บทที่ 354 ฉันเป็นคนราวีเขาเอง
พึ่งพาเหรอ? ทุกอย่างที่เย้นหว่านทำในเมื่อคืน ก็ถึงขั้นทำให้โห้หลีเฉินเคยสงสัย และเคยหวั่นไหวเหมือนกัน
แต่หลังจากเธอได้สติ ท่าทีของเธอ กลับได้ดับแสงไฟเสี้ยวนึงที่อยู่ในใจของเขาดับสนิทอีก
“เมาเหล้า จริงจังไม่ได้”
โห้หลีเฉินเปิดปากพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ ไม่รู้ว่ากำลังตอบเว่ยชี หรือกำลังบอกกับตัวเขาเอง
ทุกสิ่งของเมื่อคืน ก็เหมือนฝันที่ไร้สาระ
เว่ยชีขมวดคิ้ว “แต่ว่า……”
“เธอเองก็มีแฟนแล้ว”
โห้หลีเฉินพูดขัดจังหวะเว่ยชีอย่างหนักหน่วง แววตาลุ่มลึกเยือกเย็น แววตาลึกๆกลับมีความโศกเศร้าระยิบระยับอยู่
เขาจะไม่ฝืนใจเธอ ปล่อยเธอไปก็คือปล่อยเธอไปจริงๆ
เว่ยชีมองร่างเงาที่โดดเดี่ยวและอ้างว้างของโห้หลีเฉินแล้ว เขาถอนหายใจอย่างจนปัญญา
หลังโห้หลีเฉินจากไปตั้งนาน เย้นหว่านถึงดึงสติกลับมาได้นิดหน่อย
ในห้องนอน ใต้ผ้าห่ม เหมือนล้วนยังมีกลิ่นไอของโห้หลีเฉินอยู่ แต่เจ้าตัวได้จากไปอย่างสง่างามแล้ว
ร่องรอยทั้งหมดที่เหลือไว้ที่นี่ มีแต่จะทำให้เย้นหว่านรู้สึกไม่สบาย
เธอหายใจลึกๆทีนึง กว่าจะควบคุมอารมณ์ในใจไว้ได้ไม่ใช่ง่ายๆ ทีนี้เธอถึงเดินเข้าไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ
เพิ่งเดินเข้าห้องน้ำ เย้นหว่านก็เห็นเสื้อสูทที่ทิ้งอยู่ในถังขยะอย่างควบคุมไม่ได้
บนเสื้อยังสามารถมองเห็นคราบสกปรกที่เป็นปื้นๆอยู่
คือผลงานของเธอในเมื่อคืนนี้
ขมับของเย้นหว่านกระตุก รู้สึกกลัวภายหลังนิดหน่อย ไม่นึกเลยว่าเมื่อคืนเธอจะอ้วกใส่โห้หลีเฉิน ตอนนี้เธอยังมีชีวิตอยู่ดีๆถือว่าโชคดีจริงๆ
แล้วนึกถึงเรื่องรนหาที่ตายเหล่านั้นของเมื่อคืนในห้องน้ำ เย้นหว่านยิ่งรู้สึกละอายใจสุดขีดแล้ว
แต่ว่าเธอก็รนหาที่ตายถึงขั้นนี้แล้ว สุดท้ายโห้หลีเฉินก็ไม่ได้ทำอะไรเธอ แม้แต่การลงโทษขั้นพื้นฐานสุดก็ยังไม่มี แต่ยังดูแลเธอทั้งคืนด้วย ที่จริงเขาดีกับเธอ…..อยู่
แต่เสียดาย เกรงว่าคงจะครั้งสุดท้ายแล้ว
เย้นหว่านเบ้าตาแดงก่ำ ที่จริงมีแค่เธอเองที่รู้ว่าตัวเองตัดใจไม่ได้แค่ไหน
แต่ถึงโห้หลีเฉินจะดีแค่ไหน โกหกก็คือโกหก หลอกใช้ก็คือหลอกใช้ ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้มีใจให้เธอเลย
หลังจากเย้นหว่านอาบน้ำอาบท่าเสร็จ เดิมทีกะจะโทรศัพท์หาเย้นโม่หลิน ให้เขาหาคนส่งเสื้อผ้ามาให้ชุดนึง ก็แปลกใจที่เห็นห้องโถงมีเสื้อผ้าใหม่วางอยู่ชุดนึง
โห้หลีเฉินไว้ให้เธอโดยเฉพาะ
ละเอียดอ่อนเหมือนที่ผ่านมาจริงๆ
เย้นหว่านมองดูเสื้อผ้าแล้วเหม่อลอยได้สักพัก สุดท้ายก็ได้หยิบมือถือขึ้นมา “พี่โม่หลิน เมื่อคืนฉันดื่มหนักไปหน่อย ได้พักอยู่ที่โรงแรม และทำเสื้อผ้าเลอะ พี่ให้คนส่งเสื้อผ้ามาให้ฉันชุดนึงนะ”
เย้นโม่หลินเป็นคนเอาเสื้อผ้ามาให้เองกับมือ ไม่นานเขาก็ได้มาถึง
เพิ่งเดินเข้าห้อง เขาก็ก้าวเท้ายาวมาที่ตรงหน้าของเย้นหว่าน กดไหล่เธอไว้ สำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบนึง
พอดูปุ๊บ ก็เห็นรอยจูบตรงคอของเย้นหว่าน
สีหน้าเขาเปลี่ยนทันที มืดครึ้มจนน่ากลัวสุดขีด แววตาที่เฉียบคมแฝงด้วยความอาฆาตที่อันตรายมาก
“ใคร? !”
“อะไรคะ?”
เย้นหว่านข้องใจ อึ้งไปหนึ่งวิถึงดึงสติกลับมาได้ พริบตาเดียวเธอก็แก้มแดงก่ำ และรีบปิดคอของตัวเองไว้
“ไม่ ไม่มีอะไรค่ะ ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว”
เธอเอาเสื้อผ้าไว้ก็เตรียมตัวชิ่งหนี กลับถูกเย้นโม่หลินดึงกลับมาอีก
สีหน้าของเย้นโม่หลินไม่เคยจริงจังแบบนี้มาก่อน ยิ่งเคร่งขรึมสุดขีด จ้องมองเย้นหว่านไว้
“พูดมา เมื่อคืนคือใคร?”เขาจะฆ่าไอ้สารเลวนั่น ไม่นึกเลยว่าจะกล้าลงมือกับน้องสาวเขา
เห็นหน้าตาดุร้ายสุดขีดของเย้นโม่หลิน เย่นหว่านค่อนข้างกลัว
เธอรีบอธิบาย “พี่ เรื่องมันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดค่ะ เมื่อคืนเขาไม่ได้ทำอะไรฉันเลย พวกเราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆค่ะ”
“เสื้อผ้าก็ไม่มีแล้ว มีแต่รอยจูบเต็มตัว เธอนึกว่าพี่จะเชื่อว่าพวกเธอไม่มีมีอะไรกันเหรอ?”
เย้นโม่หลินยิ่งพูดยิ่งโกรธ “เสี่ยวหว่าน บอกพี่เร็ว ว่าใครรังแกเธอ!พี่จะแก้แค้นให้เธอแน่นอน”เอามันตาย
ใบหน้าเย้นหว่านยิ่งแดงก่ำขึ้น “แต่เมื่อคืนฉันเป็นคน…..” เธอยากที่จะพูดออกมามาก “ฉันเป็นคนราวีเขาเองค่ะ”
เย้นโม่หลิน “……”
ใบหน้าหล่อเหล่านั้นมีสีหน้าที่ยากจะพูดให้จบคำเดียวจริงๆ
เขามองดูเย้นหว่านสักพัก ถึงพูดออกมาจากลำคอ“แต่เขาก็ทำเรื่องแบบนี้กับเธอไม่ได้!”
ไม่ว่ายังไง คนที่เสียเปรียบต้องเป็นน้องสาวตัวเองแน่นอน ที่ต้องจัดการคือคนอื่นแน่นอน
“เราไม่ได้ทำถึงขั้นสุดท้ายค่ะ”เสียงของเย้นหว่านยิ่งอยู่ยิ่งเบา“เขาไม่ได้แตะต้องตัวฉันค่ะ”
เธอไม่รู้ว่าสุดท้ายเมื่อคืนจบยังไงกันแน่ แต่เช้าวันนี้ตื่นขึ้นมา เธอไม่มีความรู้สึกที่ถูกลวนลามเลยจริงๆ
ถึงจะถึงขั้นนั้นแล้ว โห้หลีเฉินก็ยังสุภาพบุรุษกับเธอมาก
หรือจะบอกอีกอย่างว่า เขาเองก็ไม่อยากมีอะไรกับเธอ ไม่รู้สึกพิศวาสเธอมั้ง
เย้นหว่านก้มหน้าลงอย่างเศร้า ในใจทั้งเสียใจทั้งอึดอัด
เย้นโม่หลินมองหน้าตาเย้นหว่านที่จู่ๆก็เศร้าโศกเสียใจ สีหน้าของใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ไม่กล้าจะเชื่อนิดหน่อย น้องสาวเขานี่คือ……เสียใจที่ไม่ได้ทำถึงสุดท้ายเหรอ?
แฮ่มๆ
“เสี่ยวหว่าน รอให้เรากลับยุโรป หนุ่มหล่อมีเยอะแยะ เธออยากเอาแบบไหนก็มีหมด พี่รับรองว่าเธอต้องพึงพอใจแน่”
“อืม”
เย้นหว่านตอบลวกๆคำนึง เธอไม่สนใจหนุ่มหล่ออะไรพวกนั้นหรอก
คนอื่นถึงดีแค่ไหน แต่ก็ไม่ใช่โห้หลีเฉิน
เย้นหว่านไม่รู้ว่าต้องนานเท่าไหร่ตัวเองถึงจะเดินออกมาจากรักระทมนี้ แต่สิ่งที่ไม่ควรได้ ได้แต่ใช้เวลามาเยียวยาและมาลืมเลือน
——
จากไปครั้งนี้ เย้นหว่านแทบจะไม่มีอะไรต้องอาลัยอาวรณ์เมืองหนานนี้แล้ว
นับตั้งแต่วันที่เธอถูกไล่ออกจากตระกูลเย้น ก็ไม่เคยติดต่อกับคนของตระกูลเย้นอีกเลย เย้นซินอาละวาดถึงขั้นนั้น พ่อแม่อุปถัมภ์ก็ไม่อยากเจอเธออีก กลัวก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก
บางที ก็กำลังรอเย้นซินปล่อยวางปมในใจนี้
แต่ไม่ว่ายังไง ตอนนี้เย้นหว่านก็กลับตระกูลเย้นไม่ได้ ถึงจะจากไปแล้ว เธอก็ได้แค่ยืนมองที่ด้านนอกของตระกูลเย้น
เย้นโม่หลินมองแววตาที่เศร้าโศกและตัดใจไม่ได้ของเย้นหว่าน ในใจหดหู่มาก
ถ้าไม่ใช่ตอนนั้นเย้นหว่านหายตัวไปด้วยอุบัติเหตุ หลายปีมานี้เธอมีแต่จะเป็นหัวแก้วหัวแหวนและเจ้าหญิงของที่บ้าน จะตกอับมาเป็นเด็กอุปถัมภ์ของคนอื่นได้ยังไง ยิ่งไม่มีทางถูกไล่ออกหรอก
เย้นโม่หลินไม่ชอบตระกูลเย้น แม้กระทั่งเกลียดชังพวกเขาที่นำพาความเจ็บปวดมาให้เย้นหว่าน
แต่เห็นแก่บุญคุณที่หลายปีมานี้พวกเขาได้เลี้ยงดูเย้นหว่านมา เขาก็จะไม่ทำให้พวกเขาลำบากใจ แต่ได้สั่งให้คนส่งของขวัญไปให้ ในนั้นมีเช็คที่ตัวเลขมหาศาลอยู่ใบนึง
ในการ์ดก็เขียนได้อย่างชัดเจน นี่เป็นค่าตอบแทนที่หลายปีมานี้พวกคุณเลี้ยงดูเย้นหว่านมา
บุญคุณที่เลี้ยงดูกันมา ใช้เงินทองมาชำระ ต่อไปเย้นหว่านกับครอบครัวนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆอีก
“ไปเถอะ พวกเขาก็ไปแล้ว ต่อไปเธอยังมีพี่ มีพ่อแม่ที่รักและเอ็นดูเธอมาก พวกท่านรอเธอนานมากแล้ว”
เย้นโม่หลินขยี้ศีรษะของเย้นหว่าน ปลอบด้วยความอ่อนโยน
รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นบนศีรษะ หัวใจเหน็บหนาวของเย้นหว่านอบอุ่นขึ้นมาบ้าง เธอได้พยักหน้า
“อืม ไปผับกันเถอะค่ะ”
พ่อแม่อุปถัมภ์ แม้กระทั่งน้องสาว พวกเขาไม่ต้องการการอำลาต่อหน้าของเธอด้วยซ้ำ
มองแว๊บเดียว ก็พอแล้ว
เย้นหว่านฝังอารมณ์ของในใจไว้ เธอหันหน้าไม่มองบ้านหลังที่เธอพักอาศัยอยู่มายี่สิบกว่าปีอีก