สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่677 ฉันมาทำ

บทที่677 ฉันมาทำ

บทที่677 ฉันมาทำ

แววตาของโห้หลีเฉินแข็งขึ้นอย่างรุนแรง เขาถึงได้รู้สึกตัวถึงสภาพร่างกายของตัวเอง

แขนซ้ายมีแผลเป็นทางยาว บาดเจ็บอาหารสาหัส ด้านหลังถูกกระแทกจนกระดูกร้าว บาดเจ็บปานกลางบริเวณน่อง บริเวณอื่นบนร่างกายมีแผลฟกช้ำต่างระดับกันไป

สถานการณ์นี้ ใกล้เคียงกับอันตรายที่จะพบที่เขาคาดการณ์เอาไว้ตอนแรก

ยังไงเสียตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้น ไม่มีบาดแผลสาหัสถึงชีวิต ทั้งหมดต้องอาศัยความชอบของการดัดแปลงรถคนนี้ของเขาแล้วล่ะ

นอกจากนี้เขายังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ปกป้องเย้นหว่านไว้ในอ้อมกอดตลอด แทบจะรับความเสียหายไปทั้งหมด

โห้หลีเฉินอดกลั้นความเจ็บเอาไว้โดยไม่ส่งเสียง แล้วพูดกล่อมเธออย่างอ่อนโยน

“ไม่เป็นแล้ว เด็กดี ไม่ต้องร้องแล้ว”

เขาเลิกมืออีกข้างตบหลังเย้นหว่านเบา ๆ “เธอเจ็บตรงไหนรึเปล่า? ให้ฉันดูหน่อย”

เย้นหว่านร้องไห้จนน้ำตานองหน้า เธอส่ายหัว แล้วพยักหน้าอีกครั้ง

ร้องจนสมองตื้อไปหมดแล้ว

โห้หลีเฉินจนปัญญาและปวดใจ น้ำเสียงอดทนอย่างมาก

“เด็กดี ลุกขึ้นให้ฉันดูหน่อย”

เมื่อเสียงของชายหนุ่มดังเข้าไปในหู ทั้งไพเราะและน่าหลงไหล

เย้นหว่านสะอื้นไป แล้วลุกขึ้นนั่งจากแผ่นอกของเขาที่ซบอยู่อย่างเชื่อฟัง แต่มือเล็กยังคงดึงชายเสื้อของเขาไว้แน่น ราวกับกลัวว่าจะถูกแยกจากเขาอย่างนั้น

ในความมืด โห้หลีเฉินมองเห็นใบหน้าของเย้นหว่านไม่ชัด แต่กลับรู้อย่างชัดเจน ว่าตอนนี้เธอคงร้องไห้จนกลายเป็นลูกแมวน้อยแน่

ท่าทางน่าสงสารแค่คิดถึงก็ทำให้เขาปวดใจ

เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “บนนาฬิกาของเธอ หมุนปุ่มไปสามตำแหน่ง แล้วเปิดไฟฉาย”

นาฬิกาข้อมือของเขาเองก็มีฟังก์ชั่นนี้เช่นกัน แต่ตอนนี้สภาพมือซ้ายของเขาแย่มาก ไม่สะดวกจะเปิดมัน

เย้นหว่านไม่ได้คิดอะไรให้มาก เธอรีบเปิดนาฬิกาทันที

ความจริงแล้วเธอไม่ได้มีนิสัยชอบใส่นาฬิกาข้อมือ นาฬิกาเรือนนี้นั้นโห้หลีเฉินสวมให้เธอเป็นพิเศษก่อนออกเดินทาง

เธอนึกว่าแค่เพื่อให้ดูเวลาสะดวกในสถานการณ์ตอนที่มือถือแบตหมดซะอีก แต่กลับไม่รู้เลยว่ามันยังมีฟังก์ชั่นการส่องสว่างด้วย

ไม่นาน บนนาฬิกาก็มีไฟสว่างขึ้น

และในตำแหน่งที่สามนั้นคือการส่องสว่างทั่วทิศทาง เหมือนกับหลอดไฟเล็ก ๆ ขับไล่ความมืดรอบทิศและสร้างความสว่างรอบตัวในทันที

เย้นหว่านจึงได้มองเห็นสภาพในรถอย่างชัดเจน

ภายในรถที่เคยสะอาดเรียบร้อย บัดนี้สิ่งของที่ไม่อยู่กับที่มากมายกระจายไปทั่ว บนหน้าต่างรถล้วนมีรอยขีดข่วนมากมาย รอยบุบและรอยแตกร้าวอยู่แทบจะทุกบาน

แต่ประสิทธิภาพของรถนั้นดีมากจริง ๆ ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นแล้ว กระจกก็ยังแข็งแรงไม่แตก

นอกกระจกหน้าต่าง คือกองหิมะที่ทับถมกันเต็มไปหมด ตัดขาดการมองเห็นอื่น ๆ ทั้งหมด

มีเพียงเบาะนั่งหลังตรงที่โห้หลีเฉินพิงอยู่เท่านั้น ที่บุบไปเป็นหลุมขนาดใหญ่ เขาไม่ได้นั่งอยู่บนเบาะอย่างเรียบร้อยนัก แต่พิงอยู่ข้างรอยบุบนั้น

ไม่กล้าคิดว่า ตอนที่ตรงนั้นถูกกระแทกจนบุบ จะกระแทกเข้ากับตัวของโห้หลีเฉินพอดีรึเปล่า

ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเหมาะเจาะได้ล่ะ?

ในตอนนี้บนร่างของโห้หลีเฉิน ทั้งซีกซ้ายเต็มไปที่ด้วยเลือดสีแดงฉาน หาส่วนที่ยังสะอาดอยู่ไม่เจอเลยแม้แต่น้อย

สีหน้าของเขาก็ซีดขาวราวกระดาษอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สีหน้าอ่อนแรงอย่างยิ่ง

เมื่อเย้นหว่านได้เห็นฉากนั้น น้ำตาที่เพิ่งจะหยุดไป ก็ร่วงหล่นลงมาทันทีอย่างไม่อาจควบคุม

ในใจรู้สึกอึดอัดเหมือนถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งบีบรัด บดขยี้หัวใจของเธอทั้งเป็น

ทำไมเขาถึง ทำไมถึงได้รับบาดเจ็บร้ายแรงขนาดนี้?!

“แค่ห้ามเลือดไม่ทันเท่านั้นเอง เลือดก็เลยไหลเยอะไปหน่อย ไม่ใช่แผลร้ายแรงอะไรมากหรอก”

โห้หลีเฉินแสร้งทำเป็นพูดอย่างไม่ใส่ใจ เท้าแขนขวากับเบาะนั่งแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งช้า ๆ

การเคลื่อนไหวของเขาช้ามาก ต่างกับเวลาปกติโดยสิ้นเชิง

ในใจของเย้นหว่านราวกับถูกเข็มทิ่มแทง ดวงตาของเธอแดงก่ำ รีบโน้มตัวเข้าไปด้วยสายตาพร่าเลือน พยุงโห้หลีเฉินด้วยความระมัดระวัง

ลำคอของเธอราวกับถูกยัดก้อนหินเข้าไป อึดอัดจนคำพูดของเธอไม่อาจเอ่ยออกมาได้

หลังจากลุกขึ้นนั่งแล้ว สีหน้าของโห้หลีเฉินก็ซีดลงไปอีก แต่ท่าทางของเขากลับแสดงออกอย่างไม่ยี่หระเหมือนอย่างเคย แล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยน

“เย้นหว่าน ไปเอากล่องปฐมพยาบาลมา”

เพื่อความสะดวกและสนองความต้องการที่เร่งด่วน ในรถจึงได้เตรียมกล่องปฐมพยาบาลเอาไว้สองกล่อง อีกกล่องนั้นอยู่ใต้เบาะรถ

เย้นหว่านหยิบออกมาอย่างรีบร้อน

โชคดีที่ตอนนี้เธอคุ้นเคยกับยารักษาฉุกเฉินพวกนี้แล้ว จึงรีบหยิบยาฆ่าเชื้อข้างในออกมาได้ทันทีอย่างถูกต้อง

โห้หลีเฉินกลับมองเธอด้วยแววตาลุกโชน ดวงตามืดครึ้มของเขาสแกนไปมาบนร่างของเธอราวกับเอ็กซ์เรย์

เขาเอ่ยถามเสียงทุ้ม “บนตัวเธอมีแผลรึเปล่า?”

เย้นหว่านรีบส่ายหัว “ไม่มี ไม่มีตรงไหนได้รับบาดเจ็บเลย”

ด้วยความเคยชินของเขา ถ้าเธอบาดเจ็บ ต้องจะต้องให้ทำแผลของเธอก่อนแน่

โห้หลีเฉินจึงวางใจลงได้ แล้วค่อย ๆ ถอดสูทตัวนอกที่แขนซ้ายของตัวเองออกมาอย่างช้า ๆ

เมื่อถอดออกมาแล้ว เลือดบนแขนก็ยิ่งชโลมมากขึ้น

เสื้อเชิ้ตขาวเปลี่ยนกลายเป็นสีแดง บนนั้นมีขีดพาดเป็นทางยาวเส้นหนึ่ง เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นและเลือดเนื้อของบาดแผล แทบจะติดเข้าด้วยกัน

เย้นหว่านเจ็บปวดจนอยากจะร้องไห้อย่างหนักอีกครั้ง

นี่ทำให้เธอเจ็บปวดเกินทนยิ่งกว่าบาดแผลบนร่างกายของเธอเสียอีก

โห้หลีเฉินกลับแสดงท่าทีเฉยเมย ราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างนั้น ก่อนยกมือฉีกแขนเสื้อออกจากกันครึ่งหนึ่ง

เลือดเนื้อที่เหนียวติดเข้าด้วยกัน เมื่อฉีกออกจากกัน เลือดสดก็ไหลทะลักออกมาทันทีราวกับเขื่อนแตก

เย้นหว่านสูดหายใจเฮือก เบ้าตาแดงก่ำไปหมด

บาดแผลสาหัสขนาดนั้น เขาจัดการมันอย่างบุ่มบ่ามขนาดนั้นได้ยังไง!

เธอสะอึกสะอื้นจนแทบพูดอะไรไม่ออก

โห้หลีเฉินกลับไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว มองไปที่กล่องยาที่เย้นหว่านอุ้มมา ก่อนยื่นฝ่ามือเรียวออกมา

“เอายาให้ฉันหน่อย”

หมายถึง เขาต้องการจะทำแผลเอง

แต่บาดแผลที่ร้ายแรงขนาดนี้ จัดการเองก็คงไม่สะดวก และมันจะต้องเจ็บปวดมากแน่ ๆ แต่ตัวเองกลับต้องจัดการไปพร้อมกับอดทนไปด้วย จะยิ่งทรมานเป็นสองเท่า

เย้นหว่านปวดใจไม่หยุดหย่อน เธอกัดฟัน กำยาและสำลีก้อนไว้ในมือ

“ฉันมาทำ”

แววตาของเธอสั่นไหว แต่กลับกล้ำกลืนน้ำตาทั้งหมดกลับลงไปอย่างดื้อรั้น

ต่อให้จะทุกข์ใจแค่ไหน เธอก็ต้องเข้มแข็ง ตอนนี้มีแค่เธอเท่านั้นที่จะช่วยโห้หลีเฉินได้ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ เธอไม่สามารถเป็นภาระของเขาที่ช่วยอะไรไม่ได้เลยอีกต่อไป

โห้หลีเฉินนั้นเดิมคิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อเผชิญกับสายตาที่แน่วแน่ของเย้นหว่าน เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาต่อ

เขาปวดใจกับเย้นหว่าน รู้ว่าเธอเห็นแผลของเขาแล้วจะต้องรู้สึกแย่มากแน่ และจะยิ่งทิ่มแทงที่เมื่อจัดการกับมัน

ทว่าเธอเอง กลับรู้สึกปวดใจไปกับเขาเช่นกัน

ถ้าหากมองดูเขาทำด้วยตัวเอง น่ากลัวว่าคงจะยิ่งรู้สึกเจ็บปวด

ชั่วขณะนั้น ไม่มีใครพูดอะไรอีก ในอากาศมีความเงียบสงัดที่ค่อนข้างน่าอึดอัด

เย้นหว่านพยายามอดทนต่อการสั่นของนิ้ว หยิบยาแล้วทาไปบนแขนของโห้หลีเฉินอย่างระมัดระวัง ตั้งอกตั้งใจทำแผลให้เขา

เธอไม่ใช่มืออาชีพ แต่เท่าที่จะทำได้ เธอจะทำให้เขาอย่างดี ให้ความรู้เจ็บของเขาเบาลงสักนิด

ขั้นตอนนี้ ก็เหมือนกับความทรมาน

ไม่รู้ว่าใช้เวลาไปนานแค่ไหน หน้าผากของเย้นหว่านผุดเหงื่อขึ้นถี่ยิบ ในที่สุดเธอก็พันแผลให้ที่แขนซ้ายของโห้หลีเฉินเสร็จ

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท