สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่536 โห้หลีเฉิน!

บทที่536 โห้หลีเฉิน!

บทที่536 โห้หลีเฉิน!

“ฉันรู้เอง แล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอธิบายให้แกฟังด้วย”

เย้นโม่หลินสีหน้าเย็นชา แล้วก็เดินเข้าไปใกล้กู้ซึงขึ้นเรื่อยๆ

กู้ซึงยืนตัวตรง มองเย้นโม่หลินด้วยสายตาเฉียบแหลม “ไม่มีทางที่เย้นหว่านจะไปเที่ยวกับกู้ซึงส่วนตัวอย่างแน่นอน”

เขาพูดทีละคำอย่างเด็ดขาด

“ฉันเห็นเองกับตา จะไม่จริงได้ยังไง? ”

แล้วอีกอย่าง เย้นหว่านไม่มีทางหลอกเขาหรอก

เย้นโม่หลินหัวเราะอย่างเย็นชา “แกนึกถึงตัวเองเถอะ ปลอมตัวมาเป็นกู้ซึง จะอธิบายยังไงนึกถึงจะดี”

กู้ซึงขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม เห็นเองกับตายังงั้นเหรอ?

เขาเพิกเฉยของความอันตรายของเย้นโม่หลินที่กำลังใกล้เข้ามา เขาพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ถ้าเกิดว่าคุณรู้ตัวตนจริงๆ ของผม คุณยังจะแน่ใจอย่างนั้นหรือ? ”

ในน้ำเสียงนั้น เป็นการตั้งคำถามโดยสมบูรณ์

ความมั่นใจในตัวเอง ทำให้คนรู้สึกหวั่นไหว

หัวใจของเย้นโม่หลินเต้นเล็กน้อย เขาเริ่มรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่แล้ว

เขาถามออกมาทีละคำ “แกเป็นใคร? ”

ทักษะที่ยอดเยี่ยม ทรงพลัง แม้จะโดนคนเป็นกลุ่มยืดล้อมไว้แบบนี้ ก็ไม่ตื่นตระหนกเลยแม้แต่นิดเดียว

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ก็มองออกว่า สิ่งสำคัญที่เขาสนใจนั้น ก็คือเย้นหว่าน

เขาคือใคร?

กู้ซึงมองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่มืดมน หลังจากนั้น ก็เอานิ้วไปวางที่ด้านหลังหู

“ในเมื่อถูกจับได้แล้ว งั้นผมจะบอกนายว่าผมคือใคร ไม่เป็นไรหรอก”

ระหว่างที่พูดอยู่นั้น เขาก็ออกแรงที่นิ้ว แล้วเสียง “แคว่ก”ก็ดังขึ้น ชั้นผิวหนังหนึ่งชั้นแตกออกมาจากทางด้านหลังหูของเขาจริงๆ

มันเหมือนกับเล่นมายากลยังไงยังงั้น พอผิวชั้นบางๆ ถูกลอกออก ก็เผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของคนคนหนึ่งที่ทำให้คนอื่นหายใจไม่ออก

และก็เป็นใบหน้าที่เย้นโม่หลินคุ้นเคย

“โห้หลีเฉิน!”

เย้นโม่หลินกัดฟันแล้วก็บีบแต่ละคำออกมาจากปากของเขา!

เขาประหลาดใจเพราะว่าคนที่เสแสร้งเป็นกู้ซึงนั้นก็คือโห้หลีเฉินจริงๆ แต่เขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ควรจะเป็นเรื่องที่ได้คาดการณ์ไว้แล้ว

บอดี้การ์ดรอบๆ ก็ตาโตเช่นกัน มองโห้หลีเฉินอย่างประหลาดใจเป็นอย่างมาก

พวกเขาได้เทคนิคการปลอมตัวระดับโลกมาแล้ว แต่ว่าโห้หลีเฉินใช้เพียงแค่หน้ากากบางๆ เท่านั้น การปลอมตัวที่ไร้ที่ติเช่นนี้ พวกเขาพึ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก

ในขณะที่รู้สึกสะเทือนใจอยู่นั้น ก็รู้สึกช็อกไปด้วย กู้ซึงก็คือโห้หลีเฉินปลอมตัวมาจริงๆ ด้วย

นั่นมันก็หมายความว่า ข่าวลือก่อนหน้านี้ในตระกูลเย้นที่บอกว่ากู้ซึงก็คือโห้หลีเฉินนั้น ที่จริงแล้วมันคือความจริง?!

แม้ว่าตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยและถูกปิดล้อม แต่โห้หลีเฉินก็ยังคงมีใบหน้าที่สงบราวกับว่ายืนอยู่ในสนามของตัวเอง

เขามองเย้นโม่หลินแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ

“ผมเอง คาดว่าคุณชายเย้นมีหลายเรื่องที่อยากจะถามผมใช่ไหม? ไม่งั้น ทำไมพวกเราไม่ไปคุยกันที่คุกใต้ดินของคุณล่ะ”

เย้นโม่หลินแข็งทื่อ

เคยเห็นคนที่มาส่งตัวเองถึงหน้าประตู แต่ยังไม่เคยเห็นใครที่มาส่งตัวเองถึงคุกใต้ดินมาก่อน

โห้หลีเฉินกำลังวางแผนอะไรอยู่?

ความคิดของเย้นโม่หลินก็เหมือนไฟฟ้า ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่คิดว่าจะปล่อยโห้หลีเฉินไปหรอก

ครั้งที่แล้วที่ไล่โห้หลีเฉินออกไปจากที่นี่ เขาก็ออกคำสั่งตาย ว่าไม่ให้โห้หลีเฉินปรากฏตัวที่แผ่นดินนี้อีก ไม่ยังงั้นเขาจะไม่เกรงใจ

แต่ในเมื่อเขาเอาตัวเองมาถึงนี่ เขาก็จะไม่ผ่อนปรนหรอกนะ

“จับมันมา พาไปคุกใต้ดิน! ”

“……ครับ”

หลังจากผ่านไปสองวินาที พวกบอดี้การ์ดถึงตั้งสติกลับมาได้

พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นคนที่ติดตามเย้นโม่หลิน ครั้งที่แล้วตอนที่เผชิญหน้ากับโห้หลีเฉินนั้น ก็เคยเห็นความแข็งแกร่งของโห้หลีเฉินมาเองกับตา นั่นคือชายผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถแข่งขันกับนายน้อยของเขาได้ด้วยตัวเขาเอง

ตอนนี้มาปรากฏตัวในเขตอิทธิพลของพวกเขา แต่ก็ไม่มีร่องรอยของความหวาดกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว

พวกเขานั้น ก็รู้สึกไม่ค่อยอยากจะไปหยาบคาย รุกรานเขามากเท่าไหร่

โห้หลีเฉินหรี่ตา จงใจเพิ่มเสียงของตัวเอง แล้วก็พูดอย่างเย็นชา

“อยากจะมาจับฉัน ก็ต้องดูว่าพวกแกมีความสามารถนี่หรือไม่”

พอพูดจบ เขาก็ออกหมัก ทำให้บอดี้การ์ดที่กำลังเข้าไปใกล้นั้นถอยหลังไปหลายก้าว

ไม่ง่ายเลยกว่าบอดี้การ์ดคนนั้นจะยืนได้อย่างคงที่ พร้อมกับมีรอยเลือดที่มุมปาก

บอดี้การ์ดคนอื่นๆ เห็นเหตุการณ์นี้ ก็ประหลาดใจ พลังของโห้หลีเฉินนั้น มันมากกว่าที่พวกเขาคิดไว้เยอะมาก

แล้วอีกอย่าง คนล้อมรอบอยู่เยอะขนาดนี้ เขายังกล้าทำร้ายคนอื่น นี่มันก้าวร้าวเกินไปรึเปล่า?

พวกเขารู้สึกเลือดร้อนขึ้นมาทันที ได้รับการกระตุ้นขึ้นมา แล้วก็เข้าไปห้อมล้อมโห้หลีเฉินอย่างอุกอาจ

ในพริบตา มีคนสองสามคนพุ่งเข้าไปด้านหน้า แล้วก็ต้องล้มลงไป

เย้นโม่หลินขมวดคิ้วแน่น ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่หนักแน่นและจริงจัง ประเมินโห้หลีเฉินด้วยสายตาที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก

เมื่อกี้ เขาเป็นคนบอกว่าจะไปคุกใต้ดินเอง แต่พอเขาออกคำสั่ง โห้หลีเฉินกลับขัดขืนไม่ให้พวกบอดี้การ์ดเข้าไปจับเขา

พฤติกรรมของเขา มันไม่สอดคล้องกันเลย

โห้หลีเฉินไม่ใช่คนประเภทที่ไม่เป็นระเบียบ ที่เขาทำแบบนี้ แสดงว่าต้องมีลูกเล่นอะไรอย่างแน่นอน

เย้นโม่หลินรู้สึกไม่สบายใจเพิ่มขึ้นนิดหน่อย สังหรณ์ใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่

เขาส่งเสียงที่เย็นชาและพูดว่า “ทุกคนถอยออกมาให้หมด! ”

เขาจะลงมือด้วยตัวเอง

พอพูดจบ เขาก็เข้าไปโจมตีโห้หลีเฉินทันที

โห้หลีเฉินหลบด้วยท่าทางที่ว่องไวมาก สู้กับเขามือต่อมือ ดูเหมือนว่าการโจมตีของโห้หลีเฉินนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ว่าในระหว่างการต่อสู้นั้น เย้นโม่หลินถึงได้รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า โห้หลีเฉินกำลังอ่อนข้อให้อยู่

ดูเหมือนกับว่าแข็งแกร่ง แต่ว่าที่จริงแล้ว กำลังพยายามหลีกทางให้ทีละขั้นตอน

ผลที่ได้ก็ไม่ต้องสงสัย หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง โห้หลีเฉินก็พ่ายแพ้ ถูกเขาจับไว้ทั้งสองมือ

แววตาของโห้หลีเฉินนั้นเย็นชา ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ

เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว ความสงสัยในหัวใจของเขายิ่งหนักแน่นขึ้น

เห็นได้ชัดว่าโห้หลีเฉินยอมแกล้งแพ้เพื่อให้เขาจับได้ แต่ว่าท่าทาง สีหน้าของเขานั้น ต่างก็ดูเหมือนกับว่าถูกบังคับให้ไม่มีทางเลือก

เขาแสดงให้ใครดูกัน?

ผู้คนที่อยู่แถวนี้ล้วนเป็นลูกน้องของเขา เป็นคนของเขาทั้งหมด โห้หลีเฉินแสดงให้พวกเขาดูก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก

นอกจาก ที่นี่มีคนอื่นคอยสอดแนมอยู่ ……

พอคิดถึงขั้นนี้แล้ว ใบหน้าของเย้นโม่หลินก็มืดมนลงทันที สายตาที่เฉียบคมของเขากำลังจะมองไปรอบๆ

โห้หลีเฉินใช้ความดังของเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคน พูดว่า “อย่ามอง พาผมไปที่คุกใต้ดิน”

หัวใจของเย้นโม่หลินรู้สึกรัดแน่นขึ้นมาทันที

เขารีบเก็บสายตา ออกแรงจับโห้หลีเฉิน แล้วก็ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“เรื่องคืนนี้ ให้เก็บไว้เป็นความลับก่อนชั่วคราว รอให้ฉันตรวจสอบแน่ชัดเมื่อไหร่ ค่อยบอกเจ้าบ้าน! ”

“ครับ!”

พวกบอดี้การ์ดตอบรับอย่างพร้อมเพรียง

เย้นโม่หลินถึงได้จับโห้หลีเฉิน แล้วก็เดินไปที่คุกใต้ดินของเขาด้วยสีหน้าที่เย็นชา

ระหว่างทางนั้นก็โล่งมาก มีเพียงแค่คนของเขาเท่านั้น

พวกบอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่เฝ้าอยู่หน้าประตูนั้น พอส่งให้เย้นโม่หลินที่จับกุมโห้หลีเฉินจากไปแล้ว ก็รีบกลับไปยืนที่ตำแหน่งของตัวเองทันที แล้วก็ทำหน้าที่รักษาการณ์ต่อไป

ทุกอย่างกลับมาเงียบสงบ เหมือนกับว่าการต่อสู้เมื่อกี้นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่มีร่องรอยอะไรหลงเหลือเลย

และในความมืดที่ห่างไกลจากตรงนั้น ก็มีร่างหนึ่งที่เคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ อยู่ในพงหญ้า แล้วก็ออกไปตามถนนเล็กๆ

ชั้นใต้ดิน

เสียง “ปัง” ดังขึ้น ประตูบานใหญ่ก็ได้ถูกปิดลง

ในห้องที่มีเพียงแสงไฟสลัว มันทั้งชื้นแล้วก็หายใจลำบาก พวกลูกน้องถอยออกไปอย่างรู้งาน และก็เฝ้าอยู่ด้านนอกประตูเหล็ก

เย้นโม่หลินลากโห้หลีเฉินเดินเข้าไปข้างใน แล้วก็ปล่อยมือที่ไขว้ไว้ด้านหลังของเขา

และในขณะเดียวกัน หมัดแรงๆ ก็พุ่งเข้ามา

“พลั่ก”

เสียงหนึ่งดังขึ้น หมัดของเขาก็ฟาดลงใบบนหน้าของโห้หลีเฉินอย่างแม่นยำ

ตามมาด้วยคำด่าที่โกรธเกรี้ยวของเย้นโม่หลิน “โห้หลีเฉิน ฉันเคยบอกแกแล้วไง ว่าห้ามมาที่บ้านตระกูลเย้น! ถ้าเกิดว่ามาอีกครั้ง ฉันจะฆ่าแก!

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท