บทที่249 ไม่ใช่แม้แต่คนรู้จัก
อานฉีเอ๋อเห็นเย้นหว่าน แล้วก็ได้ยินในสิ่งที่ฉูรั่วไป๋พูด ตามสัญชาตญาณของผู้หญิงคนหนึ่ง เธอก็เห็นเย้นหว่านเป็นคู่แข่งในทันที
เธอมองไปที่เย้นหว่านด้วยใบหน้าที่ไม่เป็นมิตร “เธอคือแฟนใหม่ของรั่วไป๋เหรอ? ”
เย้นหว่านอึ้งไป เรื่องเข้าใจผิดนี้มันจะไปกันใหญ่แล้ว
เธอรีบอธิบาย “ไม่ใช่ ฉันเป็นแค่……คนรู้จักเท่านั้น”
“งั้นเหรอ? ”
เห็นได้ชัดว่าอานฉีเอ๋อเชื่อ เธอมองไปที่เย้นหว่านครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยสายตาตรวจสอบ
เย้นหว่านถูกจ้องจนกลัว เธอรู้สึกหดหู่ไปหมด เธอก็แค่มาช็อปปิ้งเท่านั้นเอง แล้วก็แอบฟังอยู่ตรงมุมกำแพง แต่ก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ขึ้นมาจนได้
มากเกินไปแล้ว
เธอไม่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งอีกต่อไปแล้ว เธอพยักหน้า พยายามจะหาเหตุผลที่จะถอนตัว
ฉูรั่วไป๋กลับพูดอย่างทันทีว่า “เสี่ยวหว่าน เธอไม่ต้องไปสนใจเธอหรอกนะ ฉันไม่ได้เป็นแม้แต่คนรู้จักกับเธอด้วยซ้ำ ไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ ”
เพียงประโยคเดียว ก็แยกระยะห่างได้อย่างชัดเจน
อานฉีเอ๋อ ที่ยังยืนอยู่ในฐานะแฟนของฉูรั่วไป๋ แก้มก็เปลี่ยนเป็นทั้งแดงและซีดทันที เธออับอายที่พาตัวเองมาอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอายแบบนี้
เมื่อกี้ถึงแม้ว่าฉูรั่วไป๋จะต้องการระงับความสัมพันธ์กับเธอ แต่ว่าไม่ว่าจะยังไงก็ตามก็จะมองเธอ ใส่ใจเธอ แต่ว่าตั้งแต่ที่เย้นหว่านปรากฏตัวขึ้นมา ในสายตาของฉูรั่วไป๋กลับไม่มีแม้แต่เงาของเธอเลยด้วยซ้ำ
สายตาของฉูรั่วไป๋ มุ้งเน่นไปที่เย้นหว่านทั้งหมดเพียงคนเดียว
ความรู้สึกที่คลุมเครืออยู่ภายในดวงตาสีฟ้าคู่นั้น เฉียบแหลมพอๆ กับอานฉีเอ๋อ มองออกได้แทบจะชัดเจนเลยว่า มันเป็นความรู้สึกที่เร่าร้อนขนาดไหน
ฉูรั่วไป๋ชอบเย้นหว่าน!
เป็นความชอบที่เป็นความจริงใจที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ ที่ผู้ชายคนหนึ่งมีให้ผู้หญิงคนหนึ่ง สายตาแบบนี้ อานฉีเอ๋อไม่เคยเห็นจากฉูรั่วไป๋มาก่อน
เธอเคยได้ยินมานานแล้ว ว่าฉูรั่วไป๋เป็นคนเจ้าชู้ไม่ชอบผูกมัด มีผู้หญิงนับไม่ถ้วน แต่ว่าต่อให้มีสิ่งล่อตาล่อใจมากมายก็ยังคงไม่หวั่นไหว เป็นเพลย์บอยที่ดีที่สุดของเมืองเจียง
การจะขึ้นเตียงเขาได้นั้นไม่ใช่เรื่องอยาก แต่ว่าถ้าจะยังคงอยู่บนเตียงเขาต่อไปนั้น หลายปีมานี้ กลับไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำได้มาก่อนเลย
ฉูรั่วไป๋ชื่นชมในตัวของอานฉีเอ๋อจริงๆ แต่ก็เพราะว่ามีวัตถุประสงค์อื่น อาศัยรูปร่างหน้าตาที่ดูดีของเธอ อยากจะต่อสู้สักตั้ง ต่อให้ต้องหน้าด้านไร้ยางอายเธอก็ต้องช่วงชิงโอกาสที่จะได้อยู่ข้างๆ เขามาให้ได้
แต่ว่าเธอยังไม่ทันจะทำสำเร็จ ก็ต้องมาเจอกับเย้นหว่านอย่างคาดไม่ถึง
และก็ต้องตกใจมากกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าสำหรับฉูรั่วไป๋แล้วนั้นเย้นหว่านไม่ได้เหมือนกับคนอื่น เขาแม้แต่ชอบเย้นหว่านด้วยซ้ำ
ที่แท้ ฉูรั่วไป๋ก็ไม่ใช่คนไม่มีหัวใจ ที่แท้เขาก็ใจเต้นเป็นเหมือนกัน ที่แท้เขาก็มีคนที่ชอบได้เหมือนกัน
อานฉีเอ๋อเข้าใจดี คนอย่างฉูรั่วไป๋เนี่ย ถ้าเกิดว่าใจเต้นเมื่อไหร่ ก็จะตั้งใจมาก ส่วนผู้หญิงคนอื่นๆ ก็ต้องสูญเสียเกือบทุกอย่าง รวมถึงเธอด้วย
สูญเสียความหวัง อานฉีเอ๋อกลายเป็นเหมือนดอกไม้ที่เหี่ยวแห้งภายในพริบตาเดียว ไม่มีชีวิตชีวา
เย้นหว่านมองไปที่อานฉีเอ๋ออย่างทำอะไรไม่ถูก แล้วก็สังเกตเห็นว่าอารมณ์ของเธอได้เปลี่ยนไป จากอารมณ์ที่ดูไม่พอใจ แต่ว่าตอนนี้เปลี่ยนเป็นยอมแพ้อย่างหน้าม่อยคอตก
แต่ว่ามันก็เป็นแค่เพราะประโยคของฉูรั่วไป๋เมื่อกี้นี้ที่บอกว่า “ไม่ใช่แม้แต่คนรู้จัก”
คำพูดแบบนี้ ต่อให้เปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น ก็คงอับอายตายไปแล้วเหมือนกัน
เย้นหว่านอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นอกเห็นใจอานฉีเอ๋อ
ตาไม่ดี ไปรักผิดคน
“ขอโทษที ฉันบุ่มบ่ามเกินไปเองแหละ”
ทันใดนั้นอานฉีเอ๋อก็เอ่ยปากขอโทษ กะพริบตาและมองหน้าเย้นหว่าน “คุณผู้หญิงคะ หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะ ฉันกับคุณฉู ไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ ฉันร้องขอมากเกินไปเองแหละ”
เย้นหว่านตะลึง ทำไมจู่ๆ อานฉีเอ๋อถึงต้องขอโทษเธอด้วย?
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
เธอยังจะไม่ทันเข้าใจสถานการณ์ดี อานฉีเอ๋อก็ก้มหน้าลง เหยียบลงบนรองเท้าส้นสูงแล้วก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ฝีเท้าของเธอไวมาก เดินไปอย่างมั่นคง
ช่างเป็นคนที่ตรงไปตรงมาจริงๆ
เย้นหว่านยืนอึ้งอยู่ตรงที่เดิม สีหน้าดูแปลกประหลาด
ฉูรั่วไป๋กลับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “ในที่สุดก็ไปแล้ว”
เอาแต่พัวพันรอบตัวเขา สร้างเรื่องให้เขาปวดหัว
แม้แต่เกือบจะทำให้เย้นหว่านเข้าใจผิดแล้ว
เย้นหว่านได้สติกลับมา แล้วก็มองไปที่คนไร้หัวใจที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ เธออย่างพูดไม่ออก
“เธอสวยขนาดนั้น รู้สึกได้ว่านิสัยเธอก็น่าจะดีมากด้วย ที่จริงคุณก็ควรจะพิจารณาดูหน่อยนะ” การเปลี่ยนคู่นอนทุกวัน การมาลองสัมผัสความรู้สึกของการมีคู่ระยะยาวดูบ้าง อาจจะรู้สึกว่ามันไม่ได้แย่ก็ได้
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉูรั่วไป๋ค้างแข็งทันที มองสีหน้าที่จริงจังของเย้นหว่าน ก็รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้แบบไร้น้ำตา
เธอเข้าใจผิดอีกแล้วจริงๆ ด้วย
“ฉันกับเธอไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ ”
ฉูรั่วไป๋อธิบายใหม่อีกครั้ง สีหน้าดูกระตือรือร้นและจริงจัง
“เมื่อก่อนฉันชอบเล่นก็จริง ฉันกับเขาเจอกันตอนก่อนหน้าที่เธอจะมาที่เมืองเจียง ก็แค่คืนนั้น แต่ว่าวันต่อมาต่างฝ่ายก็ต่างไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีก วันนี้ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นบ้าอะไร จู่ๆ ถึงได้วิ่งมาหาฉัน แต่ว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ ”
เย้นหว่านเม้มปากแน่น ที่จริงผู้หญิงที่น่าหลงใหลแบบนั้น มีอะไรนิดหน่อยก็ยังดีไม่ใช่เหรอ?
เห็นสีหน้าของเย้นหว่านแล้ว ฉูรั่วไป๋ก็รู้สึกว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างดู เขาก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมากกว่าเดิมทันที
เขาจับไหล่ของเธอไว้ สีหน้าจริงจังอย่างมาก
“ฉันรู้ว่าเมื่อก่อนฉันทำตัวไม่ค่อยดีเท่าไหร่จริงๆ พูดอะไรไปเธอก็น่าจะไม่เชื่อ แต่ว่าฉันรับประกันเลยว่า ต่อไปฉันจะไม่มีวันเกี่ยวข้องอะไรกับผู้หญิงพวกนั้นอีกเด็ดขาด”
“หา? ”
เย้นหว่านมองหน้าเขาอย่างตะลึง นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?
เพลย์บอยริ้วขาวในเกลียวคลื่นบอกว่าเขาจะไม่แตะต้องดอกไม้อีก พูดออกไปจะมีใครเชื่อด้วยเหรอ?
“ เมื่อก่อนฉันไม่เคยรู้ว่าการชอบคนๆหนึ่งมันรู้สึกยังไง หลังจากนี้ฉันเองก็อยากจะลอง คบกับคนที่ฉันรัก รสชาติของการอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า”
ฉูรั่วไป๋มองหน้าเย้นหว่าน พูดแต่ละคำแต่ละประโยคออกมาอย่างจริงจังเป็นพิเศษ
ดวงตาของเขาดูลึกล้ำและมีเสน่ห์ เต็มไปด้วยความเสน่หาที่ทำให้คนมึนเมา ทำให้คนเกือบจะตกลงไป
แม้แต่เย้นหว่านเอง ก็เกือบจะเชื่อแล้ว
เธอยิ้ม “แน่นอนว่าต้องมีผู้หญิงหลายคนคาดหวังจะเป็นคนๆนั้นแน่นอน”
“เธอเองก็หวังเหมือนกันรึเปล่า? ”
ฉูรั่วไป๋ถามออกมาลวกๆ มันเหมือนจะเป็นคำถามที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่าร่างกายของเขาตึงไปหมด เผยให้เห็นถึงความกังวลและความคาดหวังของเขา
เธอมองออกว่าฉูรั่วไป๋กำลังล้อเล่นอยู่ เย้นหว่านก็ตอบอย่างลวกๆ เหมือนกัน “น่าเสียดายที่ฉันเป็นคู่หมั้นของโห้หลีเฉิน ไม่ยังงั้นนะ ฉันจะมาต่อแถวเป็นคนแรกเลย”
“จริงเหรอ? ”
ฉูรั่วไป๋จับไหล่เย้นหว่านแน่นกว่าเดิม มีความหวังเกิดขึ้นในหัวใจของเขา
สามารถเดินมาถึงจุดที่อยู่ในทุกวันนี้ด้วยตัวเอง ฉูรั่วไป๋ก็ถือว่าเป็นคนที่ค่อนข้างจะฉลาดเฉียบแหลมและมีสายตาว่องไว ในช่วงนี้ที่ได้ไปมาหาสู่กับเย้นหว่าน เขาก็พอจะเดาความสัมพันธ์ของเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินได้ แต่ว่าก็ไม่ได้อะไร
ถึงแม้ว่าจะเป็นคู่หมั้นกัน แต่ความสัมพันธ์นั้นก็เหมือนกับการเดินบนน้ำแข็งบางๆ และเย้นหว่านก็ดูเหมือนอยากจะหนีด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องทำก็คือแค่ต้องผลักดัน เติมไฟ แล้วเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินก็จะแยกทางกันได้อย่างง่ายดาย
เห็นสีหน้าคาดหวังของฉูรั่วไป๋ เย้นหว่านก็ยักไหล่ แล้วก็ผลักเขาออก
“瞿少 เมื่อกี้มีสาวงามมาสารภาพรักกับคุณ ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าเสน่ห์ของคุณนั้นมันไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ แล้วคุณก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไร ดังนั้นก็อย่ามาถามหาความมั่นใจในตัวเองจากฉันเลย”
เย้นหว่านเห็นคำพูดของเขาเป็นเรื่องล้อเล่นทั้งหมด
เมื่อไม่ได้รับคำตอบที่ตัวเองต้องการ ฉูรั่วไป๋ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ว่าก็เข้าใจอยู่ สำหรับเย้นหว่านแล้วนั้นเขาจะรีบร้อนให้ได้ความสำเร็จมาไม่ได้
เขากลับมาอยู่ในท่าทีที่สบายๆ และสง่างามเหมือนเดิม มองถุงที่อยู่ในมือของเย้นหว่าน
“เธอมาเดินเล่นที่ห้าง อยากจะซื้ออะไรเหรอ? ”
เย้นหว่านทำงานอย่างจริงจังมาก ตอนที่ออกไปทำงานที่เมืองเจียงนั้น เธอได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะมากมาย เพราะฉะนั้นปกติแล้วเธอจะไม่ค่อยยอมเสียเวลา พอจะมีเวลาว่างถ้าไม่ทำงานก็เรียนรู้เพิ่มเติม เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าไม่ได้มีธุระอะไรโดยปกติแล้วเธอก็ไม่ได้ออกมาเดินเล่นช็อปปิ้งแบบนี้หรอก
เพราะฉะนั้นการที่วันนี้เขาได้พบกับเย้นหว่านที่ห้าง ฉูรั่วไป๋เองก็รู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน