“อสูรประหลาดกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นจากส่วนลึกของที่พำนักศักดิ์สิทธิ์”
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์มองไปที่ซูผิงและกล่าวว่า “อสูรประหลาดเหล่านั้นน่ากลัว พวกมันละเลยพลังของกฎ บางตัวสามารถซึมซับพลังแห่งศรัทธาได้ แม้แต่เจ้าดวงดาวก็ไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้ โชคดีที่ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวสามคนปกปิดพวกเราเพื่อให้พวกเรามีโอกาสหลบหนี”
“อสูรประหลาด…”
ดวงตาของซูผิงเป็นประกาย พวกมันจะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตในหลุมสวรรค์ที่ราชาไวไลท์เสียสละตัวเองเพื่อปิดกั้นมัน
“ต้องขอบคุณคำเตือนของคุณ เราจึงถอยกลับอย่างเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นพวกเราจะต้องเป็นอันตรายแม้จะได้รับความช่วยเหลือจากยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวสามคนนั้น บางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวดูเหมือนจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ในที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวสามคนก็ยังต้องล่าถอยหลังจากปิดผนึกสถานที่นั้น”
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์จ้องมองซูผิงและถามว่า “คุณรู้เรื่องอสูรประหลาดนั่นได้ยังไง? คุณพบมรดกในที่พำนักศักดิ์สิทธิ์หลังจากผ่านบันไดไปไหม?”
ทุกคนมองซูผิงโดยไม่ตั้งใจ
ที่พำนักศักดิ์สิทธิ์นั้นน่าจะเป็นของเทพสภาวะเทพดวงดาวหรือแข็งแกร่งกว่านั้น มรดกเหล่านั้นดึงดูดแม้กระทั่งยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว
เมื่อรู้สึกถึงการจ้องมองของพวกเขา ซูผิงตอบด้วยรอยยิ้มขมขื่นว่า “แน่นอนว่าไม่ บันไดดูเหมือนจะเป็นเพียงการทดสอบ ผ่านไปก็ไม่มีอะไรผิดปกติ คนที่ต่อสู้กับผมก็ผ่านไปได้เช่นกัน จากนั้นเราก็แยกกันสำรวจที่นั่น”
“ไม่มีอะไรผิดปกติ…”
ริมฝีปากของทุกคนกระตุกเมื่อได้ยินอย่างนั้น ยอดฝีมือระดับดวงดาวและเจ้าดวงดาวถูกขวาง มีเพียงคุณสองคนเท่านั้นที่ผ่านไปได้ ไม่มีอะไรผิดปกติหรอ?
หากไม่ใช่เพราะท่าทางนิ่งๆของซูผิง พวกเขาคงคิดว่าเขากำลังโม้
“คุณรู้ได้อย่างไรว่าจะมีอันตราย” ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์จ้องมองซูผิงราวกับว่าเธอกำลังมองทะลุหัวใจของเขา
อย่างไรก็ตาม ซูผิงตอบอย่างใจเย็นว่า “ผมบังเอิญไปถึงพื้นที่ที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ พวกเขาบอกว่าจะเรียกอสูรผู้พิทักษ์มาโจมตีผู้บุกรุก ผมจึงจะกลับออกมา จากนั้นผมเห็นคุณที่ลานระหว่างทางกกลับ ผมจึงเตือนคุณ”
“อสูรผู้พิทักษ์?”
คำพูดของซูผิงสร้างความตกใจและสงสัยให้กับทุกคนที่อยู่ตรงนั้น
ที่พำนักศักดิ์สิทธิ์นั่นรกร้างมาหลายปี แต่ก็ยังมีอสูรผู้พิทักษ์อยู่ในนั้น?
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ขมวดคิ้วและจ้องมองซูผิง“แม้ว่าจะมีอสูรผู้พิทักษ์ แต่เราก็มียอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวสามคนเช่นกัน ทำไมคุณถึงคิดที่จะหนี?”
อันที่จริงนี่เป็นข้อบกพร่องในข้ออ้างของซูผิง
ซูผิงรู้ว่าเธอจะถามอย่างนี้ เขาไม่ได้พูดถึงเหตุผลที่แท้จริงเพราะถึงพูดก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้ว่าเขาจะกล่าวว่ายอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวสามคนเป็นคนทำให้อสูรผู้พิทักษ์ลึกลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรและจะไม่ส่งผลดีใดๆ กับเขา
อย่างไรก็ตามหากข่าวแพร่กระจายออกไปและยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวสามคนถูกสภาวะเทพอมตะลงโทษ นั่นอาจจะนำปัญหามาที่ประตูบ้านของเขา
เขาไม่ได้ตั้งใจจะซ่อนตัวอยู่ในร้านตลอดไป ดังนั้นเขาจึงไม่อยากทำให้พวกเขาโกรธ เว้นแต่เขาจะจำเป็น
“เป็นความจริงที่ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวอยู่ที่นั่นด้วย แต่การต่อสู้ของสภาวะเทพดวงดาวจะฆ่าคนที่อ่อนแออย่างผมได้อย่างง่ายดาย ผมเลยต้องหนีก่อน จะมีโอกาสสำรวจอีกเสมอเมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง” ซูผิงกล่าวนิ่งๆ
นั่นเป็นข้อแก้ตัวที่เขาคิดขึ้นมา เขาไม่สนใจว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่
เป็นการดีกว่าที่จะให้พวกเขาสงสัยเกี่ยวกับตัวเขามากกว่าที่จะทำให้สภาวะเทพดวงดาวสามคนโกรธ
นี่เป็นวิธีของโลก จะดีกว่าที่จะไม่พูดความจริง เว้นแต่คุณจะสามารถจัดการกับมันได้!
ทุกคนมีสีหน้าที่แตกต่างกันหลังจากได้ยินสิ่งที่ซูผิงพูด ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ขมวดคิ้ว ที่เขาพูดก็ฟังดูมีเหตุผล แต่เธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้กำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่
เธอเดาเอาเอง แม้ว่าเธอจะหงุดหงิดเพราะสิ่งนี้ แต่เธอก็จะไม่บีบเขาเพราะเรื่องนั้น
เธอมีความภูมิใจในตัวเอง นอกจากนี้ซูผิงยังช่วยเธอด้วยการเตือนเธอขณะที่เขากำลังหลบหนี
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์พยักหน้าและกล่าวว่า “คุณค่อนข้างฉลาด! เราคงไม่เหลือถ้าไม่มีคุณ ฉันไม่รู้ว่าอสูรประหลาดเป็นอสูรผู้พิทักษ์ของที่พำนักศักดิ์สิทธิ์นั้น ดูเหมือนว่าสถานที่นั้นจะน่ากลัวกว่าที่ฉันคิดไว้… มันอาจจะเป็นของยอดฝีมือสภาวะเทพอมตะก็ได้!”
สภาวะเทพอมตะ!
มันเป็นความคิดที่น่าตกใจ ดวงตาของทุกคนเป็นประกาย
มีคนแอบมองซูผิงอย่างละเอียดและครุ่นคิด
ซูผิงเลือกที่จะเพิกเฉยต่อพวกเขา บางครั้งผู้คนอาจคิดว่าคุณได้รับผลประโยชน์มากกว่าพวกเขา แม้ว่าคุณจะไม่ได้อะไรเลย แต่พวกเขาต่างหากที่ได้!
อย่างไรก็ตามซูผิงได้บางอย่างมา บางอย่างเช่นท่านหญิงเขียว
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์มองไปที่รีอาเหนือหัวของเธอและถามด้วยความสงสัย “ดาวดวงนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เป็นไปไม่ได้ที่ซูผิงจะเคลื่อนดาวเคราะห์ข้ามร้อยปีแสง ผ่านระบบดาวเคราะห์หลายดวง
โอนีลยังมองไปที่ซูผิงด้วยความอยากรู้ เขาอยากรู้ว่าซูผิงได้ผลักดาวของเขาออกมาได้อย่างไร
“บ้านเกิดของผมมีปัญหา และยานอวกาศก็ช้าเกินไป คนใหญ่คนโตที่ผมรู้จักรู้เรื่องนี้และช่วยผมผลักดาวเคราะห์มาที่นี่” ซูผิงกล่าว ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นความจริง
“ยานอวกาศช้าเกินไปหรอ?”
“ถ้างั้นพวกเขาผลักดาวเคราะห์มาที่นี่เหรอ?”
ทุกคนต่างตกตะลึง นี่เป็นเหตุผลแบบไหนกันนะ? เขาผลักดาวเคราะห์ทั้งดวงมาเพราะยานอวกาศช้าเกินไป?
คนใหญ่คนโตนั้นช่างคิดจริงๆ
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์รู้สึกทึ่งกับสิ่งนี้เช่นกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองขึ้นไปที่รีอา เท่าที่เธอรู้ ผู้ที่สามารถผลักดาวเคราะห์ได้นั้นส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะเทพดวงดาว!
เจ้าดวงดาวสามารถทำได้เช่นกัน แต่มันจะเป็นงานที่เหนื่อยและช้ามาก!
“นี่คือบ้านเกิดของน้องทำลายสวรรค์หรอ? รู้สึกเหมือนว่าจะเป็นดาวเคราะห์ระดับ 3 ความหนาแน่นของพลังงานดาวนั้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ย”
“นี่ต้นไม้อะไร? ทำไมมันใหญ่จัง?”
“เจ้าดวงดาวที่เพิ่งถูกจัดการไปตีก็มาเพราะต้นไม้นี่”
“มันต้องเป็นต้นไม้มหัศจรรย์แน่ๆ น่าเหลือเชื่อ!”
พวกเขาไม่ได้ใส่ใจกับการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์นานเกินไป ซูผิงได้แสดงความแข็งแกร่งอันน่าทึ่ง พวกเขาคาดไว้อยู่แล้วว่าต้องมีคนใหญ่คนโตสนับสนุนเขาอยู่
คงจะเป็นเรื่องมหัศจรรย์ถ้าไม่มีใครสนับสนุนเขา!
อย่างไรก็ตาม โอนีลลังเลเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดไม่ไป คุณคิดว่าความรู้สึกของฉันเป็นยังไงเมื่อคุณผลักดาวของผมออกมา?
ง่ายสำหรับคุณที่จะผลักมาที่นี่ แต่ผมจะเอามันกลับไปยังไง?
“ที่จริงนี่คือบ้านเกิดของผมชื่อดาวเคราะห์สีน้ำเงิน นอกจากนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์ ปัจจุบันเป็นดาวเคราะห์ระดับ 5 ผมหวังว่าคุณจะสามารถขยายธุรกิจการค้าของคุณมาที่นี่ ผมจะให้สิทธิพิเศษแก่คุณอย่างแน่นอน”
ซูผิงฉวยโอกาสหาผู้อุปถัมภ์ดาวเคราะห์ของเขา
คนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นนักรบระดับดวงดาวที่มีความสัมพันธ์มากมาย ความช่วยเหลือของพวกเขาจะช่วยเพิ่มการพัฒนาของดาวเคราะห์ ผู้คนจะต้องคิดให้รอบคอบหากต้องการสร้างปัญหาเมื่อมันกลายเป็นดาวเคราะห์ระดับ 1
“ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน?”
“มันเป็นดาวเคราะห์ต้นกำเนิดในตำนานหรือเปล่า?”
“ฉันได้ยินมาว่าดวงดาวรอบๆ ดาวเคราะห์ต้นกำเนิดดับแสงลงหมดแล้ว ไม่รู้ว่ามันยังอยู่ที่นี่…”
“น้องทำลายสวรรค์มาจากดาวเคราะห์ต้นกำเนิด? น่าประทับใจที่ยังคงมีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นี่หลังจากผ่านมาหลายปี…”
ทุกคนมองไปรอบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ ทุกคนเคยได้ยินเกี่ยวกับสถานที่นี้ แต่ไม่มีใครเคยเห็นหรือค้นหามันมาก่อน
แม้แต่นักสำรวจที่พยายามหาก็ไม่เคยพบ
บางคนละทิ้งความคิดนี้เพราะการเดินทางนานเกินไป
“น้องทำลายสวรรค์ คุณสามารถไปถึงระดับดวงดาวบนดาวเคราะห์ต้นกำเนิด ช่างน่าทึ่งเสียจริง!”
“มีคนกล่าวไว้ว่าดาวเคราะห์ต้นกำเนิดนั้นแห้งแล้ง แต่มันไม่ได้ดูแห้งแล้งอย่างที่คิด”
“นี่คือสถานที่ที่มนุษย์ถือกำเนิด เราควรดูแลมัน…”
ทุกคนยอมรับข้อเสนอของซูผิง พวกเขามีความสุขที่ได้ใกล้ชิดกับซูผิงมากขึ้น ท้ายที่สุดซูผิงได้แสดงพลังต่อสู้ระดับดวงดาวขั้นสูงสุดในที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ และมีโอกาสที่ดีที่เขาจะกลายเป็นเจ้าดวงดาว!
โอนีลก็สุภาพเช่นกัน แม้ว่าเขาจะยังสงสัยว่าจะย้ายดาวเคราะห์ของเขากลับไปยังที่ที่มันอยู่ได้อย่างไร
“เนื่องจากที่นี่คือบ้านเกิดของคุณ ฉันรับประกันว่าที่นี่จะปลอดภัยในอนาคต” ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์กล่าว จากนั้นเธอก็ถามซูผิงว่า “ชายคนนั้นต้องการต้นไม้ ต้นไม้ต้นนี้คืออะไร?”
“ผมไม่รู้ มันเพิ่งเติบโตขึ้นมาเมื่อเร็ว ๆ นี้” ซูผิงกล่าวตามความจริง
มันไม่มีประโยชน์ที่จะโกหกเรื่องนี้ เพราะพวกเขารู้เรื่องนี้ได้ง่ายๆจากข่าว
“เติบโตขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้?” ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะมองขึ้นไปบนต้นไม้ด้วยความสงสัย เธอรู้สึกว่าบริเวณใต้มงกุฎต้นไม้ถูกพลังลึกลับขวางกั้น และต้นไม้นี่ดูเหมือนจะมีพลังของเจ้าดวงดาว มันเป็นต้นไม้ที่มีค่า แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“ใช่แล้ว พูดถึงต้นไม้ ต้นไม้แห่งกฎก็ยังอยู่ที่นี่”
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ก็ตบหน้าผากของเธอและหยิบต้นไม้แห่งกฎออกจากโลกเล็กของเธอ
ดวงตาของทุกคนเปล่งประกายเมื่อเห็นมัน
ต้นไม้ส่งรัศมีศักดิ์สิทธิ์ของกฎออกมา และมีผลไม้หลายร้อยผลห้อยอยู่ ผลไม้แต่ละลูกมีกฎอยู่ในนั้น!
หากมันอยู่ในมือของนักรบสภาวะชะตากรรม… ยอดฝีมือระดับดวงดาวนับร้อยคนจะมาแย่งเอาไปทันที!
“อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ ผลไม้เป็นของคุณ และต้นไม้เป็นของฉัน คุณทำผลงานได้ดีที่สุด ดังนั้นคุณเอาไปแจกจ่ายเองแล้วกัน” ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์กล่าวกับซูผิงอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ดวงตาของซูผิงเป็นประกาย เขารอต้นไม้ต้นนี้อยู่
“คุณต้องการผลไม้กี่ลูก?”ซูผิงถามบิดาแห่งเวลาและสามหมัดแห่งเซินหนง
เนื่องจากเขาเป็นคนแจกจ่าย เขาต้องการได้ผลไม้ที่ดีที่สุดทั้งหมด แต่มีโอกาสที่เขาจะทำให้คนอื่นขุ่นเคืองถ้าเขาทำอย่างนั้นเลยทันที เขาจึงถามความเห็นของพวกเขา
“น้องทำลายสวรรค์จัดสรรตามที่เห็นสมควรเถอะ”
“แท้จริงแล้ว แม้ว่าเราจะทำดีที่สุดแล้ว เราก็คงจะถูกทำลายหากปราศจากคุณ”
“น้องทำลายสวรรค์เพียงแค่ให้สิ่งที่คุณไม่ต้องการแก่เรา”
ทั้งสามตอบด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นว่าพวกเขาโยนคำถามกลับมาหาเขา ซูผิงคิดอยู่ครู่หนึ่งและถามว่า “งั้นคนละผลเป็นไง?”
“…” Aileen-novel
ทั้งสามมองหน้ากันด้วยความงุนงง ริมฝีปากกระตุก
พวกเขาบอกให้ทำตามที่เห็นสมควร แต่เขาไม่โลภเกินไปเหรอ?
มีผลไม้หลายร้อยผล แต่เขาจะให้แค่สามผลเท่านั้น!
พวกเขาทั้งหมดสูญเสียคำพูด แต่พวกเขาไม่ได้กลับคำ
“ในเมื่อทุกคนเห็นด้วย งั้นก็ตามนี้แล้วกัน” ซูผิงรอสักครู่และรู้สึกยินดีเพราะมีแต่ความเงียบ“ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของพวกคุณ”
“…”
ทั้งสามคนมองหน้ากัน เห็นได้ชัดว่าทำไมพวกเขาถึงไม่พูดอะไร
แต่พวกเขาพูดอะไรไม่ได้ การถอนหายใจเป็นทางเลือกเดียว พวกเขาจะไม่ได้รับต้นไม้แห่งกฎหากปราศจากความช่วยเหลือจากซูผิง แต่มันก็ยังค่อนข้างน่าผิดหวังที่ได้รับผลไม้เพียงผลเดียวจากร้อยผล
ซูผิงรู้ดีว่าวิธีการแจกจ่ายของเขาโลภเกินไป แต่ผลแห่งกฎเป็นทรัพยากรที่หายากมาก!
ผลหนึ่งผลสามารถทำให้นักรบสภาวะชะตากรรมต่อสู้เพื่อพวกมันไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!
พวกมันมีค่ามากแม้กระทั่งกับคนที่อยู่ในระดับดวงดาว ด้วยผลไม้แห่งกฎเจ้าดวงดาวที่ใช้ผลไม้แห่งกฎจะอยู่เหนือเจ้าดวงดาวคนอื่น?
ซูผิงไม่สามารถให้ทรัพยากรที่สำคัญเช่นนี้ได้
คนอื่นๆ มองชายสามคนอย่างเห็นอกเห็นใจหลังจากซูผิงแจกจ่ายผลไม้เสร็จแล้ว แต่พวกเขาก็รู้ว่าถ้าเป็นพวกเขาเองพวกเขาจะทำเช่นเดียวกัน
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ยังคงสงบและเงียบอยู่ตลอดเวลา ท้ายที่สุดซูผิงเป็นคนที่เอาต้นไม้มาให้เธอ เธอเป็นหนี้บุญคุณซูผิง และเมื่อพิจารณาคำเตือนด้วยแล้ว เธอก็เป็นหนี้บุญคุณเขาถึงสองครั้ง
หวืด!
ซูผิงจึงลงมือ เขารีบเก็บผลไม้ โดยเหลือเพียงผลขนาดกลางสามผล
ขนาดและปีของผลระบุกฎที่มีอยู่
มีผลขนาดใหญ่ที่สุดและมีอายุเยอะที่สุดเจ็ดผล กฎที่พวกมันมีอยู่นั้นอยู่ที่ระดับดวงดาวขั้นสูงสุดและเกือบจะสมบูรณ์แล้ว!
ผลไม้ทั้งเจ็ดเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะสร้างยอดฝีมือระดับดวงดาวขั้นสูงสุดเจ็ดคนได้!
ทุกคนรู้สึกกระหายน้ำเมื่อมองผลทั้งสามบนต้นไม้แห่งกฎ พวกเขาเสียใจเพียงอย่างเดียวที่ไม่สามารถต่อสู้เพื่อผู้นำของพวกเขา และเอาต้นไม้แห่งกฎมาด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอีกหลายเท่า!
บางคนกลอกตาและคิดว่าจะสามารถแลกผลไม้กับสมบัติหายากได้หรือไม่
ท้ายที่สุดซูผิงไม่ต้องการผลไม้มากมายขนาดนั้น บางผลเขาตั้งใจไว้คนที่เขารัก
แม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับดวงดาวขั้นสูงสุดก็ไม่ต้องการผลไม้มากมายขนาดนั้น พวกมันทำได้เพียงเพิ่มความเข้าใจเมื่อเข้าใกล้ความจริงสูงสุด การเข้าใจกฎอื่นไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก
ขณะที่พวกเขาพิจารณาทางเลือกอยู่ จู่ๆก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอย่างกะทันหัน
พูดตามจริง มิติทั้งหมดสั่นสะเทือน!
เสียงที่เก่าแก่ดังก้องไปทั่ว ทำให้ทุกคนเงียบลง
“การแข่งขันอย่างเป็นทางการของสุดยอดอัจฉริยะระดับจักรวาลจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 เมษายน!
“ทุกคนที่อยู่ต่ำกว่าระดับดวงดาวมีอิสระที่จะเข้าร่วม!”
ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 841 เริ่มการแข่งขันสุดยอดอัจฉริยะระดับจักรวาล
ตอนที่ 841 เริ่มการแข่งขันสุดยอดอัจฉริยะระดับจักรวาล
Posted by ? Views, Released on กรกฎาคม 31, 2022
, ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store
Status: Ongoing
AstralPetStore SliceOfLife กู่ซี ต่อสู้ ต่างโลก นิยายจีน นิยายแปล นิยายแปลต่างโลก ผจญภัย ฝึกอสูร ระบบ ร้านอสูรดวงดาว อสูร แฟนตาซี ไซไฟ
ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…