Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 517

ตอนที่ 517

เป่ยเฟิงเองก็ยืนอยู่ไม่ไกลเช่นกัน อารมณ์ของเขาแปรปรวนมากตอนนี้

มันผิดหรือเปล่าที่มนุษย์ฆ่าสัตว์อสูร ? มันผิดไหมที่สัตว์อสูรฆ่ามนุษย์ ? พวกเขาสมควรตายจริง ๆ งั้นรึ ?

เป่ยเฟิงมองฉากตรงหน้าและคิดอย่างหนัก

มนุษย์ไม่ผิดและสัตว์อสูรก็ไม่ผิด ความผิดที่แท้จริงคือเพราะพวกเขาอ่อนแอเกินไปและไม่สามารถควบคุมชะตากรรมของตัวเองได้ มันไม่ผิดที่จะบอกว่าตัวเองอ่อนแอเกินไป !

เป่ยเฟิงดูเหมือนจะหลงทางอยู่ในความคิดมานานหลายร้อยปี แต่ในไม่ช้าเขาก็ค้นพบความจริง

เมื่อเขาคิดได้ หมอกในใจของเขาก็หายไป แม้แต่แรงกดดันของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย

แขนของเขาสะบัดเบา ๆ พร้อมกับชุดคลุมที่พริ้วไหวตามสายลม

วิถีแห่งเต๋ายิ่งเติบโตก็ยิ่งแข็งแกร่ง หากเปรียบเทียบในอดีตมันเป็นเพียงเมล็ด แต่ทว่าในตอนนี้เมล็ดเริ่มงอกขึ้นมาแล้ว

เป่ยเฟิงรู้สึกวิถีแห่งเต๋าของเขาแข็งแกร่งขึ้น ความสุขจึงพุ่งขึ้นมาในจิตใจของเขา

หลังจากที่ติดอยู่ในขัดมานาน ในที่สุดกำแพงเต๋าของเขาก็พังทลายลงในที่สุด มันบดบังความก้าวหน้าในการฝึกฝนของเขามานาน

หากเขาต้องการก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น เขาไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ความพยายามมากในการพังทลายกำแพงเต๋าอีกต่อไป

ทันทีที่เขาฟื้นความรู้สึกได้ คำพูดของชุยหยุนเทียนก็ลอยเข้ามาในหูของเขา แม้ว่าชุยหยุนเทียนจะไม่ได้มองเขา แต่เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดกับเขา

“ไม่เหมือนกับเจ้างั้นรึ ?” เป่ยเฟิงตอบกลับในขณะมองผู้ฝึกตนจำนวนมากที่กำลังสู้กันเพื่อแย่งสมุนไพรจิตวิญญาณ

“สามห้าว !”

ชายชุดดำคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังชุยหยุนเทียนก้าวออกมาพร้อมกับชักดาบแล้วคำรามขึ้น

“น่าสนใจ ตระกูลของข้าเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ ดังนั้นในสายตาของข้าสมุนไพรพวกนี้จึงไร้ค่า แต่แล้วเจ้าล่ะ ? ทำไมเจ้าถึงมั่นใจในตัวเองขนาดนั้น ?”

ชุยหยุนเทียนยิ้มบาง ๆ ในขณะยกมือเพื่อให้ชายชุดดำข้างหลังถอยออกไป หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองเป่ยเฟิง

“ทำไมถึงมั่นใจงั้นรึ ? นั่นก็เพราะมันคือความมั่นใจของตัวข้าเอง !” เป่ยเฟิงมองชุยหยุนเทียนแล้วหันหลังเดินจากไป ต้องยอมรับเลยว่าสหายผู้นี้หน้าตาดีและรูปร่างยอดเยี่ยม รูปร่างหน้าตาของเขาสวยกว่าผู้หญิงซะอีก รอยยิ้มของเขาอบอุ่นมาก มันราวกับเขาเป็นนักฆ่าหญิง

“หึหึ มันเป็นความเย่อหยิ่งหรือความมั่นใจกันแน่ ?”

ชุยหยุนเทียนหัวเราะเบา ๆ จากนั้นเขาก็เดินพาคนของตนเดินหน้าไปยังยอดเขาโดยไม่สนใจสมุนไพรจิตวิญญาณพวกนี้เลยแม้แต่น้อย

ความเร็วของเป่ยเฟิงไม่เร็วและไม่ช้า เขาไม่พบกระต่ายนักเลงเลยซักตัวในขณะที่เดินมา มันราวกับว่าพวกมันทุกตัวกลัวตายจึงไม่กล้าปรากฏตัว

ชุยหยุนเทียนราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ เขาเดินสบาย ๆ

หลังจากเก็บสมุนไพรจิตวิญญาณหมดแล้ว ผู้ฝึกตนจำนวนมากก็รีบมุ่งหน้าไปยังยอดเขาทันที จากสิ่งที่พวกเขาได้รับมา มันบอกได้เลยว่าบนยอดเขาต้องมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านี้รออยู่ !

ผู้ฝึกตนจำนวนมากวิ่งอย่างบ้าคลั่งไปยังยอดเขา ในไม่ช้าก็หายไปจากสายตาของชุยหยุนเทียนและเป่ยเฟิง

ภูเขาแห่งนี้สูงหลายพันจาง แต่มันไม่ต้องใช้ความพยายามซักเท่าไหร่ในการขึ้นมายอดเขา ในไม่ช้าทุกคนต่างก็มาถึงยอดเขา

“หลิงฉีช่างหนาแน่นยิ่งนัก !”

“หลิงฉีของที่นี่หนาแน่นและคุณภาพสูงมาก การฝึกฝนที่นี่วันเดียวเท่ากับข้างนอก 10 วัน !”

“การที่มีหลิงฉีที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้งั้นแปลว่าที่นี่ต้องมีสมบัติชั้นยอด !”

ผู้ฝึกตนทุกคนอุทานออกมาด้วยความตกใจและดวงตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโลภ ดินแดนแห่งนี้มันมีหลิงฉีหนาแน่นจนจับตัวเป็นหมอกที่สามารถจับต้องได้

“รู้หรือไม่ว่าอะไรอยู่ด้านบน” ชุยหยุนเทียนก้าวไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวและเดินมาคู่กับเป่ยเฟิง

“ต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ !” เป่ยเฟิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วเดินต่อไปเรื่อย ๆ

แม้ว่าการแสดงออกของเป่ยเฟิงจะดูนิ่งและอ่อนโยน แต่ความจริงแล้วเขาปวดหัวมาก เขามองไปที่สหายข้าง ๆ เขาคงไม่ใช่เกย์ใช่ไหม ? ทำไมเขาถึงดูสนใจในตัวเขาแทนที่จะไปสนใจคนที่อยู่รอบ ๆ ?

แม้ว่าสหายผู้นี้จะไม่ใช่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีนักที่อีกฝ่ายจับตาดูเขา เป่ยเฟิงไม่ต้องการเป็นเป้าหมายแรกที่ทุกคนจะสังหาร

“ในเมื่อเจ้ารู้แบบนั้น เจ้าคิดว่าความสามารถเพียงแค่นี้ เจ้าสามารถคว้ามันไปจากข้าได้ ? หรือว่าเจ้าคิดว่าสามารถขโมยมันจากคนอื่น ๆ ได้ ?”

สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงเมื่อเห็นดวงตาของชุยหยุนเทียนคือ จิ้งจอก !

เป่ยเฟิงไม่สนใจชุยหยุนเทียน เขาเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีก

“ถ้าอย่างนั่นมาร่วมมือกับข้าดีหรือไม่ ? นายน้อยผู้นี้สาบานว่าจะปล่อยให้เจ้าพัฒนาไปยังขั้นราชาพันปีให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ !”

ความเร็วของชุยหยุนเทียนไม่ได้ช้าไปกว่าเป่ยเฟิง ในไม่ช้าเขาก็เดินตามทันอย่างง่ายดาย

“ไม่ล่ะ”

เป่ยเฟิงไม่ได้หันไปมองแม้แต่น้อย กำแพงเต๋าของเขาถูกพังทลายลงไปแล้ว ตอนนี้การรับฟังคำสั่งจากผู้อื่นจะทำให้วิถีแห่งเต๋าได้รับผลกระทบเล็กน้อย แต่หากมันมากเกินไปบางทีวิถีของเขาอาจจะพังทลายลงไปด้วย

ทันใดนั้นร่างของเป่ยเฟิงก็กระพริบและหายตัวไปทันที

ชายชุดดำคนหนึ่งปรากฏด้านหลังชุยหยุนเทียนและถามด้วยความสงสัย “นายน้อย ท่านคิดอย่างไรกับคน ๆ นั้น ?”

วันนี้นายน้อยของเขาดูแปลก ๆ ไป

“เจ้าเชื่อหรือไม่ถ้าข้าจะบอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะ ?”

รอยยิ้มที่ไม่มีใครเข้าใจเปล่งประกายอยู่บนหน้าชุยหยุนเทียนในขณะเขายืนนิ่ง ๆ กับที่

“อัจฉริยะ ?”

ชายชุดดำตัวสั่นเบา ๆ คนแบบนี้งั้นรึอัจฉริยะ ?

เมื่อเห็นสีหน้าที่สงสัยของชายชุดดำ ชุยหยุนเทียนก็ไม่ได้อธิบายใด ๆ เขาทำเพียงถอนหายใจเท่านั้น วิถีแห่งเต๋า หึ … นั่นคือกุจแจสำคัญในการก้าวไปยังขั้นราชาพันปี

ชุยหยุนเทียนตั้งสติและพูดเบา ๆ “เริ่มกันเถอะ”

กลุ่มชายชุดดำพยักหน้าและตะโกนขึ้น “ครับ !”

“ฉวนฟางเว่ยเฉิงวู่ฉิงเฉิ่ง (ค่ายกลรอบทิศ ถือกำเนิด) ! “

ชายชุดดำกว่าร้อยคนดึงธงขนาดเล็กออกมาแล้วโยนพวกมันออกไปรอบทิศทาง !

ธงสีดำพุ่งออกไปก่อนจะหายไปในอากาศ

จากนั้นระลอกคลื่นที่ดูเหมือนจริงก็พุ่งกระจายไปพันรอบยอดเขาถึง 1 ใน 4 ส่วน !

จากโลกภายนอก ยอดเขาแห่งนี้ราวกับหายตัวไปอย่างสมบูรณ์

“ถึงค่ายกลรอบทิศจะเป็นเพียงของเลียนแบบ แต่มันก็ยังเป็นค่ายกลที่ราชาพันปีไม่สามารถทำลายได้” ชุยหยุนเทียนกล่าวเบา ๆ ก่อนจะเดินนำคนของเขาขึ้นไปบนยอดเขา

ในเวลานี้กลุ่มผู้ฝึกตนกำลังยืนอยู่บนยอดเขาพร้อมกับจ้องมองไปยังสวนสมุนไพรที่กว้างใหญ่ตรงหน้า

ในเวลาเดียวกัน กระต่ายนักเลงหลายร้อยตัวก็จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาสีแดงฉานราวกับไม่พอใจพวกเขา

กลิ่นเหม็นของเลือดหนา ๆ ลอยออกมาจากยอดเขา สวนสมุนไพรจิตวิญญาณแห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นเลือด !

ดินที่อยู่ใต้สมุนไพรจิตวญญาณแห่งนี้มีสีแดงราวกับถูกไหลเวียนไปด้วยเลือด !

ลึกเข้าไปในสวนสมุนไพร มีต้นไผ่สีม่วงทองสูง 2 เมตร มันดูแข็งแรงและทนทาน กระต่ายนักเลงที่มีขนเหมือนคริสตัลเปล่งประกายระยิบระยับนั่งอยู่ใต้ต้นไผ่

“ตีข้าที บอกข้าทีว่าข้ากำลังฝัน !” ผู้ที่มีพลังขั้นสี่ของร้อยปีขั้นสูงสุดพูดออกมาพร้อมกับปากที่เปิดกว้าง

“ป้าป !”

เสียงตบดังก้อง โดยไม่ต้องรอใด ๆ เพื่อนที่อยู่ด้านหลังของเขาตบหลังเขาทันที “เป็นไง เจ็บไหม ?”

