บทที่ 161 สิ่งที่น่ากลัว
ในขณะที่เย้นหว่านถูกอุ้มอยู่นั้น รอบตัวเธอก็ถูกรายล้อมไปด้วยฮอร์โมนเพศชายที่ดึงดูดคนได้
“อืม”
เธอดิ้นขลุกขลักเนื่องจากไม่สบายตัว
ทว่าแขนของโห้หลีเฉินกลับเพิ่มแรงรัดแน่นขึ้น สุดท้ายเขาก็ก้าวขายาวๆเดินตรงไปยังห้องน้ำ
เนื่องจากโห้หลีเฉินเป็นคนรูปร่างสูง จึงทำให้พื้นที่ในห้องน้ำดูเล็กไปถนัดตา
และอึดอัดเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้นเย้นหว่านใจเต้นแรง เธอรีบพูดออกมาว่า “ฉันอาบใต้ฝักบัวก็ได้ คุณวางฉันไว้ตรงนี้เถอะ”
ห้องน้ำเป็นสถานที่ส่วนตัวที่สุด
หากต้องอยู่ในนี้กับโห้หลีเฉิง เธอเกรงว่าจะไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นได้เลย
โห้หลีเฉินมองเธอด้วยแววตาเงียบสงบ เขายังคงปฏิเสธคำพูดของเย้นหว่านอย่างหนักแน่น
“ร่างกายเธอยังมีบาดแผล สัมผัสน้ำไม่ได้ ไม่เหมาะจะใช้ฝักบัว”
ในขณะที่พูดเขาก็อุ้มเธอไปที่อ่างอาบน้ำ และวางเธอไว้บนอ่าง
เมื่อมองไปที่อ่างอาบน้ำ เย้นหว่านก็นึกถึงภาพน่าอายที่เธอกับโห้หลีเฉินอยู่ในนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว
อยู่ๆหน้าเธอก็แดงขึ้นมาทันทีและรีบผลักเขาออก
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำเอง”
เดิมทีคิดว่าโห้หลีเฉินจะออกไป แต่เย้นหว่านกลับประหลาดใจเมื่อเห็นว่าโห้หลีเฉินเปิดน้ำในอ่างให้ไหลออกมาด้วยท่าทีไม่รู้สึกรู้สา
เขาถึงขนาดเปิดน้ำในอ่างให้เธอด้วยเนี่ยนะ?
เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยสำหรับการบริการที่รอบคอบและพิถีพิถัน
เสียงของน้ำที่ไหลเชี่ยวเป็นเหมือนท่วงทำนองเพลง ซึ่งทำให้หัวใจของคนสั่นคลอนและกระวนกระวาย
ผ่านไปได้สักพักน้ำก็เต็มแล้ว
หลังจากที่โห้หลีเฉินปิดน้ำเสร็จ เขาก็หยิบผ้าขนหนูสีขาวมาชุบน้ำแล้วหันไปมองเย้นหว่านที่นั่งรออยู่ริมขอบอ่างอาบน้ำ
“ถอดเสื้อผ้า”
เย้นหว่านกระพริบตา และมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ
หมายความว่าอย่างไร?
โห้หลีเฉินพูดเสียงต่ำด้วยความอดทน “ตอนนี้เธอยังอาบน้ำไม่ได้ ต้องเช็ดตัวเท่านั้น”
เย้นหว่านมองผ้าขนหนูที่อยู่ในมือของเขาแล้วนิ่งไปสักพัก
ก็แค่เช็ดตัว เขากำลังถือผ้าขนหนูอยู่และยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วจะให้เธอถอดเสื้อผ้าอย่างไร?
หรือว่าเขาจะเช็ดตัวให้เธอ?
ดูเหมือนว่าเขาจะดูออกว่าเย้นหว่านกำลังคิดอะไรอยู่ โห้หลีเฉินมองเธอไปตรงๆและพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ
“ตอนที่เธอหลับ ฉันก็เช็ดตัวให้เธอตลอด”
ใบหูของเย้นหว่านกลายเป็นสีแดงทันที เขาไม่เพียงช่วยเธอพันแผล อีกทั้งยังเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธออีกด้วย เขาเป็นคนทำทั้งหมด?
นั่นก็หมายความว่าเขาเห็นทุกส่วนของร่างกาย รวมทั้งส่วนที่น่าอายของเธอหมดแล้วงั้นหรือ?
เย้นหว่านรู้สึกอับอายจนอยากกระโดดมุดหัวลงไปในน้ำ
“แคกๆ ฉันทำเอง ตอนนี้ฉันมีสติดีแล้ว ให้ฉันทำเองเถอะ”
เธอรีบคว้าผ้าขนมือมาจากมือโห้หลีเฉินด้วยความรวดเร็ว
แม้เธอจะไม่สามารถทายาด้วยตัวเองได้ แต่เรื่องง่ายๆอย่างเช็ดตัว เธอยังพอทำได้
โห้หลีเฉินจึงปล่อยเธอและเดินถอยออกไปข้างๆแค่เพียงไม่กี่ก้าว เพื่อให้เธอเช็ดตัวด้วยตัวเอง
แต่ร่างสูงของเขายังคงยืนอยู่ในห้องน้ำ ดึงดันที่จะไม่ออกไป
ในขณะที่เย้นหว่านเพิ่งกำลังโล่งอกได้ หัวใจกลับเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง
เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “คุณโห้ คุณจะไม่ออกไปใช่ไหม?”
“ฉันจะรอเช็ดหลังให้เธอ”
เสียงทุ้มของเขาพูดอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่เย้นหว่านกลับขนลุก
เช็ดหลังให้เธอ? เช็ดหลัง? เช็ดหลังเนี่ยนะ?
ความสนิทชิดเชื้อในลักษณะนี้ทำให้คนรู้สึกอับอายจริงๆ…
แก้มเธอแดงระเรื่อ “ไม่ต้องหรอก ฉันเช็ดเองได้”
“เธอเห็นแผลที่อยู่ข้างหลังหรือ? ถ้าเกิดโดนน้ำขึ้นมาจะทำอย่างไร?”
หลังจากคำถามที่คมชัดสองคำถามถามติดต่อกันก็ทำให้เย้นหว่านนิ่งไปสักพัก
โห้หลีเฉินพูดต่อ “เธอเช็ดของเธอไป ฉันจะไม่มองเธอ ฉันแค่จะเช็ดหลังให้เท่านั้นเอง”
การแสดงออกของเขาทั้งเยือกเย็นและจริงจัง
หลังจากที่พูดเสร็จก็หันหลังให้เย้นหว่าน
เย้นหว่านตกตะลึงมองไปที่ด้านหลังของเขา เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ด้วยความงุนงง
โห้หลีเฉินยอมหันหลังกลับไป เขาไม่ได้มองเธอแล้ว เธอจึงไม่ทำตัวงี่เง่าอีก
อย่างไรก็ตามปล่อยให้ผู้ชายยืนอยู่ตรงหน้าแบบนี้ แล้วให้เธอเช็ดตัวอยู่ข้างหลังเขา…
ถึงอย่างไรก็น่าอายอยู่ดี
ในขณะที่เย้นหว่านกำลังลังเลอยู่นั้น โห้หลีเฉินเริ่มทนไม่ไหว เขาพูดเตือนว่า
“ถ้าเธอยังชักช้าอยู่อีก ฉันจะเช็ดให้เธอเอง”
เช็ด แน่นอนว่าเป็นการเช็ดทั้งตัว
เย้นหว่านตัวสั่น หูแดงไปหมดแล้ว
เธอรีบถอดเสื้อผ้าแล้วใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวโดยไม่คิดอะไร
เธอเช็ดตัวอย่างรวดเร็ว และทำความสะอาดอย่างง่ายๆ
จากนั้นเธอก็นั่งขัดสมาดบนอ่างอาบน้ำโดยหันหลังให้โห้หลีเฉิน เธอพูดเบาๆว่า
“เสร็จ…เสร็จแล้ว”
โห้หลีเฉินถึงจะหันกลับมา
มองแวบแรกก็เห็นแผ่นหลังขาวเนียนเล็กกระทัดรัดเหยียดตรงและมีรอยแผล แต่มันไม่ได้ขัดความงดงามของเธอเลย
คลื่นความร้อนไหลผ่านในร่างกายโห้หลีเฉินจนแทบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
สาวน้อยคนนี้เหมือนต้นฝิ่นสำหรับเขา
ล่อลวงคนเหมือนเอาชีวิต
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่ง่ายเลยที่จะระงับความกระสับกระส่ายภายในร่างกายได้ จากนั้นก็เดินไปข้างหลังเธอ
เมื่อรู้สึกว่ามีผู้ชายเข้ามาใกล้ ร่างกายของเย้นหว่านก็เริ่มเครียดเกร็ง ด้านหน้าของเธอคลุมด้วยผ้าขนหนูและพยายามปกปิดร่างกายตัวเองอย่างมิดชิด
แต่พอคิดว่าแผ่นหลังทั้งหมดถูกเปิดเผยต่อหน้าเขา และเขากำลังจะเช็ดให้เธอ…
เธอหน้าแดงและแทบรอไม่ไหวที่จะหายตัวไป
โห้หลีเฉินยกมือขึ้นเพื่อนำผ้าขนหนูอุ่นๆวางบนแผ่นหลังเย้นหว่าน และเช็ดเบาๆ
นิ้วของเขาสัมผัสโดนแผ่นหลังของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ และเลื่อนเบาๆเหมือนกลุ่มเปลวไฟ ความร้อนที่วาดผ่านบนผิวของเธอราวกับกำลังเผาไหม้
หัวใจของเย้นหว่านเต้นรัว ยิ่งเต้นยิ่งเร็วขึ้น
นี่เรียกว่าเช็ดตัวตรงไหน? เห็นชัดๆว่าเป็นการทรมานต่างหาก
เย้นหว่านกัดฟันและพยายามควบคุมร่างกายไม่ให้เกิดปฏิกิริยาที่น่าอับอาย เธอเพียงแค่อยากจะผ่านมันไปให้ได้โดยเร็ว
เธอคิดในใจอย่างเงียบๆ วันหลังเธอจะไม่ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บอีกเป็นอันขาด แม้ว่าจะต้องได้รับบาดเจ็บ เธอก็จะไม่ให้โห้หลีเฉินรู้ และยิ่งไปกว่านั้นจะไม่ยอมให้เขามาดูแลเธอ
ทว่า…
ระหว่างเธอกับเขายังจะมีวันหลังอีกหรือ?
วันแต่งงานกำลังใกล้เข้ามา และนี่อาจเป็นครั้งสุดท้าย
มีความรู้สึกสูญเสียที่อธิบายไม่ได้อยู่ภายในใจ ซึ่งทำให้เธอแน่นหน้าอกราวกับว่ามีหินก้อนใหญ่กดทับ
โห้หลีเฉินเช็ดความสะอาดหลังให้เย้นหว่านอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็สวมเสื้อคลุมอาบน้ำให้เธอจากทางด้านหลัง
“ฉันจะไปรอเธอข้างนอก เธอสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เรียกฉัน”
พอพูดจบก็ไม่รอให้เย้นหว่านตอบรับ โห้หลีเฉินสาวเท้าเดินออกไป
ด้วยเสียงปิดประตู มีเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในห้องน้ำ
พื้นที่ห้องน้ำขนาดเล็กดูเหมือนว่างเปล่าเล็กน้อยในขณะนี้
เย้นหว่านเงยหน้ามองไปที่ประตูอย่างใจลอย และความรู้สึกสูญเสียที่เกิดขึ้นภายในใจกลับย่ำแย่ลงอย่างบอกไม่ถูก
เขาไม่ควรเป็นของเธอ แม้ว่าก่อนหน้านี้เรื่องราวจะวกวนสักแค่ไหน ก็ล้วนหายวับไปกับตา
นี่คือความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างเธอกับโห้หลีเฉิน
——
ในช่วงสองวันระหว่างการพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ โห้หลีเฉินปฏิบัติต่อเธอราวกับผู้ป่วยหนัก
เขาไม่ปล่อยเธอขยับและอุ้มเธอไปในทุกๆที่ ไม่ปล่อยให้เธอต้องออกแรง ดูแลทุกขั้นตอนตอนกินข้าว อีกทั้งตอนทายาก็ดูแลอย่างใกล้ชิดและใส่ใจ
ในตอนแรกเย้นหว่านยังตกใจที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างคาดไม่ถึง แต่น่ากลัวตรงที่ว่าเธอคุ้นเคยกับมันไปบ้างแล้ว