“ที่นี่แหละ!”
“สวัสดี คุณเป็นพนักงานหรือเปล่า? หือ… คุณคือเจ้าของร้านหรอ?”
“มังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ A สิบตัวขายที่ร้านของคุณจริงหรอ? ทำไมพวกมันถึงถูกขายแทนที่จะประมูลละคะ?”
“เจ้าของร้าน ช่วยมองกล้องนี้หน่อยค่ะ ด้วยความเคารพ เราขอทราบได้ไหมว่าตระกูลไหนกันที่สนับสนุนคุณ?”
“เจ้าของร้าน ทำไมคุณถึงขายมังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ A จำนวนมากในคราวเดียว? คุณไม่ได้โฆษณาล่วงหน้าด้วย คุณไม่สูญเสียครั้งใหญ่เหรอ?”
”เจ้าของร้าน…”
ซูผิงเพิ่งเสร็จสิ้นข้อตกลงกับคลีโอ เขาก็ถูกรายล้อมไปด้วยนักข่าว
เกิดอะไรขึ้น?
ซูผิงงุนงง
เขาไม่คาดคิดว่าการขายอสูรขั้นกลางสิบตัวจะดึงดูดความสนใจได้มากขนาดนี้ มันจะไม่เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
ไม่ใช่เพราะคนในท้องถิ่นของดาวเคราะห์สีน้ำเงินเก่งกว่า แต่อุปกรณ์ทดสอบที่มีอยู่นั้นไม่ก้าวหน้าเท่ากับอุปกรณ์ในสหพันธ์ บรรดาผู้ที่ซื้อหรือฝึกอสูรในร้านของซูผิงรู้ว่าอสูรนั้นแข็งแกร่งมาก แต่พวกเขาไม่รู้ว่าอสูรนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน ซึ่งไม่ได้ทำให้มันกระจายข่าวเร็วแบบนี้
ท้ายที่สุดคำอธิบายเช่น “ดีมาก” หรือ “แข็งแกร่งมาก” ค่อนข้างเป็นอะไรที่ต้องจินตนาการอีกที ในขณะที่ไหวพริบระดับ A มีจุดหมายและรวมเป็นหนึ่งเดียวในสหพันธ์ มันพิเศษมากสำหรับคนในท้องถิ่นของรีอา
“เจ้าของร้าน ร้านค้าของคุณขายอสูรระดับ A จำนวนมาก เป็นเพราะมีผู้ฝึกสอนสี่ดาวคอยสนับสนุนร้านคุณอยู่ใช่หรือเปล่า?”
“เจ้าของร้าน เราไม่เคยได้ยินชื่อร้านของคุณมาก่อน มันเป็นสาขาของเครือใหญ่จากดาวดวงอื่นที่ตั้งใจจะแข่งขันกับบริษัทท้องถิ่นของรีอาใช่หรือไม่?”
หลังจากได้ยินคำถามที่หลากหลายของนักข่าว ซูผิงต้องยกมือขึ้นเพื่อแทรก “เงียบ”
เขาพูดเบา ๆ แต่น้ำเสียงของเขาดูน่ากลัวและดูเป็นการออกคำสั่ง
นักข่าวที่ส่งเสียงดังพาเงียบกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาหวาดกลัวโดยธรรมชาติ ราวกับว่าสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่ากำลังดูถูกพวกเขา
“มีผู้ฝึกสอนอยู่ในร้านนี้จริงๆ ส่วนการแข่งขัน ร้านนี้ทำธุรกิจของตัวเองเท่านั้น ไม่สนใจที่จะแข่งกับใคร”
ซูผิงกล่าวอย่างใจเย็นว่า “ร้านนี้จะขายและฝึกอสูรระดับ A เพิ่มอีกในอนาคต มาที่นี่หากคุณสนใจและจะยินดีมากหากลูกค้าที่ซื้อหรือรับบริการไปกลับมารายงานผล”
ซูผิงพูดจบและมองนักข่าว “เชิญออกไปได้แล้ว วันนี้ร้านปิดแล้ว”
มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ถ้าเขาไม่ใช้ประโยชน์จากนักข่าวเพื่อโปรโมตร้านของเขา
สำหรับไหวพริบระดับ A… เขาแค่พูดในลักษณะที่คนอื่นสามารถเข้าใจได้
เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้ฝึกสอนไม่มากก็น้อย เขาสามารถฝึกอสูรระดับ A ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดได้
เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนั้น ซูผิงก็ไล่นักข่าวออกจากร้าน
“เจ้าของร้าน ขอถามอะไรอีกสักหน่อย!”
“เจ้าของร้าน นี่มันเพิ่งจะเที่ยงเอง คุณจะปิดร้านแล้วหรอ?”
“บ่ายโมงจะเปิดร้านไหม? เจ้าของร้าน คุณเปิดทำการกี่โมง?”
“เจ้าของร้าน จะมีอสูรระดับ A มาอีกตามที่คุณพูดจริงไหม? จริงหรอเปล่า? ช่วยแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้เราทราบได้ไหม?”
นักข่าว—ที่ยังไม่ถึงสภาวะสมุทร—ถูกซูผิงผลักออกจากร้านด้วยพลังดวงดาว
“เร็วๆ นี้จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมให้ ส่วนเวลาทำการก็เช้า บางทีก็บ่าย ขึ้นอยู่กับว่าว่างเมื่อไหร่”
ซูผิงตอบคำถามบางข้อในขณะที่ผลักนักข่าวไปที่ประตู จากนั้นเขาก็โบกมือก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในร้าน
นักข่าวถูกทิ้งให้ตะลึงอยู่นอกร้าน
เวลาทำการเป็นแบบสุ่มเนี่ยนะ?
นี่มันร้านอะไรกันแน่เนี่ย?
…
ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ซื้อมังกรตัวแรกยืนอยู่ข้างนอก เขามีใบหน้าเศร้าเมื่อนักข่าวรวมตัวกันหน้าร้านของซูผิง
เขาแอบอยู่ในใกล้ๆเพราะเขาต้องการรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เหตุการณ์น่าตกใจที่เกิดขึ้นในภายหลังทำให้เขาตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
อสูรทั้งหมดเป็นระดับ A!
มังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ A สิบตัวที่ปรากฏตัวพร้อมกันเป็นเรื่องที่น่าหวาดหวั่นอย่างมาก
เขาจำได้ว่าเขามีโอกาสซื้อพวกมันทั้งหมดได้ แต่เขาวิ่งหนีไปเพราะเขากลัวว่าซูผิงจะขออสูรของเขาคืน ถ้าเขาไม่หนี เขาอาจจะซื้ออสูรทั้งหมดได้!
ชายหนุ่มรู้สึกอยากอาเจียนเป็นเลือดเมื่อนึกถึงเรื่องนี้
สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยคือ เนื่องจากทางร้านได้ขายมังกรระดับ A จำนวนมากในคราวเดียว แสดงว่าร้านอาจไม่สนใจจะเอามังกรที่เขาซื้อมาคืน
ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสไปที่ร้านของซูผิงในภายหลัง
…
”จริงหรือเปล่า?”
“บัดซบ ใครจะมาที่ร้านของเราในอนาคต”
“ร้านนั้นอยู่มาหลายปีแล้ว ทำไมฉันจำอะไรเกี่ยวกับร้านนนั่นไม่ได้เลย ไม่เคยเป็นที่นิยม จู่ๆมันดังขึ้นมาได้ยังไง?”
ร้านขายอสูรชื่อดวงดาวไร้ผู้คนโดยสิ้นเชิง ยกเว้นพนักงานสองสามคนและผู้จัดการร้าน
ผู้จัดการซึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่หัวล้านบางส่วนดูสีหน้าแย่มาก
มังกรอัสนีบาตสวรรค์สิบตัวที่ร้านของซูผิงเมื่อวันก่อนทำให้คนทั้งถนนตกใจ พวกเขารู้สึกกดดันมากเพราะเป็นร้านขายอสูรอีกร้านหนึ่งบนถนน ดังนั้นพวกเขาจึงรายงานเรื่องนี้ไปยังสำนักงานใหญ่ซึ่งก็ส่งมังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ B+มาให้พวกเขาในชั่วข้ามคืน
เขาตั้งใจที่จะดึงดูดลูกค้าทั้งหมดที่ได้รับข่าวเกี่ยวกับมังกรสิบตัวจากร้านอื่น สิ่งนี้อาจทำให้พวกเขาได้รับผลกำไรมหาศาล!
แต่เขาไม่คิดเลยว่ามังกรทั้งหมดจากร้านนั้นจะเป็นอสูรระดับ A!
เขาเหมือนถูกบดขยี้แล้วถูกับพื้น!
ผู้จัดการรู้สึกอยากฆ่าตัวตายในตอนนั้น ไม่ใช่แค่ร้านของเขา ร้านขายอสูรอื่นๆ ในวอฟเฟ็ตถูกบดบังและธุรกิจของพวกเขาต่างก็ได้รับผลกระทบ
เห็นได้ชัดว่าร้านของเขาได้รับผลกระทบสูงสุด เพราะอยู่บนถนนสายเดียวกัน มันเกือบจะเป็นการโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์!
ผู้จัดการไม่สามารถปล่อยไปได้
“บัดซบ! เราต้องทำอะไรสักอย่าง เราจะรอความตายอย่างเดียวไม่ได้!
”เร็วเข้า! ดึงดูดลูกค้าบนท้องถนนให้ได้! มัวมาทำอะไรตรงนี้?
“ติดต่อสำนักงานใหญ่และรายงานกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ อ้างว่าร้านนั่นขายและฝึกอสูรที่มีข้อบกพร่อง ไป!”
เขาจะตกงานถ้ารายได้ลดลง
แม้ว่าเขาจะถูกย้ายไปร้านอื่น ตำแหน่งของเขาก็คงไม่สูงเท่า
พนักงานทุกคนตกใจกับความโกรธของผู้จัดการจึงรีบไปทำงาน
ในไม่ช้าพนักงานของร้านขายอสูรชื่อดวงดาวก็เร่ขายและดึงดูดลูกค้าบนถนนอีกครั้ง
แม้ว่ามังกรอัสนีบาตสวรรค์ B+จะไม่น่าดึงดูดเหมือนเมื่อก่อน แต่ลูกค้าบางคนก็ยังสนใจมัน
แม้ว่าพวกเขาจะเสียใจที่ไม่ได้อสูรระดับ A แต่พวกเขาก็ยังมีความสุขที่ได้ซื้ออสูรที่มีระดับต่ำกว่าเล็กน้อย
ลูกค้าบางคนเข้าร้านมาไม่นานหลังจากนั้น
ส่วนใหญ่ไปที่ร้านของซูผิงมา
จากนั้นพวกเขาก็โห่ร้องเมื่อได้ยินว่ามังกร B+ มีราคาห้าร้อยล้าน
มังกรระดับ A ในอีกร้านหนึ่งขายอยู่เพียงสี่ร้อยล้านเท่านั้น แม้แต่สภาวะชะตากรรมก็ยังไม่ถึงพันล้าน!
หือ… มังกรถูกขายห้าร้อยล้านที่นี่เหรอ? มันบ้าเกินไป!
ผู้จัดการรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิดเมื่อได้ยินเสียงโห่และคำบ่น
นี่เป็นแค่ราคาตลาด!
ที่จริงมันต่ำกว่าราคาปกติหลายร้อยล้านด้วยซ้ำ!
เขาอาจจะต้องลาออกและกลับบ้านถ้าเขาขายอสูรนี่ในราคาสี่ร้อยล้าน
เขาคิดว่าร้านบ้านั่นตั้งราคาต่ำเกินไปอย่างแน่นอน!
เขาพยายามทำธุรกิจ เขาไม่รู้ว่าร้านนั่นกำลังวางแผนอะไรอยู่!
การขายอสูรระดับ A สิบตัวในราคาที่ต่ำขนาดนั้นแทบเหมือนกับการทำการกุศลครั้งใหญ่!
แม้ว่ามันจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคน มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะปล่อยให้เงินหลายแสนล้านหายวับไปกับตา!
ผู้จัดการทำได้แค่น้ำตาตกในเมื่อเขานึกถึงคู่แข่งที่บ้าคลั่งของเขา แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องพยายามพูดอย่างมีเหตุผลกับลูกค้า แต่ทุกคนก็ยังเยาะเย้ยและหัวเราะเยาะเขา
…
“เจ้าของร้าน ผมมารับอสูรของผม มันเสร็จหรือยัง?” เสียงคมชัดดังขึ้น จากนั้นฟีลัสก็เดินเข้ามาในร้านของซูผิง
เขาแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นนักข่าวและผู้คนที่เดินผ่านไปมาพูดถึงมังกรระดับ A มันเป็นเรื่องจริงหรอ?
”เสร็จแล้ว”
ซูผิงกำลังทำความสะอาดร้าน เขากำลังจะปิดและเริ่มการฝึกซ้อม
เมื่อเห็นชายหนุ่มมาถึง เขาก็พูดว่า “จระเข้เขียวของคุณได้รับการฝึกฝนแล้ว”
”จริงหรอ?”ฟีลัสค่อนข้างสงสัย เป็นไปได้หรอที่จะฝึกอสูรในหนึ่งวัน?
ซูผิงขอให้โจแอนนาพาอสูรของเขาออกมา
“ประตูนั้นจะพาคุณไปที่ห้องทดสอบ คุณสามารถทดลองอสูรที่นั่นได้ อย่าลังเลที่จะใช้ทักษะใดๆ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสียหาย กำแพงเสริมความแข็งแกร่งอย่างดี” ซูผิงกล่าว
ฟีลัสมองโจแอนนาด้วยท่าทางเคร่งขรึมมากกว่าเดิม จากนั้นเธอก็ขมวดคิ้ว ทำให้เขารู้ว่าการจ้องเธอเป็นเรื่องหยาบคาย
เขาละสายตาและเห็นดวงตาคู่หนึ่งที่เฉียบคมและโหดร้ายซึ่งแสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ได้เจอกันนาน แต่เจ้าของกลับไม่ตรวจดูมันก่อน จระเข้เขียวอกหักอย่างสุดซึ้ง
”ฮะ?”
ฟีลัสสังเกตเห็นทันทีว่าจระเข้เขียวดูแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก กลิ่นอายที่ปล่อยออกมานั้นลึกซึ้งกว่าเดิม แม้ว่ามันจะเข้ามาใกล้เขาแล้ว แต่ดูเหมือนการแอบย่อง พร้อมที่จะอาละวาดได้ทุกเมื่อ
ดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้น ฟีลัสคิด
โจแอนนาหันหลังกลับและจากไป
ฟีลัสรู้สึกโล่งใจและมองลงไปที่จระเข้เขียว เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดกับซูผิงว่า “เจ้าของร้าน ผมต้องการทดสอบ”
”ด้วยความยินดี”
…
สิบนาทีต่อมา ฟีเลียสกลับมาที่โถงต้อนรับ
ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
เขาไม่เห็นซูผิงระหว่างทางออกมา เขามองไปรอบๆ แต่กลับพบว่าเขาไม่รู้สึกถึงสิ่งใดที่อยู่หลังกำแพงและทำได้เพียงยอมแพ้
จากนั้นเขาก็จำได้ว่ามีร้านประเมินอสูรอยู่ใกล้ ๆ ดังนั้นเขาจึงรีบไปที่นั่น เขาพบผู้คนมากมายที่รวมตัวกันอยู่หน้าร้าน
“ไหวพริบระดับ A?”
“มังกรอัสนีบาตสวรรค์?”
ฟีลัสเลิกคิ้วขณะที่เขาเข้าใกล้สถานที่นั้น ฟังหัวข้อที่กำลังพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อนจากคนเหล่านั้น
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจหลังจากฟังอยู่ครู่หนึ่ง
ฟีลัสหยุดคนที่เดินผ่านไปมาคนหนึ่งและถามว่า “คุณแน่ใจหรอว่ามันถูกขายที่ร้านตรงนั้น?” เขาชี้นิ้วไปที่ร้านของซูผิง
”แน่นอน! ร้านขายอสูรพิกซี่กลายเป็นที่นิยมในวันนี้! คุณเชื่อไหมว่าพวกเขาขายมังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ A สิบตัวติดต่อกัน?”
“ใช่แล้ว ฉันยังรู้สึกเหมือนฝันอยู่เลย”
“มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมไม่คิดว่าร้านประเมินนี้เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนนะ ฮ่าฮ่า”
ทุกคนพูดคุยและหัวเราะ เห็นได้ชัดว่าสนใจเรื่องนี้
ฟีลัสค่อนข้างตกตะลึง
ร้านค้าของซูผิงขายมังกรอัสนีบาตสวรรค์ 10 ตัวที่มีไหวพริบระดับ A เมื่อเช้านี้หรอ?
โอ้พระเจ้า ฉันพลาดอะไรไป
จู่ๆ ฟีลัสก็นึกถึงจระเข้เขียวของเขา เป็นไปได้ไหมว่ามีผู้ฝึกสอนอยู่ในร้านของซูผิงจริงๆ
หัวใจของเขาเต้นแรง เขารีบเร่งฝ่าฝูงชนและจ่ายเงินค่าประเมิน
ไม่กี่นาทีต่อมา
ว้าว!
เสียงอุทานออกมาจากร้านประเมินอีกครั้ง ทุกคนที่ยังอยู่ก็มองเสาด้วยความตกใจ
การอ่านค่าพุ่งขึ้นสู่พื้นที่สีม่วงอีกครั้ง!
เป็นไปได้ไหมที่ตรวจพบอสูรอีกตัวที่มีไหวพริบระดับ A?
“บ้าจริง วันนี้มันวันอะไร?”
“มังกรอัสนีบาตสวรรค์อีกตัวหนึ่ง? ร้านค้าได้รับมาเพียงสิบตัวไม่ใช่หรือ ตัวนี้มาจากคลังเก่าเหรอ?”
“ใครคือผู้โชคดีที่ซื้อมาได้?”
เสียงอุทานทุกชนิดพุ่งออกมาจากฝูงชน
ในไม่ช้า การอ่านในพื้นที่สีม่วงก็ค่อย ๆ เสถียร
หลายนาทีต่อมา การจัดอันดับก็ปรากฏบนเสา:
ระดับ A!
ใต้การจัดอันดับเป็นภาพของจระเข้เขียว
ผู้ชมช็อกอีกครั้ง คาดไม่ถึงจะได้เห็นอสูรระดับ A อีกจริงๆ!
อย่างไรก็ตามคราวนี้มันไม่ใช่มังกรอัสนีบาตสวรรค์ แต่เป็นจระเข้สีเขียว
ฟีลัสตกตะลึงขณะมองผลลัพธ์ รู้สึกเหมือนกับว่าหัวของเขาว่างเปล่า
ชายหนุ่มไม่ชยับหัวได้….ไอรีนโนเวล
ไหวพริบระดับ A?
มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
มีอะไรผิดปกติกับอุปกรณ์หรือเปล่า?
จระเข้เขียวของเขามีเพียงแค่ B ก่อนหน้านี้ แต่แล้วมันก็กลายเป็น A!
นี่เป็นการพัฒนาอย่างมาก!
