ราชินีพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 236 ข้าจะกินเนื้อเจ้า

ตอนที่ 236 ข้าจะกินเนื้อเจ้า

ครืดๆ!

เสียงโซ่ดังขึ้นมาจากก้นบึ้งของทะเลเมฆหมอก

ลู่เสวียนมองย้อนกลับไปส่งสายตาให้เจียงเฮ่าท่ามกลางความมืดมน ทั้งสองต่างหยุดอยู่กับที่พร้อมกันเพื่อรอคู่ต่อสู้ปรากฏตัว

เจียงหลีที่อยู่บนหน้าผารู้สึกได้ว่าเชือกในมือมีการหยุดดึง นางจึงเงยหน้ามองมู่ชิงเกอ  หยุดแล้ว สงสัยคงเจอคู่ต่อสู้แล้วล่ะ 

 เชือกในมือข้าก็หยุดดึงไปแล้วเหมือนกัน  มู่ชิงเกอไกวเชือกในมือเบาๆ

เจียงหลีพยักหน้า ดวงตามองไปยังเหวลึกของทะเลเมฆหมอก

มู่ชิงเกอเฝ้าดูนางเยี่ยงนี้อย่างละเอียดรอบคอบยิ่งกว่าตอนที่นางทดสอบเสียอีก ทั้งยังรู้ด้วยว่านางมีความรู้สึกต่อทั้งสองคนที่กำลังอยู่ในทะเลเมฆ

มู่ชิงเกอยิ้มเงียบๆ เจียงหลีต่างกันกับนางที่มักจะเฉยชากับความรู้สึกแล้วยอมรับความจริงใจของคนได้ยาก ส่วนเจียงหลีตราบใดนางแน่ใจว่าอีกฝ่ายดูท่าทางไม่เลวนางก็พร้อมมอบความจริงใจให้อย่างกล้าได้กล้าเสีย หากเป็นคนดีก็คบต่อ หากเป็นคนเลวนางก็ไม่ปล่อยเอาไว้เช่นกัน

บางครั้งมู่ชิงเกอคิดเสมอว่าพวกนางสองคนสามารถล่มหัวจมท้ายร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันได้ นอกจากบุคลิกอุปนิสัยคล้ายกันแล้ว เจียงหลียังเป็นคนประเภทที่นางนึกอิจฉาด้วย

เงาร่างของทั้งสองค่อยๆ ปรากฏตัวบนสายโซ่ท่ามกลางมวลทะเลเมฆ

จากนั้นหลังคนที่ปรากฏตัวในคราวนี้กลับทำให้ลู่เสวียนชะงักงัน เจียงเฮ่าจึงหันไปมองเขาโดยไม่รู้ตัว

ดูเหมือนไม่มีใครคาดคิดว่าคนที่อยู่อีกฝั่งจะมาปรากฏตัวที่นี่ เมื่อเห็นลู่เสวียนสายตาก็พลันเย็นชาลง

 โจวยวน  ลู่เสวียนมองหญิงสาวตรงหน้าแล้วพึมพำเสียงเบา

โจวยวนยิ้มเย็นเยียบ  คิดไม่ถึงว่าจะเจอเจ้า สงสัยสวรรค์คงจะเมตตาข้ากระมัง  ขณะที่พูดอยู่นางเผยแววตาเกลียดชังอย่างปิดไม่มิดเลยสักนิด

 …  ลู่เสวียนนิ่งเงียบ

เขาเข้าใจที่โจวยวนจงเกลียดจงชังเขาแต่เขาก็ไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำเหมือนกัน

หลายครั้งการตัดสินใจของผู้ที่อยู่เหนืออำนาจสามารถเปลี่ยนผันชะตาชีวิตของผู้คนทั่วหล้า หากแม้นราชวงศ์ไร้ซึ่งความยำเกรงต่อตระกูลลู่ ถึงอย่างไรตระกูลลู่ยังยืนหยัดด้วยลำแข้งของตนเองได้ ดั่งเช่นที่แผ่ไพศาลทั่วแผ่นดินหนานฮวงอันยิ่งใหญ่เยี่ยงนี้ อีกทั้งที่ผ่านมาระหว่างเขากับโจวยวนนั้นเขาเคยมีความรู้สึกดีที่คลุมเครือต่อสตรีแน่งน้อยผู้นี้ เขารู้สึกว่านางสวยหยาดฟ้ามาดินแต่ก็มิสูญสิ้นความน่ารัก แม้จะเอาแต่ใจแต่กลับใจดีมีเมตตา

แต่ตอนนี้ล่ะ

ลู่เสวียนถอนหายใจ ทำได้เพียงพูดว่าโชคชะตากลั่นแกล้ง

ความเงียบของเขาทำให้โจวยวนฉายแววชิงชังชัดเจนยิ่งขึ้น คู่หูข้างกายของนางคือองครักษ์ยอดฝีมือที่เฉียนจวิ้นคัดเลือกมาจากวังหลวง หากต้องการฆ่าลู่เสวียนกับเจียงเฮ่า แน่นอนว่าไม่มีปัญหา

 ฆ่าพวกเขาให้ข้า  โจวยวนออกคำสั่งเสียงกร้าว

องครักษ์ยอดฝีมือแห่งแคว้นซีเฉียนผู้นั้นชักดาบพุ่งไปข้างหน้าลู่เสวียนโดยไม่มีความลังเลเลยสักนิด

โจวยวนกำลังยิ้มและรอยยิ้มนั้นช่างแสนเย็นชาและโหดเหี้ยม

ลู่เสวียนเกิดความสับสน เขามิสามารถเชื่อมโยงโจวยวนในตอนนี้กับหญิงสาวไร้เดียงสาตรงไปตรงมาเฉกเช่นเมื่อก่อนคนนั้นเข้าด้วยกันได้

ตึง!

เจียงเฮ่ายื่นมือเข้าขัดขวางการโจมตีของยอดฝีมือผู้นั้นเพื่อป้องกันลู่เสวียนให้พ้นจากคมดาบ ในขณะเดียวกันเขาก็ตะโกนเรียกลู่เสวียนดังลั่น  ลู่เสวียน ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดฟุ้งซ่าน 

นัยน์ตาของลู่เสวียนวูบไหว แววตาสับสนกลับมารวมกันอีกครั้ง เขามองไปยังโจวยวนเคร่งขรึมแล้วเข่นเขี้ยวเปิดฉากจู่โจม

หากผู้เข้าร่วมทดสอบตกรอบ ผู้ช่วยคู่ต่อสู้ก็ต้องตกรอบด้วยเช่นกัน

ต่อสู้กับองครักษ์ยอดฝีมือแห่งวังหลวงซีเฉียนบนหน้าผาที่คล้องโซ่ตรวนเช่นนี้ช่างไม่ฉลาดเอาเสียเลย และวิธีเอาชนะผู้ต่อสู้ที่เร็วที่สุดคือการเอาชนะผู้ทดสอบอย่างโจวยวน

สายตาจับอยู่ที่ลู่เสวียนที่พุ่งเป้าหมายมายังตนเอง โจวยวนแย้มยิ้ม รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความเวทนา เกลียดชังรุนแรงและเย้ยหยัน

ราวกับว่านางกำลังโทษตัวเองที่ตาบอดเคยตกหลุมรักศัตรูที่ฆ่ามารดาของตน

 ลู่เสวียน ข้าจะถ่วงเขาเอาไว้เอง เจ้ารีบจัดการโจวยวนซะ  ในระหว่างการต่อสู้ เจียงเฮ่าได้หันไปด้านหน้าของลู่เสวียนแล้วรับมือกับคนผู้นั้น

ในขณะที่กำลังพูดอยู่ เขาก็ได้ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมาเพื่อถ่วงองครักษ์ยอดฝีมืออย่างสุดกำลัง

ลู่เสวียนหรี่ตาหน้านิ่วคิ้วขมวดกลับทำให้ใบหน้าคร้ามคมชัดเจน เขาต่อสู้กับโจวยวนอย่างดุเดือดอีกทั้งยังไม่ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมา เพราะเขารู้ว่าโจวยวนมิใช่คู่ต่อสู้ของเขา

โจวยวนต่อสู้เพลี่ยงพล้ำ นางจึงโกรธแค้นในใจไม่มีที่สิ้นสุด

นางหันไปมององครักษ์ยอดฝีมือแต่กลับพบว่าเขาถูกเจียงเฮ่ารัดรึงอย่าแน่นหนา อย่างไรก็ไม่มีทางช่วยได้ทันแน่นอน

การประลองต่อสู้บนสายโซ่อันตรายอย่างยิ่ง หากเสียสมาธิเพียงนิดเดียวก็สามารถตกลงไปจากโซ่ได้อย่างง่ายดาย

โจวยวนถอยหนีอย่างรวดเร็วจนหลายครั้งเกือบลื่นตกลงไปจากโซ่

ตึงๆๆ!

เสียงอาวุธยังคงดังมาจากทะเลเมฆอย่างไม่ขาดสาย

ทะเลเมฆหนาบดบังรูปลักษณ์ที่แท้จริงของการต่อสู้จึงทำให้มองไม่เห็น

สวบ!

ปลายกระบี่ของลู่เสวียนชี้ไปที่ลำคอของโจวยวนแล้วหยุดเอาไว้ให้ห่างจากผิวหนังของนางอีกเพียงครึ่งนิ้ว

โจวยวนตัวแข็งทื่อมองเขาด้วยสายตารวดร้าวแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเบา  อาเสวียน เจ้าฆ่าแม้กระทั่งข้าหรือ เจ้าฆ่าข้าลงหรือ 

คำทักทายที่คุ้นหูทำให้ลู่เสวียนหวั่นไหว เก็บเรี่ยวแรงในมือคืนกลับมาไม่น้อย

แล้วในขณะนั้นเองความชั่วร้ายก็ปรากฏในแววตาของโจวยวน นางหลีกหนีคมกระบี่ของลู่เสวียนแล้วใช้อาวุธในมือทิ่มแทงไปยังตำแหน่งหัวใจของลู่เสวียนอย่างโหดเหี้ยม

การลงมือไร้ซึ่งความปราณี รวดเร็วเฉียบขาดราวกับว่าฝึกฝนในใจมาแล้วนับพันครั้ง

เมื่อหายนะมาเยือนตรงหน้า ดวงตาของลู่เสวียนหรี่ลงเบี่ยงหลบการจู่โจมที่หมายมั่นเอาชีวิต ร่างของทั้งสองสลับข้ามไปข้ามมาบนสายโซ่ เขาสามารถมองเห็นแววตาเกลียดแค้นชิงชังอย่างชัดเจนในระยะประชิด

ลู่เสวียนเม้มริมฝีปากแน่น ร่องรอยสุดท้ายของความอาลัยอาวรณ์ในดวงตาก็สลายหายไป

ปัง!

ลู่เสวียนลงมือแล้ว เขาเตะไหล่ของโจวยวนอย่างแรงจึงทำให้นางไถลตกจากโซ่ร่วงลงไปในเมฆหมอก

อ้ากกก!

โจวยวนที่ตกลงไปเปล่งเสียงอุทานออกมาอย่างตระหนก

องครักษ์ยอดฝีมือคิดจะช่วยแต่กลับช้าไปแล้วหนึ่งก้าว

 ลู่เสวีนนน! ข้าแทบรอไม่ไหวที่จะกินเนื้อเจ้า ดื่มเลือดเจ้า ข้าจะทำให้ตระกูลลู่ของเจ้าพังพินาศเพื่อมาสังเวยให้แก่เสด็จแม่ของข้า สังเวยให้แก่ราชวงศ์โฮ่วจิ้นของข้า! 

วาจาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังดังก้องท่ามกลางทะเลเมฆ

ผู้ช่วยคู่ต่อสู้ของนางพลันหายวับไปหลังจากนางตกหน้าแล้วถูกคัดออก

 เป็นเสียงของโจวยวน พวกเขาปะทะกับนางด้วยหรือ  หลังจากเจียงหลีที่อยู่ริมฝั่งหน้าผาได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความคับแค้นก็เงยหน้าขึ้นมาทันที

บนสายโซ่ท่ามกลางเมฆหมอก เจียงเฮ่าเดินมายืนเคียงข้างลู่เสวียนแล้วตบบ่าเขาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถาม  เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม 

ลู่เสวียนจ้องมองตำแหน่งที่โจวยวนตกลงไปแล้วส่ายหน้าช้าๆ

ผ่านไปสักพักเขาก็ค่อยๆ หันสายตากลับมามองเจียงเฮ่าด้วยสีหน้าอมทุกข์  พี่เฮ่า นางเกลียดข้าแค้นข้า แล้วเคยจำได้ไหมว่าราชวงศ์โฮ่วจิ้นทำอะไรกับตระกูลลู่ของข้า ฮ่องเต้โฮ่วจิ้นฆ่าคนที่ข้ารัก ข้าคิดจะโค่นล้มสายเลือดของเขา ข้าผิดด้วยหรือ 

เจียงเฮ่าสูดหายใจลึก ทำได้เพียงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง  เจ้าไม่ผิด นางก็ไม่ผิด มีเพียงทัศนคติและจิตใจมนุษย์เท่านั้นที่ผิด 

เช่นเดียวกับตระกูลเจียงของเขา บิดาของเขาแค่พูดเพื่อผดุงความยุติธรรมแต่กลับถูกทำลายล้างย่อยยับทั้งตระกูล ตระกูลเจียงของพวกเขาช่างไร้มลทินมัวหมองเหลือเกินถูกพรากผู้บริสุทธิ์ไปตั้งกี่ชีวิต

อำนาจของผู้เป็นฮ่องเต้อันสูงส่งถูกสลักสร้างขึ้นบนกระดูกส่วนลึก

ไม่มีผู้บริสุทธิ์บนโลก ผู้ที่ถูกดึงเข้ามาพัวพัน ทำได้แต่โทษตัวเองที่ไม่เข้มแข็งพอเท่านั้น

 ทัศนคติ? จิตใจมนุษย์?  ลู่เสวียนพึมพำในสิ่งที่เจียงเฮ่าเอ่ยออกมาแล้วจึงค่อยๆ เงยหน้ามองขึ้นไปบนยอดมวลเมฆหมอก ชั้นของละอองน้ำลอยคลอเบ้าแต่กลับไม่เคยร่วงผล็อยลงมา

 

ราชินีพลิกสวรรค์

ราชินีพลิกสวรรค์

Status: Ongoing

หลังศึกใหญ่กับมู่เทียนอินร่างของ เจียงหลี ก็ถูกดูดเข้าไปในมิติอื่นจนเหลือเพียงวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในมิติเคว้งคว้างไร้ขอบเขต แม้จะมีเพียงวิญญาณอ่อนแอ แต่จิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของนางนั้นกลับไม่อนุญาตให้ตัวเองยอมพ่ายแพ้ นางจะต้องกลับไปให้ได้ เพื่อไปหาสหายสนิทของนางผู้นั้น…

ในสนามประลองยิ่งใหญ่แห่งแคว้นซูหนาน สถานที่ที่ชีวิตของทาสทั้งหลายมีค่าเท่าเศษธุลี สถานที่ที่มีไว้เพื่อให้ความบันเทิงกับบรรดาผู้สูงศักดิ์ และนาง เจียงหลี ก็ดันฟื้นขึ้นมาในร่างของนางทาสแห่งสถานที่นี้เสียได้!

โลกแปลกหน้าที่ยึดถือผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ หลิงซือ เนี่ยนซือ วิญญาณยุทธ์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเจียงหลี แต่นางคือผู้ใด นางคือราชินีผู้เก่งกล้าแห่งแคว้นกู่วูเชียวนะ ก็แค่ต้องฝึกฝนเบิกเนตรญาณด้วยร่างเด็กน้อยอ่อนแอ สถานะกลับตาลปัตรจากผู้สูงศักดิ์กลายเป็นทาสในเรือนของ ลู่เจี้ย ผู้ที่ได้รับฉายาหนุ่มรูปงามขี้โรค ไหนจะยังต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคนานัปการเพื่อหาหนทางกลับไปยังโลกเดิมของตนเองอีก เพียงเท่านี้เอง นางทำได้สบายอยู่แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท