เป่ยเฟิงมองเคอร์เบอรอสพร้อมกับอาการปวดหัวที่พุ่งเข้ามาฉับพลัน แน่นหัวมันยังคงทำตัวสงบเรียบร้อยมาก ดวงตาของมันยังคงปิดอยู่และมันไม่พูดอะไรแม้แต่น้อย
“เอาล่ะ ไปเล่นข้างนอกไป”
เป่ยเฟิงโยนกระดูกขนาดใหญ่ที่ยาวประมาณ 3 เมตรออกไปด้านนอก จากนั้นสหายน้อยจอมโลภทั้ง 2 ก็วิ่งออกไปด้วยความตื่นเต้น เพียงกระดูกชิ้นเดียวก็ทำให้หมา 3 หัวตัวนี้อยู่ได้ทั้งวัน
เป่ยเฟิงกลับไปที่ห้องและจัดเรียงทุกอย่างที่เขาได้รับมาในช่วง 8 ปีนี้ เขาหยิบแหวนมิติออกมาเพื่อเก็บสมุนไพรจิตวิญญาณ
แหวนมิติเป็นมิติที่มีพื้นที่แยกต่างออกไป จุดประสงค์ของเขาคือการเก็บรักษาและคงสภาพสมุนไพรจิตวิญญาณเอาไว้
นอกจากนี้เขายังเอาเหล็กเปลวไฟสีทองและวัตถุดิบชั้นดีที่ใช้ในการสร้างอาวุธระดับพระเจ้าเข้าไปเก็บด้วย น่าเสียดายที่เป่ยเฟิงไม่เข้าใจเรื่องการสร้างอาวุธทำให้ได้แค่เก็บพวกมันเอาไว้
มีไข่มุกผสมหยวนอีกเม็ดที่สามารถใช้โจมตีได้หนึ่งครั้ง ไข่มุกเม็ดนี้มันเปรียบเสมือนระเบิดนิวเคลียร์เลยก็ว่าได้ !
นอกจากรายกายแปลก ๆ อย่างอื่นแล้ว เป่ยเฟิงไม่ได้สนใจของที่มีประโยชน์มากนัก พวกมันที่เหลือทำได้เพียงถูกเก็บไว้ในห้องนิรภัย
วันต่อมาเป่ยเฟิงก็พาลึกลับที่ 1 และคนที่เหลือไปปักกิ่ง ที่มาเขากับก็คือลึกลับที่ 1 ไป๋เซียงและเคอร์เบอรอส
จิ้งจอกน้อยร้องไห้สะอื้นและงอแงจะตามมาด้วย แต่สุดท้ายมันก็ถูกเป่ยเฟิงห้ามเอาไว้ เพราะพลังความสามารถในการป้องกันตัวของจิ้งจอกน้อยไม่มีเลย
ช่วงเวลาที่มาถึงสนามบิน กลุ่มของเป่ยเฟิงตกเป็นเป้าหมายของผู้คนจำนวนมาก แม้ว่าพวกเขาจะแต่งตัวแปลก ๆ แต่มันไม่น่าสนใจมากเท่าหมา 3 หัว !
คาราวานรถยนต์จอดรออยู่ด้านนอกสนามบิน กลุ่มของเป่ยเฟิงเดินไปที่รถตรงกลางก่อนจะค่อย ๆ จากไป
ปักกิ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจีนที่มีความเจริญรุ่งเรืองและคึกคักมาก ทุกตารางนิ้วของที่แห่งนี้มีค่าดั่งทองคำ !
คนส่วนใหญ่ไม่มีทางหาเงินซื้อได้แม้แต่ห้องเล็ก ๆ ห้องหนึ่งในที่แห่งนี้
คาราวานรถมุ่งหน้าไปยังใจกลางเมือง อาคารขนาดใหญ่ค่อย ๆ ปรากฏล้อมรอบพวกเขา
อาคารเหล่านี้ไม่ใช่อาคารสูงที่สูงเสียดฟ้า แต่พวกมันเป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีต
รถค่อย ๆ ขับเข้าไปในเขตคฤหาสน์ขนาดใหญ่ ต้นไม้และดอกไม้สามารถมองเห็นได้ในคฤหาสน์ที่เงียบสงบ ที่แห่งนี้มันปราศจากความวุ่นวายเหมือนในเมือง ไม่ต้องเดาเลยว่าผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินขนาดใหญ่ในใจกลางเมืองปักกิ่งได้ต้องมีอำนาจมากแค่ไหน !
เป่ยเฟิงและคนที่เหลือไม่ได้ตื่นเต้นมากนัก เพราะสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวพวกเขามันไม่มีค่าในสายตาของพวกเขาอีกแล้ว
เงินตราและวัตถุสวยงามเป็นเพียงของทางโลกเท่านั้น เงินคืออะไร มันคือกระดาษ ตราบใดที่พวกเขาต้องการพวกเขาสามารถหามันมาได้ง่าย ๆ ต่อให้เป็นพันล้านก็ตาม
ภายในคฤหาสน์มีคนคอยต้อนรับกลุ่มของเป่ยเฟิงอยู่
ชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายพวกเขา เมื่อเขาเห็นเป่ยเฟิงเขาก็กุมมือคำนับและหัวเราะ “ฮ่า ๆ สหายเต๋า ข้าไม่คิดเลยว่าหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันมา 3 ปี เจ้าจะแข็งแกร่งมากขึ้นขนาดนี้ “
เป่ยเฟิงทักทายเขากลับก่อนจะเดินตามชายชราเข้าไปในห้องโถงด้านใน ในขณะที่เดินไปเขาก็ถามขึ้น “จริงหรือเปล่าที่ทุกคนกำลังมารวมตัวกันในที่แห่งนี้ ?”
ลึกลับที่ 1 และคนอื่น ๆ ไม่ได้เดินตามเป่ยเฟิงมา พวกเขายังคงรออยู่ที่ห้องโถงด้านนอก
ลึกลับที่ 1 และคนอื่น ๆ ชื่อเสียงเล็กน้อยในวงการต่อสู้ แต่นั่นเพราะความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเขาถูกปิดบังเอาไว้
ทุกคนที่อยู่ห้องโถงด้านนอกเป็นอัจฉริยะจากตระกูลใหญ่ พวกเขามีชื่อเสียงมากแม้ว่าพลังอำนาจของแต่ละตระกูลจะแตกต่างกันก็ตาม
สถานที่ที่เป่ยเฟิงกำลังไปคือสถานที่ที่ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์รวมตัวกัน ลึกลับที่ 1 และคนอื่น ๆ ทำได้เพียงเดินไปที่ห้องโถงด้านนอกในฐานะลูกศิษย์ของเป่ยเฟิง ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาทั้งหมดจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถในการต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ได้
“หัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้คือการพูดถึงสุสานโบราณ แต่พวกเรายังขาดกุจแจสำคัญ มันเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญระดับธรรมดาไม่สามารถหามาได้” ต้วนหยางตอบกลับเป่ยเฟิง เนื่องจากอีกฝ่ายได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ดังนั้นเขาจึงตอบกลับด้วยความเคารพ
“อ่อ งั้นรึ”
เป่ยเฟิงพยักหน้าและเดินตามต้วนหยางเข้าไปด้านใน
ในสวนไม่ได้มีคนมากนัก มีเพียง 50-60 คนเท่านั้น ในหมู่พวกเขามี 16 คนที่มาจากกรมผู้ฝึกตนของทหาร !
จาก 16 มี 12 แต่งตัวด้วยชุดคลุมสีดำทั้งตัว ไม่มีใครสามารถตรวจสอบพวกเขาได้ราวกับพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอก
1 ใน 12 ปีศาจคุนหลุนก้าวออกมาและพูดขึ้น “เส้นตายใกล้เข้ามาแล้ว ตอนนี้เราเหลือเวลาอย่างน้อยเพียง 2 ปี แม้ว่าพวกเราจะรู้ตำแหน่งที่แน่นอนของสุสานจักรพรรดิ์ฉิน แต่เราไม่สามารถเปิดมันได้ ภายใน 2 ปีนี้มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเราจะหามันอีกกี่ครั้งตอนไหน”
‘ทั้ง 12 คนแข็งแกร่งมาก !’
เป่ยเฟิงหรี่ตามองคนใส่ชุดคลุมสีดำทั้ง 12 คน 8 ปีที่ผ่านมาเขาสามารถฝึกฝนจนมาถึงระดับครึ่งก้าวเซียนเทียน และตอนนี้เขาได้เปิดช่องรูรับแสงทั้งมือซ้าย-ขวารวมไปถึงขาทั้ง 2 ข้างแล้ว และเขาจำเป็นต้องหารูรับแสงรูต่อไปเพื่อทำให้ร่างกายของเขามีพลังระดับสวรรค์ !
แต่ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขาสามารถสู้ได้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ขั้นกลาง แม้แต่สวรรค์ขั้นสูงสุดบางคนก็ไม่ใช่คู่มือของเขาหากปราศจากอาวุธระดับพระเจ้า !
แต่ถึงอย่างนั้นเป่ยเฟิงกลับรู้สึกได้ถึงอันตรายที่มหาศาลจากคนในชุดคลุมทั้ง 12 คน !
ผู้เชี่ยวชาญจากนิกายสัตว์ทั้ง 12 ถามขึ้น “ท่านกำลังจะบอกว่าตำแหน่งของสุสานจักรพรรดิฉินมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ?”
“ถูกต้อง ! ตำแหน่งของสุสานจักรพรรดิ์ฉินมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา พวกเราใช้บันทึกโบราณและบันทึกจากหนังสือจาก 200 ปีก่อนมาวิเคราะห์และคำนวณจนสามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนที่มันจะปรากฏขึ้นได้ในช่วง 2 ปีนี้ แต่จากที่เราคำนวณนั้น สุสานจะอยู่ที่จุดเดิมเป็นเวลาเพียง 1 ก้านธูปเท่านั้น !”
เสียงของผู้หญิงจาก 1 ใน 12 ปีศาจคุนหลุนดังขึ้น เสียงมันดูราวกับเสียงของวัยรุ่นมาก หากฟังเพลิน ๆ คงไม่มีใครคาดคิดว่าคน ๆ นี้จะมีอายุมานานหลายร้อยปี !
“เวลาเพียง 1 ก้านธูปไม่เพียงพอที่จะให้เราทำลายอุโมงชั้นนอกของสุสานจักรพรรดิ์ฉินได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องตามหากุจแจสำคัญที่สามารถยึดตำแหน่งของสุสานไว้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง !”
เสียงที่เปล่งออกมาจากใครคนหนึ่งเต็มไปด้วยความหนาวสั่น ไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่าเป็นเสียงชายหรือหญิง
“อะไรคือกุจแจ ? จากที่ข้าดูแล้วพวกท่านน่าจะเจอมันแล้ว แต่พวกท่านไม่สามารถเอามันมาได้ ดังนั้นจึงเรียกประชุมใช่หรือเปล่า ?” หญิงชราคนหนึ่งทีมีรอยด่างทั่วหน้ากล่าวขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยประกายแสงสว่างไสว มันช่างต่างกับรูปลักษณ์ภายนอกที่เธอพิงไม้เท้าสีม่วงที่ดูเหมือนพร้อมจะตายได้ทุกเมื่อ
“กุจแจที่ว่าคือโซ่ขังมังกรอมตะ มันอยู่ด้านล่างบ่อน้ำขังมังกรที่อยู่ในปักกิ่ง ! ตราบใดที่เราได้มันมาเราก็จะยึดตำแหน่งของสุสานจักรพรรดิ์ฉินเอาไว้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง เวลาเพียงแค่นั้นก็มากพอที่เราจะสร้างค่ายกลได้ !” ผู้นำของ 12 ปีศาจคุนหลุนกล่าวขึ้น
ไม่มีใครตั้งคำถามและสงสัยแม้แต่น้อยว่าโซ่ขังมังกรอยู่ในบ่อน้ำขังมังกรหรือไม่
จากข่าวลือ มีน้ำวนอยู่ใต้บ่อน้ำแห่งนั้น มันมีหน้าที่กักขังมังกรเอาไว้
เคยมีคนพยายามดึงโซ่ออกมาจากบ่อน้ำและเขาดึงมันออกมาได้นิดเดียวและจนปัจจุบันก็ไม่มีใครสามารถดึงมันออกมาได้จนหมด ไม่มีใครทราบเหมือนกันว่าโซ่มันยาวแค่ไหน !
ทุก ๆ รุ่นจะมีคนรู้จักตำนานบ่อน้ำขังมังกรดี เคยมีคนจากโลกภายนอกไม่เชื่อตำนานและพยายามดึงโซ่ขึ้นมา สุดท้ายทั่วทั้งถนนก็เต็มไปด้วยโซ่และน้ำสีดำก็ค่อย ๆ ท่วมออกมาจากบ่อน้ำ สุดท้ายด้วยความกลัวพวกเขาก็ล้มเลิกแล้วยอมแพ้ไป
“แล้วเราจะเริ่มเมื่อไหร่ ?” ฉินวูฟ่าถามขึ้น
“คืนนี้ ! โอกาศเดียวของพวกเราในปีนี้ หากพลาด เราต้องรอปีต่อไป สำหรับคืนนี้พวกเราต้องรอจนกว่าน้ำในบ่อจะแห้ง เมื่อถึงตอนนั้นอันตรายมันจะลดลงอย่างมาก”
เห็นได้ชัดว่า 12 ปีศาจคุนหลุนเตรียมตัวไว้นานมากสำหรับภารกิจในอีก 2 ปีนี้
ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทุกคนยอมรับภารกิจนี้ทันที แม้ว่าโซ่ขังมังกรมันจะเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่
ส่วนคนที่กังวลเรื่องนี้มากที่สุดคือพวกรัฐบาล เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทั้งหมดได้มารวมตัวกันในเมืองหลวง ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นมันยากที่จะคาดเดาได้
เพราะความกังวลว่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์จะก่อเรื่อง พวกเขาจึงส่งทหารจำนวนมากไปคอยเฝ้าเวรยามรักษาพื้นที่เอาไว้ อย่างแรกคือห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาใกล้พื้นที่ อย่างที่สองคือเพื่อจับตาดูเอาไว้