ราชินีพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 250 เทียบเชิญจากรัชทายาท

ตอนที่ 250 เทียบเชิญจากรัชทายาท

ลู่เจี้ยรู้สึกเย็นยะเยือกที่แผ่นหลัง เขาแอบใช้หางตาเหลือบมองสำรวจหญิงสาวที่เดินเคียงข้างเขาด้วยความไม่ชัดเจนบางอย่าง

สายตาที่เขาแอบมองสำรวจกลับได้รับสายตาคมกริบของเจียงหลีทำเอาเขาตกใจรีบหันกลับไป

เป็นอะไรกันอีกล่ะ ลู่เสวียนพึมพำในใจ นึกย้อนกลับไปอย่างถี่ถ้วนว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น

ใต้เท้าเงามาสถาบันไป๋หยวนแห่งซีเฉียนเพื่อหาเขา บอกเขาแล้วว่าพี่ชายกำลังอยู่ที่เมืองอู๋อิ๋น

ตั้งแต่บัดนั้นเขาจึงตามใต้เท้าเงามาเยี่ยมพี่ชายด้วย

ได้เจอกับพี่ชายแล้วแต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเจียงหลีที่ล่วงหน้ามาจะถึงที่นั่นก่อนเขาหนึ่งก้าว

แต่ที่เกือบทำให้แปลกใจมันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนั้น

ตั้งแต่ตอนนั้น เขารู้สึกว่าสายตาที่เจียงหลีใช้มองเขาราวกับจะฆ่าเขาก็มิปาน

 เอ่อ ซ้อเล็ก ข้าทำผิดอะไรต่อเจ้าหรือเปล่า  ไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดเจียงหลีถึงมองเขาอย่างกรุ่นโกรธเช่นนั้น ลู่เสวียนครุ่นคิดแล้วได้แค่ลองหยั่งเชิงถามอย่างระวัง

น่าเสียดาย วันนี้เขาเรียกนางว่า ‘ซ้อเล็ก’ ก็ไม่ได้ทำให้เจียงหลีมีสีหน้าสดใสขึ้น

เจียงหลีมองเขาอย่างเย็นชาแต่ในใจกลับมีไฟที่อยากปะทุออกมาแต่ก็หาข้ออ้างที่เหมาะสมไม่ได้ นางมิอาจบอกกับลู่เสวียนตามตรง จู่ๆ เขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาทำให้นางเสียเรื่องดีๆ ไป

เหอะๆ ยังต้องรักษายางอายเอาไว้บ้าง

 เจ้าทำผิดต่อข้าหลายเรื่องนัก  เจียงหลีปราดตามองเขาอย่างเย็นชา

 …  ลู่เสวียนทำหน้าฉงน

ทำไมตัวเขาเองถึงไม่รู้ว่าเคยไปทำผิดต่อเจียงหลีด้วยหรือ

แต่ทว่า เจียงหลีก็ไม่ได้อธิบายอีก ความคิดนางล่อยลอยไปถึงลู่เจี้ย เหตุการณ์ในจวนก่อนหน้านี้ หลังจากที่ลู่เจี้ยได้เจอกับลู่เสวียนแล้วบอกว่าอีกสองวันเขาก็จะไปแล้ว

หากจะต้อง ไปแน่นอนว่าต้องย้อนกลับไปที่จยาเซียน

นางเสนอให้กลับไปพร้อมกันแต่ลู่เจี้ยกลับปฏิเสธทันที ลู่เจี้ยที่ปฏิเสธนางด้วยท่าทางจริงจังและเคร่งขรึมซึ่งนางไม่เคยเห็นมาก่อน

และนางในตอนนั้นดูเหมือนว่ายังขุ่นเคืองในเรื่องก่อนหน้านี้ ดังนั้นนางจึงพูดอย่างเด็กเอาแต่ใจว่า ‘ไม่กลับก็ไม่กลับ ทำเหมือนข้าจะกลับไปง่ายๆ’

ลู่เจี้ยไม่ตอบรับ ผลักไสไล่ส่งนางกับลู่เสวียน

ตอนนี้คิดอย่างใจเย็น

ดูเหมือนนางจะหลงกลลู่เจี้ยเข้าแล้ว

เจียงหลีหยุดเดินกะทันหัน

ลู่เสวียนหยุดฝีเท้าตามอย่างแปลกใจแล้วหันมองนาง  มีอะไรหรือเปล่า 

เจียงหลีมองไปยังเขาด้วยแววตาเป็นประกาย จู่ๆ ก็ยิ้มให้จนลู่เจี้ยเย็นวาบไปทั้งร่าง  ลู่เสวียน เรากลับจยาเซียนกันเองดีหรือไม่ หากเจ้าไม่อยากกลับด้วยข้าก็จะกลับเอง 

 หา?  ลู่เสวียนมองนางอย่างตกใจ  พี่ใหญ่ให้พวกเราอยู่ฝึกฝนที่นี่อย่างสุขสบายมิใช่เหรอ 

เจียงหลีขมวดคิ้ว นางจะบอกเจ้าเด็กนี่อย่างไรดี พี่ชายของเขาอายุไม่ยืน นางอยากอยู่เคียงข้างเขาทุกช่วงเวลาไม่ได้หรือ

 เอาเป็นว่าเจ้าไม่กลับไปใช่ไหม หากเจ้าไม่ยอมก็ปิดปากเงียบซะ ข้ามิอนุญาตให้เจ้าแอบบอกข่าวพี่เจ้าว่าข้าจะไป  เจียงหลีข่มขู่ด้วยสีหน้าบึ้งตึง

นางอยากเกลี้ยกล่อมลู่เสวียนเพราะเกรงว่านางจากไปแล้วให้หลังเจ้าเด็กนี่จะแพร่งพรายความลับ

 เช่นนั้นก็ไม่ได้! ทางไกลขนาดนั้นจะให้เจ้าแอบกลับไปคนเดียวได้อย่างไร  ลู่เสวียนปฏิเสธแทบไม่คิด

แววตาของเจียงหลีเย็นเยียบ คิดอยู่ว่าจะฆ่าปิดปากดีหรือไม่

 หากเจ้าอยากไปจริงๆ ไอ้หยา ตายเป็นตายวะ ข้าจะไปกับเจ้าก็ได้!  โชคดีที่คำพูดนี้ของลู่เสวียน ‘ช่วย’ ชีวิตเขาให้รอดพ้นมาได้

พลันแววตาเฉียบคมของเจียงหลีหายไป นางยิ้มตาหยีให้พร้อมตั้งตบบ่าลู่เสวียนปุๆ  ดี! ไม่เลวนี่! มีอนาคตไกล 

 …  จู่ๆ ลู่เสวียนก็ถูกนางเอ่ยชมทำเอางงเป็นไก่ตาแตก

แต่เจียงหลีกลับเริ่มคิดแผนการไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว  ด้วยสติปัญญาหลักแหลมของพี่ชายเจ้า หลังจากที่ถูกเขาไล่ส่งไปแล้ว เราต้องทำเป็นไม่พอใจ อย่าให้เขาสงสัยได้ รอจนกว่าเขาจะออกไป บางทีอาจแอบส่งคนกลับมาจับตามองเราก็ได้ ฉะนั้นเวลาดีที่สุดที่เราจะออกไปคือสามวันหลังจากเขาออกเดินทาง! 

ลู่เสวียนมองนางอย่างตะลึง  เจ้า เจ้าวางแผนไว้หมดแล้วหรือ 

เจียงหลีกระตุกคิ้ว  ก็เปล่านี่! แต่ไม่รีบ ยังเหลืออีกหลายวัน ค่อยๆ วางแผนให้รอบคอบ ขอแค่พวกเรากลับไปถึงซั่งตู พอถึงตอนนั้นจะอยู่หรือจะไปเขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว!  เมื่อพูดจบดวงตาของนางก็เป็นประกายแน่วแน่

ความคิดที่จะต่อสู้กับลู่เจี้ยอย่างลับๆ เมื่อนึกถึงตัวเองตอนแอบกลับมาปรากฏตัวต่อหน้าลู่เจี้ย แววตาประหลาดใจและทำอะไรไม่ได้ของเขา เจียงหลีก็รู้สึกสุขใจจนไม่มีสิ่งใดเปรียบอีกแล้ว

นางก้าวเดินรวดเร็วตัวเบากว่าเดิม

จากนั้นระหว่างเดินกลับสถาบันไป๋หยวน พวกเขาสองคนกลับถูกขวางเอาไว้

 พวกเจ้าเป็นใคร  ลู่เสวียนยืนข้างกายเจียงหลี มองดูแขกไม่ได้รับเชิญทั้งสี่คนที่ขวางทางอยู่ข้างหน้า

อย่างระแวดระวัง

อีกทั้งสี่คนนี้ล้วนเป็นหลิงไซว่!

 เจ้าคือเจียงหลีใช่หรือไม่  ไม่มีใครสนใจคำถามของลู่เสวียน หลิงไซว่ที่อยู่ตรงกลางมองตรงมาที่เจียงหลี

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสี่คนมาเพื่อเจียงหลี

แววตาของเจียงหลีวูบไหว จู่ๆ ก็ยกยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น  ข้าคือเจียงหลี  ในเมืองอู๋อิ๋นมีไม่กี่คนที่สามารถระดมหลิงไซว่ถึงสี่คนมาเชิญนาง

คนแรกที่แทรกเข้ามาในความคิดของนาง ก็คือเฉียนจวิ้น องค์ชายรองที่มีความแค้นฝังหุ่นกับนางจากการสอบในคราวก่อน

 ในเมื่อไม่ผิดตัว เช่นนั้นก็ไปกับพวกข้าสักประเดี๋ยว  เมื่อยืนยันตัวตน เช่นนั้นหลิงไซว่ก็พูดอย่างไม่อ้อมค้อม

ใบหน้าเย็นชาทั้งสี่คนเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง สายตาดูถูกเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด

ดูเหมือนว่าการขอให้พวกเขาทั้งสี่คนมาหาเจียงหลีเป็นการกระทำที่ผิดต่อพวกเขาจริงๆ

 ทำไมต้องไปกับพวกเจ้าด้วย พวกเราเป็นถึงลูกศิษย์สถาบันไป๋หยวน พวกเจ้ากล้าดีอย่างไร  ลู่เสวียนเริ่มกระวนกระวาย

จากนั้นเขาจึงหันมาพูดกับเจียงหลีเสียงต่ำ  สี่คนนี้ดูก็รู้ว่ามิได้มาดี ไม่ต้องไปกับพวกเขา เดี๋ยวข้าจะหาวิธีสกัดพวกเขาไว้ ส่วนเจ้ากลับไปทางประตูขึ้นเขา ขอแค่กลับไปถึงสถาบัน พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรแล้ว! 

เจียงหลีมองเขาแฝงด้วยรอยยิ้ม คิดไม่ถึงเจ้าเด็กนี่ผ่านประสบการณ์มากมาย พอเจอปัญหาก็ไม่บุ่มบ่ามอีกแล้ว

แต่ว่าเขาเป็นแค่หลิงซื่อชั้นยอด จะสกัดหลิงไซว่สี่คนพร้อมกันได้อย่างไร

แล้วนางก็ไม่ใช่คนที่เอาแต่หลบซ่อนข้างหลังให้คนอื่นมาปกป้อง

เจียงหลีผลักลู่เสวียนและก้าวมาข้างหน้า ก่อนจะพูดกับสี่คนนั้น  เฉียนจวิ้นส่งพวกเจ้ามาใช่ไหม ทำไม เขาไม่ยอมแพ้หรือ อยากคิดบัญชีทีหลังนักใช่ไหม 

หลิงไซว่ทั้งสี่ยกยิ้ม รอยยิ้มนั้นทำเอาเจียงหลีถึงกับขมวดคิ้วและพึมพำในใจ หรือว่าข้าจะเดาผิด พวกเขาไม่ใช่คนของเฉียนจวิ้นหรอกหรือ

 สถานะเจ้านายของพวกข้านั้นสูงส่งกว่าเฉียนจวิ้นนัก  หลิงไซว่หนึ่งในนั้นเอ่ยโอ้อวด

เจียงหลีหรี่สายตา ครุ่นคิดในหัวอย่างรวดเร็ว

คนพวกนี้เรียกชื่อของเฉียนจวิ้นกันโต้งๆ เยี่ยงนี้เห็นได้ชัดว่ามิได้แยแสเฉียนจวิ้น อีกทั้งสถานะของคนเบื้องหลังพวกเขายังสูงส่งกว่าเฉียนจวิ้น ในซีเฉียน คนที่มีสถานะสูงส่งกว่าเฉียนจวิ้นยังมีอีกสองคน

คนแรกคือจักรพรรดิแห่งซีเฉียน ทั้งยังมีรัชทายาทแห่งซีเฉียนอีกหนึ่งคน

คนของจักรพรรดิไม่น่าทำตัวไม่เคารพเฉียนจวิ้นถึงเพียงนี้ ไหนบอกว่าเขาเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิอย่างไรล่ะ

เช่นนั้นก็เหลือแค่คนเดียว

รัชทายาทแห่งซีเฉียน เจียงหลีหรี่ตาทันที

………………

 

ราชินีพลิกสวรรค์

ราชินีพลิกสวรรค์

Status: Ongoing

หลังศึกใหญ่กับมู่เทียนอินร่างของ เจียงหลี ก็ถูกดูดเข้าไปในมิติอื่นจนเหลือเพียงวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในมิติเคว้งคว้างไร้ขอบเขต แม้จะมีเพียงวิญญาณอ่อนแอ แต่จิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของนางนั้นกลับไม่อนุญาตให้ตัวเองยอมพ่ายแพ้ นางจะต้องกลับไปให้ได้ เพื่อไปหาสหายสนิทของนางผู้นั้น…

ในสนามประลองยิ่งใหญ่แห่งแคว้นซูหนาน สถานที่ที่ชีวิตของทาสทั้งหลายมีค่าเท่าเศษธุลี สถานที่ที่มีไว้เพื่อให้ความบันเทิงกับบรรดาผู้สูงศักดิ์ และนาง เจียงหลี ก็ดันฟื้นขึ้นมาในร่างของนางทาสแห่งสถานที่นี้เสียได้!

โลกแปลกหน้าที่ยึดถือผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ หลิงซือ เนี่ยนซือ วิญญาณยุทธ์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเจียงหลี แต่นางคือผู้ใด นางคือราชินีผู้เก่งกล้าแห่งแคว้นกู่วูเชียวนะ ก็แค่ต้องฝึกฝนเบิกเนตรญาณด้วยร่างเด็กน้อยอ่อนแอ สถานะกลับตาลปัตรจากผู้สูงศักดิ์กลายเป็นทาสในเรือนของ ลู่เจี้ย ผู้ที่ได้รับฉายาหนุ่มรูปงามขี้โรค ไหนจะยังต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคนานัปการเพื่อหาหนทางกลับไปยังโลกเดิมของตนเองอีก เพียงเท่านี้เอง นางทำได้สบายอยู่แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท