ยวเต็มไปด้วยความคลั่งใคล้
ท่านมองผมแบบนี้จริงหรือ? คาร์ล็อตพึมพำ เมื่อเห็นว่าเขาแทบจะหลั่งน้ำตา หานเซี่ยวก็กลับมาจริงจัง งั้น บอกฉันมา นายเต็มใจอยู่ที่นี่และรับความช่วยเหลือของฉันไหม?
คาร์ล็อตลังเล เขาติดตามข่าวและรู้พายุที่กำลังก่อตัว เขากระซิบ ท่านอยากให้ผมอยู่ที่นี่ ซึ่งหมายความว่าผมต้องออกจักรวรรดิและเข้ากองทัพ?
สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว จักรวรรดิกับฉันกำลังปะทะกัน มีแค่การอยู่ข้างฉัน ฉันถึงให้คำชี้แนะำกับนายได้ แต่ทว่า นี่จะทำให้นายไม่สามารถอยู่ในจักรวรรดิได้อีก หานเซี่ยวไม่ปฏิเสธ
คาร์ล็อตเงียบ ดูสับสน หลังจากนั้น เขาก็แหงนหน้าขึ้นด้วยความมุ่งมั่นในดวงตา
ผมเข้าใจแล้ว ผมเต็มใจอยู่ข้างท่านและรับคำชี้แนะของท่าน!’
คาร์ล็อตอาจทำงานให้จักรวรรดิมาหลายปี แต่ในสายตาเขา มันก็แค่งาน มันไม่ได้กำหนดว่าเขาต้องเป็นขี้ข้าจักรวรรดิไปตลอดด้วยครอบครัวของเขาที่ตายจากไปหมดแล้ว เขาจึงเป็นหมาป่าเดียวดายในจักรวาลหนาวเย็น
จักรวรรดิไม่เคยให้ความสำคัญกับเขา แม้พวกเขาจะยอมให้เขาเข้าฐานฝึกลับ นั่นก็เพราะแบล็คสตาร์แสดงความสนใจต่อเขา ไม่งั้นพวกเขาคงไม่ให้สิทธิพิเศษ พวกเขายังเตะเขาออกมา..โชคดีที่แบล็คสตาร์มอบโอกาสให้เขา
นอกจากนี้ เขารู้สึกว่าแบล็คสตาร์ไม่ต้องวางแผนร้ายกับเขาเลย เขาแค่อยากตอบแทนแบล็คสตาร์สำหรับเรื่องที่ผ่านมา ต่อให้แบล็คสตาร์มองเขาผิด เขาก็ยังไปถึงอาณาจักรผู้อยู่เหนือได้!
เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็ถอนหายใจ
ฉันรู้ว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง
ขอบคุณความสัมพันธ์อันดีที่ก่อตัวหลายสิบปีก่อน มันจึงทำให้คาร์ล็อตมีความประทับใจในตัวเขา การรับสมัครเขาจึงง่ายกว่าเดิมเป็นสิบเท่า นี่คือความสำคัญของข้อมูล…
หานเซี่ยวลอบยิ้ม ในที่สุดเขาก็ได้รับกระเทียมทองคำมา