เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven – บทที่ 641 ตัวตนใกล้เคียงกับเทพ

บทที่ 641 ตัวตนใกล้เคียงกับเทพ

เจียงอี้และเฟิ่งหลวนคุยกันเป็นเวลาหกชั่วโมงเต็มในขณะที่ชิงหยีเองก็มีความคิดบางอย่างขึ้นเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ถูกเจียงอี้และเฟิ่งหลวนปัดทิ้งไป เพราะแผนการของนางนั้นไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย
“เยี่ยมเราจะทำแบบนั้นกัน! ในเมื่อเสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงอยากจะเล่นด้วย เช่นนั้นเราก็เล่นกับพวกเขากัน!”
ในที่สุดเจียงอี้ก็ตัดสินใจเฟิ่งหลวนเคยเป็นจักรพรรดินีแห่งทวีปเฟิ่งหมิงและเติบโตมากับเหล่าตระกูลจักรพรรดิตั้งแต่เกิดจึงทำให้มุมมองของนางมีความรอบรู้ขึ้นมาก หลังจากพูดคุยกับนางได้ระยะหนึ่ง ความคิดของเจียงอี้ก็กระจ่างขึ้นมากและเขาก็มีรายละเอียดที่จะทำสงครามกับเสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงมากขึ้น
หากเขาไม่โจมตีพวกนั้นบ้างพวกนั้นก็คงจะไม่พักเรื่องนี้แน่นอน และมันจะทำให้เจียงอี้ต้องเจอกับการไล่ล่าที่ไม่รู้จบและเขาจะไม่สามารถทำอะไรได้อีกเลย
เขาจะต้องสู้ศึกครั้งนี้และเอาชนะทั้งสองตระกูลให้ได้และทำให้พวกมันเลิกไล่ล่าเขาซะ
สิ่งที่เจียงอี้ต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือเวลาหากเขาไปไม่ถึงขอบเขตเทียนจุน เขาก็จะไม่มีโอกาสต่อต้านเหล่าตระกูลชั้นสูงเหล่านั้น และหากเขากล้าที่จะเข้าไปในทวีปจักรพรรดิบูรพาตอนนี้ มันก็คงไม่ต่างอะไรกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟและเขาก็จะถูกบดเป็นชิ้นๆอย่างง่ายดาย
เมื่อเจียงอี้กลับไปที่ห้องเขาก็ปลดปล่อยญาณศักดิ์สิทธิ์ออกไปตรวจสอบว่าไม่มีใครอยู่ในรัศมีหมื่นกิโลเมตร จากนั้นเขาก็ส่งข้อความไปยังจักรพรรดิมังกรวารีสีทอง “มังกรวารีสีทอง เจ้าเข้ามาที่นี่หน่อย”
มังกรวารีสีทองที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ในห้องเมื่อเขาได้ยินข้อความของเจียงอี้ เขาก็รีบเดินเข้าไปและป้องกำปั้นด้วยความเคารพ “นายท่าน!”
เจียงอี้ผายมือและพูดว่า“มังกรวารีสีทอง เจ้าไม่ต้องกังวลมากนัก ตราบใดที่เจ้ารับใช้ข้าร้อยปีและหากเราทั้งสองไม่ตาย ข้าจะคืนอิสรภาพให้เจ้าอย่างแน่นอน”
ใบหน้าของมังกรวารีสีทองเผยความประหลาดใจในทันทีเขาโค้งคำนับอย่างรวดเร็วและป้องมือขอบคุณ “ขอบคุณนายท่าน!”
จักรพรรดิสัตว์อสูรมีอายุยืนยาวมากซึ่งพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างง่ายดายหลายพันปีระยะเวลาเพียงร้อยปีนั้นก็แค่เศษเสี้ยวชีวิตของพวกเขา และก่อนหน้านี้มังกรวารีสีทองถูกปราบโดยยอดฝีมือและรับใช้เขาอยู่หลายร้อยปี เมื่อยอดฝีมือใกล้จะสิ้นลม เขาก็คืนผนึกแห่งดวงจิตคืนมังกรวารีสีทอง ตัวของมังกรวารีสีทองเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าเจียงอี้จะเป็นคนตรงไปตรงมาและต้องการให้เขารับใช้แค่ร้อยปีเท่านั้น
“นั่งเถอะที่นี่ข้าไม่ได้มีกฎมากมายและในภายหน้าก็ไม่ต้องเรียกข้าว่านายท่าน แต่เรียกข้าว่าใต้เท้า!”
เจียงอี้กวักมือของเขาให้มังกรวารีสีทองมานั่งข้างๆซึ่งเขาก็ไม่กล้านั่ง ดังนั้นเจียงอี้จึงไม่ได้สนใจเรื่องนั้นอีก เขาหยิบพู่กันและกระดาษออกมาจากแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณและวาดแผนที่ทะเลราตรีสีเลือด จากนั้นเขาก็วงกลมรอบทวีปเฟิ่งหมิง, ทวีปมังกรซ่อนเร้น, ทวีปเฟยหม่าและทวีปจักรพรรดิบูรพา…….และถามจักรพรรดิอสูรว่า “แผนที่นี้ถูกต้องใช่ไหม?”
จักรพรรดิอสูรมองดูใกล้ๆและพยักหน้า“ท่านใต้เท้า ตามหลักแล้วมันก็ถูกต้องแต่ทวีปจักรพรรดิบูรพาใหญ่กว่ามากและสุดฝั่งตะวันออกของทะเลราตรีสีเลือดนั้นเชื่อมกับทะเลลึกไร้สิ้นสุด ทะเลราตรีสีเลือดนั้นใหญ่กว่าที่ท่านใต้เท้าจินตนาการเอาไว้อีกขอรับ”.Aileen-novel
ด้วยความช่วยเหลือจากมังกรวารีสีทองเจียงอี้ก็วาดแผนที่ของทะเลราตรีสีเลือดเสร็จและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “เอาล่ะ เจ้ารู้เกี่ยวกับจักรพรรดิอสูรในทะเลราตรีสีเลือดมากขนาดไหน? เจ้ารู้หรือไม่ว่าส่วนใดเป็นอาณาเขตของจักรพรรดิอสูรตนใด? ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิอสูรอยู่ที่จุดใดกัน? บอกข้ามาให้หมด ข้าจะจำมัน”
จักรพรรดิอสูรกระพริบตาด้วยความสับสนเพราะไม่รู้ว่าเจียงอี้กำลังคิดอะไรอยู่นี่เขาคิดจะปราบจักรพรรดิอสูรทุกตัวหรือ? เขาจะไปทำให้เจ้าแห่งสัตว์อสูรที่ใจกลางทะเลขุ่นเคืองหรือเปล่า?
แต่แน่นอนว่าเขาไม่กล้าถามมากนักเขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและตอบว่า “ตามที่ข้ารู้มา ทะเลราตรีสีเลือดมีจักรพรรดิอสูรมากกว่าสองร้อยตน พวกเราที่อยู่ทะเลราตรีสีเลือดไม่มีคุณสมบัติที่จะไปยังใจกลางทะเลราตรีสีเลือด ไม่มีผู้ใดรู้ว่ามีจักรพรรดิอสูรอยู่ในนั้นเท่าไหร่ หากท่านอยากจะปราบจักรพรรดิอสูรเหล่านี้ ท่านล้มเลิกแผนการเสียเถอะ”
“หากท่านปราบจักรพรรดิอสูรได้มากกว่าสิบตนเจ้าอสูรที่อยู่ใจกลางทะเลจะต้องเดือดดาลแน่นอน เมื่อหลายหมื่นปีก่อน มียอดฝีมือจากตระกูลโบราณของทวีปจักรพรรดิบูรพามาปราบจักรพรรดิอสูรในทะเลราตรีสีเลือด และเขาก็ลงเอยด้วยความโกรธแค้นจากเจ้าอสูรซึ่งไล่ล่าตัวเขาไปถึงทวีปจักรพรรดิบูรพา จนสุดท้าย พวกเขาก็สังหารยอดฝีมือผู้นั้นต่อหน้าหนึ่งในประมุขเก้าจักรพรรดิ ซึ่งตอนนั้นมันก็เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่….”
“เจ้าอสูร?และมีพวกเขามากกว่าหนึ่ง?”
ดวงตาของเจียงอี้หดลงเขาเองก็รู้ว่าใจกลางทะเลราตรีสีเลือดมีปีศาจทะเลที่ทรงพลังซึ่งเทียบเท่ากับเก้าจักรพรรดิทวีปจักรพรรดิบูรพา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่อง เจ้าอสูร เขาจึงถามอย่างสงสัยว่า “เจ้าอสูรอยู่ในขอบเขตใดกัน? พวกเขาเหนือกว่าจักรพรรดิอสูรอีกหรอ? แล้วพวกเขามีความแข็งแกร่งเท่ากับเหล่าเก้าจักรพรรดิแห่งจักรพรรดิบูรพาด้วยหรือ? ปฐพีนี้มีเจ้าอสูรกี่ตนกัน?”
จักรพรรดิอสูรพูดด้วยความภาคภูมิว่า“ในช่วงโบราณกาล เผ่าพันธุ์ปีศาจเคยปกครองแดนเทียนชิงทั้งหมดและตอนนั้นมีเจ้าอสูรหลายร้อยตน หลังจากนั้น จักรพรรดิลี้ลับก็ปรากฎตัวขึ้นและกำจัดเจ้าอสูรจนเกือบหมดสิ้น และเจ้าอสูรในปัจจุบันก็ค่อยๆบ่มเพาะพลังของพวกเขาขึ้นมา เจ้าอสูรแต่ละตนมีวิชาอสูรที่น่าสะพรึ่ง มีข่าวลือว่าทวีปมนุษย์กลายพันธุ์, ทวีปเฟยหม่าและทวีปเงาทมิฬเคยเป็นทวีปที่ยิ่งใหญ่และเป็นปึกแผ่น แต่เพราะเจ้าอสูรต้องการแบ่งเขตแดนให้แก่ลูกหลานของตัวเอง มันจึงโจมตีออกมาสองครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจซึ่งมันได้ทำให้เกิดทะเลอสูรโบยบินและทะเลเงานภาขึ้นมา….”
“เจ้าอสูรและเก้าจักรพรรดิถือว่าอยู่ในระดับเดียวกันพวกเขาทั้งหมดอยู่เหนือขอบเขตเทียนจุนและมีตัวตนใกล้เคียงกับเทพ หากพวกเขาทะลวงก้าวสุดท้ายไปได้ พวกเขาจะสามารถทำลายห้วงอากาศว่างเปล่าและก้าวสู่ความเป็นอมตะได้ แต่ก็น่าเสียดาย….นอกเหนือจากเจ้าอสูรโบราณที่สามารถทะลวงขั้นสุดท้ายได้แล้วก็ไม่มีเจ้าอสูรตนไหนทะลวงมันไปได้เลยในช่วงแสนปีที่ผ่านมา ยังมีข่าวลือมาว่ามีเต่าดำตนหนึ่งในทะเลลึกไร้สิ้นสุดซึ่งอาศัยอยู่มานานหลายแสนปี หากจะมีเผ่าพันธุ์ปีศาจตนใดที่มีความหวังที่จะทะลวงขั้นสุดท้ายไปได้ มันก็คงจะเป็นเต่าตนนั้น”
หลังจากที่จักรพรรดิอสูรอธิบายเสร็จเจียงอี้ก็เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับขอบเขตความแข็งแกร่งของปฐพีนี้!
ในโลกภายนอกนี้มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังอยู่ทุกหนแห่งและไม่ได้มีเพียงแค่ขอบเขตเทียนจุนเท่านั้นที่ถือว่าเป็นยอดฝีมือ แต่มันยังมีอีกมากมาย ยอดฝีมือที่แท้จริงของแดนเทียนชิงคือ เหล่าสัตว์ประหลาดเก่าแก่, ประมุขตระกูลโบราณต่างๆ, ปรมาจารย์ที่ถูกปกปิดเอาไว้ซึ่งพวกเขาทั้งหมดอยู่เหนือขอบเขตเทียนจุนและพวกเขาอาจไปถึงขอบเขตที่เทียบเคียงกับจักรพรรดิลี้ลับแล้วก็ได้
“ฮู่วว….”
ในตอนนี้ใจของเจียงอี้พองโตมากแต่ก่อนเขานั้นไร้เดียงสานักที่คิดว่าตราบใดที่เขาได้หญ้ามังกรยาจกมาและบ่มเพาะพลังอย่างขันแข็งเพื่อทะลวงสู่ขอบเขตเทียนจุนได้ เขาก็จะมีโอกาสไปทั่วทวีปจักรพรรดิบูรพาได้และต่อกรกับโถงวรยุทธ แต่จากเรื่องที่เขารับรู้ในตอนนี้ เขานั้นยังอยู่อีกยาวไกลกว่าจะเดินไปถึงจุดนั้นได้
เพียงกระบวนท่าเดียวก็สามารถผ่าทวีปมนุษย์กลายพันธุ์และทวีปเฟยหม่าออกจากกันได้?
เจียงอี้เคยเดินทางข้ามทะเลอสูรโบยบินและทะเลเงานภามันอาจเป็นทะเลภายในแต่มีความกว้างอย่างน้อยนับแสนกิโลเมตร กระบวนท่าเดียวกลับสร้างทะเลที่กว้างใหญ่เช่นนี้ได้? นี่มันไม่ใช่ความสามารถที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะมีได้ แต่มันใกล้เคียงกับพลังต่อสู้ที่เทพเป็นผู้ครอบครองอย่างแน่นอน
ในช่วงที่ผ่านมานี้เจียงอี้ได้กดดันลูกหลานตระกูลเก้าจักรพรรดิในการได้มาซึ่งสมบัติทั้งสามชิ้น จากนั้นเขาก็หนีพ้นสายตาของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนหลายสิบคนมาได้และกำจัดผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนตระกูลเสียไปสองคน มันทำให้เขาค่อนข้างภูมิใจและคิดว่าผู้เชี่ยวชาญทวีปจักรพรรดิบูรพาคงไม่ได้มีอะไรมากนัก
แต่ตอนนี้เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้หลังของเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ เขาไม่เคยประมือกับยอดฝีมือที่แท้จริงและเขายังไม่เคยเห็นความสามารถที่แท้จริงเลย เขาประเมินยอดฝีมือในโลกนี้ต่ำไป
“เอาล่ะไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้กันแล้ว!”
เจียงอี้ส่ายหัวเขายังห่างจากตัวตนที่ใกล้เคียงกับเทพอีกไกล เขาควรคิดที่จะหาทางจัดการกับสถานการณ์นี้ก่อนดีกว่า เขาดึงสติของตัวเองกลับมาและพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “มังกรวารีสีทอง บอกข้าเกี่ยวกับที่ซ่อนของจักรพรรดิอสูรในทะเลราตรีสีเลือดมา โดยเฉพาะเหล่าสัตว์อสูรที่ทรงพลัง เราจะให้คนของเสียเฟยได้สนุกกันในไม่ช้า”

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เจียงอี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากความอัปยศและการ

ถูกเหยียดหยามเนื่องจากจุดตันเทียนของเขาถูกผนึกไว้

วันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับพบว่าผนึกในตันเทียนของเขาได้ถูก

ทำลายและถูกแทนที่ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ด้วยการบ่มเพาะเปลวไฟ

ศักดิ์สิทธิ์เก้าสวรรค์ของเขา การเดินทางอันแสนท้าทายของเจียงอี้

จึงได้อุบัติขึ้น!

หากมวลมนุษย์กล้าปฏิบัติกับข้าอย่างไม่เป็นธรรม ศพนับล้านจะต้อง

เกลื่อนปฐพี!

หากแม้แต่สวรรค์ยังไม่ยุติธรรมกับข้า ข้าก็จะแผดเผาสวรรค์ทิ้งเสีย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท