ราชินีพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 217 ข้าจะฆ่าคนต้องหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยหรือ

ตอนที่ 217 ข้าจะฆ่าคนต้องหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยหรือ

ฟ้าเริ่มสว่าง หยาดน้ำค้างยังระเหยไปไม่หมด

อ้ากกก!

เสียงร้องคร่ำครวญดังมาจากห้องพักของเหล่าบรรดาลูกศิษย์แห่งสถาบันไป๋หยวน

เสียงนั้นก็ได้ทำลายความเงียบสงบไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างเดินออกจากห้องพักและล้อมหน้าประตูที่เกิดเหตุ

มีศพนอนจมกองเลือดอยู่ภายในห้อง น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

“หลบไป หลบไปให้หมด”

มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านนอก ทำให้ลูกศิษย์ที่ขวางประตูอยู่ถึงกับต้องถอยออกไป

“เป็นคนจากฝ่ายยุติธรรม รีบหลีกทางให้เร็ว” บรรดาลูกศิษย์ที่มามุงดูเหตุการณ์แอบกระซิบกระซาบ

หลังจากได้ยินเสียงนี้ หลายคนจึงรีบหลีกทางตรงบริเวณประตูให้ ขณะที่ ขบวนของฝ่ายยุติธรรมเดินเข้ามาอย่างเป็นระเบียบจากระยะไกล โดยผู้นำคืออาจารย์ที่ออกมาป้องปรามมิให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเจียงหลีและองค์ชายรองให้ทวีคูณมากยิ่งขึ้นในช่วงเดือนก่อนนั่นเอง

เวลานี้ สีหน้าของเขาจริงจังและเย็นชาเล็กน้อย

เขาพาผู้คนเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุและสายตาของเขาก็ดุร้ายขึ้นหลังจากเห็นศพในห้อง คาดไม่ถึงว่าจะมีคนแอบเข้ามายังสถาบันไป๋หยวนและสังหารศิษย์ของสถาบันแห่งนี้

นี่ถือเป็นการหยามเกียรติสถาบันไป๋หยวนอย่างแท้จริง!

“ปิดล้อมบริเวณห้องพักนี้และตรวจค้นอย่างละเอียด” เขาออกคำสั่งทันที

“ทำไมท่านหัวหน้าเจียงซย่าต้องลำบากเพียงนั้น” พอพูดถึงเพียงเท่านั้น เสียงแหบแห้งขององค์ชายรองเฉียนจวิ้นก็ดังมาจากนอกประตู

เจียงซย่าหันศีรษะมองไปรอบๆ และมองเห็นเฉียนจวิ้นค่อยๆ เดินเข้ามาพร้อมกับผู้สนับสนุนของเขา โดยมีโจวยวนที่รูปร่างอ้อนแอ้นและใบหน้างดงาม ทำให้ผู้คนรู้สึกอยากทะนุถนอมเป็นพิเศษ ซึ่งแตกต่างจากความงามแบบดิบเถื่อนของสตรีชาวซีเฉียน

“เฉียนจวิ้นหรือ” เจียงซย่าเขมวดคิ้ว “เจ้ารู้อะไรมาบ้าง” เขาได้ยินเบาะแสอะไรบางอย่างจากคำพูดของเฉียนจวิ้น

เฉียนจวิ้นยิ้มและแสดงอาการแปลกๆ ออกมาทางใบหน้าอันอ่อนโยนของเขา “ข้าไม่รู้อะไรเลย แต่บังเอิญมีพยานรู้เห็นสองคน”

“พยานบุคคลหรือ” ดวงตาอันดุดันของเจียงซย่ากวาดมองไปที่คนข้างๆ เขา

เมื่อเฉียนจวิ้นถูกจากเจียงซย่าจับตามองเช่นนี้ ก็มิได้โกรธเคืองอะไร และหันไปพูดกับผู้สนับสนุนที่ติดตามอยู่ด้านหลังเขาเท่านั้น “ยังไม่ออกมาอีก เล่าทุกอย่างที่เห็นให้แก่ท่านหัวหน้าเจียงซย่าฟังเร็ว”

“ขอรับ! ”

“ขอรับ…”

พวกเขาทั้งสองเดินออกมาและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่พวกเขาเห็น

“ท่านหัวหน้าเจียงซย่า ทังจงเฉามิได้ถูกฆ่าโดยคนนอก คนที่ฆ่าเขา ท่านก็เคยพบเจอมาก่อน คือหญิงสาวชุดดำที่บาดหมางกับเขาและเพิ่งมาใหม่เมื่อเดือนก่อนขอรับ”

“ใช่! เมื่อคืนหลังจากฝึกฝนเรียบร้อยแล้ว พวกข้ายังไม่ง่วงนอน เลยออกไปเดินเล่นกัน และเห็นนางบุกเข้าไปในห้องของทังจงเฉา ก็สงสัยกันอยู่ว่านางมาทำอะไรที่นั่นดึกดื่น ทันใดนั้น พวกข้าก็ได้ยินเสียงของหนักตกลงสู่พื้น เมื่อรับรู้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติไป จึงรีบเข้าไปดูและเห็นทังจงเฉานอนจมกองเลือดและหยุดหายใจแล้วขอรับ”

ใบหน้าของเจียงซย่าตึงเครียดทันที นัยน์ตาดุจอินทรีจ้องไปยังพยานทั้งสอง

วันนั้น ทังจงเฉาผู้นี้เป็นชายที่ประจบเอาใจโจวหยวน แต่หลังจากที่เฉียนจวิ้นปรากฏตัว เขาก็หยุดการกระทำดังกล่าว โดยละความตั้งใจเดิมที่มีต่อโจวยวน

และพยานสองคนนี้คือสองคนที่ล้อมโจวยวนไว้ในวันนั้น

“พวกเจ้าเห็นเหตุการณ์นี้ตั้งแต่เมื่อคืน เหตุใดจึงไม่รีบรายงาน” เจียงซย่าถามอย่างเด็ดขาด

ทั้งสองแอบสบตากันอย่างลับๆ และก้มศีรษะให้ต่ำลง

หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “ข้า… พวกข้ากลัวหาเรื่องใส่ตัวขอรับ”

“เช้านี้ หลังจากพบศพของทังจงเฉา พวกข้าถึงเล่าเรื่องนี้ให้แก่องค์ชายรองฟัง และได้ขอคำปรึกษาจากท่าน แล้วรีบรุดมาที่นี่ขอรับ”

คำพูดของเขาทั้งสอง ดูเหมือนจะมิได้ผิดปกติอะไร

เป็นไปได้หรือไม่ที่เจียงหลีจะลงมือฆ่าทังจงเฉาจริงๆ เจียงซย่าครุ่นคิดในใจ ช่วงเวลานี้ พวกเจียงหลีทั้งสามสงบนิ่งมาก และฝึกฝนกันอย่างเงียบๆ โดยไม่ออกมาสร้างความเดือดร้อน จะฆ่าคนอย่างกะทันหันเช่นนี้ได้อย่างไร

โจวยวนซึ่งยืนอยู่ข้างๆ เฉียนจวิ้นเผยใบหน้าที่เย็นชา โดยไม่มีใครสังเกตเห็น เมื่อนางมองไปที่ศพของทังจงเฉา ก็ปรากฎความสุขลึกๆ ในดวงตาของนาง

“ท่านหัวหน้าเจียงซย่า เนื่องด้วยตอนนี้มีพยานบุคคลแล้ว พวกเราลองไปถามกันเถิด” เฉียนจวิ้นแนะนำด้วยรอยยิ้ม

ดวงตาของเจียงซย่าเป็นประกาย “ไปเป่ยย่วนกัน”

ที่พักของบรรดาลูกศิษย์ของสถาบันไป๋หยวนแบ่งออกเป็นสี่ทิศ คือ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศใต้และทิศเหนือ ซึ่งทังจงเฉาพักอาศัยอยู่ในหนานย่วนที่อยู่ทางทิศใต้ และที่พักทั้งหลายห่างกันด้วยระยะเดินทางหนึ่งก้านธูป

ขณะที่กลุ่มคนเดินเข้ามายังเป่ยย่วนอย่างยิ่งใหญ่ เจียงหลีก็เพิ่งจะฝึกฝนเสร็จ

เพียงแต่นางเพิ่งจะลืมตาขึ้น ก็มีเสียงดังมาจากด้านนอกประตู “เจียงหลี ออกมา! ”

เสียงของเจียงซย่าดังทะลุเข้ามาในห้อง ทำให้เจียงหลีขมวดคิ้วและเปิดประตูด้วยใบหน้าที่เย็นชาแล้วเดินออกไป ซึ่งเจียงเฮ่าและลู่เสวียนที่ตื่นตระหนกก็เปิดประตูออกมาจากห้องข้างๆ ทีละคนเช่นกัน และมองเห็นกลุ่มคนเดินเข้ามาอย่างมิได้เป็นมิตรเลย

“ฝ่ายยุติกรรมหรือ” เจียงเฮ่าประหลาดใจ เมื่อเห็นหน้าเจียงซย่าและคนอื่นๆ

ลู่เสวียนขมวดคิ้ว “ยามเช้าเช่นนี้ ฝ่ายยุติธรรมมาทำอะไรกัน”

“มีอะไรหรือ” เจียงหลีเปิดประตูและเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย โดยมิได้มีสีหน้ารู้สึกผิดอะไรเลย

เจียงซย่ามองไปที่นางโดยมองเข้าไปนัยน์ตาของนาง ไม่เพียงแต่นางจะไม่มีความผิดแล้ว นางยังมีท่าทางไม่สบอารมณ์กับการมาเยือนอย่างเอิกเกริกเช่นนี้อีกด้วย

ณ เป่ยย่วน ผู้คนจำนวนมากต่างพากันตื่นตระหนกและเดินออกมาทีละคน

“เกิดอะไรขึ้นหรือ”

“ข้าไม่รู้! ”

“ฝ่ายยุติธรรมทั้งหมดปรากฏตัวขึ้นต้องมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นแน่”

“…”

เหตุการณ์ทางหนานย่วนยังส่งมาไม่ถึงเป่ยย่วน ดังนั้น ลูกศิษย์ของทางเป่ยย่วนจึงมีสีหน้างงงวยและกวาดตามองฝ่ายยุติธรรมที่จู่โจมเข้ามาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

“เจียงหลี ข้าขอถามเจ้าที เจ้าเป็นคนฆ่าทังจงเฉาตายคาห้องพักเมื่อคืนใช่หรือไม่” เจียงซย่าเอ่ยถามตรงๆ

ความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาของเจียงหลี จึงเอ่ยถามว่า “ทังจงเฉาคือใคร”

“ไร้สาระสิ้นดี! อาหลีฝึกฝนตลอดทั้งคืนจะเอาเวลาที่ไหนไปฆ่าคน” พอเจียงเฮ่าได้ยินเพียงเท่านั้น ก็โมโหขึ้นมาทันทีและพูดปกป้องน้องสาวของเขา

“ใช่ ข้าก็เป็นพยานได้” ลู่เสวียนรีบลุกขึ้นยืน

“เพราะพวกเจ้ามีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน จึงเป็นไปได้ที่จะให้การเป็นเท็จ” เฉียนจวิ้นยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนแล้วกล่าวด้วยเสียงเรียบ

“กฎของสถาบันไป๋หยวน ห้ามฆ่าคนหรือไม่” เจียงหลีกล่าวอย่างกะทันหัน กลับทำให้ทุกคนประหลาดใจ

