สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่ 49 รองเท้าแตะคู่รัก

บทที่ 49 รองเท้าแตะคู่รัก

บทที่ 49 รองเท้าแตะคู่รัก

การตกปลานั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจสงบ แต่โห้หลีเฉินที่นั่งอยู่ข้างกายเย้นหว่าน รูปร่างสูงกำยำดูดีมีเสน่ห์นั้นไม่อาจทำให้ใจของเธอเต้นช้าลงได้เลยและด้วยเหตุนี้เมื่อเขาตกปลาได้ตัวที่ห้าแล้วแต่เธอกลับยังไม่ได้เลยสักตัวเธอมองไปที่ทุ่นที่ลอยอยู่ของเธอไม่ได้ขยับเลยสักนิด อืม สงสัยว่าเหยื่อตกปลาอาจเป็นของปลอมมั้ง นั่งไปได้สักพัก ลมทะเลพัดเย็นสบายและก็ไม่มีปลามากินเหยื่อของเธอ เย้นหว่านเลยเอนกายอิงบนเก้าอี้อย่างสบายๆ เอนไปมาก็เคลิ้มหลับไป โห้หลีเฉินชำเลืองตามองก็เห็นหญิงสาวที่อยู่ข้างกายกำลังเคลิ้มหลับไป ใบหน้าหล่อเหลาก็ระบายยิ้มออกมาเบาๆ

เย้นหว่านค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมาไม่รู้ว่าเธอหลับไปนานแค่ไหน แต่ก็เห็นท้องฟ้าสีคราวมีก้อนเมฆลอยเต็มไปหมด มองแล้วก็รู้สึกดีเหมือนกัน เธอหันหน้าไปมองอีกด้านก็เห็นโห้หลีเฉินที่นั่งอยู่ไม่ไกล ใบหน้าด้านข้างที่แสนดูดีนั้นดูหล่อและมีเสน่ห์แล้วยังน่ามองมากๆ โห้หลีเฉินที่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างก็หันหน้าไปมองทางเย้นหว่าน “ตื่นแล้วหรอ?”

“ค่ะ” เธอตอบเสียงอู้อี้กลับไป เธอไปจ้องมองคนอื่นด้วยสายตาเคลิ้มๆ แบบนั้นแล้วยังถูกจับได้อีก ช่างน่าอายจริงๆ

โห้หลีเฉินเม้มปากแล้วก็เก็บเบ็ดตกปลาขึ้นมา เมื่อเธอเห็นอย่างนั้นก็นึกว่าจะกลับกันแล้ว เธอจึงรีบเก็บคันเบ็ดขึ้นมาเช่นกัน ขณะที่เธอกำลังหันตัวกลับนั้นก็สังเกตเห็นคันเบ็ดของตัวเองว่ามีปลาสองตัวกำลังดิ้นอยู่

“ฉันได้ปลามาได้ไงเนี่ย?” เธอจำได้ก่อนเธอจะหลับไปนั้นไม่มีปลาเลยสักตัว

โห้หลีเฉินพูดอย่างสบายใจว่า “คันเบ็ดของคุณขยับแล้ว เดี๋ยวผมช่วยคุณดึงขึ้นมา”

ดังนั้นเธอจึงปล่อยคันเบ็ดในมือและการตกปลาก็น่าเบื่อหน่ายเพราะต้องให้คนมาช่วยดึงสลิงตกปลาอีกทำให้เธอรู้สึกเกรงใจ

“ขอบคุณค่ะ กลับไปฉันขอเลี้ยงปลาคุณนะคะ”

“ได้สิครับ” โห้หลีเฉินตอบกลับทันที

เย้นหว่านนิ่งไป เธอแค่พูดไปเรื่อยเปื่อยเอง จะว่าไปเขาพาเธอออกมาเที่ยวเล่นทะเล เธอก็ควรเลี้ยงปลาเขาสักมื้อถือว่าเป็นมารยาท เย้นหว่านคิดได้อย่างนี้ก็มองไปข้างหน้าก็ยิ่งเห็นเส้นชายฝั่งทะเลเข้าใกล้เรื่อยๆ เธอก็นึกว่ากำลังกลับกันแล้ว แต่เมื่อใกล้เข้าไปแล้วก็พบว่าไม่ใช่โรงแรมที่ตั้งบนหาดทรายแต่เป็นเกาะเล็กๆ ที่สภาพแวดล้อมสวยงามอย่างมาก

เย้นหว่านถามอย่างสงสัย “คุณโห้ เรามาทำอะไรที่นี่หรอคะ?”

“ย่างปลา” โห้หลีเฉินทิ้งคำพูดไว้เพียงสองคำ

เย้นหว่านนิ่งอึ้ง ไปเกาะเพื่อย่างปลา หรือว่าต้องย่างเองหรอ? การคาดเดาของเธอได้นับการยืนยันอย่างรวดเร็วหลังจากเรือยอร์ชเข้าใกล้ฝั่งแล้ว เว่ยชีก็ลงจากเรือแล้วก็ไปก่อกองไฟบนหาดทราย เขาเตรียมพร้อมเต็มที่มาก จัดวางเครื่องปรุงต่างๆ อย่างเป็นระเบียบแล้วยังจัดการย่างปลาทีละตัวอย่างดี

ย่างปลาบนชายหาด เป็นเรื่องที่สร้างความสุขที่ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ

เย้นหว่านเดินตามเขาไปก็ถามด้วยรอยยิ้ม “ผู้ช่วยเว่ย คิดไม่ถึงเลยว่าคุณก็ย่างปลาเป็นด้วย” วิธีนี้เป็นการย่างแบบดั้งเดิม

เว่ยชีวางกระเป๋าใบใหญ่ลงบนพื้นแล้วเริ่มกางเต็นท์ไปด้วยตอบคำถามของเย้นหว่านด้วย

“ผมย่างปลาไม่เป็น”

เย้นหว่านสงสัย “แล้วที่คุณก่อกองไฟ?” เขาทำไม่เป็นหรือว่าจะให้โห้หลีเฉินย่าง?

“ให้คุณย่างไงครับ ไม่ใช่คุณบอกว่าจะขอเลี้ยงปลาให้คุณชายกินหรอครับ?” เว่ยชีพูดอย่างเป็นธรรมชาติ

เย้นหว่าน: “………” เธอแค่บอกว่าเชิญเขากินปลาไม่ได้บอกว่าตัวเองจะย่างปลาให้สักหน่อย

เมื่อเห็นสีหน้าหวั่นๆ ของเธอแล้ว เว่ยชีก็ถามอย่างสงสัยว่า “คุณเย้น เคยย่างปลามาก่อนไหมครับ?”

“เคยย่างนะ แต่ว่า……”

“ถ้าเคยย่างก็ดีเลยครับ คุณรู้ไหมว่าเป็นไปไม่ได้ที่คุณชายจะย่างปลา” เว่ยชีถอนหายใจออกมาแล้วก็จัดการตั้งเต็นท์ต่อ

เย้นหว่านสำลักออกมาแม้ว่าเธอจะชอบประสบการณ์การย่างปลาที่ชายหาด แต่รสชาติของปลาที่เธอย่างก็ไม่ได้อร่อยมาก อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ตอนนี้ชายร่างใหญ่ทั้งสองทำไม่เป็นก็คงมีแค่เธอเองที่…… เธอยอมรับชะตาชีวิตแล้วก็เริ่มคิดว่าต้องย่างปลาอย่างไร

โห้หลีเฉินที่นั่งอยู่ไม่ไกล เขาไม่ได้ชื่นชมทัศนียภาพที่เป็นเอกลักษณ์ที่นี่เลยแม้แต่น้อยแต่สายตาไปหยุดที่กายของเย้นหว่านมาตั้งแต่ต้น ผู้หญิงคนนี้ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูไม่ขัดตาและน่ามองไปหมด

กองไฟแบบนี้ไม่ง่ายเลยที่จะควบคุมความร้อนได้ เย้นหว่านก็ไม่ได้จะทำทุกวัน แต่ปลาตัวแรกก็ถูกย่างออกมาอย่างภาคภูมิใจแล้วเธอจำต้องพยายามย่างปลาตัวที่สองต่ออย่างไม่ย่อท้อ ตัวนี้ดูพอได้เหมือนพอจะถูๆ ไถๆ กินได้ เธอเลยคิดว่าจะให้เว่ยชีลองชิมรสชาติก่อนแล้วแล้วถ้ามันอร่อยค่อยให้โห้หลีเฉินกินปลาตัวที่สาม

“ผู้ช่วยเว่ย ปลาตัวนี้ให้คุณ…….” เย้นหว่านหยิบปลาแล้วยืนขึ้นมาแต่กลับมองไม่เห็นแม้แต่เงาของเว่ยชี

แต่ในทางกลับกันโห้หลีเฉินที่มองเย้นหว่านจะเอาปลาที่ย่างตัวแรกให้เว่ยชีกิน สีหน้าก็ขรึมลงอย่างช่วยไม่ได้

“คุณโห้คะ ผู้ช่วยเว่ยละคะ?” เย้นหว่านเอ่ยถาม

“กลับไปที่เรือยอร์ชแล้ว” โห้หลีเฉินตอบอย่างเมินเฉย

“แล้วเขาจะมาเมื่อไหร่คะ?” เย้นหว่านยังมุ่งมั่นที่จะให้เว่ยชีทดลองชิม

ใบหน้าของโห้หลีเฉินยิ่งขรึมลงไปอีก “เมื่อตอนเรากลับ” ดังนั้นเว่ยชีจะไม่มาเร็วๆ นี้แน่นอน

เย้นหว่านมองปลาย่างในมืออย่างรู้สึกผิดหวัง ถึงแม้ว่ามันจะกินได้แต่สีและรสชาติดูไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น แล้วรสนิยมโห้หลีเฉินนั้นช่างร้ายกาจ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งเลยเอาปลาไปใส่ไว้ในถาดแล้วตั้งใจจะกินเอง จากนั้นก็เริ่มไปย่างปลาตัวที่สามอีกครั้ง

โห้หลีเฉินมองปลาที่วางอยู่ในถาดอย่างเงียบๆ ใบหน้าของเขาก็ขรึมลงไปอีก เย้นหว่านที่ไม่ได้สังเกตถึงอารมณ์ของโห้หลีเฉินเพราะกำลังทุ่มให้กับปลาย่างอยู่

ในที่สุดปลาตัวที่สามก็ดูออกมาไม่เลว กลิ่นหอม รสชาติก็น่าจะพอใช้ได้ เย้นหว่านถือถาดปลาย่างตัวที่สามไปตรงหน้าโห้หลีเฉินอย่างดีใจ

“คุณโห้ ลองชิมดูนะคะ” เธอมองเขาอย่างคาดหวัง นี่เป็นครั้งแรกที่ทำอาหารให้โห้หลีเฉินกิน เธอรู้สึกแปลกๆ แล้วยังประหม่าเล็กน้อย

เขาหยิบตะเกียบชิมไปหนึ่งคำ ก็พูดออกมาเบาๆ “ใส่เกลือเยอะไป” เขาแสดงความคิดเห็นอย่างเย็นชา

ตอนกำลังกินปลา เย้นหว่านรู้สึกตื่นเต้นแล้วก็ตะลึงไปเล็กน้อย ปุ่มแยกรสชาติของโห้หลีเฉินนั้นช่างจุกจิกเกินแล้วก็ไม่ใช่คนที่จะถูไถได้

เธอมองเขาแล้วพูดว่า “เดี๋ยวฉันไปย่างให้ใหม่อีกสักตัว”

“ไม่ต้องหรอก” โห้หลีเฉินคีบเนื้อปลาขึ้นมากินแล้วก็แสดงออกอย่างเย็นชา “พอกินได้”

เย้นหว่าน นั่งลงแล้วมองดูบางคนที่บอกว่าพอกินได้ที่กำลังกินปลาทั้งตัวอย่างช้าๆ

เธอ: “………” นี่คือพอกินได้จริงหรอ?

เมื่อกินปลาเรียบร้อยแล้วก็เป็นเวลาพระอาทิตย์ตกดินพอดี ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วเหมือนน้ำทะเลก็สะท้อนสีแดงเหมือนกัน มองแล้วก็ดูสวยงามเป็นพิเศษ

“คุณโห้คะ ฉันขอเดินไปเก็บเปลือกหอยสักสองอันนะคะ ” เย้นหว่านถอดรองเท้าแล้วเดินเท้าเปล่าไปตามชายหาด เธอย่ำบนทรายที่ชุ่มฉ่ำ ปล่อยให้น้ำทะเลซัดขึ้นมาปะทะเข้ากับเท้าเล็กของเธอแล้วถอยกลับลงไป เธอเดินอย่างสบายใจ ทิวทัศน์สวยมากแล้วก็มีเปลือกหอยมากมายแล้วก็มีหินที่ทิ่มเท้าเธอเล็กน้อย

“เย้นหว่าน” โห้หลีเฉินร้องเรียกมาจากด้านหลังไม่ไกล

เย้นหว่านหันกลับไปอย่างแปลกใจก็เห็นเขาเดินมาหาเธอและเขายังถือรองเท้าแตะสีชมพูของผู้หญิงอยู่ในมือ

ผู้ชายที่ร่ำรวยมีเกียรติกำลังถือรองเท้าแตะคู่หนึ่งถึงจะดูกะทันหันแต่เขาทำดูเป็นธรรมชาติมาก เขาเดินเข้ามาแล้ววางรองเท้าแตะลงที่เท้าของเย้นหว่าน

“สวมซะ” เย้นหว่านมองเขาอย่างไม่น่าเชื่อว่าเขาเอารองเท้ามาให้เธอด้วยตัวเอง

แต่มองดูรองเท้าแตะที่เขาสวมอยู่แล้วก็ดูเหมือนกับของเธอเลย ดูแล้วก็เหมือนเป็น…รองเท้าแตะคู่รัก

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท