บูซ!
ครั้งนี้ บัลลังก์ในห้องที่เต็มไปด้วยฝุ่นพลันสว่าง และหานเซี่ยวก็ปรากฏ
หมวกเปิด เผยให้เห็นหน้าของหานเซี่ยว เขาถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้ มีการค้นพบสำคัญอะไรที่ทำให้เรียกฉันมา?
ลุงเป็นช่างกลนิ มาดูเจ้าตัวโตข้างนอกสิ ออโรร่าชี้ไปนอกหน้าต่าง
ไม่จำเป็นที่เธอต้องบอกเขาเลย วินาทีที่หานเซี่ยวถามคำถาม เขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติของสภาพแวดล้อม ตามนิ้วของออโรร่า เขาพลันเห็นร่างแปลกๆนี้
โอ้ มันใหญ่มาก!กายเนื้อกับเครื่องจักรผสมกัน มันเหมือนการประกอบเล็กน้อย แต่มันไม่ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น..นี่คืออะไร?เธอไปหามาจากไหน?
หานเซี่ยวตกใจ เขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไรเช่นกัน มันดูเหมือนจะใหญ่กว่าเทพจักรกลขนาดปกติของเขาหลายเท่า ตัวมันปกคลุมด้วยแผล ราวกับมันผ่านหายนะมา
นี่คือสิ่งที่เราเจอ อวกาศนี้ดูเหมือนจะเป็นพื้นที่ปิดผนึก.. เฟย์ดินอธิบาย
หานเซี่ยวพยักหน้าขณะลูบคาง
จากที่ฟัง ร่างกายนี้ดูเหมือนจะรักษาพื้นที่แปลกๆไว้ และพวกเธอก็บังเอิญเข้ามา ถ้าเทคโนโลยีจักรกลมัน มันควรเป็นเทคโนโลยีพื้นที่ระดับสูง สร้างอวกาศเฉพาะรอบมันหรือเปลี่ยนสภาพของบริเวณนี้ นี่คือเทคโนโลยีชั้นสูง
แต่ไม่มีปฏิกิริยาจากอุปกรณ์ยาน ออโรร่าชี้แผงควบคุม
ขอฉันดูหน่อย..
หานเซี่่ยวตรวจสอบ ตระหนักว่าอุปกรณ์ทั้งหมดทำงานปกติ ดวงตาของเขาเป็นประกาย อืม ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์โดนการแทรกแซงเสมือนหรืออีกฝ่ายมีเทคโนโลยีปกปิดน่าทึ่ง เทคโนโลยีก็ไม่ธรรมดาเลย ยานของออโรร่าได้รวมสมบัติของเจซไว้มากมาย แต่มันกลับยังตรวจจับไม่ได้
หรือมันจะเป็นอวกาศอัศจรรย์? เฟย์ดินอยากรู้
อย่ารีบสรุปไป.. หานเซี่ยวโบกมือและควบคุม ในเมื่อยานไม่สามารถถอยออกได้ งั้นก็มาดูกันว่าเราจะเข้าใกล้มันได้ไหม
แน่ใจเหรอ? ออโรร่าลังเล ฉันรู้สึกถึงสัญญาณชีวิตอ่อนๆจากมัน แต่ไม่ว่าจะลองส่งข้อความยังไง มันก็ไม่ตอบสนอง..
มันยังไม่ตาย?’
หานเซี่ยวตกตะลึงก่อนความตกใจจะเพิ่มพูน เขารู้จักความสามารถของออโรร่าดีและย่อมไม่ผิดพลาด
เดิม เขาคิดว่านี่คือซากกายจักรกลยักษ์ที่ทิ้งไว้โดยอารยธรรมบางแห่งหรือช่างกลที่ไม่สนใจเกี่ยวกับศีลธรรม แต่ทว่า เนื่องจากกายจักรกลนี้ยังมีชีวิต มันจึงน่าสนใจขึ้น มาดูกัน
หานเซี่ยวลังเลสองวินาทีก่อนตัดสินใจ เขาควบคุมยานให้ขยับไปข้างหน้า
ตามคาด พื้นที่มืดนี้ดูเหมือนจะยอมให้พวกเขารุกล้ำแต่ไม่ให้ถอย ยานอวกาศค่อยๆเข้าหาเป้าหมาย
ยิ่งใกล้ ความแตกต่างด้านขนาดยิ่งเด่นชัด รายละเอียดของกายขยายใหญ่ในสายตาพวกเขา ทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเล็กจ้อย
หลังจากนั้นไม่นาน ยานอวกาศก็หยุดที่รูยาวแคยบนนิ้วของกายจักรกล มันเหมือนถ้ำขนาดใหญ่ที่ลึกหลายพันเมตร
ประตูเปิด และพวกเขาก็ออกยาน
จักรกลใต้เท้าพวกเขาขรุขระ ทำให้มันไม่เหมาะกับการเดินธรรมดา
หานเซี่ยวนั่งยอง สอดนิ้วเข้าชิ้นเนื้อเพื่อสัมผัสมัน จากนั้นก็สังเกตกล้ามเนื้อและเส้นเลือดก่อนพยักหน้า
กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และไขมัน พวกมันดูเหมือนเนื้อเยื่อชีวภาพทั่วไป ไม่ใช่เส้นเอ็นชีวภาพเทียม
ขณะพูด เขาก็ออกแรงเพิ่ม และเลือดเล็กน้อยก็ซึมออกจากกล้ามเนื้อ
หานเซี่ยวแหงนมอง เห็นว่ามีคราบเลือดแข็งตัวรอบเนื้อเยื่อ พวกมันดูสาดกระเซ็น เหมือนเลือดอที่กระฉูดจากการโดนฟัน
ดวงตาของเขาเป็นประกาย และพลันคิดถึงเทคโนโลยีของตาแก่แมนิสัน กายนี้คล้ายกับการดัดแปลงชีวภาพและสร้างอวัยวะเทียม
ตอนนี้ เฟย์ดินพูด แบล็คสตาร์ ฉันรู้สึกไม่ดี..
หานเซี่ยวกับออโรร่าหันไป เห็นเฟย์ดินกำลังกุมหน้าอกด้วยคิ้วขมวด
เกิดอะไรขึ้น? หัวใจของหานเซี่ยวรัดแน่น
เขาจิ้มเฟย์ดิน กระตุ้นข้อมูลต่อสู้ หลังเห็นมันชัด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
ในแถบสถานะของเฟย์ดิน สถานะด้านลบที่เรียกว่า[สลายตัว]ปรากฏ ผลของมันได้ลดพลังชีวิต พลังงาน และความแข็งแกร่งเขาวินาทีละ 0.01%-05% แต่ทว่า ภายใต้อิทธิพลของรัศมีโชค เฟย์ดินจึงได้รับผลด้านลบน้อยมาก
ทำไมเขาถึงไม่มีปฏิกิริยาเช่นนี้มาก่อน?หรือนี่จะเกิดหลังเข้าสู่ร่างกายนี้?
หานเซี่ยวเปิดหน้าต่างสถานะ และตระหนักว่าเขาไม่มีสถานะนั้น เขาไม่มีการแจ้งเตือนใดเลย
หรือว่าผลนี้จะมีผลเฉพาะคนที่ต่ำกว่าผู้อยู่เหนื?มันจำกัดเฉพาะสิ่งมีชีวิตไหม?
เขาหันไปมองยานที่จอดอยู่ และหลังตรวจสอบ เขาก็ตระหนักว่าเกราะชั้นนอกของยานแสดงสัญญาณของสึกกร่อนและย่อยสลาย วัสดุที่ใช้ทำยานนี้แข็งมาก และแม้กระทั่งผสมโลหะแบล็คสตาร์เข้าไปด้วย มันมีความสามารถฟื้นฟูตัวเอง แต่มันกลับไม่สามารถต้านทานสถานะนี้ได้
หานเซี่ยวหรี่ตา เริ่มตั้งสมมติฐาน
พื้นที่นี้สามารถเข้าได้แต่ออกไม่ได้ ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุ ทุกอย่างจะเริ่มย่อยสลายเมื่อเข้าตัว น่าสนใจ ความรู้สึกนี้เหมือนกับดัก นี่อาจเป็นกับดักที่ล่องลอยในจักรวาล และคนที่เผอิญเข้ามันจะไม่สามารถหลบหนีและกลายเป็นสารอาหารให้มัน..
โชคดี มีผู้รักษาในกลุ่ม ไม่งั้น มันคงลำบบาก
เขาส่งสัญญาณให้ออโรร่ารักษาเฟย์ดินขณะนำเข็มเหล็กออกมาแทงเข้าผนังเนื้อ พยายามสร้างความเสียหาย ถ้าเจ้าตัวโตนี้เป็นคน มันควรแสดงข้อมูลต่อสู้บนหน้าต่างสถานะ
ติ้ง! วินาทีต่อมา การแจ้งเตือนผุดขึ้น
หานเซี่ยวเปิดมัน และสีหน้าก็เปลี่ยนไป
ระดับ สายพันธุ์และความสามารถของกายนี้ล้วนเป็นเครื่องหมายคำถาม มีแค่ชื่อที่ไม่ใช่เครื่องหมายคำถาม แต่ก็ไม่ต่าง มันถูกเรียกว่า[สิ่งมีชีวิตโพลีเมอร์]
ระดับของสิ่งนี้สูงมาก
ต่อให้มันเป็นแมนิสันหรือโซโรคิน ผู้มีระดับสูงกว่าเขา เขาก็ยังเห็นข้อมูลส่วนหนึ่งได้ ข้อมูลของร่างนี้เป็นเครื่องหมายคำถามแทบทั้งหมด ซึ่งหมายความว่่าความแตกต่างในระดับสูงเกินไป ในจักรวาลสำรวจ หานเซี่ยวเดาว่าคงมีแค่วูร์นอสที่มีระดับเช่นนั้น
สิ่งนี้มาจากไหน..
ความอยากรู้ของหานเซี่ยวเพิ่มขึ้น
เขาไม่มีความประทับใจต่อร่างนี้ในความทรงจำเลย พูดตามตรรกะ สิ่งแปลกเช่นนี้ไม่ควรไม่เป็นที่รู้จักในชีวิตก่อนหน้าเขา เขาไม่รู้ว่ามันไม่ถูกพบหรือโดนใครบางคนซ่อน หานเซี่ยวไม่มีเวลาไปสนใจเกี่ยวกับออโรร่าและเฟย์ดิน เขามุ่งเน้นกับการศึกษาสิ่งอื่น เขาฉีกกลุ่มเนื้อจากพื้น ทำลายอะไหล่ส่วนหนึ่ง และจากนั้นก็เปิดอุปกรณ์ตรสวจจับวัสดุในชุดจักรกลเพื่อสแกนและวิเคราะห์
ไม่นาน รายงานวิเคราะห์สองอย่างก็แสดง
สิ่งแรกคือผลวิเคราะห์ของอะไหล่จักรกลอื่น มันแสดงโครงสร้างอย่างละเอียด ไม่มีวัสดุที่ตรงกับฐานข้อมูล ซึ่งพิสูจน์ว่าวัสดุของกายจักรกลนี้ดูเหมือนจะประกอบด้วยโลหะบางชนิด เอกสารที่สองคือผลการวิเคราะห์ตัวอย่างชิ้นเนื้อ ไม่มีพันธุกรรมชีวภาพที่เข้ากัน ซึ่งพิสูจน์ว่าแหล่งตัวอย่างนี้ไม่น่าจะเป็นสายพันธ์ุที่รู้จักในจักรวาลสำรวจ อย่างไรก็ตาม การดำรงอยู่ของยีนผู้ใช้พลังถูกตรวจพบจากมัน ซึ่งเข้ากันได้อย่างดีกับสายช่างกล แม้กิจกรรมเซลล์จะอ่อนแอมาก มันก็ยังบรรจุด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าอ่อนๆ
หานเซี่ยวมีทฤษฏี เขาพลันฉีกชิ้นเนื้อเพิ่มเพื่อทดสอบ ทุกชิ้นมียีนผู้ใช้พลัง และพวกมันคือเซลล์ช่างกลทั้งหมด
เลือดและเนื้อมาจากช่างกล..
หานเซี่ยวนึกถึงขนาดของร่างนี้และหน้าก็กระตุก
ถ้าเลือดและเนื้อของร่างนี้เป็นของคนคนเดียว มันคงดี แต่ถ้ามันมาจากบุคคลที่ต่างกัน..มันต้องใช้ร่างช่างกลมากแค่ไหนเพื่อสร้างร่างใหญ่โตแบบนี้?
ทำไมเราไม่ทดสอบมันหน่อยละ?
หานเซี่ยวส่ายหัวและชั่งน้ำหนักเนื้อในมือ หลังลังเลสักพัก เขาก็เปิดใช้ทักษะ[นักสำรวจผู้กล้าหาญ)
ทักษะนี้ไร้ประโยชน์ต่อตัวละครมันเอง แต่ร่างนี้ดูเหมือนจะแตกต่าง ชิ้นเนื้อที่โดนแยกสามารถผ่านการตัดสินได้ดี
ตามคาด วินาทีต่อมา ทักษะมีผล
บูซ!
โลกตรงหน้าหานเซี่ยวพลันเปลี่ยนไปและภาพที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนก็เริ่มฉายย้อน
มันราวกับอวกาศได้เปิดขึ้นตรงหน้าพวกเขาและอารยธรรมกาแล็กซี่ที่รุ่งเรืองอย่างไม่มีใครเทียบก็ปรากฏต่อหน้าเขา เมื่อกองยานท่องผ่านอวกาศ ดินแดนมันขยับขยาย ดาวทีละดวงเปลี่ยนเป็นอารานิคม และเมืองก็ผุดจากดาวร้าง ยานอวกาศนับไม่ถ้วนมาและไปท่ามกลางดาว มันดูเหมือนอารยธรรมรุ่งเรือง
แต่ทว่า วินาทีต่อมา ชุดรูหนอนพลันปรากฏในท้องฟ้า และกองยานที่ไม่รู้จักก็รุกราน เปลวไฟแห่งสงครามกระจายมายังอารยธรรมสันติสุนี้ เลือดกับเสียงเข่นฆ่ามาแทนความรุ่งเรืองเดิม เมื่อการรุกรานเกิดขึ้น รากสีเขียวเข้มทอดยาวออกความว่างเปล่า เจาะดาวเหมือนฟางข้าว ดาวเหล่านี้สลายตัว หดขนาดและตายด้วยอัตราเร็วสูง สุดท้าย พวกมันก็เปลี่ยนเป็นสารอาหารเลวและโดนรากซูบ ไม่ทิ้งอะไรไว้เลย นี่คือ…
รูม่านตาหานเซี่ยวหดลง
เขาชินกับฉากนี้มาก มันเหมือนกับเวอร์ชั่นสงครามต้นไม้โลก!
อารยธรรมต้นไม้โลกได้รุกรานอารยธรรมลึกลับนี้!
ก่อนเขาจะได้วิเคราะห์เพิ่มเติม ภาพลวงตาตรงหน้าเขาก็เปลี่ยนไปและมาถึงจักรวาล
ช่างกลจำนวนมากรวมกัน นั่งสมาธิอยู่ตรงกลางท้องฟ้า ด้านหลังพวกเขาคือกองทัพจักรกลของตัวเอง สร้างเป็นขบวนรบมหึมา รอบพวกเขาเป็นอุปกรณ์จักรกลทรงวงแหวนที่ปกคลุมไปทั่ว
เทพจักรกลพลันปรากฏตรงกลาง ปล่อยพลังงานแปลกๆที่ปกคลุมทั่ว สะท้อนกับอุปกรณ์จักรกลนั้น
ทันใดนั้น ร่างกายของช่างกลทั้งหมดก็ระเบิด เปลี่ยนเป็นเลือดเนื้อบริสุทธิ์ ผสมเข้าด้วยกันกับกองทัพพวกเขา จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นพายุ วนรอบเทพจักรกลตรงกลาง..ขนาดของเทพจักรกลตัวนี้ใหญ่ขึ้น สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นขนาดเท่าดาว กายเนื้อและเหล็กผสานกันอย่างสมบูรณ์ รูปลักษณ์มันเหมือนมหาเทพจักรกลยักษ์!
แต่ทว่า ก่อนหานเซี่ยวจะได้แปลกใจ ฉากก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง กายจักรกลยักษ์ที่ยังสภาพสมบูรณ์สองวินาทีก่อนกลับเละเทะราวกับผ่านการต่อสู้มานับไม่ถ้วน สภาพมันคุ้นเคยมาก มันคือสภาพที่พวกหานเซี่ยวเห็นอยุ่นี้
จักรกลที่เสียหายนี้ดูเหมือนจะเป็นเศษซาก เสียโมเมนตัมของมันและล่องลอยในจักรวาล สุดท้าย มันก็โดนจับด้วยหลุมดำขนาดใหญ่ หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ครั้งนี้ มุมมองของเขาซูมออกอีกครั้ง ดินแดนของอารยธรรมลึกลับนี้เปลี่ยนเป็นความมืด แทบจะสะอาดกว่าแถบจักรวาลรกร้าง
กองยานของอารยธรรมต้นไม้โลกเหมือนลูกค้าที่กินไม่เหลือ พวกเขาถอยไปด้วยความพึงพอใจ ทิ้งจักรวาลว่างเปล่าไว้
นี่คือฉากสุดท้ายของภาพ
หานเซี่ยวตัวสั่น ผลของทักษะหายไป และวิสัยทัศน์ก็กลับเป็นปกติ
ดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยความตกใจขณะพึมพำกับตัวเอง มันดูเหมือนฉันจะพบเรื่องน่าเหลือเชื่อเข้า
…