ฟีลัสรู้สึกมึนงงเล็กน้อย เขาไปทำการประเมินบางส่วนเพื่อค้นหาไหวพริบในปัจจุบันของจระเข้เขียวและเพื่อดูว่าความแข็งแกร่งของอสูรที่แสดงในห้องทดสอบจะสะท้อนให้เห็นในผลลัพธ์หรือไม่
ยาพิเศษบางชนิดสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับอสูรได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่พวกมันอาจก่อให้เกิดผลที่เลวร้ายได้!
ยาดังกล่าวสามารถตรวจพบได้ในการประเมิน วิธีการฝึกที่อันตรายและมีข้อบกพร่องซึ่งอาจทำให้คะแนนลดลง แม้ว่าจระเข้เขียวจะแข็งแกร่งกว่าตัวอื่นถึงสิบเท่า ไหวพริบของมันก็จะต่ำลงหากมันเสพยาอะไรเข้าไป!
ข้อสรุปที่ครอบคลุมขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ดึงมาจากหลาย ๆ ด้าน
ระดับ A หมายความว่าอสูรของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างแท้จริง โดยไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ซ่อนเร้น!
มันแข็งแกร่งขึ้นจริง ๆ ต้องขอบคุณการฝึก!
ฟีลัสตกใจเกินกว่าจะพูดออกมา เขาจ่ายเงินเพียงร้อยล้านเพื่อเลื่อนขั้นอสูรของเขาเป็นระดับ A ไม่น่าเชื่อ!
“อีกตัวหนึ่ง โชคดีที่นี่ไม่ใช่มังกรอัสนีบาตสวรรค์”
ในอีกมุมหนึ่งของร้าน คลีโอและลูกพี่ลูกน้องของเธอลิลลี่ต่างก็ประหลาดใจกับอันดับบนเสา
เสาดูเหมือนจะทำงานผิดปกติ เนื่องจากมีแต่ระดับ A ที่แสดงให้เห็นในวันนี้
อสูรตัวนี้ไม่ได้มาจากร้านค้านั่นหรอกใช่ไหม คลีโอคิด เธอถามหาประวัติของลูกค้าทันทีแล้วทักทายเขา
”สวัสดีค่ะ”
ฟีลัสยังคงตกตะลึงเมื่อคลีโอเข้าหาเขา เธอประหลาดใจและสับสนเล็กน้อยเมื่อเห็นรูปลักษณ์ การแต่งกาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตราสัญลักษณ์ที่ปลายแขนเสื้อของเขา ”ฮะ? คุณเป็นใคร?”
“ฉันเป็นผู้จัดการของร้านนี้” คลีโอตอบอย่างเป็นกันเอง “คุณต้องมาจากตระกูลโมเรโน อสูรนี้เป็นของคุณหรือเปล่า? คุณสนใจที่จะขายมันหรือไม่? ฉันสามารถซื้อมันได้มากกว่าราคาตลาด นี่คือนามบัตรของฉัน”
เธอยื่นบัตรสีม่วงและทองให้เขา
บัตรเพียงอย่างเดียวมีมูลค่าหลายหมื่นเหรียญดาว
รูม่านตาของฟีลัสหดเกร็งทันทีที่เขาเห็นบัตรใบนั้น เนื่องจากมีแต่สมาชิกในตระกูลไรอันเท่านั้นที่ใช้
“สวัสดี ผมชื่อฟีลัส” เขารับบัตรและพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างหวาดกลัว
ตระกูลไรอันเป็นเทพเจ้าของรีอา กองกำลังอื่นๆ ทั้งหมดต้องก้มหน้าต่อหน้าตระกูลนี้
“ว่ายังไงคะ? คุณวางแผนที่จะขายมันไหม?” คลีโอถามอย่างตรงไปตรงมา
ฟีลัสลังเลและพูดว่า “ผมขอโทษ แต่ผมกับเจ้าเด็กน้อยนี่อยู่ด้วยกันมานานและเราผูกพันกันมาก”
คลีโอรู้ทันทีว่าคำตอบคือไม่ ความผูกพันลึกซึ้งเป็นเพียงข้ออ้าง จิตใจที่เฉียบแหลมของเธอยังสามารถบอกได้ว่าเขาวางแผนที่จะเข้าร่วมในการแข่งขันอสูรที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อนำความหวังมาสู่ตระกูลโมเรโนที่กำลังตกต่ำ
“อย่าลังเลที่จะติดต่อหาฉัน หากคุณตัดสินใจที่จะขายมัน” คลีโอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฟีลัสพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
…
ในที่สุดฟีลัสก็โล่งอกหลังจากเดินออกมาจากร้านประเมิน การเผชิญหน้ากับใครบางคนจากตระกูลไรอันนั้นเครียดเกินไป ตระกูลของเขาอาจได้รับผลกระทบหากเขาทำเธอโกรธ
ฉันต้องไปหาเจ้าของร้านซูเดี๋ยวนี้เลย ถ้าเขาฝึกอสูรของฉันทุกวัน พวกมันทั้งหมดจะไม่มีไหวพริบระดับ A หรอกหรอ? ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันสามารถชนะการแข่งขันอสูรได้อย่างง่ายดาย…
ฟีลัสรู้สึกตื่นเต้นและรีบกลับไปที่ร้านของซูผิง
”เจ้าของร้าน”
ฟีลัสเห็นซูผิงขณะที่เขาเข้าไปในโถงต้อนรับ เขารีบเรียกเขาว่า “เจ้าของร้าน ผมไม่เห็นคุณ ผมเลยออกไปเดินเล่นข้างนอก ผมอยากให้คุณฝึกอสูรของผมเพิ่ม นี่พวกมัน…”
เขาไม่ได้บอกว่าเขาไปที่ร้านประเมินเพราะกลัวว่าซูผิงจะโกรธเพราะความสามารถของเขาถูกตรวจสอบ
แน่นอนว่าเขาสงสัยในความสามารถของซูผิงก่อนหน้านี้
”อ้อ” ซูผิงไม่แปลกใจที่เห็นฟีลัส เขาพูดว่า “คุณมาสาย ที่ว่างอสูรในร้านนี้เต็มแล้ว มาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ถ้าคุณต้องการให้อสูรของคุณได้รับการฝึกฝน”
”อะไรนะ?”
ฟีลัสตกตะลึงกับคำตอบ เขาถามด้วยดวงตาเบิกกว้าง “เต็มแล้วเหรอ?”
”ใช่ ไม่มีที่เหลือแล้ว” ซูผิงกล่าวอย่างไม่เป็นทางการ
ฟีลัสตกตะลึง เขาจะไม่ยอมรับมันอย่างแน่นอน
เขาตอบอย่างรวดเร็วว่า “เจ้าของร้าน ผมสามารถจ่ายเงินเพิ่มได้ สองร้อยล้าน ไม่สิ หนึ่งพันล้านสำหรับอสูรแต่ละตัว?”
ซูผิงเลิกคิ้วขึ้นและมองเขา ตระหนักว่าผู้ชายคนนี้ได้ไปตรวจอสูรของเขาแล้ว เขาพูดอย่างโกรธเคือง “นี่ไม่เกี่ยวกับเงิน นอกจากนี้คุณคิดว่าคุณสามารถจ้างผมโดยจ่ายเงินแค่พันล้านได้หรือยังไง?”
ฟีลัสถึงกับพูดไม่ออก แต่เขารู้ว่าซูผิงพูดถูก
การพัฒนาจระเข้สีเขียว B ให้อยู่ในระดับ A เป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้ฝึกสอนสี่ดาวก็ไม่สามารถทำได้ อาจเป็นผลงานของปรมาจารย์ก็ได้
“เจ้าของร้าน ผมรู้ว่านี่ไม่เกี่ยวกับเงิน คุณช่วยผมหน่อยนี้ได้ไหม?”
ฟีลัสใช้แนวทางที่แตกต่างออกไปในทันที และพยายามเรียกร้องความเห็นใจจากซูผิง “ผมกำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันอสูร หากคุณฝึกอสูรของผม ผมจะสร้างความแตกต่างให้ตัวเองในการแข่งขัน ผมจะบอกทุกคนว่าอสูรของผมได้รับการฝึกฝนในร้านของคุณในระหว่างพิธีมอบรางวัล มันจะเป็นโฆษณาที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ”
“มันเป็นการแข่งขันของคุณ ทำไมผมต้องสนใจ?” ซูผิงตะคอก “คนอื่นก็โฆษณาให้ผมได้”
ฟีลัสเริ่มรู้สึกกังวลหลังจากถูกซูผิงปฏิเสธ เขาอดไม่ได้ที่จะเสริมว่า “เจ้าของร้าน ผมขอร้องคุณ ผมต้องจะทำยังไงคุณถึงจะฝึกอสูรให้ผม”
เขาไม่สามารถพลาดได้อีกต่อไป ถ้าเขารู้ว่าผลจะเป็นแบบนี้ เขาจะทิ้งอสูรหลักไว้ฝึกแทนจระเข้เขียวที่เขาไม่ได้ตั้งใจใช้
“ไม่จำเป็นต้องขอร้องผม มันไร้ประโยชน์” ซูผิงพูดอย่างเฉยเมย “ถ้าคุณต้องการฝึกอสูรของคุณ พรุ่งนี้ก็แค่มาเร็ว”
ฟีลัสตะลึงงันถามด้วยความดีใจ “จริงหรอ? คุณยินดีที่จะฝึกอสูรของผมตราบใดที่ผมมารอต่อแถว?
“ตราบใดที่คุณจ่ายเงิน ทำไมผมจะไม่ทำล่ะ”
“ใช่ แน่นอน ผมจะจ่ายให้คุณอย่างแน่นอน อันที่จริงผมสามารถให้เงินคุณล่วงหน้าได้ในตอนนี้…”
“นั่นไม่จำเป็น ร้านนี้ไม่รับเงินล่วงหน้า เงินทั้งหมดจะต้องชำระ ณ ตอนนั้น ไม่มีการจอง ไม่มีการแซงคิว!” ซูผิงกล่าวอย่างเย็นชา
ฟีลัสค่อนข้างสับสน
ซูผิงไม่สนใจเขาและจากไป
อีกคนหนึ่งเข้ามาในร้านในเวลา และเห็นซูผิงเดินกลับไป เธอพูดด้วยดวงตาเป็นประกายว่า“เจ้าของร้านซู”
ซูผิงหันหลังกลับ เพียงพบว่าเธอคือมีอา
“กลับมาแล้วหรอ?”
”ค่ะ”
มีอาพูดด้วยรอยยิ้ม “มีคนบอกฉันว่าคุณขายมังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ A สิบตัว จริงหรอ?”
ซูผิงพยักหน้า “ใช่.”
ลูกตาของฟีลัสหดเล็กเมื่อซูผิงยอมรับด้วยตัวเอง เขาเสียใจกับการตัดสินใจเมื่อวันก่อนมากยิ่งกว่าเดิม
“เจ้าของร้านซู คุณขายให้ฉันสักตัวได้ไหม?”
เมื่อซูผิงยอมรับ ดวงตาของมีอาก็เปล่งประกายยิ่งขึ้นไปอีก เธอกล่าวว่า “เพียงแค่บอกราคามา ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหาเงินมามอบให้คุณ”
“คุณจับไม่ได้เลยหรอ?” ซูผิงถามกลับ
ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 761 ไม่ยอมอ่อน
ตอนที่ 761 ไม่ยอมอ่อน
Posted by ? Views, Released on พฤษภาคม 12, 2022
, ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store
Status: Ongoing
AstralPetStore SliceOfLife กู่ซี ต่อสู้ ต่างโลก นิยายจีน นิยายแปล นิยายแปลต่างโลก ผจญภัย ฝึกอสูร ระบบ ร้านอสูรดวงดาว อสูร แฟนตาซี ไซไฟ
ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…