บทที่ 578 ยอดเยี่ยม ฆ่าเพียงพริบตาเดียว
ฝ่ามือกว้างใหญ่มันช่างอบอุ่นมาก เหมือนกับฝ้ายที่ถูกย่างแล้ว แนบชิดกับศีรษะของเธอ มันทำให้ร่างกายอันหนาวเหน็บของเธอ มีชีวิตชีวาขึ้นมา
เย้นหว่านทั้งตะลึงทั้งตกใจ พลันแหงนหน้าขึ้นมาไปมอง ก็เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม ดวงตาของเธอ แดงแจ๋ทันที น้ำตาเอ่อล้นท่วมกระบอกตา
เธออ้าปากค้าง เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างสั่นเทา “คุณ … คุณฟื้นแล้วเหรอ”
โห้หลีเฉินเหล่ตามองด้านข้าง นัยน์ตาจับจ้องเย้นหว่านอย่างลึกซึ้ง สายตาคอยประเมินเธออย่างห่วงใย
ยิ่งมอง แววตาของเขาก็ยิ่งดำดิ่งลง หัวคิ้วค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน
“เจ็บไหม?”
เย้นหว่านผงะทันที เพราะว่าเขาถามเรื่องอาการบาดเจ็บบนตัวเธอ
ก่อนหน้านี้ที่มีความรู้สึกที่อดทนทนเอาไว้ เธอไม่รู้สึกว่าเจ็บปวด ตอนนี้เมื่อเห็นว่าโห้หลีเฉินฟื้นขึ้นมาแล้ว แถมยังได้เผชิญหน้ากับความอ่อนโยนและการปกป้องจากเขาแล้ว วินาทีนั้นเธอรู้สึกว่า ร่างกายเจ็บปวดไปทุกอณู
มือทั้งสองข้างที่สั่นเทาของเธอกอดเขาเอาไว้ พร้อมทั้งพยักหน้าให้อย่างหนักแน่น
“เจ็บ”
เจ็บปวดมากเลย
ตั้งแต่ลำตัวไปจนถึงหัวใจ มันเจ็บปวดมากเลย
แม้ว่าเธอไม่รู้ว่าจะอดทนผ่านไปอย่างไรดี
โห้หลีเฉินย่นคิ้วอย่างปวดใจ พลางก้มศีรษะลง ริมฝีปากบางจุมพิตลงบนกระหม่อมศีรษะของเธอ
“อีกเดี๋ยวฉันจะมานวดให้นะ”
การจุมพิตจากเขานั้นมันแผ่วเบามาก ทว่าเส้นผมของเธอเหมือนมีความรู้สึก วินาทีที่ไฟฟ้าปะทุไหลผ่านนั้นมันแผ่ซ่านไปทั่วตัวเธอ
เย้นหว่านมีความสุข อย่างยินดี
เธอตอบรับอย่างสะอึกสะอื้น “ตกลง!”
นวดให้เธอ
การมีเขาอยู่ด้วยนะ ราวกับอันตรายความยากลำบากทุกทาง ก็แปรเปลี่ยนเป็นเรื่องเล็กน้อยไปทันที
เย้นหว่านท่าทางมีความสุข แต่ในทางกลับกันหยูซือห้านสีหน้าเคร่งขรึม ไฟโมหะเริ่มแผดเผา สีหน้าดั่งปีศาจร้าย
โห้หลีเฉินดันมาฟื้นเอาเวลานี้ได้?
เขาได้แต่หมั่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ตื่นแล้วจะทำไม? โห้หลีเฉินบาดเจ็บไปทั้งตัว การที่ยืนได้นั้นคือว่าทนเอาทั้งนั้น!”
น้ำเสียงของเขา มุ่งมั่นมาก
การหนีจากระเบิดนั้นในเวลาเดียวกัน เขาถูกระเบิดทั้งตัว ขาขาด แขนขาด จนกลายมาเป็นคนที่ใช้ชีวิตบนรถเข็นแทนเขาถึงได้มีชีวิตรอดแบบผู้พิการ
ส่วนอาการบาดเจ็บของโห้หลีเฉินนั้นถือว่าเบากว่าเขาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดีไปเท่าไหร่หรอก
เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว เย้นหว่านตะลึงทันที นัยน์ตาสั่นอย่างรุนแรง
เธอคว้าเสื้อของโห้หลีเฉินเอาไว้ เมื่อครู่ตอนที่โห้หลีเฉินฟื้นขึ้นมา มันมีทั้งความตกใจและดีใจมากเหลือเกิน เธอได้แต่ดีใจไป จนลืมไปเสียสนิท สภาพร่างกายของโห้หลีเฉิน บาดเจ็บอย่างหนักจนระบบรวนไปหมด การที่สามารถตื่นขึ้นมาได้นั้นก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
ทว่าสาวใช้สองคน ผู้คนที่รายล้อมอยู่โดยรอบ คนไหนบ้างที่ไม่ใช่คนฝีมือเก่งกล้า แถมจ้องมองอย่างกินเลือดกินเนื้อ
โห้หลีเฉินกลัวว่าจะไม่สามารถต่อสู้ได้
หยูซือห้านยังคงแสยะยิ้มเย็นชาใส่ให้อย่างได้ใจ พร้อมทั้งน้ำเสียงอันน่าร้ายกาจมาก
“ฟื้นขึ้นมาก็ดี งั้นจะได้ให้พวกแกเห็นกับตา ว่าฉันจะทำให้พวกแกตายยังไง”
“เห็นเต็มสองตาว่าคนรักได้รับบาดเจ็บต่อหน้าตนเอง แล้วตายไป มันยิ่งทิ่มแทงใจดีหนักกว่าเดิม จนเจ็บปวดรวดร้าวหัวใจเหลือเกิน”
“ฉันจะทำให้พวกแกสมปรารถนาเอง ให้พวกแกตายตาไม่หลับ”
ร่างกายของเย้นหว่านตัวเกร็งทันที พร้อมทั้งตัวสั่นเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้
ไม่ง่ายเลยที่จะปลุกให้โห้หลีเฉินตื่นขึ้นมาง่าย ไม่มีทางให้เขามาเกิดเรื่องต่อหน้าตนเองหรอก
แววตาของเธอทอประกายตอนที่จ้องมองเขา พลันพูดว่า “ตอนนี้คุณเดินไหวไหม?”
ถ้าได้ เธอก็จะขวางคนพวกนี้เอาไว้ก่อน เพื่อให้โห้หลีเฉินหนีไปก่อน
ขอแค่โห้หลีเฉินปลอดภัยแล้ว ก็ถือว่ายังมีโอกาสอยู่
แววตาของโห้หลีเฉินจ้องมองเธออย่างเคร่งขรึม แขนข้างหนึ่งวางพาดกับไหล่ของเย้นหว่าน เพื่อที่จะได้กอดเธอเอาไว้
เขาพูดออกมาอย่างแผ่วเบา “เดินไม่ไหว คุณต้องแบกตัวฉันเอาไว้”
เย้นหว่านถึงกับสำลักทันที
เธออยากจะพูดว่าให้เขาได้เดินไป มันเท่ากับเหมือนส่งเขาไปตาย
เช่นนั้นตอนนี้จะทำอย่างไรดี?
โห้หลีเฉินจ้องมองท่าทางตึงเครียดเล็กน้อยของเย้นหว่าน พลันเม้มปากเอาไว้ พร้อมทั้งกระซิบพูดข้างหูด้วยน้ำเสียงสดใส
“เย้นหว่าน มีฉันอยู่ทั้งคน คุณไม่ต้องคิดให้หนักใจไป”
เขาไม่ชอบมองไหล่เล็กๆ ของเธอเลย ที่ต้องแบกรับเรื่องต่างๆ ไว้มากมาย
ช่วงที่เขาสลบไสลไม่ได้สติ ก็ต้องมาลำบากเธออีก
“ทั้งหมด ให้ฉันเป็นคนจัดการก็พอ”
สิ้นเสียง โห้หลีเฉินถึงได้ละสายตา พร้อมทั้งจ้องมองมาทางหยูซือห้านที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นไม่ไกลนักด้วยสายตาเมตตา
ริมฝีปากบางของเขากระตุกขึ้นอย่างมุ่งมั่น “แกวางแผนว่าจะตายยังไง?”
หยิ่ง จองหอง
กลิ่นอายที่ดูหมิ่นรอบตัว ราวกับว่าเขาไม่ได้ถูกคนล้อมเอาไว้เช่นนั้น แต่เป็นราชาที่ผู้คนต่างชื่นชมในสถานการณ์นี้
หยูซือห้านขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างหนัก เมื่อเห็นท่าทางของโห้หลีเฉินตั้งแต่แรก เขาก็เกลียดท่าทางของโห้หลีเฉินแบบนี้ที่สุด
ไม่มีใครอยู่ในสายตา หยิ่งจองหอง เขาสามารถแย่งทุกอย่างไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์และตำแหน่งของเขาโดยไม่ต้องเกรงกลัว
ตอนนี้เขาก็เป็นนักโทษไปแล้ว แล้วเขาไปเอาความรู้สึกฮึกเหิมมาจากไหน ถึงได้กล้าจองหองต่อไปได้?
หยูซือห้านขบฟัน ทุกคำ ต่างมาจากการที่เน้นพูดออกมาจากร่องไรฟัน
“โห้หลีเฉิน เราสองคน ก็ควรมีทางออกได้สักที! วันนี้ ฉันต้องการให้มึงตาย!”
เมื่อสิ้นเสียงเขา ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้าง ก็เขยิบเข้ามาใกล้เย้นหว่านและโห้หลีเฉินด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด
ทว่าครั้งนี้ เป้าหมายของพวกเธอคือโห้หลีเฉิน
เย้นหว่านตัวสั่นจนตัวแข็งทื่อทันที พร้อมทั้งกอดช่วงเอวของโห้หลีเฉินเอาไว้แน่น ขนาดหายใจยังหายใจไม่ออกเลย
โห้หลีเฉินใช้มือข้างหนึ่งพาดไหล่ของเธอเอาไว้ ริมฝีปากบางเขยิบเข้าข้างใบหูของเธอ พร้อมทั้งพูดเสียงเบา
“คุณแบกฉันเอาไว้”
หมายความว่ายังไง?
เย้นหว่านกะพริบตามองเขา ยังไม่ทันคิด หรือถามให้เข้าใจเลย ก็เห็นว่า ผู้หญิงถือมีดสั้นออกมา พร้อมทั้งแทงมาทางโห้หลีเฉินอย่างรวดเร็วและเต็มแรง
มีดสั้นมีลักษณะพิเศษ มันแสดงความหนาวเหน็บสะท้อนออกมาจากตัวใบมีดอันแหลมคม
สัญชาตญาณของเย้นหว่านพลันกอดตัวของโห้หลีเฉินเอาไว้แน่น
โห้หลีเฉินจ้องมองมีดสั้นที่กำลังจู่โจมเข้ามาด้วยใบหน้าเย็นชา นัยน์ตาอันลึกล้ำ ไม่มีความกระวนกระวายใจสิ่งใดออกมาสักนิด
วินาทีที่ใบมีดใกล้จะสัมผัสกับเขา ณ เวลานั้น เขาเริ่มลงมือทันที ใช้นิ้วสองนิ้วดีดลงไปบนมีดสั้น
พลันมีเสียง “ปึก” วินาทีนั้นใบมีดก็หลุดออกมาจากมือของผู้หญิง
ส่วนโห้หลีเฉินอาศัยจังหวะความเร็วในการคว้าใบมีดที่กำลังร่วงหล่นนั้นไว้ จากนั้น ก็ตอบโต้กลับ ด้วยการแทงมีดสั้นไปทางด้านหน้า
“อึก …”
หญิงสาวส่งเสียงงึมงำออกมา พร้อมทั้งเบิกตาโตอย่างประหลาดใจ จากนั้นก็ก้มศีรษะลงมองด้านล่างอย่างเกร็งๆ
ก็เห็นว่า มีดสั้นเล่มนั้น มันปักทิ่มอยู่ตรงหน้าอกของเธอ จนแทบมองไม่เห็นตัวมีดเลยด้วยซ้ำ
เธอถลึงตาโต แทบไม่กล้าจะเชื่อด้วยซ้ำ ฝีมืออย่างเธอ แต่ดัน…. มาถูกฆ่าตายแค่เพียงเสี้ยววินาทีเอง?!
ส่วนหญิงสาวอีกคนที่ยืนตัวแข็งอยู่ด้านข้าง ดวงตาตื่นตระหนก
ผ่านไปสักพัก เธอถึงได้สติกลับมา น้ำเสียงพูดอย่างแข็งกร้าว “โห้หลีเฉิน แกลอบทำร้ายเธอ!”
โห้หลีเฉินแสยะยิ้ม พร้อมทั้งจ้องไปตัวหญิงสาวด้วยสายตาอันตราย
“ฉันไม่ได้ลอบทำร้าย แกมาลองดูด้วยตนเอง เดี๋ยวก็รู้เอง”
หญิงสาวผ่านสมรภูมิมาทั้งเป็นร้อย ทว่าในเวลานี้ กลับอดไม่ได้ที่ร่างกายสั่นระริก
อาการบาดเจ็บแสนสาหัสของโห้หลีเฉินทำให้ยืนทรงตัวไม่ได้ พลันอาศัยเอนตัวให้เย้นหว่านช่วย ลักษณะของเขาที่เป็นเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังอาศัยความอดทนอยู่ ร่างกายนั้นอ่อนแอจนไม่ไหวแล้ว การตอบสนองนั้นลดต่ำลงจนอยู่ในระดับสิบแล้ว
ทว่าเมื่อครู่เขาลงมือฆ่าได้พริบตาเดียวไปแล้ว …
ไม่ มันก็แค่ลอบทำร้ายเท่านั้นเอง เธอได้ใจจนเกินเหตุ เลยถูกฆ่า
ถ้าเธอระมัดระวังอีกสักหน่อย ใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของเธอ จุดอ่อนของโห้หลีเฉินคือไม่สามารถขยับตัวได้ จนสามารถเอาชีวิตของโห้หลีเฉินไปได้อย่างแน่นอน!
หญิงสาวเข้าใจหลักการนี้ พลันรีบเปลี่ยนทิศทางทันที พลันเคลื่อนย้ายตนเองไปรอบๆ โห้หลีเฉิน
เธออยากจะลงมือช่วงบริเวณด้านหลังของโห้หลีเฉิน!
เย้นหว่านตกใจมาก จนเหงื่อเย็นผุดเต็มศีรษะ พร้อมทั้งพูดอย่างตื่นเต้น “โห้หลีเฉิน ทำยังไงดี?”