บทที่260 ปาฏิหาริย์
ทีน่าชะงัก แต่เพียงแวบเดียวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม จริงด้วยสิ โห้หลีเฉินถึงแม้จะเข้าร่วมงานนี้ แต่เขาไม่ได้เป็นนักออกแบบ เรื่องคนที่มีชื่อเสียงในวงการออกแบบเขาอาจจะไม่รู้จัก
ไม่ต้องพูดถึงการนับถือเลย อันนี้เธอเข้าใจได้
“ฟีโรเจ๊กเป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ออกแบบผลงานออกมาได้อย่างไร้ที่ติ ไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใด แต่ครั้งนี้มันค่อนข้างจะแตกต่าง อีกทั้งตัวของเขาเองก็หวังว่างานโชว์ครั้งนี้ จะมีใครที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาของเขาได้
ทีน่าเริ่มอารามบทเล่าเรื่องของฟีโรเจ๊ก แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ
“คุณโห้ สนใจอยากที่จะไปดูไหมคะ? ”
สนใจไหมหน่ะหรอ แน่นอนว่าไม่
แต่โห้หลีเฉินกลับไม่ได้ปฏิเสธ แต่มองไปทางผู้หญิงตัวน้อยๆ ที่อยู่ข้างๆ เห็นเธอเป็นแบบนั้นก็บอกได้เลยว่าเธออยากไปสองร้อยเปอร์เซ็นต์
โห้หลีเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นพลางพูด : “ไปสิ”
เธออยากที่จะดู และเขาก็เพียงตามใจเธอ
เมื่อได้ยินโห้หลีเฉินพูดแบบนั้น เย้นหว่านก็ดีใจยกใหญ่ นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอคิดหวังเลยหล่ะ ว่าเธอจะได้เข้าไปใกล้ๆ ผลงานของฟีโรเจ๊ก นักออกแบบที่เธอชื่นชมนับถือ
สำหรับเรื่องปัญหานั้น เธอไม่ค่อยอยากจะเชื่อเสียเท่าไหร่ว่างานของฟีโรเจ๊กจะเกิดข้อบกพร่องได้
การที่เชิญโห้หลีเฉินไปดูได้ ก็ทำให้ทีน่ายิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
ก้าวฉับพร้อมกับโรงเท้าส้นสูง เดินตรงนำหน้าไปสู่ซุ้มที่ค่อนข้างลึกล้ำเข้าไปอีก
ในเวลาเดียวกันนั้น แขกคนอื่นๆ ที่กำลังชื่นชมผลงานก็เหมือนกับได้มารับข่าวสารด้วยเช่นเดียวกัน ก็จึงค่อยๆ เดินตามกันไป
แทบจะทุกคนนั้นให้ความสนใจอย่างยิ่งในเรื่องที่ผลงานของฟีโรเจ๊กนักออกแบบชื่อดังกลับมามีปัญหาขึ้น
ในตำแหน่งสุดท้ายของงานโชว์ ทั้งยังเป็นซุ้มที่ใหญ่ที่สุดซุ้มหนึ่ง มีหุ่นโชว์ยืนอยู่ในชุดกระโปรงสีฟ้าน้ำทะเล ทันทีที่เห็นตาของผู้เห็นก็เป็นประกายน้ำทะเลทันที
มองอีกที ก็รู้ว่ามันเป็นเพียงกระโปรงตัวหนึ่ง ซึ่งคนที่ใส่นั้นก็ดูสวยงามราวกับเงือก
ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่หุ่น เพราะเมื่อสวมชุดนี้แล้วก็ทำให้ดูมีชีวิตขึ้นมา และทำให้สวยงามมากยิ่งขึ้น
เย้นหว่านมองไปที่ผลงานก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม
“สวยมากเลย”
ไม่แปลกใจที่เป็นผลงานของฟีโรเจ๊ก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเห็นกับตาตัวเอง
ด้วยความสามารถของเธอแล้ว เพื่อที่จะสำเร็จงานออกแบบแบบนี้มาได้ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลากี่ปี
คนอื่นที่มาด้วยทั้งหมดนั่นก็ตกตะลึงแล้วก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กัน
“สวยเกินไปแล้ว นี่มันเป็นดั่งปาฏิหาริย์ของงานออกแบบทีเดียว”
“เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นทีเดียวทำไมมันช่างสมบูรณ์แบบอะไรอย่างนี้ ถ้าหากฟีโรเจ๊กอยู่ที่นี่ด้วย ฉันจะคุกเข่าต่อหน้าเขา”
“ชุดๆ นี้ไม่อาจจะพรรณนาถึงความงดงามได้เลย จะเอาตรงไหนมามีปัญหาได้หล่ะ? ”
“จริงด้วยสิ ผู้อำนวยการทีน่า ผลงานชิ้นนี้สามารถพูดได้ว่าสมบูรณ์แบบได้เลย ทำไมคุณถึงบอกว่ามีปัญหาหล่ะ? หรือว่าแกล้งพูดให้เป็นลูกเล่นงานเท่านั้น? ”
เริ่มมีคนพูดขึ้น
ถึงแม้ทีน่าจะเป็นที่น่าเคารพ แต่เมื่อเป็นผลงานของฟีโรเจ๊กนักออกแบบชื่อดังนี่แล้ว น้ำเสียงของเธอจึงแสดงออกถึงความไม่พอใจทันทีเมื่อทีน่าพูดว่ามีข้อบกพร่อง
เย้นหว่านที่กำลังช็อกในทีแรก เธอก็ถูกดึงกลับสติมาด้วยเพราะเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่นๆ
ปัญหาอย่างนั้นเหรอ? ชุดนี้สวยจนทำให้ตกตะลึง เธอเพียงคิดว่านี่น่าจะเป็นชุดที่สวยที่สุดในโลก ในใจก็มีแต่คำว่าสมบูรณ์แบบแล้ว
แต่ หลังจากที่นิ่งดูดีๆ เย้นหว่านก็หรี่ตาลงและพบเข้ากับความแตกต่างเล็กน้อย
เธอลังเลอยู่ครู ขมวดคิ้วเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจนัก
“ชุดนี้ แวบแรกแม้จะทำให้พอจะตื่นตาตื่นใจได้ แต่เพราะสวยงามมากเกินไป ทำให้ชุดนี้ หาคนที่ใส่แล้วเหมาะสมไม่ได้”
ทันทีที่พูดขึ้น ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจึงหยุดลงและพุ่งสายตามามองที่เย้นหว่าน
มีคนพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “นี่มันผลงานของฟีโรเจ๊กเชียวนะ อย่ามาพูดมั่วซั่ว”
บางคนก็พูดขึ้น “พูดจริงๆ ด้วย เป็นอย่างนี้นี่เอง ชุดสวย แต่ดีไซน์มากไปหน่อย”
“เสื้อผ้าถูกออกแบบมาเพื่อให้ดูสวยงาม แต่ถึงชุดจะสวยมาก แต่อล้นเกินไป ไม่มีใครสามารถใส่มันได้”
คนต่างๆ ที่วิพากษ์วิจารณ์ก็ดูเหมือนจะเริ่มเข้าใจ
ชุดบางชุดก็เลือกคนใส่ คนที่ใส่ได้พอดี คนที่สามารถเอาชุดอยู่เท่านั้นถึงจะใส่มันได้ แต่ชุดๆ นี้ แม้จะใช้นางแบบที่สวยที่สุดหรือนายแบบที่ดูดีที่สุดก็ไปอาจเอาชุดนี้ได้อยู่
มันจึงไม่แปลกที่จะไม่สมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังกลายเป็นปัญหาขึ้นมา
ที่แท้ ปัญหาที่ผู้อำนวยการทีน่าพูด ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!
อีกอย่างปัญหานี้ปกติก็จะไม่ค่อยเกิดขึ้น มีเพียงแต่ผลงานของฟีโรเจ๊กจึงจะเกิดปัญหาอะไรแบบนี้ออกมาได้
ผู้คนคนอื่นๆ ต่างกับนับถือบูชาเขาในใจอีกครั้ง
ทีน่ายืนอยู่ข้างๆ หันไปมองทางเย้นหว่าน ด้วยเพราะคำพูดของเธอนั้นทำให้ออกจะแปลกใจหน่อยๆ
เดิมทีคิดว่าเย้นหว่านนั้นเป็นเพียงผู้หญิงจอมสร้างปัญหา อีกทั้งยังมาในฐานะคู่ควงของโห้หลีเฉินอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้คิดว่าเธอจะมีความรู้ด้านนี้
ไม่คิดว่าท่ามกลางคนมากมายจะมีเธอที่มีปฏิกิริยาเป็นคนแรก
มันเพียงพอที่จะบอกได้ว่าระดับการออกแบบของเธอนั้นไม่ได้แย่เลย
“ใช่แล้วหล่ะ ชุดชุดนี้มีปัญหาอยู่จริงๆ และเป็นปัญหาที่ฟีโรเจ๊กต้องการที่จะแก้ไข”
เห็นฝูงชนวิพากษ์วิจารณ์กันไม่น้อย ทีน่าจึงพูดขึ้นด้วยเสียงไม่ดังไม่เบาจนเกินไป
เสียงของเธอไม่ดัง แต่เมื่อพูดออกไปแล้วกลับดึงดูดความสนใจไปจากทุกคนได้เลย นั่นจึงทำให้เธอกลายเป็นจุดศูนย์กลาง
“พวกคุณทุกคนสามารถที่จะพิจารณาดูมันได้ว่าสามารถที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้หรือไม่”
ทีน่าทิ้งปัญหาไว้ให้แก่ทุกคน
การที่จะแก้ไขปัญหาในงานของฟีโรเจ๊กได้นั้น สำหรับนักออกแบบทุกคนที่นี่แล้วถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง อีกอย่างถ้าหากสามารถที่จะแก้ไขได้ ชื่อเสียงในวงการของเขาก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทีเดียว
สำหรับทุกคนแล้ว มันเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น ทั้งยังล่อตาล่อใจมาก
พวกเขาเริ่มเรียนรู้ชุดและหาวิธีการแก้ไข
ทีน่ามองไปทางฝูงชนก่อนที่สายตาจะมาตกอยู่ที่ร่างของเย้นหว่าน
ก่อนจะพูดขึ้น: “คุณเย้น เมื่อครู่คุณเป็นคนแรกที่พูดถึงปัญหาของชุดนี้ ทำไมคุณไม่ลองแก้ดูหล่ะ? ”
“ฉัน….”
เย้นหว่านลังเล ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นน้อยๆ
เธอเห็นถึงปัญหาของชุดนี้ก็จริง แต่ชุดนี้สำหรับเธอแล้วเทคนิคในการออกแบบมันช่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ตอนนี้เธอก็ยังหาข้อแก้ไขไม่ได้
คนอื่นๆ ได้ยินที่ทีน่าพูด ก็มองมาทางเย้นหว่านอย่างคาดหวัง
“นี่คุณ คุณสามารถมองเห็นทางแก้ปัญหาได้ไหม? ”
“ใช่ๆ พวกเราความสามารถไม่ถึงน่ะ หาวิธีไม่เจอเลย”
หลายต่อหลายคนมองมาทางเย้นหว่าน ราวกับคาดหวังว่าเธอจะแก้ไขปัญหาได้
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาหลายต่อหลายคู่ เย้นหว่านก็รู้สึกประหม่า
เธอเองก็อยากที่จะแก้ไขปัญหา แต่ปัญหานี้มันเกินความสามารถเธอไปหน่อย
หมดหนทาง เธอจึงได้แต่ส่ายหน้า
“ขอโทษนะคะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“น่าเสียดาย นี่มันผลงานระดับพระเจ้าสร้าง ถ้าปัญหานี้แก้ไขไม่ได้ ก็คงจำต้องทำลายไป”
บางคนได้แต่ถอนหายใจ
บ้างก็เศร้าเสียใจ
บ้างก็มองไปที่ชุดด้วยตาเป็นประกาย พยายามเค้นสมองเพื่อที่จะหาถึงวิธีการแก้ปัญหา