ราชินีพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 66 เจียงหลี เจ้ากล้าหรือ!
อะไรกัน!
เย่ว์หนานซีตาเบิกโพลง มองกรงเล็บที่แหลมคมพุ่งเข้าหาตัวเอง เขามองเจียงหลี รู้สึกได้ถึงความเย็นชาในดวงตาที่สดใสของนางอย่างชัดเจน แล้วยังมีความเหยียดหยามอยู่ด้วย
ราวกับว่านางเพียงใช้สายตาแบบนี้ก็สามารถบอกให้คนอื่นรู้ว่านาง เจียงหลีคือผู้เก่งกาจที่แท้จริง ส่วนเย่ว์หนานซีเทียบนางไม่ได้เลย!
ยังมีวิญญาณยุทธ์ของนางอีก
“วิญญาณยุทธ์เลี่ยเทียนซื่อ!” หนานอู๋เฮิ่นพูดเสียงทุ้มด้วยแววตาเป็นประกายอย่างดีใจ
การปรากฏของวิญญาณยุทธ์เลี่ยเทียนซื่อ ทำให้พวกเขาทั้งสามคนเคร่งขรึมขึ้นมา เดินไปข้างหนานอู๋เฮิ่นแล้วตั้งใจดูการประลองบนเวที
นี่มันคือพลังอะไรกัน ทำไมถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้! ความตะลึงในแววตาของเย่ว์หนานซียิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เขารับรู้ได้ถึงทักษะการต่อสู้โดยกำเนิดของเจียงหลี ทำให้ทักษะการต่อสู้โดยกำเนิดของตัวเองด้อยลงทันที
ตูมมม
กรงเล็บที่รวมเป็นหนึ่งกับมือที่เรียวเล็กของเจียงหลี เย่ว์หนานซีเห็นมันพุ่งไปที่หน้าอกของเขาด้วยอย่างช้าๆ ชัดๆ
ถึงแม้ว่าจะช้าเพียงใด แต่เย่ว์หนานซีกลับรู้สึกว่าตัวเองไม่มีทางหลบได้ ทำได้เพียงมองกรงเล็บที่แหลมคมนั้นเข้ามาโจมตีที่หน้าอกของตน
แคว่กๆๆ
ตรงหน้าอกของเสื้อเย่ว์หนานซีถูกข่วนจนขาด ตำแหน่งของกระดูกหน้าอกเว้าลึกลง เลือดค่อยๆ ไหลออกมาจากเสื้อ
เขากระเด็นเหาะไป กระอักเลือดแล้วร่วงลงมาที่พื้น
เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! ข้าเป็นหลิงซื่อระดับหก ไม่มีทางที่จะไม่มีกำลังตอบโต้นาง! ข้าก็ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ทักษะการต่อสู้โดยกำเนิดแล้วนี่! เย่ว์หนานซีที่เหาะลอยไปตาเบิกโพลง ไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เมื่อรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง ทำให้เขาเริ่มโกรธขึ้นมา
วันนี้เขามาเพื่อลบล้างความอับอาย ไม่ใช่มาเพื่อให้เจียงหลีเหยียดหยามเขาอีก! ฆ่านาง! ฆ่านาง! ต้องฆ่านางให้ได้!
“หลิงซื่อระดับหกงั้นหรือ เหอะ” น้ำเสียงเจียงหลีเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย เข้าหูของเย่ว์หนานซี
คำสั้นๆ เพียงเจ็ดคำ เหมือนกับกำลังทำลายสติปัญญาที่เหลืออยู่ของเขา
เขาอยู่บนเวทีการประลอง ถูกเจียงหลีโจมตีอย่างต่อเนื่องจนถอยหลัง เย่ว์หนานซีคล้ายจะได้ยินเสียงกระซิบคุยกันจากด้านล่างเวที สายตาที่คนเหล่านั้นมองตน เป็นสายตาที่เหยียดหยาม
นี่คือการประลองชิงเจียว ควรเป็นเวลาที่สร้างชื่อเสียงให้เขาถึงจะถูก
พังแล้ว! ทุกอย่างพังหมดแล้ว!
ถูกเจียงหลีทำพังหมดแล้ว!
“นี่คือการแก้แค้นที่เจ้าทำร้ายข้าในวันนั้น เจ้ายอมหรือยัง!” ทันใดนั้น เจียงหลีก็พูดอีก
การตัดสินที่ได้เปรียบเช่นนั้น ท่าทางราวกับเป็นราชินีผู้โอหัง ทำให้ผู้คนด้านล่างเวทีตกตะลึง
คาดไม่ถึงว่าสาวใช้ตัวน้อยๆ จะมีพลังมากขนาดนี้ แท้จริงแล้วนางเป็นใครกัน ตระกูลลู่เก่งกาจถึงขั้นสามารถฝึกฝนสาวใช้คนหนึ่งให้ประสบความสำเร็จได้เช่นนี้เชียวหรือ
“ท่านแม่!” เจียงอวี๋จับแขนแม่ด้วยความกังวล มือไม้สั่น
“ไม่ต้องกลัว นางโชคดีแค่ตอนนี้แหละ นางไม่มีทางชนะหรอก ไม่มีทาง” นางเหอซื่อสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เหมือนกับกำลังปลอบใจลูกสาว และเหมือนปลอบใจตัวเองด้วย
จากที่ไกลๆ ท่ามกลางคนตระกูลเย่ว์ รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่ว์ชิงหลิวหายไป เขามองไปที่เวทีการประลอง แววตาลุกเป็นไฟ ถ้ากฎกติกาอนุญาตล่ะก็ เขาแทบจะอยากลงสนามไปสู้แทนลูกชาย เพื่อล้างความอับอายให้ตระกูลเย่ว์
“นายท่าน”
คนตระกูลเย่ว์คนอื่นอยู่ไม่เป็นสุขอีกครั้ง ความมั่นใจไม่ได้มั่นคงเหมือนเดิมอีกแล้ว
“ดูไปก่อน” เย่ว์ชิงหลิวซ่อนมือที่กำหมัดแน่นและมีพลังที่แผ่วเบาไว้ในแขนเสื้อ เหมือนดั่งอสรพิษที่พร้อมจู่โจมตลอดเวลา
เย่ว์หนานซีมือหนึ่งปิดบาดแผลที่หน้าอก อีกมือหนึ่งดันพื้นแล้วลุกขึ้นยืน หน้าซีดเซียว มุมปากยังคงมีรอยเลือดเหลืออยู่ พลังของเขาทรุดลง ราวกับจะสลายไปได้ทุกเวลา
สายตาของเขาดั่งมีดอันแหลมคม มองเจียงหลีด้วยสีหน้าโหดเ**้ยมอำมหิต ความเคียดแค้นปรากฏขึ้น “คนอย่างเจ้าน่ะหรือ กล้ามาสั่งสอนข้า”
เจียงหลียิ้ม “ความสามารถของเจ้า กลับไม่เก่งกาจเหมือนปากของเจ้า”
“ไม่เจียมตัว!” เย่ว์หนานซีตะโกนเสียงดัง
ความรู้สึกอับอายที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เขาใช้พลังอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่วิญญาณยุทธ์ของเขาก็ได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของเขาจนบ้าคลั่งขึ้นมา
โกรธเถอะ โกรธเข้าไป มีเพียงความโกรธ ถึงทำให้คนขาดสติได้ มองดูเหยื่อที่ติดกับของตนค่อยๆ เดินเข้ามา รอยยิ้มที่คลุมเครือปรากฏขึ้นที่มุมปากของเจียงหลี
ในการประลองชิงเจียว ฆ่าคนไม่ได้?
แล้วถ้าหากว่ามีคนอยากฆ่านางล่ะ
ตั้งแต่เย่ว์หนานซีขึ้นเวทีมา ก็เผยให้เห็นจิตที่อยากจะสังหารนาง หรือว่านางจะปล่อยไปก่อน รอให้เขาฝึกพลังให้เก่งมากกว่านี้ แล้วมาฆ่าตัวเอง?
โง่หรือเปล่า!
จัดการกับวิกฤตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นทั้งหมดให้สิ้นซาก ถึงจะเป็นวิถีของเจียงหลี!
“เจียงหลี ตายซะเถอะ! วันนี้เจ้าต้องหลั่งเลือด!” เย่ว์หนานซีตะโกนด้วยความโกรธแล้วใช้พลังวิญญาณยุทธ์
อ้ากกก
วิญญาณยุทธ์ด้านหลังเขาคำรามด้วยความโกรธใส่ท้องฟ้า ลมปราณในร่างกายแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้แต่พลังของเย่ว์หนานซีก็เพิ่มขึ้นด้วย
เจียงหลีแววตาแวววาว มองออกในทันทีว่านี่คือทักษะเพิ่มพลังในการต่อสู้
จากที่ไกลๆ เย่ว์ชิงหลิวเห็นเย่ว์หนานซีใช้ทักษะการต่อสู้โดยกำเนิด สีหน้าผ่อนคลายลงแล้วยิ้ม พูดอย่างแน่ใจว่า “หนานซีชนะแน่”
“นายท่าน ข้าเห็นวิญญาณยุทธ์ของเจียงหลีก็ไม่ธรรมดา ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นวิญญาณยุทธ์ขั้นไหนกัน” มีคนพูดขึ้นข้างๆ
เย่ว์ชิงหลิวสายตาจ้องมองพลังเลี่ยเทียนซื่อที่รุนแรงนั้น
วิญญาณยุทธ์นี้ เขาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน พลังที่แข็งแกร่งนั้น แม้แต่เขาก็รู้สึกหวาดกลัว
แต่ว่า
เขาพูดยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่า “ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณยุทธ์อะไร นางก็ต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!”
“เจ้าต้องหลั่งเลือด ตายซะเถอะ!” เย่ว์หนานซีตะโกนด้วยความโกรธอีกครั้งแล้วเข้าจู่โจมเจียงหลี
อ่า
พลังบนเวทีมากจนทำให้ผู้คนด้านหลังต่างพากันถอยออก หลีกเลี่ยงการโดนลูกหลง นึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นการต่อสู้ที่สุดยอดเช่นนี้ในการประลองชิงเจียว คุ้มค่าจริงๆ
“ฉีกเวหาาาา!”
เสียงอันไพเราะ ตะโกนคำที่โหดร้ายออกมา
หลังจากที่นางพูดจบ เขาหนึ่งเดียวบนหัวของเลี่ยเทียนซื่อก็ยาวขึ้นมาทันที เท้าทั้งสี่ของมันเหยียบบนพื้นเวทีอย่างมั่นคง พลังอำนาจทำลายล้างของเลี่ยเทียนซื่อ จู่โจมเข้ามาอย่างรวดเร็วจากทุกทิศทาง โดยมีเจียงหลีอยู่ตรงกลาง
ผู้ตรวจตราที่ดูแลการประลอง ตาเบิกโพลงแล้วกระโดดลงจากเวที หลบหนีการได้รับบาดเจ็บจากพลังของทั้งสองคน
ในขณะเดียวกัน เขาก็ฝืนยิ้มในใจ ผู้ที่เก่งกาจก็คือผู้ที่เก่งกาจ เพิ่งถึงระดับของหลิงซื่อ ก็สามารถปลดปล่อยพลังได้เช่นนี้
ตูมมม
เสียงระเบิดที่ดังมาก ดังมาจากบนเวทีการประลอง
คลื่นพลังที่บ้าคลั่งทั้งสองคลื่นเข้าปะทะกัน ผู้คนที่อยู่ด้านล่างเวทีได้เห็นวิญญาณยุทธ์ของเจียงหลี พลังที่โหดร้ายที่ฉีกวิญญาณยุทธ์ของเย่ว์หนานซี ทำให้พวกเขาส่งเสียงร้องว่าสงสารเย่ว์หนานซี
“พระเจ้า! สู้กันจนเป็นแบบนี้เลย!” ผู้คนต่างตะลึง
“เจ้าไม่ยอม ข้าก็จะสู้กับเจ้าจนกว่าเจ้าจะยอม!”
พลังสลายไป ผู้คนเห็นทุกอย่างบนเวทีอย่างชัดเจน ก็เข้าใจคำพูดของเจียงหลีในทันที เย่ว์หนานซี ผู้เก่งกาจแห่งตระกูลเย่ว์ ตอนนี้ถูกสาวน้อยอายุสิบสองปีเหยียบย่ำตามอำเภอประหนึ่งกระสอบขาดๆ ใบหนึ่ง
ฟุบ
เย่ว์หนานซีถูกทุบอย่างแรงลงไปกับพื้น เจียงหลีมองเขาจากมุมสูงแล้วปรบมือ พูดถากถางว่า “สรุปว่าใครแพ้ ใครชนะกันเล่า”
พูดจบ นางก็หันหลังทำท่าเดินลงเวที ทำเหมือนไม่ได้ระวังหลัง
เจียงหลี! เย่ว์หนานซีจนตรอก ลำตัวและใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเลือด เขามองแผ่นหลังเจียงหลีอย่างโกรธแค้น ทันใดนั้นก็หยิบกริชที่ซ้อนไว้ออกมา พุ่งไปที่เจียงหลี
“หยุด!” ผู้ตรวจตราด้านล่างเวทีตะโกนขึ้นมา
ผู้คนด้านล่างเวทีก็เป็นกังวลขึ้นในทันที
แต่เจียงหลีเอียงตัวหลบการโจมตีของเย่ว์หนานซี ยกเท้าขึ้นเตะ ทำให้กริชในมือเขาร่วง มือซ้ายจับที่คอเสื้อของเย่ว์หนานซีแล้วกุมตัวเขาไว้ ในขณะเดียวกันก็หยิบกริชที่ลู่เจี้ยมอบให้นางออกมาจากหน้าอก
“เจียงหลี เจ้ากล้าหรือ!” เสียงตะโกนของเย่ว์ชิงหลิวดังมาแต่ไกล