บทที่ 345 ความหึงของคุณโห้
“ต่อไปไม่ต้องพูดเรื่องของเธอให้ผมฟังอีก ผมไม่แคร์ และยิ่งไม่อยากฟังด้วย”
โห้หลีเฉินพูดขัดจังหวะจูเหลียนอีง ใบหน้าหล่อเหลาแฝงด้วยความเย็นชา
หลังจากวันที่เธอไปจากโรงพยาบาลอย่างเด็ดขาด เขาก็ปล่อยมือเธออย่างสิ้นเชิงแล้ว
“ถ้าไม่มีธุระอะไร ผมวางสายแล้วนะครับ”
“เฉิน หลานฟังย่าพูดก่อน…….”
จูเหลียนอีงยังอยากพูดอะไรอีก แต่โทรศัพท์กลับถูกตัดสายทิ้งแล้ว
เธอมองหน้าจอมือถือที่มืดสนิท สีหน้าเต็มไปด้วยความอิดโรย
หัวหน้าแม่บ้านปลอบโยนด้วยความสงสาร“คุณนายใหญ่คะ คุณนายใหญ่อย่ายุ่งเลยค่ะ ลูกหลานย่อมมีบุญวาสนาของลูกหลานค่ะ”
“แต่ฉันไม่ยุ่งไม่ได้นี่นา ฐานะของเฉินเธอก็ใช่ว่าจะไม่รู้ ถ้าเขาไม่แต่งงานกับคนของตระกูลเย้น ก็จะ……..”
จูเหลียนอีงพูดๆอยู่ก็รู้สึกเจ็บแน่นหน้าอกขึ้นมา
โอกาสที่กว่าจะหามาได้ไม่ใช่ง่ายๆ เรื่องที่จัดเตรียมมานานขนาดนั้น กลับเพราะความผิดพลาดในชั่วขณะของเธอ ก่อให้เกิดสภาพที่ไม่สามารถกอบกู้กลับมาได้
คนของตระกูลเย้นมาแล้ว ได้ข่าวว่า ได้รับตัวเย้นหว่านไปแล้ว ถึงแม้ตอนนี้ยังสามารถเห็นเย้นหว่านโผล่ที่เมืองหนาน แต่เธอแน่ใจว่าอีกไม่นาน เย้นหว่านก็จะไปจากเมืองหนานแล้วไปยุโรปแน่นอน
ถ้าเธอจากไปปุ๊บ ก็ไม่รู้เมื่อไหร่ถึงจะกลับมาได้อีก ระหว่างเธอกับโห้หลีเฉิน เกรงว่าจะไม่มีหวังอีกแล้ว
ก่อนที่เย้นหว่านจะไปจากเมืองหนาน ก็คือโอกาสสุดท้ายแล้ว
“ไม่ว่าจะต้องทุ่มเทด้วยอะไร จะต้องให้เฉินแต่งงานกับเย้นหว่านให้ได้! ฉันจะให้เขาเกิดเรื่องเหมือนแม่ของเขาไม่ได้”
——
ตอนนี้ก็ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อากาศไม่ร้อนไม่หนาวกำลังดี แต่ต้องมีข้อแม้ว่าเสื้อผ้าบนตัวต้องแห้ง ไม่เปียกน้ำ
ถึงแม้ใส่เสื้อกันฝน แต่เย้นหว่านลงมาจากรถไฟเหาะ เสื้อผ้าบนตัวได้เปียกชุ่มไม่น้อยเลย
มือของเธอยิ่งแล้วใหญ่โดนน้ำสาดจนเย็นเฉียบ
“พี่ เมื่อก่อนพี่ไม่เคยเล่นรถไฟเหาะใช่หรือเปล่าคะ?”
ไม่งั้นทำไมถึงเลือกเล่นน้ำในฤดูใบไม้ร่วงที่เวลาไม่เหมาะสมขนาดนี้ ตอนนี้ทำเอาเธอหนาวจนเหมือนเข้าสู่ฤดูหนาวโดยตรงเลย เหน็บหนาวจนตัวสั่น
เย้นโม่หลินมีความอึดอัดแว๊บผ่าน จากนั้นได้พูดว่า “เมื่อก่อนไม่มีน้องสาว”
เย้นหว่าน “…….” โทษเธองั้นเหรอ?
เย้นโม่หลินถือผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ไว้ คลุมศีรษะของเย้นหว่าน นิ้วมือใช้แรงเช็ดผมเปียกชุ่มของเธออย่างละเอียด
สีหน้าแววตาของเขาโฟกัสและจริงจัง
เย้นหว่านค่อนข้างเกรงใจ“ฉันเช็ดเองค่ะ”
“ให้พี่ได้ชดใช้กับความผิดที่พี่ทำลงไปหน่อย โอเคมั้ย? ไม่งั้นจิตใจพี่ไม่สงบ”
เย้นโม่หลินพูดอย่างกับล้อเล่น ท่าทางในมือไม่หยุด เช็ดผมให้เย้นหว่านอย่างละเอียดอีกเช่นเคย เช็ดความเปียกชื้นบนเสื้อผ้า
เย้นหว่านถูกเขาพูดจนหัวเราะ
สามารถพูดคำว่าจิตใจไม่สงบได้อย่างราบเรียลขนาดนี้ เกรงว่าก็คงมีแค่เย้นโม่หลินเท่านั้นแหละ
“งั้นฉันก็เช็ดให้พี่บ้าง ฉันที่เป็นน้องสาวคนนี้ไม่ดีเอง ไม่ได้เตือนพี่ว่าจะทำให้เสื้อเปียกได้”
เย้นหว่านก็ถือผ้าเช็ดตัวไว้ผืนนึง เช็ดเสื้อผ้าให้เย้นโม่หลินอย่างละเอียด
เย้นโม่หลินอารมณ์ยิ่งดีขึ้น ถึงแม้เสื้อผ้าเปียกมีความผิดพลาดนิดหน่อย แต่ได้รับการเทคแคร์จากเย้นหว่านแบบนี้ มันคุ้มแล้วจริงๆ
พวกเขาสองคนยืนอยู่ที่ด้านข้าง เช็ดเสื้อผ้าให้กันและกัน ดูแล้วเป็นภาพที่สวยงามและสามัคคีปรองดองกัน
บวกกับเย้นหว่านมีหน้าตาที่สวยงาม ดูแล้วสวยใสไร้เดียงสา และถึงแม้ผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามจะใส่แมสปิดปาก แต่แววตาที่เผยออกมาคู่นั้นดูมีเสน่ห์มาก ดูบุคลิกแล้วน่าจะเป็นหนุ่มหล่อคนนึงเลย
ภาพอย่างนี้สำหรับคนอื่นแล้ว ค่อนข้างชื่นตาชื่นใจ
แม้กระทั่งยังอิจฉามากด้วย
“ว้าว ครั้งแรกที่เห็นคู่รักเล่นรถไฟเหาะได้หวานแหววขนาดนี้ ทำเอาคนโสดอิจฉาจะตายอยู่แล้ว”
“แถมยังคู่หนุ่มหล่อสาวสวยอีก หน้าตาดูดีมาก เหมาะสมกันจังเลย อีกอย่างดูความสัมพันธ์ของพวกเขาดี และรักกันมากเลย”
“ที่รัก พวกเราก็ไปเล่นรถไฟเหาะเถอะ จากนั้นคุณก็เช็ดน้ำให้ฉันนะ”
ผู้คนที่อยู่รอบๆเยอะแยะเต็มไปหมด ต่างก็มองทั้งสองด้วยความอิจฉา และซุบซิบกันเสียงเบา
สายตาของคนส่วนใหญ่ล้วนอิจฉาและชื่นชม
แต่มีคนๆนึงกลับแตกต่างจากคนอื่น
อยู่นอกกลุ่มผู้คน โห้หลีเฉินมองดูชายหญิงคู่นึงจากไกลๆ แววตายิ่งอยู่ยิ่งมืดครึ้มและเย็นชา
เขาเม้มปากไว้แน่น มือกำเป็นหมัดจนเสียงดังกึกๆ
ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาใช้แรงไปมากเท่าไหร่ในการควบคุมตัวเอง ถึงไม่ได้พุ่งไปด้วยความโกรธ และแยกพวกเขาออก
คือเย้นหว่าน
เธออยู่กับผู้ชายคนอื่น เช็ดเสื้อผ้าให้กันและกัน รอยยิ้มบนใบหน้าเธอ เป็นความสุขที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
แววตาที่เธอมองผู้ชายคนนั้น ช่างอ่อนโยนอะไรปานนั้น
และคำซุบซิบที่อยู่รอบตัวพวกนั้น แต่ละคำล้วนเป็นคำพูดที่ว่าพวกเขาเป็นคู่รักที่โชว์ความหวาน คำพูดเหล่านั้นเหมือนเข็มคอยทิ่มแทงใจของโห้หลีเฉิน
นี่เพิ่งจะกี่วันเอง? เย้นหว่านก็หาแฟนใหม่ได้แล้ว?
แถมความสัมพันธ์ยังพัฒนาได้เร็วขนาดนี้ ความสัมพันธ์ดีจนหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า
ผู้หญิงที่เขาใช้เวลาหลายเดือน ใช้ใจทั้งหมดไปจีบ สุดท้ายอยู่ในใจเธอเขาก็ไม่มีพื้นที่สักนิดเลย ในระยะเวลาอันสั้น กลับถูกผู้ชายอีกคนจีบไปแล้ว
ช่างเหน็บแนมอะไรปานนั้น
โห้หลีเฉินไม่เคยรู้สึกพ่ายแพ้ขนาดนี้มาก่อน ยิ่งไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่าตัวเองจะโกรธขนาดนี้
เขาปล่อยมือเธอ และตัดสินใจจะไม่ยุ่งไม่สนใจเรื่องของเธออีก แต่วินาทีนี้ เขากลับโกรธจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ อยากแย่งเธอกลับมาอย่างไม่สนอะไรทั้งนั้น
เขาทนดูเธอหัวเราะต่อหน้าผู้ชายคนอื่นไม่ได้ เขาทนไม่ไหวที่เธออยู่ในอ้อมอกของผู้ชายคนอื่น
“ไป!”
นิ้วมือกุมแน่นจนเสียงดังกึกๆ โห้หลีเฉินหันหลังจากไปด้วยความเย็นชาและแข็งกระด้าง
ความโหดเหี้ยมรอบตัวเขา เยือกเย็นจนทำให้คนหวาดกลัว
เจ้าหน้าที่ที่ติดตามอยู่ด้านหลังเขา ทุกคนต่างก็ตัวสั่นขึ้นมา
พวกเขามองดูฝ่ายตรงข้ามอย่างงงงวย ต่างก็สีหน้ามึนตึ๊บ เมื่อกี๊ยังดีๆอยู่เลย ทำไมจู่ๆประธานโห้ก็อารมณ์แย่สุดขีดเลย แม้กระทั่งหงุดหงิดจนจะฆ่าคนอยู่แล้วด้วย?
น่ากลัวจริงๆ มีลางสังหรณ์ของความตาย เดี๋ยวพวกเขาจะกลายเป็นตัวรับกระสุนในพริบตาหรือเปล่า
ถึงแม้เช็ดเสื้อผ้ากับผมแล้ว เสื้อผ้าค่อนข้างแห้งแล้ว เย้นโม่หลินก็ยังได้สั่งให้คนส่งเสื้อผ้ามาใหม่อยู่ดี
เย้นหว่านรู้สึกค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเชื่อฟัง
มีเย้นโม่หลินอยู่ข้างกาย แทบจะดูแลเธออย่างละเอียดยิบทุกวินาที เธอแทบจะสงสัยว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เธอใกล้จะสูญเสียความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองแล้ว
เย้นโม่หลินกลับตอบเธอ“น้องสาวของพี่แค่รับผิดชอบสวยดั่งดอกไม้ก็พอแล้ว”
เดิมทีเธอก็ควรจะเป็นเจ้าหญิงที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ความเหน็ดเหนื่อยทั้งหมดในชีวิตล้วนไม่มีความเกี่ยวข้องกับเธอ
เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เย้นหว่านเห็นเย้นโม่หลินเดินไปยังทิศทางที่โดดร่ม ทันใดนั้นเธอก็กลัวขึ้นมาทันที
เธอรีบชี้ไปที่ทิศทางนึง
“พี่ ฉันอยากเล่นอันนั้น พี่ชนะเอาตุ๊กตาให้ฉันดีมั้ย?”
มองไปตามทิศทางที่เย้นหว่านชี้ นั่นเป็นที่ๆเล่นเกมส์ปาลูกดอก มีเกมส์เล่นสารพัดอย่าง ถ้าชนะก็จะได้รางวัลที่สอดคล้องกัน ส่วนมากเป็นตุ๊กตาขนปุกปุยที่เด็กผู้หญิงชอบกัน
มีหรือที่เย้นโม่หลินจะดูไม่ออกว่าเย้นหว่านกำลังยืดเยื้อเวลาอยู่ แต่เขากลับไม่อยากเปิดโปงเธอ พาเธอเดินไปข้างหน้าอย่างไว
ขอแค่เป็นสิ่งที่ไม่ทำร้ายจิตใจตัวเธอเอง เย้นหว่านมีความต้องการอะไร เย้นโม่หลินล้วนไม่ปฏิเสธทั้งนั้น