บทที่ 107 เย้นหว่าน แต่งงานกับฉันนะ
ถึงแม้ในใจของเย้นหว่านจะมีการเตรียมพร้อมแต่นานแล้ว กลับยังรู้สึกเหมือนว่าในใจมีของอะไรทับไว้ ไม่สบายเอามากๆ
น้ำเสียงของเธอไม่สนิทและไม่นิ่งเฉย “ว่ามาเถอะ ฉันสามารถช่วยได้ก็จะช่วย”
มู่หรุงซิ่นวางกาแฟลง ทันใดนั้นยื่นมือมากุมมือของเย้นหว่านไว้ แววตาเต็มไปด้วยการวิงวอนและจริงใจ
“ฉันหวังว่าเธอจะแต่งงานกับหลีเฉิน ช่วยอุ้มท้องแทนฉัน”
เย้นหว่านแข็งทื่อไปฉับพลัน มองมู่หรุงซิ่นอย่างคาดไม่ถึง
ให้เธอแต่งงานกับโห้หลีเฉิน แถมยังให้เธออุ้มท้องแทน?
ทำลายชีวิตแต่งงานของเธอ ยังต้องให้เธอคลอดเด็กที่ไม่ใช่ของตนเองออกมา พวกเขาเห็นเธอเป็นอะไรกัน?
เย้นหว่านสะบัดมือของมู่หรุงซิ่นออก สีหน้าอึมครึม ไม่ดีเอามาก
“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันช่วยคุณไม่ได้”
“เสี่ยวหว่าน ขอโทษนะ ฉันรู้ว่าพูดแบบนี้ล่วงเกินไปมาก แต่ฉันกับหลีเฉินก็ไม่ได้มีความคิดอย่างอื่นเลย เธอเป็นคู่หมั้นของเขา เป็นตัวเลือกดีที่สุดที่เขาจะแต่งงานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันเชื่อใจเพียงเธอ”
มู่หรุงซิ่นมองเย้นหว่านอย่างน่าสงสารเหลือทน ทุกคำพูดเอ่ยอย่างจริงใจเศร้าสลด
แต่สิ่งที่เข้ามาในหูของเย้นหว่าน กลับเป็นการเสียดสีสุดจะทนแบบนั้น
“พวกคุณหาคนอื่นเถอะ”
เย้นหว่านไม่ได้พูดอะไรอีก ลุกขึ้นมาทันที หยิบกระเป๋าเดินไปทางด้านนอก
ตอนที่เดินมาถึงหน้าประตู เธอยังทิ้งเงินคิดบิลไว้
“เสี่ยวหว่าน ขอร้องเธอล่ะ ช่วยพวกเราหน่อยได้มั้ย?”
มู่หรุงซิ่นพูดรั้งไว้ด้วยความเสียใจ กลับมองเย้นหว่านเดินไปด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ มุมปากของหล่อนยิ่งโค้งรัศมีครึ่งวงกลมที่แผนการร้ายได้ผล
นอกจากหล่อน คนไหนๆ ต่างไม่มีสิทธิ์มาแต่งงานกับโห้หลีเฉิน
ในใจเย้นหว่านสุมด้วยไฟโกรธ ผิดหวังอย่างน่าประหลาดอยู่บ้าง ที่แท้ในใจของโห้หลีเฉิน เธอก็เป็นแค่การมีตัวตนของสินค้าประเภทนี้
แต่เธอเป็นคน คนที่มีชีวิตมีเลือดเนื้อมีความรู้สึกคนหนึ่ง
“ติ๊ดๆๆ……”
ตอนที่เธอโมโหเลือดขึ้นหน้า มือถือดังขึ้นมาแล้ว
เป็นโทรศัพท์ของโห้หลีเฉิน
เย้นหว่านมองดู ไม่ได้รับ โทรศัพท์ดังขึ้นไม่ยอมเลิกรา เย้นหว่านไม่เคยคิดว่าเสียงมือถือน่ารำคาญขนาดนี้มาก่อน
เธอตัดสายโทรศัพท์ทิ้งอย่างตรงไปตรงมา
เวลานี้ เสียงโทรศัพท์กลับไม่ดังขึ้นอีกแล้ว
ตอนที่เย้นหว่านคิดว่าโห้หลีเฉินไม่มาหาเธอ ในที่สุดบนมือถือก็มีข้อความหนึ่งส่งมา
“มาให้อาหารแมว”
เย้นหว่านอ่านข้อความ ไม่รู้ว่าควรร้องไห้หรือหัวเราะดี เห็นเธอเป็นคนให้อาหารแมวจริงๆ เหรอ?
ในเมื่อมู่หรุงซิ่นกลับมาแล้ว ก็ให้มู่หรุงซิ่นไปให้สิ
เย้นหว่านไม่ตอบ โยนมือถือไปด้านข้างโดยตรง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ที่บ้านของเย้นหว่านก็มีแขกที่ไม่ได้เชิญมา
เฉียวเจี้ยฮุ่ยรีบพุ่งมาที่ห้องของเย้นหว่าน ดึงเธอขึ้นมาจากบนเตียง
“เสี่ยวหว่าน รีบลุกขึ้น หลีเฉินส่งผู้ช่วยเว่ยมารับเธอแล้ว เธอรีบไปแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วลงไป”
“เว่ยฉีมาแล้ว?”
มุมปากเย้นหว่านหดลง หมดคำจะพูด ให้อาหารแมว มันใช่เหรอ?
เธอไม่อยากไปมากๆ แต่การเผชิญหน้ากับเฉียวเจี้ยฮุ่ยก่อนที่ยังไม่ได้ถอนหมั้น จึงไม่กล้าแสดงออกมาว่าเธอกับโห้หลีเฉินไม่ลงรอยกัน
ท้ายที่สุดเย้นหว่านจึงได้แต่ไปที่บ้านของโห้หลีเฉิน
เพิ่งเดินเข้าประตู แมวก็กระโจนเข้าในอ้อมอกของเธอด้วยความคุ้นเคย ถูไถอย่างสนิทสนมไม่หยุด
“อย่าดื้อ เดี๋ยวฉันจะทำของกินให้เอง”
เย้นหว่านลูบหัวแมวน้อยด้วยความเอ็นดู จากนั้นอุ้มมันเดินไปในบ้าน
พึ่งเดินมาได้สองก้าว เธอก็พบว่าไม่ปกติ เห็นการตกแต่งอบอุ่นหอมหวานที่เปลี่ยนไปใหม่ตรงหน้า ยังคิดว่าเดินมาผิดที่
แวบหนึ่ง เสียง “แป๊ะ” เบาๆ ดังทีหนึ่ง ไฟในคฤหาสน์ก็ดับลงทั้งหมด
และในเวลานี้เทียนไขนับไม่ถ้วนได้ถูกจุดขึ้นมาทุกที่ของห้องโถง ภายใต้แสงไฟสลัว เผยความโรแมนติกที่อบอุ่นหอมเย็น
และเธอพึ่งสังเกตเห็น ที่เท้าของเธอ ทั้งพื้นที่ โปรยด้วยกลีบดอกกุหลาบ
กลิ่นหอมละมุนโชยมาเตะจมูก โรแมนติก สวยงาม วิจิตรตระการตา
หัวใจของเย้นหว่านเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอเดินมาผิดที่จริงหรือเปล่า?
“แต๊ก…แต๊ก…แต๊ก…”
รองเท้าหนังผู้ชายเหยียบลงที่พื้น เกิดเสียงดังกังวานเสนาะหู ค่อยๆ เข้ามาใกล้เย้นหว่านในแต่ละก้าว
ภายใต้แสงเทียนที่โรแมนติก โห้หลีเฉินใส่ชุดสูทอย่างเป็นทางการตัวหนึ่ง ใบหน้าหล่อสง่างามเห็นได้ชัดว่ายิ่งมีมิติ ราวกับเจ้าชายที่เดินออกมาจากภาพวาด สุภาพบุรุษผู้สูงส่ง
เขาจ้องมองเย้นหว่านอย่างตั้งอกตั้งใจไม่มีอะไรเทียบ คล้ายว่าในสายตามีเพียงการมีอยู่ของเธอผู้เดียว
ลูกตาที่ลึกล้ำคู่นั้นยิ่งเสมือนน้ำวนที่ไม่เห็นก้นบึ้ง ดูดวิญญาณคนเข้าไป
เย้นหว่านมองเขานิ่ง หัวใจเต้นเร็วขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ไหว ปฏิเสธไม่ได้ว่าโห้หลีเฉินในเวลานี้หล่อเหลาจนทำให้คนละสายตาไม่ได้
“เหมียว”
แมวร้องมาทีหนึ่ง กระโดดลงมาจากอ้อมอกของเย้นหว่านอย่างระมัดระวัง
เย้นหว่านตะลึงนิดหน่อย ถึงได้สติกลับมา
เธอเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพูดขึ้น “คุณโห้ ขอโทษนะคะ ฉันเหมือนมาไม่ถูกเวลา ฉันไปก่อนแล้ว”
พูดๆ อยู่ เธอหมุนตัวจะเดินไปข้างนอก
ในการรับรู้ของเธอ เรื่องโรแมนติกแบบนี้ โห้หลีเฉินมีแต่จะเตรียมไว้ให้มู่หรุงซิ่น โดยเฉพาะวันนี้มู่หรุงซิ่นพึ่งกลับมา
สายตาโห้หลีเฉินเต็มไปด้วยความจำใจ ดึงเย้นหว่านเอาไว้ก่อน
น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาดูเซ็กซี่ “ตามฉันมา”
มือใหญ่ของเขาทั้งหนาทั้งมีพลัง ดึงเธอเดินไปด้านหลังอย่างยากจะต่อต้าน
เย้นหว่านถูกบีบให้ตามฝีเท้าของเขาไป มองด้านหลังที่สูงใหญ่ของชายหนุ่มตรงหน้า เหยียบไปบนพื้นดอกไม้สด ในใจสับสนอยู่บ้าง
เธอไม่อยากรับรู้ความโรแมนติระหว่างเขากับมู่หรุงซิ่น แม้กระทั่งมองยังไม่อยากมอง
โห้หลีเฉินพาเย้นหว่านมาถึงหลังบ้าน ทันใดนั้นก็หมุนตัวกลับ ร่างสูงใหญ่บังตรงหน้าของเธออยู่ กางกั้นสายตาของเธอเอาไว้
เขาจ้องมองเธอไปตรงๆ สายตาล้ำลึกอย่างถึงที่สุด
“เย้นหว่าน ดอกไม้ที่เธอชอบ ปลูกไว้ที่หลังบ้านฉันหมดแล้ว”
เย้นหว่านตกตะลึง เขาหมายความว่าอะไร?
จากนั้นมองเห็นโห้หลีเฉินค่อยๆ หันตัว เดินมาที่ข้างกายเธอ และในสายตาของเธอมองเห็นทั้งฉากของหลังบ้านหมดอย่างชัดเจน
เห็นเพียงทั้งหลังบ้านในตอนนี้ล้วนกลายเป็นทะเลดอกไม้ ดอกไม้สีสันต่างๆ นานาบานสะพรั่งงดงาม ผลิความงามที่สุดของตนเองออกมา
และดอกไม้ทุกประเภทที่นี่ ล้วนเป็นที่เธอเลือกในตลาดดอกไม้เมิ่งโล่วที่เธอเคยบอกว่าชอบ
ทุกอย่างในที่นี้ล้วนเตรียมไว้เพื่อเธอ
มองทั้งแปลงดอกไม้อีกรอบ ภายใต้แสงไฟที่อ่อนละมุน ทั้งมวลปรากฏแก่สายตามาสามคำ
แต่งงานกับฉัน
โห้หลีเฉินดึงมือของเย้นหว่าน ทันใดนั้นคุกเข่าลงไปข้างหนึ่ง ระหว่างนิ้วมือของเขาถือแหวนเพชรสีแดงที่งดงามที่สุดวงหนึ่ง
“เย้นหว่าน แต่งงานกับฉันนะ”
แต่ละคำที่พ่นออกมาจากริมฝีปากบางดูดีนั้น ทุกคำล้วนเหมือนมีความรักที่ลึกซึ้ง
ราวกับเขารักเธออยู่
เย้นหว่านวิงเวียนอยู่กับกลิ่นหอมดอกไม้ในเวลานี้ มึนเมาในความลึกซึ้งที่เลี่ยนแทบแย่ของเขา
ชายหนุ่มหล่อมาก การขอแต่งงานโรแมนติกมาก เรื่องราวความรักที่ทำให้คนหวั่นไหวมาก……
เย้นหว่านหัวเราะ น้ำเสียงเย็นยะเยือกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“คุณโห้ ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณ”
แต่งงานแทน?
ตั้งท้องแทน?
เธอเย้นหว่านยังไม่ต่ำต้อยถึงขั้นนี้
ร่างสูงใหญ่ของโห้หลีเฉินแข็งทื่อไปทันที เขาที่ควบคุมทุกอย่างไว้ในมือมาแต่ไหนแต่ไร เวลานี้ตกใจอย่างไม่มีอะไรเทียบ
แม้กระทั่งครุ่นคิดยังไม่มี เธอก็ปฏิเสธเขาแล้ว
ทั่วตัวเขาหนาวเย็นไปหมด เค้นไม่กี่คำออกมาจากปากด้วยความยากลำบาก
“ฉันให้งานแต่งกับเธอ เธอจะไม่ยอมอยู่ด้วยกันกับฉัน?”
เขาคิดว่าขอเพียงข้ามผ่านการหมั้นจอมปลอม เธอจะให้โอกาสพวกเขาสักครั้ง
ไม่ต่อต้านเขา ลองยอมรับเขาดู
เย้นหว่านมองชายหนุ่มที่สายตาดูสูญเสีย ในใจพูดไม่ออกว่าเป็นความรู้สึกอะไร ที่แท้โห้หลีเฉินไม่ใช่คนสูงศักดิ์ไร้ความรู้สึก เพื่อมู่หรุงซิ่นแล้ว เขาถึงกับสูญเสีย ผิดหวัง
“ขอโทษด้วย ฉันทำไม่ได้”
เย้นหว่านเอ่ยปากเบาๆ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็สละการแต่งงานของตนเองไม่ได้ เพื่อไปช่วยให้คนอื่นบรรลุความปรารถนา
เธอไม่มองโห้หลีเฉินอีก ก่อนจะหมุนตัวกลับไป
ภาพด้านหลังที่เรียวเล็ก กลับเผยความแน่วแน่ที่เปลี่ยนไม่ง่าย
โห้หลีเฉินมองภาพด้านหลังของเธอ ความรู้สึกแรกที่นึกได้ หัวใจเหมือนมีของอะไรบางอย่าง กำลังทิ่มเขาให้เจ็บอย่างรุนแ