ซูผิงและดิแอซออกจากห้องฝึกฝนพร้อมกับโหยวหลง และมุ่งหน้าไปยังห้องโถงของยานอวกาศที่ซึ่งเจ้าดวงดาวรวบรวมอัจฉริยะคนอื่น ๆอยู่
ทุกคนต่างมองขึ้นไปที่โดม
โดมโลหะโปร่งใสทำให้พวกเขามองเห็นอวกาศได้ มีเนบิวลาสีทองแวววาววางอยู่ท่ามกลางทะเลดวงดาว
เนบิวลานั้นดูเจิดจ้าราวกับกาแล็กซี่ มันยังดูเหมือนดวงตาสีทองพร่ามัวเมื่อมองจากระยะไกล
เนบิวลาสีทองมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ พวกเขาเห็นหินสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนที่ไหลเหมือนแม่น้ำเมื่อพวกเขามาถึง
มีรอยแตกลึกอยู่ตรงกลางของหินสีทองเหล่านั้น ซึ่งดูเหมือนรูม่านตาแนวตั้ง
รอยแตกนั้นยาวหลายปีแสง มันไม่ใช่รอยแตกอีกต่อไปแต่เป็นหลุมดำที่ถล่มลงมาเมื่อยานอวกาศเคลื่อนเข้าไปใกล้ ดูเหมือนว่ามันจะกลืนกินทุกคน
มีสิ่งมีชีวิตซ่อนอยู่ตรงขอบของรอยแตก
หินสีทองไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไปเมื่อยานอวกาศเข้ามาใกล้ สิ่งเดียวที่มองเห็นได้คือความมืดที่ไร้ขอบเขต มันทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาตกลงไปในขุมนรก
ยานอวกาศหยุดกะทันหัน และโหยวหลงก็บินออกจากยาน เงาอันน่าเกรงขามยาวหลายพันเมตรปรากฏต่อหน้าเขาและมองลงมาที่ยานอวกาศ ท่าทางเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อเห็นโหยวหลง จากนั้นกล่าวว่า “ไม่รู้ว่าเป็นท่านลอร์ดสวรรค์”
“ตามคำสั่งของอาจารย์ฉัน ฉันมาที่นี่เพื่อพาผู้แข่งขันของเขตดาวทองคำไปยังสนามลานประลอง”โหยวหลงหัวเราะคิกคัก
เงามองมาที่ยานอวกาศและพยักหน้า แล้วมันก็หายไป
โหยวหลงพุ่งกลับเข้ามาในยานซึ่งยังคงเดินหน้าต่อไป
ผู้เข้าแข่งขันหลายคนมองโหยวหลงด้วยความเกรงกลัวและชื่นชม เห็นได้ชัดว่าเขามีชื่อเสียงในฐานะลอร์ดสวรรค์มากกว่าสภาวะเทพดวงดาวคนอื่น ๆ ในปัจจุบัน
เมื่อเห็นเช่นนั้น ดิแอซก็กำหมัดแน่นอย่างชื่นชม ฉันจะกลายเป็นลอร์ดสวรรค์ให้ได้ และจะแซงหน้าเขาในสักวันหนึ่ง!
อย่างไรก็ตาม ความหลงใหลของเขาจางลงชั่วขณะเมื่อเขาเห็นซูผิง เขาโกรธและสงสัยว่าทำไมเขาถึงแพ้ซูผิงทั้งที่เขามีกายาที่ดีที่สุดในจักรวาล!
แม้ว่าซูผิงจะมีหนึ่งในเก้าร่างเทพเช่นกัน พวกเขาก็ควรจะมีความแข็งแกร่งเท่ากัน
ฉันจะแซงหน้านายในไม่ช้าไอ้หนู! ดิแอซแอบกัดฟัน
คิดว่าจะได้เป็นศิษย์พี่ของฉันอย่างงั้นหรอ?
ไม่มีทาง!
“ลอร์ดสวรรค์…”
ในฝูงชน—เหล่าอัจฉริยะหลายคนมองไปที่โหยวหลงด้วยสีหน้าแปลกๆ
ซูจินเอ๋อเป็นหนึ่งในนั้น
ถ้าฉันได้สิ่งนั้นจากทริปนี้ ฉันจะมีโอกาสได้ขึ้นสู่สภาวะเทพอมตะ แม้แต่ลอร์ดสวรรค์ก็จะไม่มีประโยชน์อะไรกับฉัน ซูจินเอ๋อคิดแล้วมองไปที่ซูผิง
เขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก ฉันสงสัยว่าเขาจะทำหน้ายังไงเมื่อเห็นตัวตนเดิมของฉัน เธอยิ้มและตั้งตารอฉากนั้น
…
ยานอวกาศเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเป็นเวลานานขณะเดินทางข้ามความมืด จากนั้นแสงก็ส่องออกมาจากส่วนลึกราวกับว่ามันอยู่ในต้นกำเนิดของความมืด
จากนั้นแสงก็สว่างขึ้นเรื่อยๆ และต้นกำเนิดแสงก็ถูกเปิดเผยในเวลาต่อมา
มันเป็นดาวเคราะห์ที่ดูเหมือนใบโครเวอร์
มันมีห้าใบ ดาวเคราะห์ดวงนี้ใหญ่ขึ้นเมื่อยานอวกาศเข้าไปใกล้ ใบทุกใบก็ใหญ่เท่าดวงอาทิตย์หลายดวง
ในไม่ช้าต้นไม้ก็ใหญ่เกินกว่าจะมองเห็นได้ทั้งหมด ยานอวกาศพุ่งไปข้างหน้า และต่อมาก็จอดบนหนึ่งในใบไม้เหล่านั้น
มันเป็นดินแดนสีเขียวมากกว่าใบไม้
ยานอวกาศลำอื่นก็จอดอยู่ที่เดียวกัน
วิหารหลายแห่งถูกสร้างขึ้นบนใบไม้ขนาดเท่าทวีป มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมากซึ่งเป็นนักรบอสูรที่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่
“นี่คืออาณาจักรลับทะเลเทพหรอ? โอ้พระเจ้า มองจากระยะไกลดูเหมือนหญ้า!”
“มันก็แค่เรื่องบังเอิญ เหมือนกับที่เมฆอาจดูเหมือนอสูร เป็นไปได้ยังไงที่จะมีหญ้าผืนใหญ่แบบนี้ในโลกนี้”
“พวกนั้นคือผู้เข้าแข่งขันจากเขตดวงดาวอื่นหรือเปล่า?”
ทุกคนบนยานอวกาศต่างกระซิบกระซาบกัน บางคนตกใจกับรูปลักษณ์ของอาณาจักรลับทะเลเทพ ขณะที่คนอื่นๆ มองผู้เข้าแข่งขันจากเขตดวงดาวอื่น ๆ อย่างจริงจัง เนื่องจากพวกเขาต้องการไปให้ถึงร้อยอันดับแรกหรือสิบอันดับแรกในรอบชิงชนะเลิศ!
ใครที่ทำได้จะได้รับรางวัลที่คาดไม่ถึง
มันจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในการก้าวไปสู่ 100 อันดับแรกในรอบชิงชนะเลิศ องค์กรนับไม่ถ้วนจะมาเชิญให้เข้าร่วม พวกเขายังสามารถเลือกที่จะเรียนรู้ภายใต้ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว
ท้ายที่สุดไม่มีสภาวะเทพดวงดาวคนไหนรังเกียจที่จะมีศิษย์เป็นอัจฉริยะเพิ่มอิทธิพลของพวกเขา
เสียงของระบบดังขึ้นมาทันที “มันคือหญ้าโกลาหล”
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ เขากำลังสังเกตผู้เข้าแข่งขันคนอื่นอยู่
เช่นเดียวกับคนอื่นๆ เขาคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ดาวเคราะห์หลายดวงในเอกภพมีรูปร่างและรูปแบบพิเศษเมื่อมองจากระยะไกล แต่มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น
”นายพูดว่าไงนะ?” ซูผิงอดไม่ได้ที่จะถาม
“มันคือหญ้าโกลาหล” เสียงของระบบค่อนข้างแปลกและดูไร้อารมณ์ แต่มันทำให้ซูผิงรู้สึกแปลก ๆ
“เกิดจากความโกลาหลด้วยแก่นแท้ของจักรวาล มันให้กำเนิดเทพดั้งเดิม น่าเสียดายที่มันสูญเสียความเป็นเทพไปมากเกินไป วิญญาณของเหล่าทวยเทพจำนวนนับไม่ถ้วนยังคงติดอยู่ในนั้น… พวกเขาหวังว่าหญ้าจะชุบชีวิตพวกเขา” ระบบกล่าว
ซูผิงหรี่ตาลง เนื่องจากระบบให้ข้อมูลกับเขามากเกินไป
อาณาจักรลับทะเลเทพเป็นหญ้าจริงหรอ?
ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นสถานที่ที่เทพดั้งเดิมเกิดจริงๆหรอ?
“มันเป็นดาวเคราะห์มหัศจรรย์ที่เกิดในความโกลาหล มันจะสูญเสียความเป็นเทพไปได้ยังไง? แล้วทำไมวิญญาณของเหล่าทวยเทพไม่กลับไปที่แดนเทพอาเคี่ยน?” ซูผิงถาม
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ระบบก็พูดว่า “พวกเขาต้องการ แต่ทำไม่ได้”
“พวกเขาไม่รู้ทางกลับบ้านเหรอ?”
“บ้านของพวกเขาไม่มีอีกแล้ว”
”…ทำไม?”
”ไม่มีเหตุผล” Aileen-novel
ระบบเงียบลงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ซูผิงรู้สึกสับสน แดนเทพอาเคี่ยนเป็นบ้านของเหล่าทวยเทพไม่ใช่หรอ?
ไม่มีแดนเทพอาเคี่ยนอีกแล้ว? แต่มันเป็นหนึ่งในสนามบ่มเพาะในระบบ
เนื่องจากสนามบ่มเพาะขั้นสูงอย่างอาณาจักรโกลาหลแห่งอันเดธยังพร้อมใช้งาน แดนเทพอาเคี่ยนจึงไม่ใช่แค่ชื่อเท่านั้น เขายังไม่ได้ไปที่นั่น แต่เขารู้ว่าสถานที่บ่มเพาะทั้งหมดที่เขาสำรวจนั้นเป็นของจริง
เขารู้สึกงุนงง แต่เขาปล่อยให้เรื่องนี้เงียบไปเพราะระบบไม่ได้ให้คำอธิบายเพิ่ม เพราะระบบจะบอกทุกอย่างเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เขารู้สึกว่าระบบมีความลับมากมาย มันจะให้ภารกิจที่แท้จริงแก่เขาในไม่ช้าก็เร็ว เขาต้องการที่จะแข็งแกร่งเพียงพอก่อนที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น!
“ไปทักทายฝ่ายตรงข้ามที่พวกนายจะต้องเผชิญหน้ากันเถอะ” โหยวหลงหัวเราะคิกคัก
ทุกคนสะบัดมืออย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ในไม่ช้าพวกเขาก็ออกจากยานอวกาศ โหยวหลงพาพวกเขาไปยังสถานที่ที่ค่อนข้างใกล้ซึ่งมีคนมาชุมนุมกัน เขายิ้มและพูดว่า “นายต้องมาจากเขตดาวกวาง ฉันได้ยินมาว่ามีอัจฉริยะที่ไม่ธรรมดา เขาคือใคร? ขอฉันดูหน่อย”
ซูผิงมองโหยวหลงด้วยความประหลาดใจ ผู้ชายที่เป็นมิตรและเข้าถึงง่ายอยู่ตลอดตอนนี้กำลังแสดงท่าทีเย่อหยิ่ง
”ฮะ?”
เมื่อได้รับการกระตุ้น ผู้เข้าแข่งขันจากเขตดาวกวางจึงมองหน้าโหยวหลงด้วยความสงสัย ไม่มีใครกล้าแสดงความไม่พอใจต่อยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว
ผู้นำสภาวะเทพดวงดาวเองก็หน้าเปลี่ยนสี ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ไม่รู้ว่าลอร์ดสวรรค์โหยวจะพาเด็กๆมาด้วยตัวเอง เด็กปีนี้คงต้องสำคัญมากจริงๆ!”
”แน่นอน อัจฉริยะจากเขตดาวทองคำของเราจะต้องชนะรอบชิงชนะเลิศ!”โหยวหลงหัวเราะคิกคักเผยให้เห็นบุคลิกที่แท้จริงของเขา
ทั้งซูผิงและดิแอซมองกัน ต่างคนต่างมีสีหน้าตกใจ ศิษย์พี่ของพวกเขาจงใจสร้างศัตรูให้กับพวกเขาหรือเปล่า? ดูเหมือนเขาจะเย่อหยิ่งมากกว่าที่พวกเขาคิดไว้ในตอนแรก
มันเป็นความจริงที่ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวชั้นนำนั้นดุร้ายและไม่ถูกจำกัด
”ฮิฮิ” ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวสองคนจากเขตดาวกวางหัวเราะแต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะมันคงไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดที่จะมีปัญหากับลอร์ดสวรรค์
พวกเขาไม่ได้พูดอะไร แต่ผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ข้างหลังพวกเขามองมาที่ซูผิงและคนอื่นๆ ด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าอัจฉริยะที่ไม่ธรรมดาได้ถือกำเนิดขึ้นในเขตดาวทอง
ซูผิงไร้คำพูด เขาไม่ต้องการที่จะเป็นศูนย์กลางของความสนใจซึ่งจะทำให้เขามีปัญหาโดยไม่จำเป็น
ดิแอซเองก็แปลกใจเช่นกัน แต่เขาไม่ได้ไม่พอใจ แต่เขากลับยิ้มและเงยหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ หน้าของเขาเขียนคำว่า “ฉันเป็นคนที่เจ๋งที่สุด” อยู่ทั่วใบหน้า
ทันใดนั้นเสียงของชายชราก็ดังมาจากระยะไกล “ตาแก่ นายเป็นยังไงบ้าง?”
โหยวหลงหรี่ตาและหันหลับไปมอง มีชายชราผมสีแดงและกลุ่มอัจฉริยะที่อยู่หน้ายานอวกาศสีเลือด ชายชรามีไฝสีแดงที่หน้าผากและหลังมีน้ำเต้าสุรา ตาของเขาปิดลงครึ่งหนึ่ง แต่ส่วนที่เปิดก็ดูคมชัด
“นายนั่นเอง ลอร์ดสวรรค์จิ่วเซิน ทำไมนายถึงถูกส่งมาที่นี่? มีอัจฉริยะอันล้ำค่าเกิดขึ้นในเขตของนายหรอ?” โหยวหลงถามด้วยรอยยิ้ม
ชายชราพูดอย่างเฉยเมยว่า “นายถูกส่งมาที่นี่เหมือนกันสินะ? ฉันได้ยินมาว่ามีใครบางคนที่มีร่างเทพกลับชาติมาเกิด แต่ในที่สุดก็ถูกตัดหน้า ฉันอยากรู้ว่าใครเป็นคนทำ!”
ดิแอซก้มหน้าด้วยความละอายเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขามองไปที่ซูผิงรู้สึกทั้งโกรธทั้งเสียใจ เขาโทษซูผิงที่ขัดขวางไม่ให้เขาโดดเด่น
คนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ซูผิงเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าชายชรากำลังพูดถึงเขา
พวกเขารู้สึกลำบากใจ พวกเขาอิจฉาจริง ๆ เมื่อรู้ว่าชื่อของซูผิงและดิแอซจะเป็นที่รู้จักในเขตดาวอื่น ๆ แล้วและถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในศัตรูหลักของพวกเขา
สำหรับพวกเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นแค่คนธรรมดา
“เขาเหรอ? มีรัศมีโบราณและแปลกประหลาดอยู่ในร่างกายของเขาจริงด้วย” ชายชราหรี่ตาและตรวจสอบซูผิงในทันที
ซูผิงรู้สึกขนลุกเกินกว่าจะควบคุมได้เมื่อถูกลอร์ดสวรรค์ตรวจสอบ
ซูผิงคิดดูเหมือนว่าเขาจะมีชื่อเสียงขึ้นแล้ว และผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ก็คิดว่าเขาเป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้หลัก
“เขาเป็นคนที่เหนือกว่าร่างเทพกลับชาติมาเกิดหรอ?”
ผู้เข้าแข่งขันหลายคนเฝ้ามองซูผิงด้วยสายตาเคร่งขรึม
อัจฉริยะหลายคนจากเขตดวงดาวของชายชรากำลังสังเกตซูผิงเช่นกัน พยายามคิดว่าเขาเอาชนะบุคคลที่มีร่างเทพได้ยังไง
”ความจริงทั้งสองคนเพิ่งได้รับการยอมรับจากอาจารย์ของฉันในฐานะศิษย์ พวกเขาเป็นศิษย์น้องของฉัน พวกเขาจะเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกอย่างแน่นอน ฉันจะกลับบ้านทันทีถ้าฉันเป็นนาย”โหยวหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ซูผิงเริ่มเหงื่อตก เขารู้สึกอยากจะดึงเสื้อของศิษย์พี่ สงสัยว่าชายคนนี้กำลังทำงานให้คนอื่นอยู่หรือเปล่า
อย่างไรก็ตามดิแอซไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ เขากลับรู้สึกตื่นเต้น เขาถือว่าตัวเองเป็นแชมป์โดยพฤตินัยก่อนจะได้พบกับซูผิง แต่ตอนนี้เป็นที่สอง
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้ต่อสู้กับซูผิงโดยตรง เขายังคงมีโอกาสเอาชนะ
ดิแอซเหลือบมองซูผิงและครุ่นคิดในใจ
ซูผิงบังเอิญมองไปที่เขาเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงสังเกตเห็นท่าทางแปลก ๆ ของดิแอซ และอดไม่ได้ที่จะกลอกตา ไอ้หมอนี่ การแข่งขันของเราสิ้นสุดลงแล้ว ทำไมยังมองมาที่ฉันอีก สองคนนี้ทำงานให้คนอื่นหรือเปล่า?
ยานอวกาศอื่นๆมาถึงในขณะนั้น
ในที่สุดผู้เข้าแข่งขันจากเขตดวงดาวทั้งสิบสองเขต—รวม 1,200 คน—ก็มารวมกันในที่สุด
ตอนนั้นเองที่ยอดฝีมือเทพอมตะมาถึง สร้างแรงกดดันที่ทำให้หายใจไม่ออก แม้แต่ผู้ที่อยู่ในสภาวะเทพดวงดาวก็เคร่งขรึม
โหยวหลงเองก็เคร่งขรึม
เทพอมตะเป็นชายผมสีเงินสวมชุดสีทอง เขาหล่อเหลาราวกับเทพ ดูเหมือนมีดวงอาทิตย์แผดเผาอยู่ชั่วนิรันดร์อยู่ข้างหลังเขา
“เขตดวงดาวทั้งหมดอยู่นี่แล้ว มาเริ่มการทดสอบรอบแรกกันเถอะ”
เทพอมตะไม่ได้กล่าวเปิดงานด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่ประกาศเริ่มต้นการแข่งขัน
จากนั้นซูผิงก็นึกถึงเสียงประกาศการแข่งขันสุดยอดอัจฉริยะระดับจักรวาลที่ดังก้องไปทั่วจักรวาลก่อนหน้านี้ ตอนนั้นเขาได้ยินเสียงของชายคนนี้
เป็นคนคนเดียวกับที่เป็นคนประกาศ มู่เซิน
ทันใดนั้นวังวนสีทองก็ปรากฏขึ้นใต้เท้าของเขาหลังจากที่เขาพูดจบ และเสียงของเขาก็สะท้อนอีกครั้ง “จะมีหนึ่งร้อยคนที่ผ่านเข้ารอบในรอบแรก พวกเธอจะต้องพยายามเอาชีวิตรอดในพื้นที่ตัดขาดนี้เป็นเวลาห้าวัน และรวบรวมแกนศักดิ์สิทธิ์ให้เพียงพอ จากนั้นเธอจะได้รับการจัดอันดับตามจำนวนแกนที่เธอรวบรวมได้เมื่อห้าวันสิ้นสุดลง”
ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปเนื่องจากความประหลาดใจ การทดสอบดูเหมือนจะอันตรายจริงๆ เราต้องต่อสู้เพื่อมีชีวิตรอดจนกว่าจะหมดเวลา
นอกจากนี้เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าแข่งขันจะถูกคัดออก จะคัดเลือกเพียงร้อยอันดับแรกเท่านั้น มันเหมือนกับรอบคัดเลือก
ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 915 หญ้าโกลาหล
ตอนที่ 915 หญ้าโกลาหล
Posted by ? Views, Released on ตุลาคม 13, 2022
, ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store
Status: Ongoing
AstralPetStore SliceOfLife กู่ซี ต่อสู้ ต่างโลก นิยายจีน นิยายแปล นิยายแปลต่างโลก ผจญภัย ฝึกอสูร ระบบ ร้านอสูรดวงดาว อสูร แฟนตาซี ไซไฟ
ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…