สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่ 741 ทิ้งก้างขวางคอไว้กองหนึ่ง

บทที่ 741 ทิ้งก้างขวางคอไว้กองหนึ่ง

ขอเพียงเจาะเครือข่ายได้สำเร็จ แล้วสามารถติดต่อเย้นโม่หลินได้ พวกเขาจะต้องตามหาที่นี่และมาถึงอย่างรวดเร็วแน่

เย้นโม่หลินไม่เพียงแต่จะพาคนมา ยังพกอาวุธมาอีกด้วย คนมากก็ยิ่งมีกำลังมาก เธอกับโห้หลีเฉินได้รับการสนับสนุนจากทางประเทศเบียนหนานจึงไม่ต้องคอยระมัดระวังตัวทุกทางว่าจะถูกคนควบคุมอย่างนี้

แต่ทว่า ในจินตนาการนั้น ย่อมสวยงาม ทว่าความเป็นจริงกลับทำให้รู้สึกผอมลีบเลยทีเดียว

การรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายของประเทศเบียนหนานนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก

ในโทรศัพท์มือถือของเธอติดตั้งและปรับแก้ซอฟต์แวร์แฮกเกอร์ ถึงแม้จะเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงแล้วก็ตาม แต่ลองดูอยู่หลายครั้งแล้ว ก็ยังเจาะเข้าเครือข่ายรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งของประเทศเบียนหนานไม่ได้

เย้นหว่านนอนกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยความเหนื่อยกายเหนื่อยใจ มองดูหน้าจอที่แสดงผลว่าล้มเหลวสีแดงนั้นอีกครั้ง จนในที่สุดก็หมดแรงแล้ว

ตอนนี้เธอถึงเพิ่งจะมาเข้าใจทีหลังว่า ในตอนที่โห้หลีเฉินเอาโทรศัพท์มือถือให้เธอนั้น เหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

หนำซ้ำยังบอกให้เธอเล่นโทรศัพท์มือถือให้น้อยลงหน่อย เพื่อรักษาดวงตา

ซึ่งความหมายเดิมก็คือจะบอกว่าเธอทำซ้ำไปซ้ำมาก็ไม่มีประโยชน์ ระบบรักษาความปลอดภัยนี้เจาะไม่ได้

เย้นหว่านเซ็งจนหมดคำพูด ได้แต่เกาหัว แล้วถอนหายใจ

จริงสิ โห้หลีเฉินคงจะเคยเจาะระบบรักษาความปลอดภัยนี้ได้นานแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยทำสำเร็จ หรือว่าซอฟต์แวร์ปัญญาอ่อนของเธอนี้จะมีความหวังอยู่?

ทุกอย่างมันช่างเสียเวลาเปล่าจริงๆ

ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป อย่าว่าแต่พวกเขาจะความช่วยเหลือจากภายนอกไม่ได้เลย คงทำได้เพียงแค่อาศัยให้โห้หลีเฉินบุกเดี่ยวเพื่อตามหายา?

แต่ถ้าหากพบเจอเหตุการณ์ที่กระชั้นชิดขึ้นมา มีความเป็นไปได้มากว่าจะเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน

สุดท้ายแล้วจะมีวิธีอื่นหรือเปล่า จะสามารถติดต่อพวกเย้นโม่หลิน เพื่อให้พวกเขาหาที่นี่เจอได้หรือเปล่านะ?

เย้นหว่านรู้สึกกลุ้มใจ

เวลาผ่านไปเร็วมาก ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลงแล้ว

เดิมทีไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก แต่เป็นเพราะว่าเจ้าหญิงอยู่ที่นี่ ดังนั้นคนมากมายจึงต้องเป็นฝ่ายทำงานล่วงเวลาจนล่าช้าออกไป หลังจากที่ท้องฟ้ามืดสนิท ก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

พอเห็นว่าโห้หลีเฉินยังคงทำงานยุ่งอยู่อย่างนี้ ดูแล้วคืนนี้คงจะต้องนอนที่ห้องพักเจ้าหน้าที่อีกแล้ว

แต่เย้นหว่านที่กำลังนอนเอนกายอยู่ในห้องพักเจ้าหน้าที่นี้ ก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะกลับก่อนล่วงหน้า

ในเมื่อเย้นหว่านไม่ไป เจ้าหญิงที่ยังอยู่เฝ้าเย้นหว่าน ก็ดูเหมือนจะไปไม่ได้เหมือนกัน

แล้วถ้าเจ้าหญิงไม่ไป พวกเขาไม่ต้องทนอยู่เป็นเพื่อนกันที่นี่ตลอดทั้งคืนเลยหรือไง?

นั่นเป็นไปไม่ได้

หลังจากที่พวกผู้ชายลังเลกันอยู่สักพักหนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจเป็นเสียงเดียวกันว่าเลิกงาน

พวกผู้ชายต่างพากันลุกขึ้นยืนกล่าวอำลา แล้วเลิกงานกลับบ้าน

เจ้าหญิงเพียงแค่ยิ้มเบาๆ แล้วพยักหน้า ส่งสายตามองพวกเขาที่จากไป แต่กลับไม่ได้ไม่สบอารมณ์แต่อย่างใด

เวนเดลล์กำลังมองดูผู้คนที่กระจายกันออกไปเป็นกระจุกอย่างรวดเร็วโดยประมาณแล้ว ก็เดินออกมาจากห้องทำงาน แล้วเอ่ยกับซาอินติอย่างมีมารยาทว่า

“เจ้าหญิง ยามนี้ดึกมากแล้ว ให้กระหม่อมส่งท่านกลับไปพักผ่อนเถอะครับ”

เขาพูดอย่างมีมารยาทมาก แต่กลับแฝงด้วยความนัย เป็นการเตือนเธอว่า เธอเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ ไม่ควรอยู่ในสถานที่อย่างนี้นานจนเกินไป

ดึกแล้ว จึงไม่ควรที่จะอยู่กับผู้ชายเป็นกองที่นี่

ในราชสกุล ก็มีกฎระเบียบและมีเกียรติของราชสกุล

ซาอินติขมวดคิ้วเล็กน้อย มองดูโห้หลีเฉินที่ยังคงทำงานอยู่ แล้วก็มองไปที่เย้นหว่านที่เอนตัวนอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ในห้องพักเจ้าหน้าที่ ชั่วขณะนั้นก็รู้สึกถึงความโกรธที่สุ่มอยู่ในอก

น่าแปลก เธอก็แค่ไม่อยากให้เย้นหว่านกับโห้หลีเฉินอยู่ด้วยกันตามลำพัง

อีกอย่าง นี่ก็เป็นเวลาค่ำคืนที่ยาวนานตลอดทั้งคืน

เย้นหว่านนอนหลับในห้องพักเจ้าหน้าที่ของโห้หลีเฉิน โห้หลีเฉินยังมีนิสัยที่รักสะอาดอีก เขาไม่มีทางนอนห้องอื่นแน่ ถ้าอย่างนั้นเขาจะนอนห้องไหนล่ะ?

หรือว่าจะนอนร่วมเตียงเดียวกับเย้นหว่าน?

ต่อให้เป็นพี่น้อง ก็ทนไม่ได้!

ดวงตาของซาอินติทอประกายมืดครึ้ม หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก ก็ได้พูดอย่างสง่างามว่า

“ไม่ต้องส่งฉัน ฉันมีนางข้าหลวงคอยติดตามแล้ว กลับไปเองได้ เวนเดลล์ ดูเหมือนนายจะมีหน้าที่เยอะมากเหมือนกันนะ วันนี้ยังต้องทำงานล่วงเวลาอยู่อีกไหม?”

ในตอนที่เวนเดลล์อยู่ในพระราชวัง ก็เกือบจะเข้าและออกพร้อมกับโห้หลีเฉิน

เขาตอบกลับ “ครับ”

“พวกนายลำบากเกินไปแล้ว มีเรื่องมากมายขนาดนี้ จะทำคนเดียวไม่ได้นะ มันเหนื่อยเกินไป เอาอย่างนี้แล้วกัน ฉันจะจัดคนให้อีกสองคน เอาไว้คอยช่วยพวกนาย”

เมื่อสิ้นเสียง ซาอินติก็พยักหน้าให้กับคนที่ยังไม่ได้จากไปสองคนนั้น แล้วออกคำสั่งว่า

“วันนี้พวกนายอยู่ทำงานล่วงเวลาที่นี่ คอยช่วยเหลือเพิ่มเติม”

ในขณะที่พูดอยู่นี้น้ำเสียงของเธอดูจริงจังเล็กน้อย “ในขณะเดียวกันก็เป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีและโห้หลีเฉินทำงานกันอย่างหนักขนาดนี้ พวกนายกลับว่างไม่มีอะไรทำ ถ้าไปพักผ่อนจะไม่รู้สึกผิดหรอกเหรอ?”

คนที่ยังไม่ไปตัวสั่นไปชั่วขณะ คาดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ คำกล่าวโทษนี้จะตกลงมาใส่หัวของพวกเขา

ตอนนี้เลยเวลาเลิกงานไปแล้ว การตำหนิที่ยากจะเข้าใจนี้ พวกเขาเองก็รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเหมือนกัน….

“เจ้าหญิง ไม่ใช่พวกกระหม่อมไม่ทำงาน แต่คุณโห้กำลังทำรายการบันทึกข้อมูล ก็เลยไม่ให้พวกเราสอดมือเข้าไปยุ่ง”

ซาอินติจึงตำหนิ “นั่นเป็นเพราะพวกนายเงอะ ๆ งะ ๆ น่ะสิ ทำได้แค่สร้างความวุ่นวายเท่านั้น! แค่ไม่ให้สอดมือยุ่งใบบันทึกข้อมูล พวกนายก็จะไม่ช่วยงานอย่างอื่นเพิ่มเติมเลยหรืออย่างไร ทำงานเบ็ดเตล็ดไม่เป็นเหรอ?”

ทุกคน “……”

ดูเหมือนจะพูดมีเหตุผลอยู่บ้าง จึงไม่อาจหาข้อโต้แย้งใด ๆ ได้

แต่มีบางอย่างที่แปลก ๆ หรือเปล่า?

พวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่ซื่อตรง ยิ่งไปกว่านั้นก็มีตำแหน่งหน้าที่อยู่กับตัว ไม่สามารถไปเป็นผู้ช่วยทำงานเบ็ดเตล็ดได้นะ

แต่ทว่า การคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนตรงจุดนี้ ไม่มีใครกล้าพูดออกไปเลยสักคน

ในตอนที่เจ้าหญิงยิ้มนั้นช่างอ่อนโยนและอบอุ่นมาก แต่ในตอนที่เธอโกรธ ก็โกรธเสียจนทำให้คนตกใจมาก

ชายสองคนนั้นนายมองฉัน ฉันก็มองนาย พอตัดสินใจได้แล้ว จึงเอ่ยว่า

“ในเมื่อคณะรัฐมนตรีและคุณโห้ต่างก็ต้องทำงานล่วงเวลาตลอดทั้งคืน พวกเราก็ไม่อาจวางใจกลับไปนอนหลับสบายได้ ดังนั้นคืนนี้พวกเราทุกคนก็อยู่ทำงานล่วงเวลาด้วยกันที่นี่กันเถอะ ควรจะทำอะไร ก็ทำด้วยความกระตือรือร้น”

“อืม ๆ พวกเราจะอยู่ทำงานล่วงเวลากันทุกคน”

โดยรวมแล้วยังมีอีกห้าคนที่ยังไม่ได้กลับไป ทุกคนต่างก็หัวเราะฮ่า ๆ อย่างขมขื่นแล้วเสนอตัวทำงานล่วงเวลา

เมื่อเป็นอย่างนี้สีหน้าของซาอินติเลยดูดีขึ้นมาบ้าง เมื่อคนเหล่านี้ต่างก็อยู่ที่นี่ พอมีสายตาหลายคู่มองดูอยู่ ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่โห้หลีเฉินกับเย้นหว่านจะนอนบนเตียงเดียวกัน

อีกอย่าง ในค่ำคืนที่เงียบสงบ ก็อาจเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้ง่าย ๆ เช่นกัน

ความมืดครึ้มวาบผ่านในดวงตาที่เจ้าแผนการของซาอินติแวบหนึ่ง

เย้นหว่านได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวด้านนอก ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์

ซาอินตินี่น่ารำคาญมากจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะทิ้งคนไว้มากมายขนาดนี้ ให้เป็นก้างขว้างคออย่างนั้นเหรอ?

เธอยึดห้องพักเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว อย่างนั้นคืนนี้โห้หลีเฉินจะไปนอนที่ไหนล่ะ?

เธอขมวดคิ้วอย่างกลุ้มใจ จิตใจสับสนวุ่นวาย

การที่เธอมาที่นี่ คงจะสร้างความวุ่นวายให้โห้หลีเฉินเสียแล้ว

เวนเดลล์เห็นคนมากมายต่างก็อยู่ที่นี่ ก็มีสีหน้าที่จนปัญญาเช่นเดียวกัน

เรื่องที่โห้หลีเฉินทำ เดิมทีก็เป็นเรื่องที่คนอื่นช่วยไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งยังไม่ได้รับอนุญาตให้แทรกแซง ถึงแม้จะเป็นเขาก็ตาม ก็ช่วยอะไรไม่ได้

คนที่เหลืออยู่นี้ นอกจากเอาไว้ขวางหูขวางตาแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกจริงๆ

แต่กับเจ้าหญิงที่มีฐานะสูงศักดิ์พระองค์นี้ นอกจากเขาจะจนปัญญาแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นอีก

จึงทำได้เพียงแต่หวังว่าก่อนที่หาทางไปจากประเทศเบียนหนานได้ โห้หลีเฉินกับเย้นหว่านจะสามารถอดทนเอาไว้ได้

ภายหลังจากทิ้งคนเอาไว้กลุ่มหนึ่งแล้ว ในที่สุดซาอินติก็ออกไป

ด้วยเพราะเรื่องนี้ เลยทำให้ความรักใคร่ชื่นชมที่มีต่อเธออยู่เดิมนั้นและแทบอยากให้เธอพาผู้ชายหลายคนมาทุก ๆ วัน ตอนนี้กลับไม่ได้กระตือรือร้นที่จะคาดหวังให้ซาอินติมาวันพรุ่งนี้อีก

ตลอดทั้งคืนนี้ ดูสิว่าพวกเขาจะทนได้อย่างไร

ในนี้มีหลายคนที่หมดอาลัยตายอยาก แต่มีชายผู้หนึ่งที่ดวงตามืดครึ้ม สายตาที่ดูราวกับงูพิษก็มิปานแอบจับจ้องไปทางเย้นหว่าน

ซาอินติเดินออกไปได้สักพัก หลังจากที่แน่ใจว่าเธอจะไม่ย้อนกลับมาอย่างกะทันหันอีก เย้นหว่านจึงได้เดินออกมาจากห้องพักเจ้าหน้าที่

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท