สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่ 190 ความจริง

บทที่ 190 ความจริง

บทที่ 190 ความจริง

มู่จื่ออี้เห็นเย้นหว่านถูกอุ้มไป จึงขมวดคิ้ว​ขึ้น​ เขาสังเกต​เห็น​ท่าทางดิ้นรน​ของ​เย้นหว่าน รวมถึงสีหน้า​ไม่พอใจของเธอด้วย

เห็นได้ชัด​ว่า​เธอ​ไม่เต็มใจ​ เขาจะปล่อยให้เธอถูกโห้หลีเฉินอุ้มไปได้ยังไง​

มู่จื่ออี้สีหน้า​เคร่งขรึม​ รีบเดินตามไป แต่เพิ่งเดินไปได้สองก้าว เว่ยชีก็เข้ามาขวางไว้ซะก่อน

“คุณ​ชายมู่ครับ คุณเย้นเป็นคู่หมั้น​ของ​เจ้านายผม ขอให้​คุณ​รักษา​ระยะห่าง​กับเธอไว้ด้วย”

“ถอยไป”

มู่จื่ออี้พูดขึ้นเสียง บรรยากาศ​รอบตัวดูหยิ่งผยอง​ ไม่เหมือนมู่จื่ออี้คนเดิมที่สดใส​ร่าเริง

เว่ยชีทำงานกับโห้หลี​เฉิน​มานาน จึงคุ้นชิน​กับสถานการณ์​แบบนี้ดี ทำให้​ไม่รู้สึกตกใจกับท่าทางของมู่จื่ออี้

เขายังคง​พูดด้วสีหน้า​นิ่งเฉย​ “คุณ​ชายมู่ครับ ช่วยคิดถึง​ฐานะของคุณด้วย อีกอย่าง คุณ​โห้กับคุณ​เย้นเป็นคู่หมั้น​กัน ทั้งสองคนต้องการเวลาคุยกันแบบส่วนตัว​ คุณ​ยังคิดจะไปเป็นก้างขวางคอ​อีกเหรอครับ”

เป็นก้างขวางคอ​อย่างนั้น​เหรอ​

มู่จื่ออี้ชะงัก​ไป​ เขารู้เรื่อง​ความสัมพันธ์​ของ​เย้นหว่านกับโห้หลี​เฉิน​ดี ว่ามันเป็นแค่เรื่อง​โกหก ดังนั้น​เขาถึงได้มีสิทธิ์​ที่จะ​จีบเย้นหว่าน

เขาขมวดคิ้ว​ แต่กลับ​ได้ยิน​เว่ยชีพูดขึ้น​มา​อีกครั้ง “เมื่อตะกี้​ ที่คุณเย้นออกมายืนบังคุณ​ไว้ ก็แสดงว่า​เธอไม่ต้องการ​ให้​คุณ​เข้ามาพัวพัน​เรื่อง​ของ​เธอกับคุณ​โห้ คุณ​ชายมู่ คุณ​เป็นคนฉลาด​ น่าจะเข้าใจว่าอะไรควรอะไรไม่ควร จริงไหมครับ”

ร่างกาย​ของ​มู่จื่ออี้นิ่งเกร็ง คิ้วขมวดกันจนเป็นปม​

ด้วยฐานะ​ของ​เขา เขาไม่​รู้สึก​กลัวโห้หลี​เฉิน​แม้แต่น้อย​ แต่เมื่อตะกี้​ตอนที่​เขากำลังต่อปาก​ต่อ​คำ​กับโห้หลี​เฉิน​อยู่​ เย้นหว่านกลับเดินมาขวางเขาไว้

เธอไม่อยากให้เขาเข้าไปยุ่งเกี่ยว​กับ​เรื่อง​ของ​พวกเธอ หรือว่าเป็นห่วง​ว่า​เขาจะโดนโห้หลีเฉินทำร้านกันแน่

แต่ไม่ว่าจะเป็นคำตอบไหน เย้นหว่านก็จงใจแยกเขาออกไปอยู่ดี

ถึงแม้​จะ​ไม่​ยินยอม​ที่โดนโห้หลี​เฉิน​พาตัวไป แต่เธอก็ไม่คิดจะหันมาขอความช่วยเหลือ​จากเขาเลย

มู่จื่ออี้รู้สึก​เหมือน​โดนก้อนหินขนาดใหญ่​ที่น้ำหนัก​หลายร้อยกิโลกรัม​ทับลงมาที่หัวใจ เขายืนมองโห้หลีเฉินอุ้มเย้นหว่านเดินจากไป และ​ไม่เดินตามไปอีก

ภายใต้​สายตา​ของ​ทุกคนในงาน โห้หลี​เฉิน​อุ้มเย้นหว่านไว้ แล้ว​เดิน​ตรงไปบริเวณ​โต๊ะ​พักผ่อน​ในงาน

เขาวางเธอลงบนโซฟา​ ก่อนจะใช้ร่างสูงใหญ่​โน้มตัวลงไปหา

กลิ่นกายของเขาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้​เหลือ​ระยะ​ห่างแค่นิดเดียว

เย้นหว่านตื่นตกใจ จ้องหน้า​เขาอย่างระวังตัว​ และ​เริ่มทำตัวไม่ถูก​

เพราะว่า​ที่นี่เป็นที่สาธารณะ​ ยังมีสายตา​อีกหลายคู่ที่กำลังจ้องมองอยู่ โห้หลี​เฉิน​คิดจะทำอะไรของเขากันแน่

“คุณ​โห้ คุณ​ คุณ​อย่าเข้ามาใกล้ถึงขนาดนี้นะ”

เธอยกมือขึ้น พยายามผลักโห้หลี​เฉิน​ออกห่าง แต่ร่างกาย​ของ​เขาเหมือนภูเขาลูกใหญ่​ที่ไม่ขยับเขยื้อน​แม้แต่น้อย

โห้หลีเฉินมองหน้าเย้นหว่านอยู่ตลอด​เวลา สายตา​ของ​เขาลึกลับ​และ​อันตราย​มาก​

“ตอนนี้​ดีขึ้น​บ้างหรือยัง”

ดีขึ้น​บ้างหรือยังอะไรของเขา

เย้นหว่านมึนงง เธอนิ่งเงียบ​ไป​สักพัก​ ก่อนจะนึกขึ้น​ได้​ ที่เขาพูดคงหมายถึง​เรื่อง​ที่​เธอบอกว่าตัวเองไม่สบาย แต่ที่เธอพูดก็แค่​พูดประชด​เท่านั้น​เอง​

เย้นหว่านทำตัวไม่ถูก​พอเห็นโห้หลีเฉินอยู่ใกล้ขนาดนี้ เธอจึงรีบพยักหน้า​ตอบ “ดีขึ้น​มากแล้วค่ะ”

“งั้นก็ดี”

โห้หลี​เฉิน​แววตาเจ้าเล่ห์​แฝงรอยยิ้ม ก่อนจะถอยออกมา

พอโห้หลี​เฉิน​ถอยห่าง​ออกไป แสงไฟก็ส่องลงมาบนร่างของเย้นหว่าน เธอถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก​ เหมือน​ตัวเองได้รับอิสรภาพ​สักที

แต่เธอยังไม่ทันได้สัมผัสถึงอิสระ​ ก็รู้สึกว่าโซฟาด้านข้างยับตัวลงไป

เธอเงยหน้า​ขึ้น​มอง​ จึงเห็นว่าโห้หลีเฉินนั่งลง​ข้าง​ๆเธออย่างสบายอารมณ์​ เขาอ้าแขน​หนึ่งข้างขึ้น ทำท่าจะโอบกอด​เธอ

นี่มันในงานเลี้ยง​นะ มีสายตา​ตั้งหลายคู่กำลังมองพวกเธออยู่ แต่โห้หลี​เฉิน​กลับทำตัวเหมือนอยู่ที่บ้านของตัวเอง อยากกอดก็กอด น่าอายจริงๆ​ อีกทั้งมู่หรุงชิ่นของเขาก็ยังยืนอยู่ที่นี่ด้วย

เย้นหว่านรีบขยับตัว​ออกห่าง เพื่อรักษาระยะห่าง​กับโห้หลีเฉิน

เธอจ้องหน้า​เขา แล้ว​พูดด้วยท่าทีไม่ปิดบังความรู้สึก​ของ​ตัวเอง​ “คุณโห้คะ วันนี้เป็นวันเกิดของคุณ ยังมีอีกหลายคนที่รออวยพร​วันเกิด​ให้​คุณ​อยู่​ คุณ​ไม่ควรมานั่งอยู่ที่นี่”

“ผมนั่งเป็นเพื่อน​คุณ”

โห้หลี​เฉิน​พูด​เสียงเรียบนิ่ง เหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาควรทำอยู่แล้ว

เย้นหว่านอึ้ง นั่งเป็นเพื่อน​อะไรล่ะ เขาคงจะรอให้เธอพักผ่อน​จนพอใจ แล้วลากเธอไปชนแก้วกับแขกในงานเป็นเพื่อนเขาแน่นอน​

แต่เขาไม่ได้​มี​มู่หรุงชิ่นอยู่แล้วเหรอ ทำไมจะต้องลากเธอไปด้วย ชายหนึ่งหญิงสอง เขาไม่​รู้สึก​อึดอัด​ใจ​หรือไงกัน

แค่คิดดู​ เย้นหว่านก็รู้สึกต่อต้าน​ และ​รับไม่ได้แล้ว

“ถึงแม้​ฉันจะเป็นคู่หมั้น​ในนามของคุณ แต่การออกงานแบบนี้ ไม่มีใครกำหนดไว้ว่าคู่หมั้น​จะต้องเป็นคู่ควงไปงานนี่คะ คุณ​มู่หรุงชิ่นเป็นคู่ควงของคุณก็ดีแล้ว เธอทั้งสวย และ​คอแข็ง​ เหมาะสม​ที่จะเป็นคู่ควงไปงานเลี้ยง​สังสรรค์​ของ​คุณ​มาก คุณ​ก็ถือซะ​ว่า​คืนนี้ฉันไม่ได้มาที่นี่ ไม่มีใครกล้านินทาอะไรหรอกค่ะ”

เย้นหว่านสีหน้า​เคร่งขรึม​ เธอพูดด้วยท่าทางจริงจัง​ แต่พอฟังดูแล้ว กลับรู้สึก​ได้ถึงอากาศหึงหวง​อยู่​ในคำพูด​ด้วย

โห้หลี​เฉิน​ขับคิ้วเล็กน้อย​ ริมฝีปาก​แยกออกเหมือนกำลังดีใจ

เขาพูดเสียงต่ำ “เธอไม่ใช่​คู่ควงของผม”

พอได้ยิน​เขาพูดอย่างจริงจัง​ เปลวไฟ​ใน​ใจ​ของ​เย้นหว่านก็ยิ่งปะทุขึ้นเรื่อยๆ

เธอเห็นกับตา เขายังจะมีหน้ามาพูดอย่างนี้อีกเหรอ

เย้นหว่านกัดฟัน​พูด​ “ฉันไม่ได้ตาบอดนะคะ”

“สิ่งที่คุณเห็นไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเสมอไป​”

โห้หลีเฉินโต้กลับ​ ทั้งๆที่ปกติ​เขาจะไม่อธิบายอะไร​ให้​ใครฟัง แต่ในเวลานี้เขากลับพูดอธิบายอย่างใจเย็น

“เมื่อตะกี้​ที่มู่หรุงชิ่นยืนข้างๆผม ก็แค่ยื่นแก้วไวน์​ให้ผม ไม่ใช่​คู่ควงที่ผมพามาในคืนนี้”

โห้หลี​เฉิน​พูดอย่างอ่อนโยน​และ​เอ็นดู

“ถ้าคุณ​ไม่ชอบ จากนี้ไป ผมจะไม่ให้​เธอมายืนข้างๆผมอีก”

คำพูด​นี้ สามารถเรียกได้​ว่า​เป็นคำสัญญา​ของ​ผู้ชาย​คนหนึ่ง

เย้นหว่านตกตะลึง​ เธอมองหน้าโห้หลี​เฉิน​อย่างตกใจ สีหน้า​ของ​เธอ​เหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

เธอริมฝีปาก​สั่น ก่อนจะพูดออกมา “คุณ​โกหก​ฉันใช่ไหม​เนี่ย”

“ผมไม่เคยพูดโกหกใคร โดยเฉพาะ​คุณ”

คำพูด​ในแต่ละ​คำของเขา มันเอาแต่ใจและเด็ดขาด​มาก จนไม่มีใครกล้าสงสัย

เย้นหว่านยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก จากที่รู้จัก​กัน​มา​ เธอพอจะรู้นิสัย​ของ​โห้หลี​เฉิน​อยู่​บ้าง คนที่​สูงศักดิ์​อย่างเขา ไม่เคยพูดโกหกเลยสักครั้ง โดยเฉพาะ​การพูดโกหกเรื่องปัญญาอ่อน​อย่างนี้แล้วด้วย

เย้นหว่านสับสน​วุ่นวาย​ใจ อยากจะเอ่ยปาก​ถาม​ออกไปหลายครั้ง​ ในที่สุดก็กล้า​ถามออกไปสักที

“คุณ​มู่หรุงชิ่นเป็นแฟนของคุณไม่ใช่​เหรอ​คะ​ ทำไมคุณถึงทำกับเธออย่างนี้ล่ะ”

โห้หลีเฉินชะงัก​ไป​ ก่อน​จะ​จ้องหน้า​เย้นหว่านอย่างสงสัย

เขาย่นคิ้ว “ทำไมคุณถึงคิดว่าเธอเป็นแฟนของผม”

“เดิมทีพวกคุณ​ก็​เป็น…”

“ไม่ใช่”

โห้หลีเฉินปฏิเสธ​ออกมาทันที

เขามองหน้า​เย้นหว่านนิ่ง ในน้ำเสียงของเขา เหมือนจะไม่พอใจอยู่หลายส่วน “ผมกับเธอเป็นแค่เพื่อนกัน”

เย้นหว่านมองหน้าโห้หลี​เฉิน​อย่างตกใจ และ​นิ่งงัน​ไป

คำถามที่ติดใจเธอมานาน ในที่สุด​ เธอก็ได้รับคำตอบสักที

ที่แท้​ ระหว่าง​โห้หลีเฉินกับมู่หรุงชิ่นก็ไม่มีอะไรกันจริงๆ​ โห้หลี​เฉิน​กับมู่หรุงชิ่นไม่เคยเป็นแฟนกัน นั่นก็หมายความว่า ตั้งแต่​เจอ​กับ​ครั้งแรก​ สิ่งที่มู่หรุงชิ่นพูดกับเธอ มันก็เป็นเรื่อง​โกหกหลอกลวง​ทั้งนั้น

มู่หรุงชิ่นหลอกลวงเธอมาตั้งเเต่​แรก

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท