บทที่ 493 ภารกิจสำคัญในการผลิตลูก
โจวข่ายซึ่งถูกกล่าวว่าเป็นคนไม่มีโชคนั้นไม่มีเวลาที่จะกลับบ้าน
แต่เวิงกั๋วเหลียงได้ชวนเขาให้มาร่วมฉลองปีใหม่ด้วยกัน
อย่าได้ตัดสินความเป็นแม่บ้านแม่เรือนจากการทำงานของเวิงเหม่ยเจี่ย หล่อนไม่ใช่คนที่ทำอาหารเก่งเลย ต้องไม่ลืมว่าหล่อนเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว จึงไม่มีความจำเป็นต้องให้หล่อนทำอาหาร แค่มีผลการเรียนที่ดีก็เพียงพอแล้ว
ดังนั้นทักษะการทำอาหารของหล่อนจึงอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น อย่างไรก็ดี ฝีมือการทำอาหารของโจวข่ายนั้นอยู่ในระดับที่ใช้ได้เลยทีเดียว เขาแสดงฝีมือห่อเกี๊ยวไข่ให้กิน ไม่ว่าจะเป็นเวิงกั๋วเหลียงหรือเวิงเหม่ยเจี่ยต่างก็พอใจกับอาหารมาก
“เมื่อปีที่แล้วในเวลานี้พวกเราไปเยี่ยมคุณอาหลินในวันส่งท้ายปีเก่ากัน เสียดายที่ปีนี้พวกเราไปที่นั่นไม่ได้” เวิงเหม่ยเจี่ยกล่าวขึ้น
ทางโรงพยาบาลเพิ่มเตียงผ่าตัดขึ้นอีก 2-3 เตียง หล่อนจึงต้องอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าหล่อนสามารถขอกลับได้เช่นกัน แต่หล่อนให้โอกาสนั้นกับเพื่อนร่วมงานที่แต่งงานไปแล้ว
“ปีหน้าก็ขอลาพักร้อนกลับไปได้แล้วล่ะ” โจวข่ายบอก
เขาก็อยากจะกลับไปเช่นกัน แต่ไม่สามารถขอลาหยุดได้ ดังนั้นจึงปล่อยวางและอยู่ฉลองปีใหม่ที่นี่
“อีกอย่าง พี่ใหญ่ก็กำลังจะขอย้ายไปรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่พลเรือนแล้วนี่ใช่ไหม?” โจวข่ายถามเวิงกั๋วเหลียง
เขาก็เรียกเวิงกั๋วต้งว่าพี่ใหญ่ด้วยเช่นกัน
“อย่างเร็วเขาจะย้ายไปปีหน้า อย่างช้าก็จะเป็นปีถัดไปน่ะ” เวิงกั๋วเหลียงพยักหน้า
ผู้ที่ไม่สามารถได้รับการเลื่อนขั้นเมื่ออายุครบกำหนดแล้วจะต้องออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตามพวกเขามีตำแหน่งที่ไม่ต่ำนัก จึงถูกย้ายไปรับตำแหน่งทางพลเรือนแทน จากนั้นก็จะมีโอกาสก้าวเข้าสู่เส้นทางทางการเมือง ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนตัวของพวกเขาเอง
“ย้ายไปตำแหน่งพลเรือนก็ดีนะ ไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่ของนายคงจะกลายเป็นคนโสดสูงวัยในไม่ช้า อยู่ที่นี่หาคู่ไม่ได้หรอก” โจวข่ายพูด
“หาคู่ไม่ได้อะไรกัน? เป็นเพราะเขาไม่ได้ต้องการจะหาต่างหาก ไม่ใช่ว่าไม่มีใครมาแนะนำผู้หญิงให้กับเขาสักหน่อย” เวิงกั๋วเหลียงตอบ ตัวเขาเพิ่งมีแฟนไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่หล่อนกลับบ้านช่วงปีใหม่จึงไม่ได้อยู่ฉลองปีใหม่ด้วย
ความจริงแล้วที่นี่มีหลายคนที่คบหากันเป็นแฟน ยกตัวอย่างเช่นพยาบาลหลาย ๆ คนของที่นี่ล้วนเป็นผู้หญิง โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเรียนจบมาใหม่ อย่างเช่นน้องสาวของเขาก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเหล่าทหาร
พวกหล่อนเนื้อหอมมาก แม้แต่คนที่หน้าตาธรรมดา ๆ ก็ยังมีทหารหลาย ๆ นายตามจีบพวกหล่อน
ไม่ต้องเอ่ยถึงน้องสาวของเขาซึ่งได้รับจดหมายรักทุกวัน เหล่าคุณป้าและคุณลุงต่างเต็มใจจะแนะนำหาคู่ให้กับหล่อน
“เหม่ยเจี่ย ถ้าจะมีแฟน เธอต้องบอกพี่รองนะ พี่รองจะไปตรวจสอบให้เธอเองเข้าใจไหม? คนบางคนหน้าเป็นมนุษย์แต่หัวใจเป็นปีศาจ พวกเขาอาจจะดูดี แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่คนดีหรอกนะ” เวิงกั๋วเหลียงเตือน
มีตัวอำเภออยู่ห่างจากที่นี่ไปประมาณ 1 ชั่วโมง ที่นั่นมีหญิงสาวบางคนทำธุรกิจประเภทนั้นอยู่
บางคนไปที่นั่นในช่วงวันหยุดของพวกเขา เวิงกั๋วเหลียงยังไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน แต่ก็มีคนบางคนมาชวนเขาให้ไปด้วยกัน
โจวข่ายเห็นด้วยกับเรื่องนี้จึงกล่าวเสริม “พี่รองของเธอพูดถูก อย่าออกไปเที่ยวกับใครง่าย ๆ นะ ก่อนที่เธอจะคบกับใคร ต้องให้พวกเราเห็นชอบก่อน”
ไม่ต้องพูดถึงเวิงกั๋วเหลียง โจวข่ายเองก็ได้รับการชักชวนประเภทนั้นด้วยเช่นกัน ทหารบางนายก็ดีมากและไว้ใจได้จริง ๆ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็มีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันอยู่เสมอ
คำพูดที่กล่าวออกมาฟังดูดี แต่เวิงกั๋วเหลียงกลับไม่อยากจะหันไปมองคนพูดเลย เมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นเก่าของตนยังคงไม่รู้สึกตัว เขาก็กลอกตามองบนใส่
“ฉันพูดอะไรผิดไปเหรอ?” โจวข่ายถามอย่างรู้สึกสับสน
“ไม่มีค่ะ” เวิงเหม่ยเจี่ยกล่าวอย่างใจเย็น
หล่อนรู้เรื่องที่เขามีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำมานานแล้ว ตามที่คุณอาหลินเคยบอกไว้ว่าเขาไม่ได้รับมรดกทางด้านอีคิวมาจากเธอเลย ไม่ว่าจะเป็นขนาดรูปร่างหรือเรื่องอีคิวนี้ เขาได้รับตกทอดมาจากคุณพ่อของเขา
“พรุ่งนี้ฉันตั้งใจว่าจะเข้าไปในเมืองซื้อพวกแอปเปิลกับส้มกลับมากินซะหน่อย กินเนื้อมากเกินไปจะทำให้เป็นร้อนในได้” โจวข่ายพูด “พวกนายอยากได้บ้างไหม? ถ้าอยากได้ฉันจะซื้อกลับมาเผื่อ”
“เอามาเผื่อด้วยละกัน” เวิงกั๋วเหลียงตอบ
โจวข่ายอยู่ที่นี่ต่ออีกพักใหญ่ก่อนจะขอตัวกลับก่อน จากนั้นเวิงกั๋วเหลียงจึงลูบหน้าผากของตนพลางเอ่ยขึ้น “แม่ยกย่องเจ้าหนุ่มนี่เสียสูงเท่าฟ้าว่าไม่มีใครเทียบเขาได้ แต่เธอก็เห็นว่าเขายังไม่ได้เปิดใจเลย”
ไม่มีความคิดในเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง
“ดีมากแล้วละค่ะ” เวิงเหม่ยเจี่ยพูด
เวิงกั๋วเหลียงมองไปที่หล่อนอย่างประหลาดใจ “ยังจะถือว่าดีอยู่อีกเหรอ? เขาเป็นเหมือนพี่ใหญ่เลย เป็นแค่คนหัวทื่อคนหนึ่งที่ไม่มีความโรแมนติกเอาซะเลย”
เขารู้ว่าการเป็นคนโรแมนติกต้องทำอย่างไร ไม่อย่างนั้นเขาจะหาแฟนมาได้อย่างไร? แถมยังเป็นคนที่ดูดีมากอีกด้วย?
ปีนี้หล่อนต้องกลับบ้านเพราะไม่ได้กลับนานมากแล้ว มิเช่นนั้นหล่อนคงจะได้อยู่ฉลองปีใหม่กับเขา หล่อนทำอาหารเก่งมากและมักจะทำน้ำแกงมาให้เขาอยู่เป็นประจำ
มีแต่คนแบบเขาเท่านั้นแหละที่ทำให้ภรรยาของเขาพอใจได้!
เวิงเหม่ยเจี่ยยิ้ม แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ตอนนี้เขายังไม่เข้าใจ ดังนั้นหล่อนจะรอเขา
หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋ซึ่งไม่รู้เลยว่าลูกชายคนโตอีคิวต่ำของพวกตนที่ทำให้หญิงสาวต้องทำสัญญากับตัวเองอย่างลับ ๆ กำลังเดินทางกลับบ้านพร้อมกับคุณพ่อเวิงและคุณแม่เวิง
พวกเขาไปเที่ยวกันมาทั้งวันและมีช่วงเวลาที่สนุกสนานมาก
“ถ้าพวกคุณ 2 คนต้องกินอาหารกันตามลำพังในวันส่งท้ายปีมันคงจะเงียบเหงามากแน่ ๆ ค่ะ มากินอาหารกับพวกเราที่บ้านดีไหมคะ? ปีนี้มีหม้อไฟเนื้อแกะด้วยค่ะ มีคนเยอะจะได้คึกคัก” หลินชิงเหอกล่าว
คุณแม่เวิงรู้สึกหวั่นไหว หล่อนหันไปมองที่คุณพ่อเวิงพลางถามเขา “ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปร่วมโต๊ะกับพวกเขาด้วยในวันส่งท้ายปีดีไหมคะ?”
คุณพ่อเวิงรู้สึกอ่อนใจแล้วกล่าวขึ้น “ปีนี้กั๋วต้งจะกลับมานะครับ”
จริง ๆ เลย ภรรยาของเขาไม่ทำตัวเป็นคนอื่นคนไกลเลย พวกเขายังไม่ได้เป็นญาติกันสักหน่อย หากได้เป็นญาติกันแล้วคงจะไม่เท่าไหร่ แต่ในตอนนี้มันน่าอายจริง ๆ
“จริงด้วย กั๋วต้วกำลังจะกลับมา ฉันเกือบจะลืมเขาไปเลยค่ะ” คุณแม่เวิงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ในตอนนี้
“ถ้าอย่างนั้นก็พากั๋วต้งมาด้วยสิคะ” หลินชิงเหอเอ่ย “ฉันยังไม่เคยเจอเขาเลย”
“รอให้ถึงวันปีใหม่ก่อนดีกว่าครับ แล้วเราจะได้พาเขามาอวยพรปีใหม่พวกคุณด้วย” คุณพ่อเวิงเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
หลินชิงเหอไม่ได้แสดงความเห็น แค่กล่าวว่า “ตกลงค่ะ งั้นพวกเราจะอยู่ที่บ้านกัน จะมาตอนไหนก็ได้ค่ะ”
“วันที่ 2 น่าจะดีกว่า วันที่ 1 คุณคงยุ่งมาก” คุณพ่อเวิงตอบ
“เป็นวันนั้นก็ได้เหมือนกันค่ะ” หลินชิงเหอพยักหน้า ในวันที่ 1 พวกพนักงานจะมาที่นี่ ที่บ้านคงค่อนข้างวุ่นวายทีเดียว เช่นนั้นก็เป็นวันที่ 2
โจวชิงไป๋เป็นคนขับรถ เขาไม่ได้คัดค้านอะไรในเรื่องนี้ ภรรยาของเขาสามารถตัดสินใจได้
หลังจากส่งคุณพ่อเวิงและคุณแม่เวิงที่บ้านแล้ว พวกเขาก็ขับรถกลับบ้าน
หลินชิงเหอเอ่ยว่า “ผลของการแช่บ่อน้ำพุร้อนนี่ดีจริง ๆ เลยนะคะ”
เธอรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว
“ในเมื่อทางนั้นสร้างบ่อน้ำพุร้อนขึ้นมา อีกหน่อยที่อื่น ๆ ก็จะสร้างขึ้นมาด้วยเหมือนกัน บางทีมันอาจจะอยู่ไม่ไกลเกินไปนักนะครับ” โจวชิงไป๋พูด
การขับรถในฤดูหนาวต้องใช้ความเร็วต่ำ ดังนั้นมันจึงดูเหมือนอยู่ไกลไปสักหน่อย
แม้มันจะอยู่ไกล ผู้คนจำนวนมากก็ยังไปที่นั่นเพื่อแช่บ่อน้ำพุร้อน ผู้คนสามารถมองเห็นได้ว่าธุรกิจประเภทนี้เป็นอย่างไร และด้วยเหตุที่มันเป็นช่วงปีใหม่ พวกเขาจึงขึ้นราคาค่าธรรมเนียม ในตอนต้นปียังมีราคาเพียงแค่ 10 หยวนเท่านั้น แม้แต่ในตอนนั้นท่านแม่โจวก็ยังรู้สึกว่ามันแพงเกินไป
ตอนนี้มันขึ้นราคารวดเดียวไปเป็น 20 หยวนต่อคน ซึ่งเท่ากับขึ้นเป็น 2 เท่า
จากการพัฒนาในปัจจุบันของปักกิ่ง ในอนาคตจะต้องมีบ่อน้ำพุร้อนแห่งอื่น ๆ เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน
เป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้วในตอนที่พวกเขากลับมาถึงบ้าน แถมไม่มีใครอยู่บ้านเลย หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋กินอาหารมาจากที่บ่อน้ำพุร้อนแล้ว พวกเขาจึงไม่ต้องการจะกินอีก
ทั้งคู่ออกไปข้างนอกกันมาทั้งวัน ดังนั้นพวกเขาจึงกลับเข้าห้องเพื่อไปพักผ่อนกันก่อน ระหว่างนั้นพวกเขายังได้ทำภารกิจสำคัญในการผลิตลูกจนเสร็จสิ้นอีกด้วย
…………………………………………………………………………………….