เจียงซย่าขมวดคิ้ว แต่ยังคงอธิบายว่า “ณ สถาบันแห่งนี้ การต่อสู้ตัวต่อตัวเท่านั้นที่จะสามารถฆ่าคนได้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องลงนามตามข้อตกลงไว้ก่อนล่วงหน้า”

เจียงหลีเลิกคิ้ว พยักหน้าช้าๆ และถามอีกครั้ง “มีใครเห็นข้าฆ่าคนแล้วหรือไม่” มิเช่นนั้น ฝ่ายยุติธรรมจะมาหานางได้หรือ

“พวกเขาทั้งสองคน” เจียงซย่ามิได้ปกปิดและชี้ไปที่เขาทั้งสอง

เจียงหลีมองตามทันที ใบหน้าอันแปลกประหลาดของทั้งสองกระโจนเข้าใส่ดวงตาของนาง นางไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับใบหน้าทั้งสองเลย แต่ทว่า…

เจียงหลีค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ทั้งสองคนอย่างช้าๆ

“เจ้า…เจ้าจะทำอะไร” คนทั้งสองนี้เป็นเพียงหลิงซื่อ แต่พวกเขาไม่ลืมว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคือหลิงเจี้ยง!

เจียงหลียิ้มให้พวกเขา และทันใดนั้นก็ปล่อยพลังวิญญาณอันโหดร้ายผสมกับพลังหมัดพุ่งเข้าใส่หน้าอกของหนึ่งในนั้น

ฉากนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เร็วเกินไปที่จะหยุดมัน

ฟิ้ว! คนที่ถูกโจมตีพุ่งขึ้นแล้วร่วงลงมา พ่นเลือดเต็มปาก และเมื่อเขาล้มลงกับพื้น เขาก็สิ้นลมหายใจไปเสียแล้ว

“เจียงหลี! ” เจียงซย่ามองไปที่นางทันที พลังวิญญาณปรากฏขึ้นทั่วร่างกายของนาง

เจียงหลียิ้มอย่างหยิ่งผยอง “ข้าเจียงหลี หากใครฆ่าคน ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยหรือ”

ราชินีพลิกสวรรค์

ราชินีพลิกสวรรค์

Status: Ongoing

หลังศึกใหญ่กับมู่เทียนอินร่างของ เจียงหลี ก็ถูกดูดเข้าไปในมิติอื่นจนเหลือเพียงวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในมิติเคว้งคว้างไร้ขอบเขต แม้จะมีเพียงวิญญาณอ่อนแอ แต่จิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของนางนั้นกลับไม่อนุญาตให้ตัวเองยอมพ่ายแพ้ นางจะต้องกลับไปให้ได้ เพื่อไปหาสหายสนิทของนางผู้นั้น…

ในสนามประลองยิ่งใหญ่แห่งแคว้นซูหนาน สถานที่ที่ชีวิตของทาสทั้งหลายมีค่าเท่าเศษธุลี สถานที่ที่มีไว้เพื่อให้ความบันเทิงกับบรรดาผู้สูงศักดิ์ และนาง เจียงหลี ก็ดันฟื้นขึ้นมาในร่างของนางทาสแห่งสถานที่นี้เสียได้!

โลกแปลกหน้าที่ยึดถือผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ หลิงซือ เนี่ยนซือ วิญญาณยุทธ์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเจียงหลี แต่นางคือผู้ใด นางคือราชินีผู้เก่งกล้าแห่งแคว้นกู่วูเชียวนะ ก็แค่ต้องฝึกฝนเบิกเนตรญาณด้วยร่างเด็กน้อยอ่อนแอ สถานะกลับตาลปัตรจากผู้สูงศักดิ์กลายเป็นทาสในเรือนของ ลู่เจี้ย ผู้ที่ได้รับฉายาหนุ่มรูปงามขี้โรค ไหนจะยังต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคนานัปการเพื่อหาหนทางกลับไปยังโลกเดิมของตนเองอีก เพียงเท่านี้เอง นางทำได้สบายอยู่แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท