ซูผิงตื่นเต้นมาก เขาคาดไม่ถึงว่าผีจะเป็นมิตรขนาดนี้
เขาไม่ได้กังวลว่าชายชราจะโกหกและหลอกล่อให้เขาติดกับดัก เพราะที่นี่มีผีจำนวนมากแล้ว และพวกมันสามารถเอาชนะเขาได้ง่ายๆ!
มีโอกาสที่เขาสามารถเอาชนะพวกมันได้ ต้องขอบคุณประสบการณ์ของเขาในอาณาจักรโกลาหลแห่งอันเดธ ถ้ามีใครบางคนที่มีพลังต่อสู้คล้ายคลึงกันกับเขา อีกฝ่ายจะไม่มีวันเอาชนะเขาได้!
“ขอบคุณที่บอกครับท่านผู้อาวุโส!” ซูผิงรีบป้องมือและขอบคุณเขา
ผีทั้งหมดเป็นนักรบที่เสียชีวิตจากการต่อสู้ในที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ คำพูดของพวกเขาบอกเป็นนัยว่าพวกเขาเป็นบรรพบุรุษของเขา ผู้ซึ่งทำคุณประโยชน์มหาศาลต่อมนุษยชาติ เขารู้สึกเคารพพวกเขา
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณเรา ท้ายที่สุดเราจะจากไปในไม่ช้า เชื้อสายของราชาเทพไวไลท์ ไม่ควรถูกตัดขาด ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถปกป้องมนุษยชาติได้หากเจ้าได้รับมรดก เจ้าพูดถึงว่ามนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่เจ้าต้องระวัง!” ชายชรากล่าวอย่างครุ่นคิด
ซูผิงงง “เราควรระวังเรื่องอะไร?”
“เรื่องที่เราไม่ควรเอ่ยถึง หากเจ้าได้รับมรดกไปอย่างราบรื่นและไปถึงจุดเดียวกับท่านราชาเทพได้เจ้าจะได้รู้เอง” ชายชรากล่าวด้วยเสียงต่ำราวกับว่าเขากลัว
ผีตัวอื่น ๆ ก็เงียบขรึมและสั่นสะท้าน ราวกับว่าถูกเตือนถึงบางสิ่งที่น่ากลัว
ซูผิงนึกถึงอีกาทองคำ แม้ว่าพวกมันจะแข็งแกร่ง แต่พวกมันก็ยังคงอยู่ในที่โดดเดี่ยวเพื่อหลบภัย อะไรทำให้อีกาทองคำหวาดกลัว?
“มันเป็นวัฏจักรแห่งเจตจำนงของสวรรค์หรอ? สิ่งมีชีวิตชั้นสูงบางประเภทจะทำให้เกิดภัยพิบัติแก่เราหรืออะไร?” ซูผิงลองเดา รู้สึกเหมือนได้สัมผัสความลับที่ลึกที่สุดของจักรวาล
ชายชรารู้สึกประหลาดใจที่ซูผิงรู้ เขาเหลือบมองซูผิงและส่ายหัว “ไม่ใช่เจตจำนงของสวรรค์ แต่เป็นสิ่งที่โบราณและน่ากลัวกว่า…”
ทันใดนั้นเขาก็ตัวสั่นขณะที่พูดราวกับว่าถูกระงับด้วยพลังบางอย่าง เขารีบหยุดพูด
ชายชราสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดกับซูผิงว่า “สหาย ข้าจะมอบคลังสมบัติศักดิ์สิทธิ์ให้กับเจ้า สำหรับมรดกของราชาเทพไวไลท์เราไม่รู้ว่ามีหรือท่านทิ้งไว้ที่ไหน เจ้าต้องค้นหาด้วยตัวเอง”
ซูผิงไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมเมื่อเห็นว่าชายชราเหนื่อยล้าเพียงใด เขาเพียงพยักหน้าด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง “เข้าใจแล้วครับ”
ไม่นานหลังจากนั้น แผนที่ก็ผุดขึ้นมาในหัวของซูผิง มันคือแผนที่ของที่พำนักศักดิ์สิทธิ์!
“ข้าได้มอบแผนที่ของที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดแก่เจ้า คลังสมบัติอยู่ที่นี่” ชายชราชี้
มีสถานที่ที่ทำเครื่องหมายด้วยแสงสีทองบนแผนที่ นั่นคือคลังสมบัติที่ชายชรากล่าวถึง
ซูผิงรู้สึกตื่นเต้นทันที มันเป็นแผนที่ของที่พำนักศักดิ์สิทธิ์โบราณ ซึ่งสามารถช่วยให้เขาหลีกเลี่ยงอันตรายที่ไม่จำเป็นได้มากมาย!
เขาไม่ได้หวังว่าจะพบมรดก แต่เขาสามารถค้นพบสมบัติอื่นๆ มากมายผ่านแผนที่นี้ นั่นก็จะเป็นรางวัลที่มากพอ
“ขอบคุณครับท่านผู้อาวุโส” ซูผิงรีบกล่าวขอบคุณ
”ไป…”
ชายชราค่อยๆจางหายไป ผีตัวอื่นๆ ก็กลายเป็นควันแห่งความตาย จากนั้นจึงกลับคืนสู่ดินและสุสาน
ต้นพีชที่เหี่ยวแห้งไปก่อนหน้านี้ก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันที และกลับกลายเป็นสีชมพูอีกครั้ง
ซูผิงสูดหายใจเข้าลึกๆ และเดินไปที่ทางออกที่ชายชราเปิดไว้ให้เขา
จากนั้นซูผิงก็กลับไปที่จัตุรัส เขาอ่านแผนที่ในหัวอย่างละเอียด และพบว่ามันแตกต่างไปจากที่เขาเห็นเล็กน้อย
ช่องที่ปรากฎเพื่อเข้าสู่ที่พำนักศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ได้มีเพียงทะเลสาบดอกบัวและสวนต้นไม้แห่งกฎเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูเขาลอยน้ำและสวนไผ่ด้วย
อย่างไรก็ตามเขาไม่เห็นหลังระหว่างทางเข้ามา ไม่มีใครบอกว่าพวกมันถูกทำลายหรือถูกดัดแปลงหลังจากที่ชายชราตาย
นอกจากนี้ไม่มีเหวใต้บันไดที่เขามา มันเคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่นกกระเรียนและสัตว์วิเศษอาศัยอยู่
แต่ตอนนี้สถานที่นั้นเต็มไปด้วยร่าง
ลานที่เขาอยู่ยังคงมีลักษณะเดิม
วิหารข้างหน้าก็เหมือนกัน ยกเว้นว่ามีกับดักและม่านพลังที่ซ่อนอยู่ในลานซึ่งไม่ได้ทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่ บางอันอันตรายถึงตายได้!
เขายังถูกเคลื่อนย้ายไปที่สุสานเมื่อครู่ก่อนหน้านี้ด้วยกับดักที่ไม่สะดุดตาจนเขาไม่ทันสังเกต
กับดักพวกนั้นจะต้องถูกตั้งขึ้นหลังจากผีพวกนั้นตาย
ซูผิงสูดหายใจเข้าลึกๆ เขามีแผนที่ แต่เขายังต้องหลบกับดักระหว่างทางอย่างระมัดระวัง
นั่นเป็นคุกของอสูรร้าย ฉันไปที่นั่นไม่ได้
วิหารเม็ดยาอยู่ที่นั่น ยาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดถูกเก็บไว้ในนั้น ฉันควรจะไปตรวจสอบก่อน คลังสมบัติอยู่ที่ด้านหลังของที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ ฉันแน่ใจว่ายอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาอยู่ที่นั่นตอนนี้ เขาไม่ควรไปที่นั่นตอนนี้
ซูผิงพบทิศทางที่เขาควรไปบนแผนที่แล้วจึงไปที่นั่น
เขากำลังเล็งไปที่วิหารขนาดใหญ่ เขาไปที่นั่นอย่างระมัดระวังและหลีกเลี่ยงกับดักระหว่างทาง
เขาไม่ได้พยายามที่จะทำลายกับดัก ท้ายที่สุดการทำลายใช้เวลานาน เขาจะไม่ทำเช่นนั้นเว้นแต่จะไม่มีทางเลี่ยงได้
โชคดีที่ในขณะที่กับดักนั้นเก่า พวกมันไม่ได้ซับซ้อนมากนัก และซูผิงสามารถทำลายพวกมันด้วยกำลังดุร้าย
เห็นได้ชัดว่ากับดักดังกล่าวไม่ได้ถูกใช้สร้างโดยราชาเทพ ไม่งั้นซูผิงคงไม่ได้สังเกตเห็นพวกมันง่ายๆ
บูม!
ซูผิงบังเอิญก้าวเข้าไปในกับดักที่ซ่อนอยู่ และผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สวมชุดเกราะสีทองก็พุ่งเข้ามาหาเขาด้วยดาบ
ซูผิงเตรียมพร้อมและรีบต่อสู้กับมันหลังจากผสานกับโครงกระดูกน้อยและมังกรเพลิงนรก
ในที่สุดซูผิงก็บดขยี้ผู้พิทักษ์ได้หลังการต่อสู้ที่กินเวลาหลายนาที ผู้พิทักษ์กระจายไปในหมอก จากนั้นเขาก็กลับไปที่ลาน
ซูผิงหายใจแรง ผู้พิทักษ์หุ้มเกราะสีทองอยู่ในระดับดวงดาวขั้นสูง เมื่อพิจารณาถึงเทคนิคเทพและการป้องกันที่แข็งแกร่งแล้ว มันจึงแข็งแกร่งกว่านักรบระดับดวงดาวขั้นสูงในสหพันธ์!
หวืด!
ซูผิงไปต่อ
หลายชั่วโมงต่อมา—
ในที่สุดซูผิงก็มาถึงขอบลายหลังจากการต่อสู้และเดินมาอย่างงุ่มง่าม
ที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ที่ปลายลานดูงดงามราวกับภูเขา และไกลราวกับห่างออกไปหนึ่งล้านกิโลเมตร เมื่อเขาไปถึงในที่สุด เขาพบว่ามันสูงมากจนมองไม่เห็นหลังคาของมัน
มีอักขระหลายตัวบนป้ายเหนือประตู แต่ซูผิงไม่รู้จัก
เขาไม่รู้หนังสือเมื่อพูดถึงภาษาของเทพ
มีม่านพลังอยู่ที่นี่จริงๆ …
ซูผิงเห็นแสงสีทองของม่านพลังภายนอกที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ มันค่อนข้างซับซ้อน
ในขณะนี้ซูผิงรู้สึกว่าเขาคิดถึงโจแอนนา
มันคงง่ายที่จะทำลายม่านพลังนี่ถ้าเธออยู่ข้างๆเขา
น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถพาพนักงานออกมาด้วยได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในระดับปัจจุบันของร้านของเขา
ซูผิงถอนหายใจ สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นก็คือเขาสามารถเข้าใจม่านพลังอยู่ไม่มากก็น้อย ต้องขอบคุณสิ่งที่โจแอนนาสอนเขา
เหล่าเทพอยู่เหนือเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ในทุก ๆ ด้านโดยได้สร้างประเทศที่ยอดเยี่ยมซึ่งล้ำหน้ากว่าผู้อื่นในด้านเทคโนโลยี การเงิน โครงสร้างพื้นฐาน และด้านอื่นๆทั้งหมด
เทพเจ้านั้นดีพอๆ กับเทพในสมัยโบราณในแง่ของม่านพลังและค่ายกล
เมื่อคุณไปถึงก้นบึ้งของมันแล้ว เทพเจ้าจะกลายเป็นมนุษย์ ในขณะที่เทพเจ้าเป็นอิสระและไม่เกี่ยวข้องกับมนุษยชาติ หรือมากไปกว่านั้น มนุษย์ถูกสร้างขึ้นโดยเหล่าเทพเจ้า
ต่อมาปรมาจารย์สวรรค์ เทพโบราณ และสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งอื่นๆ ได้เกิดขึ้นจากมนุษยชาติ และก็ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่ด้อยกว่าอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม—จากสิ่งที่เขาเรียนรู้จากโจแอนนา—เหล่าเทพเจ้ายังคงวางตัว; พวกเขาดูถูกมนุษย์และเผ่าพันธุ์อื่น ๆ
ซูผิงก้าวไปที่หน้าที่พำนัก.ไอลีนโนเวล.
ช่วงเวลาที่เขายืนอยู่ตรงนั้น… ซูผิงพบว่ามีพายุพัดผ่านร่างของเขาราวกับใบมีด โชคดีที่ร่างกายของเขาแข็งแกร่งพอที่จะทนได้
หากนักรบอสูรคนอื่นๆ มาอยู่ที่นี่ พวกเขาจะได้รับบาดเจ็บแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับดวงดาวขั้นสูง
ซูผิงสงบสติอารมณ์และรีบทำลายม่านพลังอย่างรวดเร็ว
เขาไม่จำเป็นต้องทำลายทิ้ง เขาแค่ต้องเจาะบางส่วนเพื่อที่เขาจะได้คลานเข้าไปได้
ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถทำลายมันได้อย่างสมบูรณ์
เวลาผ่านไป ไม่มีใครบอกได้ว่านานแค่ไหนแล้ว แต่ในที่สุดซูผิงก็พบจุดอ่อนและไปถึงขั้นที่สองได้
กับดักถูกกระตุ้นทันที ซูผิงรู้สึกเหมือนถูกแผดเผา ป้ายที่อยู่เหนือหัวของเขาเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าเดิม ราวกับว่าเทพเจ้าผู้ชาญฉลาดกำลังมองลงมาที่เขา
ความเจ็บปวดในร่างกายของเขาและพลังที่น่ากลัวเหนือหัวของเขาทั้งสองอย่างเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนถอยหนี นั่นเป็นเพียงส่วนที่อ่อนแอที่สุดของม่านพลัง ส่วนอื่น ๆ นั้นแข็งแกร่งกว่า และแม้แต่เจ้าดวงดาวก็ยังต้องถอย!
ซูผิงยังคงทำลานม่านพลังที่เหลืออย่างใจเย็น
การต้านทานไฟเป็นพิเศษของเขามีประโยชน์ ความร้อนเพียงพอที่จะทำให้นักรบระดับดวงดาวไหม้เกรียมทำให้เขารู้สึกร้อนเล็กน้อยเท่านั้น และในไม่ช้าเขาก็ควบคุมตัวเองจากการถูกพลังที่น่ากลัวเหนือศีรษะของเขาได้ ท้ายที่สุดเขาเคยเห็นมามากกว่านี้ เช่นผู้อาวุโสของอีกาทองคำ
วันหรืออาจเป็นเดือนผ่านไปในขณะที่เขาอยู่ในภวังค์
เนื่องจากเขาทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการทำลายม่านพลัง ซูผิงจึงไม่สามารถสัมผัสได้ถึงกาลเวลา
ไม่มีดวงอาทิตย์ในที่พำนักศักดิ์สิทธิ์และแสงพร่ามัวยังคงเหมือนเดิมอยู่เสมอ ซูผิงคิดว่าจะยอมแพ้ เพราะการทำลายม่านพลังนี้ยากเกินไปและกินเวลานานมาก
เขาสามารถใช้เวลานี้ไปค้นหาสมบัติในที่อื่นโดยมีโอกาสที่จะเจอสิ่งที่ดี
แต่ในที่สุดเขาก็ล้มเลิกความคิดนี้ เนื่องจากเขาต้องการทำสิ่งที่เริ่มไว้ให้เสร็จ
ปิ้ว!
ซูผิงสูดหายใจลึก และเอาชนะผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สวมเกราะทองคำที่ท้าทายเขา ในที่สุดเขาก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นหมอกหายไป และพบว่าตัวเองอยู่ด้านนอกวิหาร
เขาสามารถข้ามม่านพลังมาได้ ประตูวิหารอยู่ตรงหน้าเขา
ซูผิงออกแรงทั้งสองมือและผลักประตู
เขารู้สึกเหมือนกำลังผลักภูเขา!
มีเสียงลั่นดัง หลังจากเงียบมาหลายสิบล้านปี
ฝุ่นตกลงมาจากด้านบน ซูผิงเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็วหลังจากเปิดประตูเล็กน้อย เขาได้ตรวจสอบวิหารแล้วและไม่พบกับดักใดๆ
วิหารกว้างขวางมาก มันดูเหมือนโลกแห่งสมบัติ
มีชั้นวางสูงซึ่งมีกรอบ โดยมีฟองอากาศหลายร้อยฟองลอยอยู่ในกรอบเหล่านั้น ฟองอากาศแต่ละฟองมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณครึ่งเมตร และทุกกรอบสามารถบรรจุได้เป็นพันฟอง ไม่ยากที่จะจินตนาการว่าวิหารจะใหญ่โตขนาดไหน!
ฟองบางส่วนมีเตาหลอม บางฟองมีขวดและบางฟองมียาศักดิ์สิทธิ์
ซูผิงรู้สึกตื่นเต้นทันที
เขาก้าวเข้าสู่คลังสมบัติ!
มีเต็มไปหมด!
ยาดังกล่าวยังมีอยู่ในสหพันธ์ พวกมันถูกสร้างขึ้นโดยอารยธรรมอื่นและถูกทิ้งไว้ในอาณาจักรลับโบราณ
ยาจากอาณาจักรลับช่วยส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ในสหพันธ์ มีการสร้างยาจำนวนมากที่ออกแบบมาเพื่อนักรบอสูร
หวืด!
ซูผิงบินไปที่ชั้นหนึ่งซึ่งมีฟองอากาศลอยอยู่มากมาย
เขาเพ่งความสนใจไปที่ฟอง และข้อมูลก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที พร้อมแสดงชื่อยา อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงชื่อที่ไม่มีคำอธิบายใดๆ
ฉันควรทำยังไงดี? ฉันไม่สามารถกินมันได้ทันที นี่ไม่ใช่สนามบ่มเพาะที่สามารถคืนชีพและทำการทดสอบด้วยร่างกายของตัวเอง ซูผิงอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขามีที่เก็บยาไม่พอ!
หากเขาเป็นเจ้าดวงดาว เขาจะสามารถดูดพวกมันทั้งหมดเข้าสู่โลกใบเล็กของเขาได้
ซูผิงยิ้มอย่างขมขื่น เขาอยากรีบเป็นเจ้าดวงดาว!
“โครงกระดูกน้อย นายเก่งเรื่องการคืนชีพ ทำไมนายไม่มีลองชิมดูล่ะ?” ซูผิงมองโครงกระดูกน้อยที่อยู่ข้างเขา
โครงกระดูกน้อยเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ซูผิง ในไม่ช้ามันก็รู้ว่ามันไม่มีทางเลือก
มันเคยชินแล้ว ซูผิงมักจะ “ชอบ” มันเสมอในขณะที่เขาทำการทดลองและสำรวจสนามบ่มเพาะ
ส่วนมังกรเพลิงนรกและสุนัขมังกรดำจะถูกเรียกในกรณีที่เขาตกอยู่ในอันตราย
ทั้งสองมองโครงกระดูกน้อยอย่างเห็นใจ สุนัขมังกรดำมองแล้วก็เลียอุ้งเท้าตัวเอง
โปรดอย่าเรียกฉัน…
ซูผิงมองไปที่มัน ในขณะที่สุนัขมังกรดำสามารถป้องกันตัวเองได้ดี แต่ก็ไม่มีความสามารถในการคืนชีพเหมือนโครงกระดูกน้อย ไม่อย่างนั้นเขาจะให้โอกาสเจ้าหมา…
เขาคว้าขวดสีเขียวที่อยู่ในฟองและเปิดออกโดยดึงจุกก๊อกราวกับเป็นขวดแชมเปญ
อย่างไรก็ตามกลิ่นลอยออกจากขวด… มันเหม็นเน่ามากจนซูผิงต้องกลั้นหายใจ
เกิดอะไรขึ้นที่นี่? ยาเม็ดหมดอายุหรือเปล่า? ซูผิงอดคิดไม่ได้
ยาศักดิ์สิทธิ์สามารถหมดอายุได้ไหม?
อืม… แม้แต่อากู๋ก็อาจจะไม่รู้คำตอบ
เทพไม่ได้เป็นอมตะ ท้ายที่สุดไม่ใช่ว่าเทพทั้งหมดจะไปถึงสภาวะเทพดวงดาวหรือสูงกว่าได้
เทพหลายองค์ในหลุมศพกึ่งเทพที่มีจุดเริ่มต้นสูง แต่พวกเขายังต้องฝึกฝนทีละขั้นไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ไม่สามารถกลายเป็นเทพหลักได้
ถ้าเทพไม่เป็นอมตะ ทำไมยาของพวกเขาถึงจะหมดอายุไม่ได้ล่ะ?
ซูผิงเกือบจะร้องไห้หลังจากครุ่นคิด
ในที่สุดเขาก็ทำลายม่านพลังและเข้ามาได้ เขาจะต้องยอมรับความจริงอันโหดร้ายที่ว่ายาเม็ดศักดิ์สิทธิ์หมดอายุเนื่องจากการเก็บรักษาเป็นเวลานานหรอกหรอ?
ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 826 เม็ดยาศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 826 เม็ดยาศักดิ์สิทธิ์
Posted by ? Views, Released on กรกฎาคม 16, 2022
, ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store
Status: Ongoing
AstralPetStore SliceOfLife กู่ซี ต่อสู้ ต่างโลก นิยายจีน นิยายแปล นิยายแปลต่างโลก ผจญภัย ฝึกอสูร ระบบ ร้านอสูรดวงดาว อสูร แฟนตาซี ไซไฟ
ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…