บทที่485 หลงทาง
เดทงั้นเหรอ?
เย้นโม่หลินอึ้งไป
หลังจากคเหรอ่งวินาทีผ่านไป เขาถึงได้ตอบสนองอย่างช้าๆ เย้นหว่านกับกู้ซึงคือคู่รักที่กำลังกุ๊กกิ๊กกันอยู่ พวกเขาต้องต้องการที่จะมีเวลาส่วนตัวที่จะได้อยู่ด้วยกันมากกว่านี้
ดังนั้นที่เย้นหว่านอยากจะไปเดินเล่นในป่าคือเรื่องโกหก ที่จริงแล้วเธออยากจะไปเดินสองต่อสองกับกู้ซึงต่างหาก
ถ้าเกิดว่าเขาไปแล้ว เขาก็จะกลายเป็นก้างขวางคอ
เย้นโม่หลินพูดอะไรไม่ออก ดีนะที่ไม่ได้ไป เขาเกือบจะไปเป็นก้างขวางคอที่เกะกะในสายตาของน้องสาวของเขาแล้วไง
แต่ว่าผู้ชายกับผู้หญิง อยู่ในทุ่งรกร้างชานเมือง ก็ไม่สามารถอยู่สองต่อสองได้นานเกินไป
เย้นโม่หลินมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือเงียบๆ กะว่าให้ผ่านไปอีกคเหรอ่งชั่วโมง ก็จะเรียกให้เย้นหว่านกลับมา
เดิมทีเย้นหว่านอยากจะไปคนเดียว จะทำยังไงเย้นโม่หลินก็รู้สึกไม่วางใจ ก็ทำได้แค่ปล่อยให้กู้ซึงตามไปด้วย
โชคดีที่กู้ซึงเองก็เป็นคนวงใน ต่อให้เธอจะไปหาโห้หลีเฉิน กู้ซึงก็ไม่ล่าช้า
พอเข้าไปในป่า เย้นหว่านก็ไม่รอช้าแม้แต่คเหรอ่งวินาที รีบเดินไปตรงส่วนของป่าที่เธอเห็นตอนที่อยู่บนเรือ
ตรงนั้นมันค่อนข้างที่จะอยู่ไกลจากตรงที่พวกเขาปูผ้าไว้
กู้ซึงมองทางที่เย้นหว่านกำลังเดินไป แล้วก็ยิ้มอย่างสนุกสนาน แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไร พร้อมกับเดินตามไปอย่างไม่รอช้า
สำหรับเรื่องที่เย้นโม่หลินบอกว่าอย่าเดินไปไกล ให้เดินเล่นอยู่ใกล้ๆ นี้ พวกเขาไม่ได้ใส่ใจมันเลยแม้แต่นิดเดียว
เย้นหว่านรีบร้อนอยากจะเจอโห้หลีเฉิน เดินก็เร็ว เพียงแต่ว่าป่าผืนนี้เป็นป่าดั้งเดิมจากธรรมชาติที่ไม่ได้รับการพัฒนาเลย และก็ไม่ได้มีทางที่แน่นอน เดินไปเดินมา เย้นหว่านก็ไม่มีทิศทางแล้ว
รอบๆ เป็นต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเดินมาที่ไหนกัน
“กู้ซึง นายรู้ทางไหม? ”
เย้นหว่านกันกลับไปถามกู้ซึง แต่ก็ต้องตะลึงไป เพราะพบว่าผู้ชายที่เดินตามเธอไม่ใกล้ไม่ไกลนั้น ไม่รู้ว่าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ป่าไม้ที่ใหญ่โตขนาดนี้ รอบๆ กลับว่างเปล่า มีเธออยู่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
“กู้ซึง?นายอยู่ไหน?”
เย้นหว่านรีบตะโกนเรียกเขาเสียงดัง
แต่ว่าตะโกนอยู่หลายรอบ กลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเลย
เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตระหนก ไม่แน่ว่ากู้ซึงอาจจะแยกจากเธอไปนานแล้ว แต่ว่าเธอพึ่งรู้ตัวตอนนี้
ตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเดินไปที่ไหนแล้ว จะหาที่นั่นได้ยังไง? แล้วจะกลับไปที่เดิมได้ยังไง?
ป่าผืนนี้ทั้งใหญ่และลึก ไม่ทันระวังก็จะเดินผิดทาง แล้วก็เดินไปไกลกว่าเดิม
เย้นหว่านรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมจะโทรไปขอความช่วยเหลือ แต่ว่าเมื่อเห็นโทรศัพท์นั้นเธอก็ยิ่งพูดไม่ออก
ไม่มีสัญญาณ
เย้นหว่านรู้สึกกลุ้มใจเป็นอย่างมาก นี่แหละที่เรียกว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน จะเดินออกไปหรือว่าจะหาคนเจอ เธอก็ต้องพึ่งพาตัวเอง——วุ่นวาย
เธอหันไปมองรอบๆ ทั้งสี่ด้าน เธอไม่สามารถบอกทิศทางเหนือใต้ออกตกได้เลยจริงๆ เย้นหว่านทำได้เพียงแค่ตามความทรงจำของตัวเองเท่านั้น เลือกทิศทางทั่วไป แล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆ
นิ่งเดิน ก็ยิ่งเจอต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม ระหว่างทางก็ไม่เจอป่าที่มีทะเลสาบตรงเมื่อกี้ด้วย
เย้นหว่านอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย นี่เธอเดินผิดทางเหรอเปล่า?
เธอคิดไปคิดมา แล้วก็เดินไปทางตรงกันข้าม เดินไปอยู่ครู่หนึ่ง รอบข้างก็มีแต่ต้นไม้ นอกจากต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม เธอก็มองไม่เห็นอะไรอีกแล้ว
ตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
ตอนนี้อย่าว่าแต่ตามหาคนที่อยู่ในป่าเลย ตอนนี้เย้นหว่านไม่รู้แม้แต่ว่าต้องกลับยังไงแล้ว
รอบข้างเงียบมาก อยู่มานานแล้ว เย้นหว่านก็เริ่มรู้สึกตื่นตกใจ ไม่มั่นคง พังทลาย
เธอกังวลจนอยากจะรีบออกไปจากที่นี่
แต่ว่ายิ่งรีบ ยิ่งหาทิศทางไม่เจอ ต้นไม้รอบๆ ยิ่งหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ เย้นหว่านไม่รู้แล้วว่าเธอเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว
เธอเงยหน้ามองต้นไม้เขียวชอุ่มที่ไม่มีที่สิ้นสุดรอบๆ เย้นหว่านรู้สึกกังวล เธอจะหลงป่าจนตายอยู่ที่นี่เหรอเปล่า?
พี่ชายของเธอน่าจะเข้ามาตามหาเธอแล้วใช่ไหม?
หรือว่าเธอไม่ต้องเดินแล้ว ให้รอความช่วยเหลืออยู่ที่นี่?
แต่ว่าเธอเดินมานานมากแล้ว ต่อให้เย้นโม่หลินมาตามหาเธอ เธอไม่ได้หมายความว่าจะหาเธอเจอ
เย้นหว่านยิ่งคิดยิ่งรู้สึกหมดหวัง ดวงตาของเธอเริ่มแดงก่ำ อดไม่ได้ที่อยากจะร้องไห้ออกมา
จะหลงทางที่ไหนก็ไม่ได้ ทำไมต้องมาหลงทางที่ป่าแบบนี้ด้วย เธอยังหาโห้หลีเฉินไม่เจอเลยนะ ถ้าเกิดว่าต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้แล้วตายไป มันไม่คุ้มค่าเลยนะ
เย้นหว่านกลัดกลุ้มใจ เธอสูดหายใจเข้าอยากทุกข์ใจ แล้วก็เดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ เหมือนคนหัวดื้อ
พึ่งจะเดินไปไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงกิ่งไม้ที่ถูกเหยียบย้ำ อยู่ไม่ไกลจากเธอเท่าไหร่นัก
เย้นหว่านหวาดผวาขึ้นมาทันที แม้แต่หนังศีรษะก็รู้สึกตึง
เธอคงไม่ได้กำลังเจอสัตว์ป่าใช่ไหม?
เธอมองไปยังต้นเสียงอย่างตื่นเต้น แล้วก็ถอยหลังทีละก้าว จนหลังชนกับต้นไม้
ในขณะเดียวกัน เธอก็หยิบขวดที่เย้นโม่หลินให้เธอไว้ออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็ระมัดระวังตรงทางที่มีเสียงเกิดขึ้น
แต่ว่าก็ยังอดกังวลไม่ได้ สเปรย์พริกแบบนี้ ทำได้เพียงแค่ทำให้แสบตาเท่านั้น ไม่รู้ว่ามันจะจัดการกับสัตว์ป่าได้หรือไม่
“แกร้บ แกร้บ”
เสียงกิ่งไม้หักที่ถูกเหยียบย่ำดังขึ้นเรื่อยๆ เข้ามาใกล้เย้นหว่านมากขึ้นเรื่อยๆ
เย้นหว่านเห็นหญ้าที่เขียวชอุ่มสั่นไหว
ลมหายใจของเธอแน่นตึง กลัวจนถึงขีดสุดแล้ว
มาแล้ว!
วินาทีนั้น เธอก็เห็นเสือดาวโผล่หัวออกจากพงหญ้า กระโดดขึ้นมา แล้วก็โผเข้ามาหาเธอทันที
เย้นหว่านตกใจมาก มันคือเสือดาว!
เธอไปทำชั่วอะไรไว้ ถึงได้เจอเสือดาวที่โหดที่สุดในที่รกร้างนอกชานเมืองแบบนี้
ตายแน่ๆๆ
เธอกลัวจนถึงขีดสุด เธอยกขวดๆ นั้นขึ้นมาโดยที่ไม่แม้แต่คิดเลย แล้วก็พ่นสเปรย์ไปด้านหน้า
เสือดาวตัวนั้นไม่ทันระวัง ก็ถูกสเปรย์โดยพอดี ทันใดนั้นก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
มันนอนลงที่พื้น เอาอุ้งเท้าจับดวงตาของตัวเองไว้
เหมือนกับว่าจะเจ็บมาก
เย้นหว่านไม่สนใจอะไรแล้ว เธอใช้โอกาสนี้ วิ่งไปยังทิศทางอื่นทันที
ดวงตาของเสือดาวตัวนั้นมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด มันมองอะไรไม่ชัดแล้ว ความเจ็บปวดทำให้มันยืนนิ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่พอได้ยินเสียงวิ่งหนีของเย้นหว่าน ก็ทำให้มันโกรธจนอยากจะฉีกเธอเป็นชิ้นๆ
มันคำรามออกมาด้วยความโมโห แขนขายังคงสั่นเล็กน้อย แล้วก็ตามเย้นหว่านไป
เย้นหว่านกลัวจนจะตายอยู่แล้ว ตอนนี้สมองของเธอโล่งไปหมด
เธอมีแค่ความคิดเดียวเท่านั้น หนี!
หนีให้ไกลเท่าไหร่ยิ่งดี
แต่ว่ายิ่งรีบร้อน ยิ่งเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย
“โอ๊ย——”
เสียงร้องดังขึ้น ขาของเย้นหว่านอยู่ดีๆ ก็ล้มลงที่พื้น
บนพื้นเต็มไปด้วยกิ่งไม้เหี่ยวๆ ทันใดนั้นก็มีรอยขีดขวดเต็มร่างกายทันที
แต่ว่าเย้นหว่านไม่มีเวลาให้เจ็บ เธอหันหน้าไปมอง เสือดาวที่เป็นบ้าตัวนั้นก็พุ่งมาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
เย้นหว่านกลัวจนเกือบตาย พยายามค้ำร่างกายให้ลุกขึ้นแล้วก็วิ่งอีกครั้ง
แต่ว่าเธอจะยืนขึ้น ก็ไม่รู้ว่าเท้าของเธอไปเหยียบอะไรเข้า รอบข้าง จู่ๆ ก็มีเสียงอะไรแหวกอากาศเข้ามา
“ขวับ——”
ก็เห็นว่ามีธนูสองสามดอกพุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน แล้วก็พุ่งมายังตำแหน่งของเธอพอดี
เธอตกใจมาก เหมือนมีม้าวิ่งอยู่ในใจของเธอ ทำไมที่นี่ถึงมีธนูได้?
นี่มันทำให้ตายได้เลยนะ!
เย้นหว่านขนหัวลุก กลัวจนสองขาอ่อนแรง แล้วก็ล้มลงไปที่พื้นข้างๆ
ลูกธนูลอยผ่านหัวของเธอไปด้านข้าง
และในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงร้องที่เหมือนจะขาดใจดังขึ้น
เย้นหว่านมองไปอย่างประหลาดใจ ก็พบว่าเสือดาวตาบอดที่โผเข้ามา ถูกลูกธนูปักเข้าพอดี ถูกแทงจนทะลุ มันล้มลงกับพื้นและร้องครวญคราง แล้วก็สิ้นลมหายใจ