บทที่ 262 สิ่งที่สนใจคือ ชุดเจ้าสาว
เย้นหว่านตกตะลึงแบบไม่มีอะไรเทียบเช่นกันที่โห้หลีเฉินลงมือฉีกชุดของอาจารย์ฟีโรเจ๊ก แต่นอกจากความตกใจแล้ว เธอกลับไม่ได้แค้นเคือง ราวกับเชื่อโดยจิตใต้สำนึกว่าโห้หลีเฉินจะไม่ทำเรื่องที่ทำร้ายคนไม่เป็นประโยชน์แบบนี้
และเขาก็เคยพูด เขาจะแก้ไขปัญหา
ถึงแม้ว่าฉีกเสื้อผ้านี้ พอดูขึ้นมาก็ไม่เหมือนลักษณะที่แก้ไขปัญหา……
เย้นหว่านอารมณ์ตึงแน่นอยู่ สายตามองไปเสื้อผ้าชุดนั้น เพียงแค่มอง เธอกลับตะลึงค้างไปทั้งตัว
เห็นเพียงการออกแบบคอเสื้อแบบเดิมของชุดนั้น ถูกฉีกเอียงลงมา เปลี่ยนเป็นการออกแบบเกาะอกไปแล้ว
โดยปกติรูปแบบการออกแบบเปลี่ยนไป เสน่ห์อันน่าดื่มด่ำของมันก็เปลี่ยนไปทั้งหมด ทว่าคอเสื้อของชุดนี้ถึงแม้ถูกฉีกแล้ว แต่กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงเสน่ห์อันน่าดื่มด่ำของมันสักนิด แม้กระทั่งยังเปลี่ยนไปเป็นน่าดึงดูดยิ่งขึ้นอีก
สิ่งที่ยิ่งน่ามหัศจรรย์คือเดิมทีนางแบบที่ถูกกดทับ ชั่วขณะหนึ่งกลับเปลี่ยนมาสวยโดดเด่นขึ้นมา ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่นางแบบที่เป็นหุ่น และตอนที่สามารถมองเห็นเสื้อผ้าชุดนี้ได้ ก็สังเกตถึงหุ่นที่สวมชุดด้วยเช่นกัน
และหุ่นตัวนี้ถูกขับให้โดดเด่นขึ้นมาอย่างมากที่สุด ราวกับชุดราตรีนี้สั่งทำเพื่อรูปร่างของมัน
แม้จะเป็นเพียงนางแบบที่เป็นหุ่นยังสร้างผลลัพธ์แบบนี้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหากคนจริงใส่ขึ้นมานั่นจะสวยงามมากแค่ไหน
“คุณ คุณแก้ไขปัญหานี้ได้จริงๆ!”
เย้นหว่านปิดปากเอาไว้อย่างตกใจ ประหลาดใจจนพูดไม่ออก
เธอคิดว่าโห้หลีเฉินเพียงแต่พูดเฉยๆ วาดหวังโดยจิตใต้สำนึกว่าเขาอาจจะทำสำเร็จ แต่ในความเป็นจริงตอนที่เขาทำได้จริง เธอพึ่งรู้สึกถึงความเป็นไปไม่ได้มากมายแค่ไหน
ต้องรู้ว่าผลงานชุดนี้สามารถมาถึงการแสดงที่นี่ ค้นหาวิธีในการแก้ไข ซึ่งพิสูจน์ว่าอาจารย์ฟีโรเจ๊กไม่มีทางแก้ไขได้ แต่แม้กระทั่งอาจจะมีนักออกแบบใหญ่ต่างชาติมากมายต่างก็ลองมาแล้ว
ตอนนี้วางอยู่ที่นี่ แต่เหล่านักออกแบบที่มาชมต่างหมดหนทาง กระทั่งคนมากมายแม้แต่ปัญหายังมองไม่ออก
ดังนั้นจึงพอที่จะเห็นได้ถึงความยากของปัญหานี้ และเหมือนจะไม่เกินคาด หลังจากวันนี้ผ่านไป เป็นไปได้มากว่าปัญหาของเสื้อผ้าชุดนี้จะกลายเป็นหนึ่งในปัญหายากที่จะแก้ไขไม่ได้ในวงการออกแบบ
แต่อย่างไรเย้นหว่านก็คาดไม่ถึงว่าคนมืออาชีพมากขนาดนั้นล้วนไม่มีทาง กลับถูกโห้หลีเฉินแก้ไขอย่างเรียบง่ายมุทะลุ
ไม่กี่วันก่อนแม้แต่การออกแบบเสื้อผ้าเขาก็ยังไม่เคยสัมผัสเลย!
คิดรวมดูทั้งหมด โห้หลีเฉินเพิ่งเรียนการออกแบบมาไม่กี่วัน แม้กระทั่งยังไม่มีครูมืออาชีพมาสอนด้วย แค่อ่านหนังสือสองสามเล่มเท่านั้นเอง
แต่ระดับความรู้ลึกซึ้งของเขากลับสูงมากขนาดนี้เลย
ถึงแม้จะแค่ดึงคอเสื้อของชุดนั้นออกมา เปลี่ยนรูปแบบไป แต่การดึงตามใจชอบแบบนี้ ก็เป็นมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ และจะไม่ทำตามอำเภอใจสักนิดเดียว
แม้แต่เส้นรัศมีวงกลมที่ลาดเอียง ล้วนเต็มไปด้วยฝีมือและศิลปะ
การลงมือนี้ ถ้าไม่ใช่ก่อนหน้านี้เย้นหว่านรู้จักโห้หลีเฉินดีมาก อาจจะคิดว่าเขาเป็นนักออกแบบใหญ่ที่มีประสบการณ์โชกโชนด้วยซ้ำ
คนคนนี้ พรสวรรค์ช่างเกินเลยไปหน่อยหรือเปล่า?
หรือว่านี่เดิมทีไม่สามารถใช้พรสวรรค์มาอธิบายได้มั้ง นี่เดิมทีก็คือปีศาจ!
คนอื่นพึ่งได้สติกลับมา ตอนที่มองเห็นผลงาน เหมือนแต่ละคนต่างตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
ปัญหายากของชุดตัวนี้ คาดไม่ถึงจะถูกแก้ไขได้จริง
“คุณโห้ เป็นมือที่พระเจ้าประทานให้จริงๆ”
“เก่งกาจเหลือเกิน! คิดไม่ถึงว่าคุณโห้ไม่เพียงฉลาดทางธุรกิจ ในด้านการออกแบบยังมีความรู้ลึกซึ้งมากขนาดนี้ด้วย!”
“น่านับถืออย่างยิ่ง ทำให้พวกเราเหล่านี้อับอายจนไม่มีที่จะไปหลบเลย”
“ถ้าคุณโห้เข้ามาในวงการออกแบบได้ ลงมือออกแบบเสื้อผ้าสักชุด นั่นต้องเป็นผลงานที่สวยน่าดึงดูดทั้งโลกอย่างแน่นอน”
ผู้คนค่อยๆ ชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง บนหน้าแต่ละคนเหมือนเลื่อมใสต่อโห้หลีเฉินกันหมด
ส่วนโห้หลีเฉินเดิมทียังคงภาพลักษณ์ที่สูงส่ง ในใจของพวกเขายิ่งถูกดึงสูงขึ้นไปอีกหลายหมื่นเมตร ยังสูงจนวัดไม่ได้ยิ่งกว่าเขาเอเวอเรสต์
นี่เป็นคนที่ไหนกัน นี่สามารถเป็นเทพได้เลยล่ะมั้ง
ทีน่ารู้อยู่ลึกๆ ถึงปัญหาและระดับความยากของการออกแบบชุดนี้ สำหรับแขกรับเชิญในครั้งนี้ จึงไม่ได้มีความหวังมากเท่าไร
แม้กระทั่งหล่อนยังมองเห็นภาพที่ผลงานชิ้นนี้ถูกจัดว่าเป็นปัญหายากที่แก้ไม่ได้
แต่คาดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าหล่อน ชายหนุ่มที่สูงศักดิ์ไม่เป็นสองรองใคร หล่อเหลาสมบูรณ์แบบคนนั้น จะแก้ไขปัญหายากข้อนี้ได้แล้วอย่างน่าเหลือเชื่อ
ยกมือฉีกตามอำเภอใจขนาดนั้น เหมือนทั้งตัวอาบด้วยแสงทอง สะดุดตาจนส่องเข้าที่หัวใจของทีน่าไปโดยตรง
และหัวใจนั้นก็เต้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หล่อนสำนึกได้ว่านี่คือรสชาติของความสนใจ
หล่อนจ้องมองโห้หลีเฉินชนิดตาไม่ขยับ เสียงก็อดอ่อนโยนลงมาหลายระดับไม่ได้
หล่อนพูดว่า “คุณโห้ ไม่ทราบว่าคุณสนใจออกแบบเสื้อผ้าหรือเปล่าคะ? ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ออกแบบชุดสองชุดตามชอบใจก็ได้ เชื่อว่าผลงานของคุณต้องได้รับความชื่นชอบของทั้งโลกแน่นอนค่ะ”
และรวมถึงหล่อนด้วย
ออกแบบเสื้อผ้า?
แต่ไหนแต่ไรโห้หลีเฉินไม่เคยพิจารณาถึงปัญหานี้มาก่อน ที่เขาศึกษาเรียนรู้เนื้อหาการออกแบบทั้งหมด เหตุผลใหญ่มากในนั้นเพียงเพราะเย้นหว่าน
เมื่อก่อนเขาไม่เข้าใจการแพทย์ เพื่อเย้นหว่านแล้ว ฝีมือการแพทย์ในตอนนี้เหมือนว่าจะไม่เลว แต่เขาไม่ได้พิจารณาถึงการเป็นหมอคนหนึ่ง
ความเย็นชาของโห้หลีเฉิน ทีน่าเคยรู้จักมาแต่แรก ดังนั้นสำหรับท่าทีในตอนนี้ของโห้หลีเฉินที่ไม่ได้ให้คำตอบ หล่อนจึงไม่รู้สึกมีอะไร
แต่ทว่าพอมองเห็นเขายิ่งปล่อยความรู้สึกหล่อเหลาน่าดึงดูด ความสามารถโดดเด่น ทำให้หล่อนหลงแทบลืมตาไม่ขึ้น
หล่อนหัวเราะ และพูดต่อไป “คุณโห้ คุณสามารถพิจารณาสักหน่อยได้ ถ้ายินยอมก็ติดต่อฉันได้ ฉันรู้ว่าถึงแม้คุณต้องมีทีมออกแบบที่ดีมากแน่ๆ แต่ฉันอยู่ในวงการออกแบบ และมีฝีมือเป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันคิดว่าในเมื่อคุณโห้คุณไม่อยากทำงานออกแบบชุดอื่น อย่างน้อยสามารถทำชุดราตรีแต่งงาน ถ้าตอนที่คุณแต่งงาน ชุดราตรีบนตัวเจ้าสาวเป็นชุดที่คุณออกแบบด้วยตัวเอง อย่างนั้นเจ้าสาวจะต้องประทับใจมากแน่ๆ ค่ะ บนโลกใบนี้ไม่มีเรื่องที่โรแมนติกยิ่งกว่านี้อีกแล้วค่ะ”
ถ้าเป็นไปได้หล่อนยินยอมไปเป็นเจ้าสาวคนนั้น และปล่อยให้หล่อนกับโห้หลีเฉินร่วมทำสำเร็จด้วยกัน
ถ้าสามารถทำให้โห้หลีเฉินยอมออกแบบชุดได้ นั่นจำเป็นต้องติดต่อกับหล่อนมากมายไม่น้อยแน่ อยู่ด้วยกัน ก็เป็นเรื่องที่สถานการณ์อำนวยให้แล้ว
โห้หลีเฉินไม่ได้สนใจคำพูดยืดยาวของทีน่า แต่คำสำคัญที่อยู่ในนั้นกลับทำให้เขายักคิ้ว
ออกแบบชุดเจ้าสาวด้วยตัวเอง?
นี่ถึงทำให้เขามองทางทีน่าอย่างสร้างพระคุณ “คุณถนัดออกแบบชุดเจ้าสาวมากเหรอ?”
ดวงตาของทีน่าเป็นประกายแล้ว รีบพยักหน้า
“นี่คืออาณาจักรที่ฉันถนัดเป็นพิเศษ ชุดเจ้าสาวที่ดีที่สุดบนโลกนี้ เป็นชุดที่ออกมาจากมือของฉันค่ะ”
ทีน่าสามารถรับผิดชอบงานแสดงเสื้อผ้าที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ คงหนีไม่พ้นความเกี่ยวข้องกับตำแหน่งสถานะในวงการแฟชั่นที่หล่อนอยู่
นักออกแบบชุดเจ้าสาวระดับแนวหน้าผู้มีชื่อเสียงระดับโลก หล่อนก็คือหนึ่งในนั้น
ส่วนชุดเจ้าสาวที่โห้หลีเฉินอยากทำ เป็นได้เพียงชุดที่ดีที่สุด
โห้หลีเฉินสายตาอึมครึม แววตาประกายแสงที่ซับซ้อน เขาเม้มริมฝีปากพูดว่า “แล้วผมจะติดต่อคุณ”
ทีน่าประหลาดใจจนแทบจะกระโดดขึ้นมา
หล่อนเพียงแค่พูดโน้มน้าวอย่างลองเชิง คาดไม่ถึงว่าจะพูดกล่อมโห้หลีเฉินได้จริง!
นี่แม้กระทั่งหล่อนเองยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อ