บทที่ 641 ตั้งใจสอน
ที่จริงร้านของกังจือก็ไม่ได้แย่อะไรนัก อยู่ใกล้กับถนนการค้าของที่นี่ ประเด็นคือมันเล็กเกินไปหน่อย และราคาก็ไม่ถูกด้วย ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่ลังเลตัดสินใจไม่ได้แบบนี้หรอก
เงินที่กังจือจ่ายไปนั้นเป็นเงินเก็บของเขาเจ็ดส่วนแล้ว เขามารับโฉนดที่กรมที่ดิน จากนั้นโฉนดที่ดินของร้านค้าเล็ก ๆ นี้ก็มาอยู่ในมือของเขา
แม้ว่ามันจะค่อนข้างแพงอยู่บ้าง แต่ตอนที่กังจือรับโฉนดที่ดินนี้มา ใบหน้าของเขาก็ฉายแววดีใจจนปิดไม่มิด
เขาได้เป็นคนปักกิ่งแล้ว จ่ายเงินค่าย้ายทะเบียนบ้านเหล่านั้นแล้วด้วย สิ่งที่เขาต้องการที่สุดก็คือเป็นเหมือนกับพี่ชายใหญ่ของเขา คือซื้อร้านที่นี่และหลังจากนั้นก็หาภรรยาสักคน
ก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าที่จะคิด แต่ตอนนี้ทะเบียนบ้านของเขาบอกว่าเขาเป็นคนปักกิ่งแล้ว งั้นเขาก็ลองที่จะคิดดูได้
สิ่งที่เขาอยากซื้ออย่างแรกก็คือบ้าน น้าสะใภ้เขาเคยพูดถึงบ้านแบบอาคารพาณิชย์ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มี ถึงมีแต่มันก็ยังไม่ถึงทีของเขา จึงไม่ต้องรีบร้อน
อย่างการที่เขาซื้อหน้าร้านนี้มา เขาก็รู้สึกได้เป็นเจ้าของด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองแล้ว
ตอนที่กลับบ้านมาตอนเย็น หลินชิงเหอก็มองท่าทางของหลานชายที่ดูอิ่มเอมมีความสุขก็ยิ้มแล้วพูดว่า “มีความสุขสินะจ๊ะ”
“ดีใจมากครับ” กังจือยิ้มพูด
ตอนก่อนที่เขาจะมาไหนเลยจะคิดถึงเรื่องพวกนี้ได้? เขาคงจะรอเก็บเงินจากที่นี่ จากนั้นก็กลับไปแต่งงานที่บ้านเกิดแล้ว
เรื่องอย่างอื่นเขาไม่กล้าคิดเลย แต่ตอนนี้แม้แต่ร้านของตัวเองก็มีแล้ว ดังนั้นทำไมเขาจะไม่ดีใจกันล่ะ
“ให้คนไปตกแต่งซ่อมแซมหน่อย แม้ว่าเธอจะไม่ได้เปิดร้านที่นั่น แต่ก็สามารถปล่อยให้เช่าได้ อย่าปล่อยทิ้งไว้ให้มันสกปรกนะจ๊ะ” หลินชิงเหอพูด
“ครับ พรุ่งนี้ผมจะซื้อของไปซ่อมเอง” ตัวเขาเองก็สามารถทำอะไรพวกนี้ได้ เนื้อที่ร้านมีแค่ 20-30 ตารางเมตรเอง เขาคนเดียวไปทำเองก็เพียงพอแล้ว
“ให้หู่จือไปเป็นลูกมือช่วยด้วยสิจ๊ะ” หลินชิงเหอพูด
“ก็ได้เหมือนกันครับ เดี๋ยวอีกสักพักถ้ากินข้าวเสร็จแล้ว ผมจะไปหาพี่ใหญ่” กังจือพยักหน้าพูด
สองพี่น้องหู่จือกับกังจือย่อมมีอนาคตที่คุ้มค่าแก่การรอคอยรออยู่อย่างแน่นอน ขอเพียงไม่เลือกเดินทางผิด ต่อไปพวกเขาจะต้องได้ดีแน่
โจวกุยหลายพอได้วันว่าง เขาก็ตัดสินใจไปเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง
เจียงเหิงนั้นมีความสามารถในการดูแลจัดการที่ดีมาก จนถึงตอนนี้เขาดำเนินกิจการร้าน 2-3 สาขานี้ได้ไม่เลวเลยทีเดียว
โจวกุยหลายมาจัดการบัญชีแล้วก็พูด “คุณหาเวลาว่างไปสอบใบขับขี่ด้วยนะ หลังจากนี้ผมจะขนชามาที่นี่ คุณก็ต้องไปรับที่สถานีรถไฟ ครั้งต่อไปผมหวังว่าจะเห็นคุณมีใบขับขี่แล้วนะครับ”
เจียงเหิงรับปาก
ต่อมาโจวกุยหลายก็ทดสอบพนักงานคนอื่นต่อ ยังมีบางคนที่รับมาหลังจากที่เขากลับปักกิ่งไปแล้วด้วย ซึ่งโจวกุยหลายก็ต้องทดสอบพวกเขาทั้งหมดพวกเช่นกัน
ในนั้นมีสองคนที่โจวกุยหลายไม่ค่อยจะพอใจนัก “พวกคุณสองคนทดลองงานมา 1 สัปดาห์แล้ว ถ้า 1 สัปดาห์หลังจากนี้พวกคุณสามารถทำได้ ผมก็จะรับพวกคุณไว้ แต่ถ้ายังไม่สามารถทำงานได้อีก งั้นผมก็คงต้องหาพนักงานใหม่”
นอกจากสองคนที่ยังไม่ดีพอ พนักงานคนอื่น ๆ โจวกุยหลายก็แบ่งไปสับเปลี่ยนกับพนักงานเก่าของทั้งสามร้าน ให้พวกเขาเปลี่ยนไปทำในร้านใหม่
ในตอนแรกที่มาถึง โจวกุยหลายก็เปิดร้านชาใหม่อีก 2 ร้าน ยังไม่ทันจะถึง 2 วัน หม่าเฉิงหมินก็พาพนักงานมาอีก พร้อมทั้งนำเอาชามาด้วยอีกล็อตหนึ่ง
โจวกุยหลายใช้เวลาช่วงพักกินข้าวกลางวันโทรศัพท์หาพ่อกับแม่เขา
“ม้าครับ ผมอยากซื้อรถบรรทุกไว้ที่นี่สักคัน จะได้รับส่งชาสะดวก” โจวกุยหลายพูดผ่านสายโทรศัพท์
“ร้านที่นั่นของลูกทำกำไรได้แล้วเหรอ?” หลินชิงเหอพูดอย่างไม่พอใจนัก
กำไรเท่าไหร่กันคิดจะซื้อรถบรรทุกแล้ว?
“แม่อย่าดูถูกวัฒนธรรมการดื่มชาของที่นี่นะ ผมเคยเห็นตารางผลการทำธุรกิจของร้านมาแล้ว ตอนนี้เพียงเวลาสั้น ๆ สามเดือน ก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันมีแต่จะเพิ่มขึ้น” โจวกุยหลายพูด
พอไม่มีรถบรรทุกไว้รับส่งของ มันไม่สะดวกเลยจริง ๆ
“ที่นั่นมีอยู่กี่หยวน” หลินชิงเหอพูด
“ในบัญชีมีอยู่พอสมควรครับ พอที่จะซื้อรถบรรทุกได้คันหนึ่ง” โจวกุยหลายพูด
หลินชิงเหอจึงให้เขาไปซื้อได้ เนื่องจากการไม่มีรถบรรทุกส่งของมันไม่สะดวกจริง ๆ อีกทั้งที่เซี่ยงไฮ้ยิ่งลงทุนมากก็ยิ่งดีเช่นกัน
โจวกุยหลายดีใจมาก เขาพาเจียงเหิงไปซื้อรถบรรทุกด้วยกัน รถบรรทุกหนึ่งคันราคาประมาณ 20,000 หยวน ซึ่งโจวกุยหลายซื้อในนามของตัวเอง
ใบขับขี่ต่าง ๆ เขาก็พกมาด้วยแล้ว จึงขับพาเจียงเหิงออกมาได้เลย
เจียงเหิงรู้สึกนับถือเขามาก เขาไม่เคยคิดเรื่องการขับรถมาก่อน คิดไม่ถึงว่าเถ้าแก่ที่อายุน้อยกว่าเขา แต่กลับทำอะไรเป็นหมดเลย
“รถคนนี้ผมจะจอดไว้ที่บ้านผู้เฒ่าเจียง ต่อไปถ้าผมหรือว่าเฉิงหมินเอาสินค้ามาให้ คุณขับรถนี้มารับได้เลย” โจวกุยหลายพูดกับเขา
“พรุ่งนี้ผมจะไปสอบใบขับขี่ครับ!” เจียงเหิงพยักหน้าพูด
“ถ้าคุณไปทำมาแล้ว คุณสามารถเบิกค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งได้เลย” โจวกุยหลายที่ตั้งใจสอนเขาพูดขึ้น
เจียงเหิงรู้สึกว่าคุณปู่รองที่แนะนำงานนี้ให้เขานั้น เป็นงานที่ไม่เลวเลยจริง ๆ
โจวกุยหลายอยู่ที่นี่อีกอีกไม่กี่วันและเห็นร้านชาที่เปิดกิจการใหม่เป็นไปด้วยดี แม้ว่าจะไม่ใช่กิจการใหญ่โตอะไร แต่เขาก็ไม่กังวลใจเช่นกัน
ร้านชาที่ปักกิ่งของเขาเหล่านั้นก็ไม่ใช่กิจการใหญ่โตอะไรกันเช่นกัน แต่ปัจจุบันกิจการของร้านค้าร้านหนึ่งมันก็ดีขนาดไหนแล้ว? โดยเฉพาะในปีนี้ การเติบโตทางธุรกิจมีแต่จะเพิ่มสูงขึ้น
ทำเลของร้านชาที่นี่ก็ดีมากทุกที่ โจวกุยหลายจึงไม่จำเป็นต้องกังวล เงินลงทุนในตอนแรกหลังจากจะนี้จะสามารถคืนทุนได้อย่างแน่นอน
และเขาก็ขับรถบรรทุกมาที่บ้านของผู้เฒ่าเจียงและยายเฒ่าเจียงทางนี้แล้ว
“คุณตาเจียงครับ คุณยายเจียงครับ รถคันนี้ผมขอจอดไว้หน้าประตูบ้านพวกเรานะครับ ถ้าเจียงเหิงจะขับก็ให้เขาขับไปได้เลย” โจวกุยหลายพูด
“จอดไว้ที่นี่ก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนกล้ามาใช้วิธีสกปรกหรอก” ผู้เฒ่าเจียงพยักหน้าพูด
คนในพื้นที่นี้มีใครไม่รู้ว่าลูกชายของเขาเป็นผู้ว่าการในเขตนี้ มีใครบ้างจะกล้าลองดี?
“ครั้งที่แล้วตอนเจียงเกิงกลับมา ฉันเห็นเหมือนเขาจะสูงขึ้นไม่น้อย เขาบอกว่าไปหาพวกเธอทีไร พวกเธอก็ทำซุปไก่ตลอดเขาทานตลอด” ยายเฒ่าเจียงพูดยิ้ม ๆ
“พวกผมไม่ได้ทำให้เขาโดยเฉพาะหรอกครับ เขาไม่มาพวกผมก็ทำกินกันปกติอยู่แล้ว พอเขามาเขาก็พลอยได้ลาภปากไปด้วย” โจวกุยหลายยิ้มพูด
ยายเฒ่าเจียงพูด “นั่นก็ถือว่าดูแลเขาอยู่ดีแหละจ้ะ ฉันเหมือนเห็นเขาไม่ค่อยอยากจะกลับมาเซี่ยงไฮ้เท่าไรแล้ว อยู่ที่โน้นคงจะมีความสุขมากแน่ พูดไปแล้วฉันก็ยังไม่ได้ไปดูเรือนสี่ประสานที่ปักกิ่งของพวกเธอเลย ฉันกับตาเจียงน่ะนะวางแผนว่าจะไปดูกันเมื่อไหร่อยู่เชียว”
“ต้องวางแผนอะไรอีกครับ เอารถคันนี้ผมไปจอดไว้ใต้ตึกของน้าเซวีย ตอนผมกลับไปพวกคุณยายก็กลับไปพร้อมกับผมก็ได้ จะได้ไม่ต้องกังวลอะไรด้วย” โจวกุยหลายพูด
ยายเฒ่าเจียงก็รู้สึกว่าเป็นความคิดที่ไม่เลวเช่นกัน จึงมองไปที่สามีของตัวเอง
“เธอกลับไปก่อนเถอะ วันมะรืนต้องไปเก็บค่าเช่าร้านอีก ฉันเก็บค่าเช่าเสร็จแล้วจะไปกับยายเฒ่าเจียงของเธอเอง” ผู้เฒ่าเจียงพูด
โจวชิงไป๋ที่ฝากฝังห้องของเขาไว้ ตอนนี้ปล่อยเช่าไปแล้วทั้งหมด เขาจะต้องไปเก็บค่าเช่าตามเวลาทุกเดือน เก็บเสร็จก็นำไปฝากไว้ในบัญชี สะดวกมาก อีกทั้งยังไม่ยุ่งยากด้วย มีเรื่องอะไรให้ทำเขาก็รู้สึกดีไม่เลว
“งั้นไปเก็บก่อนก็ได้ครับ บอกกับพวกเขาว่าอีกสองวันมีธุระไม่ว่าง เดือนถัดไปค่อยเก็บตรงตามที่กำหนดก็ได้”
“นี่ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง” ตาเฒ่าเจียงพูด
“ก็แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเอง อีกทั้งห้องที่ให้เช่ายังถูกกว่าคนอื่นด้วย มีอะไรไม่ดีกัน” ยายเฒ่าเจียงพูด นางรู้สึกว่าความคิดนี้ไม่เลวนัก
นั่นทำให้ผู้เฒ่าเจียงไปเก็บค่าเช่าก่อนกำหนดมาแล้วทุกที่ พอตกเย็นพวกเขาก็มากินข้าวกันที่นี่ กินเสร็จโจวกุยหลายก็ขับรถมาจอดไว้ที่บ้านของน้าเซวียเหม่ยลี่กับผู้ว่าการเจียงแล้ว
…………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ค่อย ๆ ฝึกไปเดี๋ยวก็จะเป็นงานเองค่ะเจียงเหิง ยิ่งอยู่ตำแหน่งสูงยิ่งต้องทำงานให้เป็น
ช่วงนี้ฝนตกตลอดเลยค่ะ ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
ไหหม่า(海馬)