ผู้ฝึกตนคนนั้นทำเพียงพยักหน้าพร้อมกับดวงตาที่ยังคงมองสวนและตะโกนขึ้น “โคตรเจ็บ !”

“ซู๊ด ! นี่ไม่ใช่ความฝัน !”

ไม่รู้เหมือนกันว่าใครพูดก่อน แต่ความโกลาหลก็ระเบิดออกมาอย่างรวดเร็ว !

“หญ้าเลือดมังกร !”

“ดอกไม้ซัคคิวบัส !”

“นั่นมันเถาวัลอัคคีปฐพี แล้วนั่นมันต้นคลิฟเฟ่อ !”

สมุนไพรทั้งหมดถูกกล่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง สมุนไพรเหล่านี้มีค่ามากกว่าสิบล้านเหรียญ พวกเขาไม่มีทางหามันเจอได้ง่าย ๆ !

“นั่นมันใบปีศาจอันชั่วร้าย ! เพียงแค่ก้านของมันก็สามารถเพิ่มพลังทำให้ผู้ฝึกตนขั้นร้อยปีพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้มันยังมีประโยชน์แม้แต่ขั้นราชาพันปี เพียงแค่ก้านของมันก็มีค่าหลายร้อยล้าน !” ผู้ฝึกตนคนหนึ่งคำรามด้วยความตื่นเต้น ใบปีศาจอันชั่วร้ายมันคือจำนวนเงินมหาศาล !

แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เริ่มเงียบลง ชายคนหนึ่งเริ่มสงสัย ทำไมถึงเงียบกัน ทำไมไม่มีใครพูดอะไร ?

หลังจากนั้นเขาก็หันกลับมามองด้วยความตกใจ “อย่าบอกนะว่าทุกคนถูกมันครอบงำกันหมดแล้ว ?” คน ๆ นั้นมองใบหน้าของทุกคนด้วยความหวาดกลัว บางคนเต็มไปด้วยความสุข บางคนกังวล บางคนบ้าคลั่งและอีกหลายคนที่แตกต่างกันออกไป

“ตะ ตะ ตะ ต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ !”

“นั่นมันสมบัติระดับพระเจ้า อ๊า ! นี้มันสมบัติที่สามารถยกระดับทุกสิ่งทุกอย่างได้ !” มีคนคร่ำครวญออกมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกระวนกระวายราวกับเขาสามารถหายใจวายตายได้ตลอดเวลา

“ฆ่า !”

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนกล่าว แต่การต่อสู้ที่ดุเดือดก็เริ่มขึ้นทันที !

ไม่ใช่เพียงแค่กระต่ายนักเลงเท่านั้น แต่พวกเขายังฆ่าคนที่อยู่รอบข้างด้วย ! ในตอนนี้มันราวกับทุกคนบ้าไปแล้ว !

นี่คือโอกาสที่สวรรค์มอบให้ แม้ว่าจะเป็นราชาพันปีก็ตาม แต่ทุกคนก็กล้าเหวี่ยงดาบใส่พวกเขา !

มันคือต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ มันคือสมบัติล้ำค่า อา ! นี่คือสมบัติล้ำค่าที่มีค่ามากกว่าทองคำและเงินทั้งหลาย มันเป็นอะไรที่คนจำนวนมากยอมจ่ายทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา !

สมุนไพรล้ำค่าจำนวนมากถูกพวกเขามองข้ามทันที นอกจากนี้ยังมีบางส่วนถูกทำลายอย่างไร้ความปราณีจากลูกหลงการต่อสู้ อย่างไรก็ตามไม่มีใครเจ็บปวดแม้แต่น้อยสำหรับพวกมัน

เป่ยเฟิงรู้สึกอยากหัวเราะมาก คนเหล่านี้ไม่สนใจสมุนไพรล้ำค่าบนพื้นและสนใจแต่เพียงต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์เท่านั้น ตอนนี้ต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ก็เหมือนดาบที่ห้อยอยู่เหนือหัวพวกเขา ใครก็ตามที่แตะต้องมันจะต้องตาย

คนที่ฉลาดจริง ๆ คือคนที่อยู่รอบนอกการต่อสู้และกำลังขุดสมุนไพรให้ได้มากที่สุด แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ไป แต่พวกเขาก็ไม่ได้กลับไปมือเปล่า

กระต่ายนักเลงจำนวนนับไม่ถ้วนถูกสังหาร นอกจากนี้ผู้ฝึกตนที่เคยเรียกกันว่าเป็นพี่น้องและสนิทชิดเชื้อมากกว่าพี่น้องต่างถูกแทงด้านหลังกันอย่างต่อเนื่อง

“คิกคิก ทุกคนช่างทำตัวน่าตื่นเต้นกันจริง ๆ แต่พวกแกไม่คิดว่าตัวเองโง่งั้นรึ ?” เสียงดังก้องทำให้ยอดเขาสั่นไหว ทุกคนหยุดต่อสู้และหันไปมองที่มาของเสียง

“…” เป่ยเฟิง

เมื่อเห็นทุกคนมองมาทางเขาด้วยดวงตาสีแดง เป่ยเฟิงก็สบถคำพูดออกมาในใจ “พวกแกจะมองทำไม ข้าไม่ได้เป็นคนพูด”

หลังจากนั้นพวกเขาก็หันไปมองด้านหลังเป่ยเฟิง นั่นคือชุยหยุนเทียนที่กำลังถือพัดลายดอกท้อในมือ

“คิกคิก พวกแกมองอะไร ข้านี่แหละที่กำลังพูด ! ยกโทษให้กับคำพูดที่ตรงไปตรงมาด้วย แต่พวกแกมันโง่จริง ๆ นั่นแหละ !” ชุยหยุนเทียนมองไปรอบ ๆ พร้อมกับหรี่ตามอง จากนั้นเขาก็ส่ายหัว

“โอ้ ข้าลืมไป ยกเว้นเจ้า” ชุยหยุนเทียนยิ้มและมองเป่ยเฟิง

ใบหน้าของเป่ยเฟิงมืดลงทันที นี่มันไม่เท่ากับการสร้างความเกลียดชังมากขึ้นงั้นรึ

อย่างที่คิด เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงสายตาที่ชั่วร้ายกำลังมองมาที่เขา

‘พวกบัดซบนี้เห็นว่าอีกฝ่ายทรงพลังและแข็งแกร่งเกินไป พวกมันจึงไม่กล้าทำตัวก้าวร้าวใส่เขามันเลยให้มาสนใจข้าแทน’ เป่ยเฟิงตะโกนในใจพร้อมกับริมฝีปากที่กระตุกต่อเนื่อง

ผู้มีพลังครึ่งก้าวของราชาพันปีก้าวออกมาและถามด้วยความจริงจัง “เจ้าหนุ่ม เจ้าหมายความว่ายังไง ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของชุยหยุนเทียน เขาก็ไม่สนใจใด ๆ นอกจากถามอีกฝ่ายทันที

ครึ่งก้าวราชาพันปีไม่เหมือนขั้นร้อยปีและราชาพันปี พวกเขาอาจจะไม่แข็งแกร่งเท่าราชาพันปี แต่ทว่าก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกตนขั้นสี่ของร้อยปีขั้นสูงสุดจะมาประมือด้วยได้

ถึงแม้ว่ากลุ่มของชุยหยุนเทียนจะดูไม่ง่ายที่จะหาเรื่องด้วย แต่เขาก็ไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย ต่อหน้าต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์มันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความแข็งแกร่งของตัวเอง ตราบใดที่คำตอบของอีกฝ่ายทำให้พวกเขาไม่พอใจ อีกฝ่ายก็จะถูกรุมล้อมและถูกโจมตีในทันที

“ดูนั่นสิ ยังมีกระต่ายนักเลงอีกตัวหนึ่งที่ยังไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ แต่พวกเจ้ากลับเริ่มสู้กันเองเสียแล้ว”

ชุยหยุนเทียนยกแขนเรียว ๆ และขาวเหมือนหยกชี้ไปด้านหน้า กระต่ายนักเลงตัวหนึ่งที่มีขนสีแดงเข้มยังคงนั่งนิ่ง ๆ อยู่ใต้ต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ ดวงตาของมันปิดอยู่ แม้ว่าจะมีเสียงต่อสู้ดังขนาดไหนแต่มันก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท