ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 879 หมดเวลา

ตอนที่ 879 หมดเวลา

แคลซาเบตกใจเมื่อเห็นซูผิงกลับมา
ทีมที่มีมากกว่าสามสิบคนถูกทำลายโดยซูผิงคนเดียวในเวลาไม่กี่นาที?
ซูผิงก็ใช้ดาบด้วย ไม่ใช่แค่หมัดที่ทุกคนคิดว่านั่นเป็นจุดแข็งของเขา…
ใครจะพูดอีกว่าเทคนิคที่ดีที่สุดของซูผิงนั้นเกี่ยวข้องกับหมัด?
แคลซาเบคิดและรู้สึกขมขื่น เป็นไปได้ไหมที่เขาใช้หมัดเพียงเพราะคู่ต่อสู้ของเขาอ่อนแอเกินไป?พวกเขาเป็นอัจฉริยะที่มีระดับการบ่มเพาะเท่ากัน ช่องว่างระหว่างเรานั้นใหญ่มากจริงหรอ?
ผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดก็คิดเช่นเดียวกัน
ความสามารถของซูผิงดึงดูดความสนใจของผู้คนอีกมากมายเมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น จากนั้นเขาก็ขึ้นสู่จุดสูงสุดของการทำนายแชมป์อย่างรวดเร็ว!   แข็งแกร่งมาก!
เขาทำลายทีมที่มีสามสิบคน ทุกคนสามารถบอกได้เลยว่าเขาไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ที่สุดด้วยซ้ำ!
“เจ้าของร้านซูน่ากลัวไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ!”
“ลอร์ดของเราอยู่ยงคงกระพัน!”
ผู้ชมทั้งหมดบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นสิ่งนี้ แม้แต่จี้หยวนเฟิงและฉินตู้หวงเองก็ตื่นเต้น ดวงตาของพวกเขาแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
“ราชาหมัด? ฉันคิดว่าเขาควรถูกเรียกว่าราชาดาบ!”
“ราชาดาบอะไร? นายไม่เห็นหรอว่าดาบของเขาทำจากพลังดาว? หมายความว่าเขาไม่ได้ถือดาบด้วยซ้ำ!”
“ให้ตาย ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาเก่งอะไร?”
บรรดาผู้ที่สังเกตเห็นการกระทำของซูผิงกำลังพูดคุยกันอย่างดุเดือดมากกว่าเคย
เจ้าดวงดาวก้าวขึ้นมาและกล่าวในระหว่างการสนทนาของพวกเขาว่า “การโจมตีของเขามีพลังของกฎ 20 ข้อ แต่กฎทั้ง 20 ข้อก็ถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างประณีต หมายความว่าเขายังไม่ถึงขีดจำกัดของเขา ฉันเชื่อว่าเขาจะกลายเป็นเจ้าดวงดาวไม่นานหลังจากที่เขาไปถึงระดับดวงดาว!”
ทุกคนตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น
พวกเขารู้ว่าอัจฉริยะที่ได้ชัยชนะสิบครั้งส่วนใหญ่ถึงขีดจำกัดของสภาวะชะตากรรม—
พวกเขาจะใช้แค่ความคิดเดียวเพื่อบุกทะลวงสู่ระดับดวงดาว แต่พวกเขาก็ต้องถอยเพื่อหลีกเลี่ยงการไปสู่ระดับที่สูงขึ้น
เจ้าดวงดาวกำลังบอกเป็นนัยว่าซูผิงสามารถไปถึงขอบเขตของระดับดวงดาวได้ทันทีที่เขาหยุดควบคุมตัวเองและจะกลายเป็นเจ้าดวงดาวในไม่ช้า!
แม้แต่ระดับดวงดาวก็ยังห่างไกลจากนักรบสภาวะชะตากรรมคนอื่นๆ ไม่ต้องพูดถึงเจ้าดวงดาว ช่องว่างระหว่างพวกเขากว้างเกินไป!   “อัจฉริยะทั้งหมดที่โผล่ออกมาจากดาวเคราะห์จำนวนนับไม่ถ้วนเหมือนเขาหรือเปล่า”
“ฉันไม่ได้อาศัยอยู่ในจักรวาลเดียวกับสัตว์ประหลาดเหล่านั้นจริงๆ”
“ฉันเป็นยอดฝีมือระดับดวงดาว ฉันต้องยอมรับว่าฉันไม่สามารถเอาชนะเขาได้…”
ซูผิงได้รับความสนใจอย่างมากจากความแข็งแกร่งของเขา และมีแฟนๆ ใหม่มากมาย ความแข็งแกร่งเป็นที่เคารพนับถือบนดาวเคราะห์ทุกดวงในสหพันธ์ ความโดดเด่นของซูผิงได้รับความชื่นชมจากผู้คนมากมาย
ถ้าซูผิงจะโฆษณาผลิตภัณฑ์ใด ๆ มันจะขายหมดในทันที!
บนยอดเขาแคลซาเบกลืนน้ำลายและพูดอย่างระมัดระวัง “พะ พี่ซูทำไมคุณถึงโยนตราประจำตัวพวกนั้นล่ะ?”
ซูผิงกล่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า “เราไม่ต้องการพวกมัน หากใครผ่านไปมาและต้องการ ก็ให้ถือซะว่ามันเป็นของขวัญจากเรา”   แคลซาเบพูดไม่ออก เขาจะเก็บตราประจำตัวไว้ทั้งหมด เพื่อที่เขาจะได้ทำให้ทุกคนช็อคเมื่อสิ้นสุดการท้าทาย
”มาเร็ว ไปดื่มกันต่อเถอะ” ซูผิงตอบด้วยรอยยิ้ม
แคลซาเบและอิเบตาลูน่ามองหน้ากันและนั่งลงอย่างเชื่องช้า สถานที่นี้เปิดกว้างและอันตราย พวกเขาจะค่อนข้างปลอดภัยเมื่ออยู่กับซูผิง ตราบใดก็ตามที่พวกที่มีชื่อเสียงจะไม่ร่วมมือกันโจมตีพวกเขา
แคลซาเบจิบไวน์และกล่าวว่า “พี่ซู คุณแข็งแกร่งกว่าพวกเรามากจริงๆ”
อิเบตาลูน่าจ้องมองที่ซูผิงด้วยแสงแปลก ๆ ในดวงตาของเธอ เธอภาคภูมิใจมาโดยตลอดในฐานะผู้สืบสกุลของตระกูล ราชาดาบและไม่เคยก้มหัวลง แม้แต่ต่อหน้าราชามังกรแห่งโอเอซิส อย่างไรก็ตามเธอประทับใจในความแข็งแกร่งของซูผิงอย่างมาก
“แค่บ่มเพาะให้หนักขึ้น คุณก็จะแข็งแกร่งเหมือนผม” ซูผิงให้กำลังใจเขา  แคลซาเบยิ้มขมขื่นและเลือกที่จะไม่พูดต่อ หากการบ่มเพาะคือทั้งหมด ทุกคนคงจะเป็นอัจฉริยะได้
เขาเป็นคนที่ปลอบโยนคนอื่นเสมอ แต่ถึงกระนั้น เขาก็เป็นคนที่ได้รับการปลอบโยนในวันนี้
เวลาผ่านไป
ในไม่ช้า อีกคนก็เคลื่อนตัวข้ามภูเขา จากนั้นสังเกตเห็นพวกซูผิง
มีคนวิ่งหนีไปด้วยความกลัวหลังจากเห็นราชาหมัด ถึงกระนั้น บางคนตั้งใจที่จะห้อมล้อมเขาด้วยความได้เปรียบด้านจำนวนคน
ตราประจำตัวจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ถูกกองอยู่ที่เนินเขาเหมือนตะปู
ผู้เข้าแข่งขันในทวีปนี้ไม่สามารถเข้าอินเทอร์เน็ตและไม่สามารถสื่อสารกันเองได้ ความประทับใจของฉันที่มีต่อซูผิงไม่มีการอัปเดต
อย่างไรก็ตามผู้คนที่ดูถ่ายทอดสดต่างตกตะลึง
เนินเขา ตราประจำตัวถูกกองอยู่ใต้ซูผิง
มีมากกว่าห้าร้อยอัน!
ท้ายที่สุดแล้ว มีเกือบแปดกลุ่มปรากฏตัวขึ้นเพื่อโจมตีซูผิง ที่ใหญ่ที่สุดมีมากกว่าแปดสิบคน ซึ่งรวมอัจฉริยะที่น่าทึ่งสองสามคนและมีสามคนที่ติดยี่สิบอันดับแรกในอันดับความนิยม
อย่างไรก็ตามในไม่ช้าพวกเขาก็พ่ายแพ้ต่อซูผิง
เช่นเดิม เขาทำลายล้างทั้งหมดด้วยดาบ มังกร และสุนัข
บนเนินเขา—ซูผิงยังคงกิน ดื่ม และพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมของเขา เหตุการณ์ที่น่าสนใจที่พวกเขาพูดถึงทำให้ซูผิงเข้าใจสหพันธ์ในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
“เหลือเวลาอีก 120 ชั่วโมง เราเพิ่งผ่านมาได้หนึ่งในสามของทั้งหมด”
แคลซาเบดูนาฬิกาของเขาและพูดว่า “มีคนมาทางนี้น้อยลง พวกเขาคงเรียนรู้ที่จะซ่อน”   ”จริงด้วย ห้าชั่วโมงแล้วที่ไม่มีใครมา”
อิเบตาลูน่าพยักหน้า; หลายคนเคยเจอพวกเขา ส่วนใหญ่เลือกที่จะถอยกลับหลังจากเห็นซูผิง ที่เหลือใช้ประโยชน์จากจำนวนและโจมตี พวกเขาทั้งหมดชดใช้การตัดสินใจของพวกเขาด้วยเลือด
หลายคนแข็งแกร่งพอที่จะไปถึงร้อยอันดับแรก แต่พวกเขาก็ถูกซูผิงจัดการ
“พวกเขาสามารถหยิบตราประจำตัวที่เชิงเขาได้ แต่กลับมาพยายามปล้นเรา” ซูผิงส่ายหัว เขาบอกให้คนเหล่านั้นไปหยิบตราที่เชิงเขา แต่พวกเขาคิดว่ามันเป็นกับดักจึงเลือกที่จะโจมตีเขา ซึ่งเขาก็ต้องตอบโต้
แคลซาเบยิ้มอย่างขมขื่น ผู้เข้าแข่งขันเหล่านั้นไม่รู้ว่าซูผิงไม่สนใจเหรียญตราเหล่านั้น บางคนต้องการจะมีชื่อเสียงด้วยการเอาชนะซูผิง ส่งผลให้พวกเขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
ระหว่างที่พวกเขาคุยกัน ชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีม่วงกำลังเดินมาพร้อมกับอีกสามคน พวกเขาเป็นทีมที่มีสมาชิกเพียงสี่คนเท่านั้น แต่พวกเขาก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างไม่เกรงกลัว
“ช่างน่าเสียดาย ฉันยังไม่เห็นเขาเลย”
ชายหนุ่มมองไปรอบๆ อย่างเสียดาย เขาพยายามตามหาโอเอซิส เกรย์
เขาเคยเอาชนะผู้ชายคนนั้นมาก่อน เขากำลังวางแผนที่จะกำจัดเขาออกอีกครั้งในระหว่างการแข่งขันนี้
ทันใดนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งในทีมก็พูดว่า “มีคนอยู่บนนั้น”
ผู้หญิงคนนี้มีรูม่านตาสีทองและรูม่านตาแนวตั้งอีกคู่หนึ่งอยู่ข้างใน ซึ่งค่อนข้างแปลก
หลังจากได้ยินสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูด ชายหนุ่มก็ถามอย่างรวดเร็วว่า “มีกันกี่คน? เรารู้จักพวกเขาไหม?”
”สาม หนึ่งในนั้นคือราชาหมัดจากการจัดอันดับความนิยม อีกสองคนอยู่ในร้อยอันดับแรก” หญิงสาวตอบอย่างรวดเร็ว
“ราชาหมัด?”
“เขาเป็นคนที่เอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาด้วยหมัดเดียวใช่ไหม? อาจารย์ของฉันบอกฉันว่าเขามาจากภูเขาหมัดสวรรค์”
“เขาเป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่พวกเราน่าจะจัดการเขาได้ถ้าร่วมมือกันว่าไหม?”
พวกเขาสามคนกำลังครุ่นคิดอยู่ลึกๆ และเกือบจะต่อสู้กับพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นก็อึ้งไป
”เกิดอะไรขึ้น?”
ชายหนุ่มที่นำหน้าตกตะลึง เขาเองก็ตัดสินใจที่จะหยุด
“ยะ- อย่าไปที่นั่น” ผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนการแสดงออกของเธอด้วยความตกใจ “มีบางอย่างผิดปกติ มีตราประจำตัวมากมายอยู่ใกล้เนินเขา” ไอรีนโนเวล
“ตราประจำตัวมากมาย?” ชายหนุ่มที่นำหน้าตกตะลึง “ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการหรอ? ไปเอามาทั้งหมดนั่นกันเลย เรามีเพียงพอแล้ว แต่ยิ่งมีมากเท่าไร เราก็จะพิสูจน์ได้ดีขึ้นว่าเราเป็นผู้บ่มเพาะสภาวะชะตากรรมที่ดีที่สุดในกาแล็กซี่!”
“มีหลายร้อยอัน…”  ผู้หญิงคนนั้นแทบจะพูดไม่ออก นัยน์ตาของเธอหดเกร็งทันที เธอแสดงท่าทีไม่เชื่อและตกใจ นัยน์ตาสีทองพร่ามัวของเธอสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มที่กำลังดื่มอยู่บนเนินเขาเองก็หันมามองเธอ สบตากับเธออย่างสบายๆ และเย็นชา ราวกับว่าเขาอยู่ใกล้เธอ เขาทำให้เธอรู้สึกถึงความตายได้จากระยะไกลนั่น!
ผู้ชายคนนั้นเห็นฉัน!
เป็นไปได้ยังไง?
แสงสีทองในดวงตาของเธอหายไปและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เธอถูกกระตุ้นด้วยความตกใจ “ไปกันเถอะ! มีบางอย่างผิดปกติกับผู้ชายคนนั้น!”
เธอเป็นคนแรกที่หันหลังหนีหลังจากนั้น
เพื่อนร่วมทีมของเธอประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยเห็นเธอตกใจขนาดนี้
พวกเขาไม่มีโอกาสถามจนได้แต่รีบตามเธอไป จนกระทั่งพวกเขาอยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร ในที่สุดผู้นำก็ถามว่า “เธอเห็นอะไร?”   ผู้หญิงคนนั้นหยุดและหอบหายใจอย่างหนัก เธอหันกลับมามองด้วยรูม่านตาสีทองและเห็นว่าไม่มีใครไล่ตามมา ในที่สุดเธอก็หายใจโล่งอก “ราชาหมัดน่ากลัวมาก!”
”อะไรนะ?”
เพื่อนร่วมทีมของเธอมองหน้ากันอย่างสับสน
“ราชาหมัดนั่งอยู่บนเนินเขาที่มีตรานับร้อยถูกทิ้งอยู่รอบ ๆ ! พวกเขากำลังดื่มและพูดคุยกันโดยไม่ได้พยายามปกปิดกลิ่นอาย เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังรอฆ่าทุกคนที่เข้าไปหาพวกเขา นอกจากนี้ผู้ชายคนนั้นยังสังเกตเห็นฉันโดยที่ฉันเองยังแทบจะมองไม่เห็นเขาได้อย่างชัดเจน!” ผู้หญิงรีบเร่งพูด ราวกับว่าเธอไม่สามารถรอที่จะบอกทุกสิ่งที่เธอเห็นให้กับเพื่อร่วมทีมได้
เพื่อนร่วมทีมของเธอตกตะลึง ผู้นำขมวดคิ้วและถามว่า “เธอแน่ใจหรอ?”
ตราประจำตัวหลายร้อยอัน? สัตว์ประหลาดนั่นเอาชนะคู่ต่อสู้หลายร้อยคนเนี่ยนะ?   แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังทึ่ง
”ฉันแน่ใจ!”
ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “มันคงเป็นเรื่องยากถ้าเราพยายามท้าทายพวกเขา แม้ว่าเราจะสามารถชนะได้ เราก็จะต้องสูญเสียเยอะอยู่ อาจมีคนถูกเขี่ยออกจากการแข่งขัน!”
ทุกคนเงียบลงหลังจากได้ยินแบบนั้น
คนที่ปล้นตราประจำตัวไปหลายร้อยอันแข็งแกร่งพอที่จะกำจัดหนึ่งในพวกเขาได้
“ฉันไม่รู้ว่าราชาหมัดจะจัดการยาก ช่างเถอะ เราแค่หลีกเลี่ยงเขา” ผู้นำขมวดคิ้วอย่างโกรธจัด แต่เลือกมองภาพรวม
พวกเขาปล้นทุกคนเจอ ไม่เคยถอยออกจากการต่อสู้ แต่สุดท้ายพวกเขากลับหนีเมือเห็นซูผิงจากในระยะไกล
เวลาผ่านผ่านไป
คนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เรียนรู้ที่จะซ่อนและเคลื่อนไหวอย่างรอบคอบ
ซูผิงโจมตีน้อยลงเรื่อยๆ ผู้คนจำนวนมากวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัวในวินาทีที่พวกเขาเห็นกองตราประจำตัวที่อยู่ใกล้เขา
ตราเหล่านั้นเหมือนกระดูกฝังอยู่ที่เชิงเขา มันน่ากลัว
การทดสอบเอาตัวรอดกำลังจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า
ในสองชั่วโมงสุดท้ายกลาง—
หลายคนที่ซ่อนตัวไม่มีตราประจำตัวเพียงพอ พวกเขาต้องใช้โอกาสในช่วงท้ายของการทดสอบนี้
ไม่นานหลังจากนั้น มีคนสังเกตเห็นตราประจำตัวข้างๆ ซูผิง
“ขาดอีกสอง!
“ฉันต้องการอีกแค่สองอัน!”
ชายหนุ่มซ่อนตัวอยู่ในเงามืดในมิติรอง เงานั้นพร่ามัวจนแทบจะมองไม่เห็นแม้ว่าจะมีใครบินผ่านเขาไป
ขณะนี้เขากำลังแอบมองเนินเขาข้างหน้าเขา  มีตรามากมายที่เนินเขา
เขาลังเลอยู่นานขณะมองเนินเขา
ผู้เข้าร่วมสามคนบนนั้นกำลังบ่มเพาะอยู่ ดูเหมือนว่าไม่มีใครคอยสังเกตการณ์
อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าตราประจำตัวน่าจะเป็นกับดัก
มิฉะนั้นใครจะโยนทิ้งแทนที่จะเก็บไว้?
การนับถอยหลังใกล้จะจบแล้ว ชายหนุ่มจึงรอต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาผสานเข้ากับอสูรของเขาและเปิดใช้งานทักษะต้องห้าม
หวืด!
เขาหายตัวและไปถึงเนินเขาราวกับผี เขาคว้าตราประจำตัวสามอันแล้วพุ่งออกไป บุกเข้าไปในมิติชั้นสาม
เขาข้ามไปหนึ่งพันกิโลเมตรในทันที!
เมื่อเขาอยู่ในระยะปลอดภัย ในที่สุดชายหนุ่มก็กลับไปที่มิติรองและปกคลุมตัวเองด้วยหมอกอีกครั้ง  เขามองตราประจำตัวทั้งสามอันในมือ แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะขโมยมาได้สำเร็จ
ตรามีพลังงานพิเศษ พวกมันไม่สามารถปลอมแปลงได้
เขาตรวจโดยรอบและพบว่าทั้งสามคนไม่ได้พยายามไล่ตามเขา เขาดีใจมาก ไม่คิดว่าแผนของเขาจะสำเร็จ!

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

Status: Ongoing

ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท