ค่อยๆเอ่ยพูดออกไปว่า
“ผมนั้นสนับสนุนความเสมอภาคระหว่างชายหญิง แต่ก็ไม่ได้เป็นการยกย่องผู้หญิงให้สูงกว่า ผมรักเย้นหว่าน เพื่อเธอแล้ว ผมสามารถทำได้ทุกอย่าง นี่เป็นอิสระของผม จะปฏิบัติต่อภรรยาของตัวเองยังไง ก็เป็นอิสระของผู้ชายแต่ละคน ทั้งหมดของผม ล้วนแล้วแต่จะขึ้นอยู่กับช่วงหลังแต่งงานไปแล้ว เป็นเรื่องในครอบครัวของตัวเอง ส่วนโอหยางฝู่ เขาข่มเหงผู้หญิงหลายคนอย่างโหดร้าย แต่ไม่มีสักคนเลยที่มีความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับเขาเลย พวกคุณก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน สีหน้าหวาดกลัวของผู้หญิงพวกนั้นที่อยู่ในรูป พวกเธอล้วนแล้วแต่จะดูไม่ได้สมัครใจเลยทั้งสิ้น”
พูดไป เซอร์ยุนซีลุกยืนขึ้นมา แต่ละคำแต่ละประโยค เหมือนกับได้เข้าปะทะเข้าไปยังส่วนลึกในใจของเหล่าผู้คนกันอย่างชัดเจน
“ว่ากันว่าเหยื่อที่อยู่ในภาพพวกนั้นมีถึงพันกว่าคน ภาพพวกนั้นที่อยู่ในเน็ตไม่ได้ประกาศออกสู่สาธารณะทั้งหมด พวกคุณไม่เคยคิดกันเลยเหรอว่าคนที่อยู่ในคนกลุ่มนั้นจะมีคนที่พวกคุณรู้จัก บางทีก็อาจจะเป็นลูกสาวของพวกคุณก็ได้ไม่ใช่เหรอครับ?”
เหล่าผู้ชายต่างพากันนิ่งค้างกันออกมา รู้สึกว่าเหงื่อเย็นไหลอาบไปทั่วทั้งหลังขึ้นมาทันที
ถึงแม้ว่าพวกเขาล้วนแล้วแต่จะไม่ให้ความสำคัญต่อผู้หญิงกันทั้งนั้น แต่กับลูกสาวของตัวเอง ร้ายดียังไงก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง จึงได้มีความรู้สึกอะไรอยู่บ้าง
ถ้าเป็นลูกสาวของตัวเองตกอยู่ในเงื้อมมือของโอหยางฝู่ ถูกทรมานจนกลายเป็นอย่างนี้ พวกเขาก็แทบจะ…
คนจำนวนไม่น้อย หลังจากที่มีอาการคิดถึงหัวอกผู้อื่นออกมาแล้ว ต่างพากันมีความรู้สึกที่เป็นศัตรูต่อตัวโอหยางฝู่มากขึ้นหลายส่วน
มีบางคนที่เป็นคนที่ไม่รู้ชัดว่าลูกสาวไปไหนทำอะไรบ้าง ก็เกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที เริ่มมีความหวาดกลัวขึ้นมา
โอหยางฝู่ขมวดคิ้วออกมา เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นเฉียบ
“ผมเคยบอกไปแล้วว่า ผู้หญิงเหล่านี้ล้วนแล้วแต่จะเป็นคนที่เข้ามายั่วยวนผมเอง ผมเพียงแค่ไม่ได้ปฏิเสธออกไป ในเมื่อพวกเธออยากขึ้นเตียงผม ผมจะเล่นยังไง พวกเธอก็ต้องยอมรับกันอยู่แล้ว ผู้ชายคนไหนที่ไม่มีรสนิยมที่พิเศษหลายๆอย่างกันล่ะ? เซอร์ยุนซี มีแค่คุณที่คิดว่าผู้หญิงควรจะเท่าเทียมกับผู้ชาย แต่ที่นี่คือประเทศเบียนหนาน กฎหมายของที่นี่ นั้นเป็นแบบที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ผู้หญิงเป็นเพียงแค่ของประดับของผู้ชายเท่านั้น ในฐานะผู้ชาย สิทธิ์ที่แม้แต่จะคิดจัดการกับพวกผู้หญิงยังไงก็ยังไม่มี อย่างนั้นแล้วมันจะยังเรียกว่าผู้ชายได้อีกหรือไง?!”
คำพูดนี้ พูดออกมาได้อย่างเต็มปาก
พาตัวเองไปยืนอยู่ตรงด้านของผู้ชายทุกคน ถึงขนาดที่พาตัวเองไปยืนอยู่ตรงจุดสูงสุดของศีลธรรม
ทั้งหมดที่เขาทำลงไป ล้วนแล้วแต่จะกำลังเพลิดเพลินอยู่กับสิทธิของผู้ชาย ทั้งหมดมันล้วนเป็นสิ่งที่ควรจะทำอยู่แล้ว
ท่าทีที่ดูเหมือนว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วนั้น แม้แต่เซอร์ยุนซี ก็ยังมองไปจนต้องข่มกลั้นไฟโทสะเอาไว้ในใจ
เขาไม่มีความสนใจต่อผู้หญิง ใช้ชีวิตที่สูงส่งมาตั้งแต่เด็ก เรื่องความเหลื่อมล้ำที่ผู้ชายอยู่เหนือกว่าผู้หญิงนั้นยิ่งไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลย ไม่เคยจะให้ความสนใจมาก่อน
ตอนนี้เพิ่งจะมารู้ว่าที่แท้ในประเทศเบียนหนาน การเอาชีวิตรอดของเหล่าผู้หญิงจะเป็นอย่างนี้
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเย้นหว่านขึ้นมา เด็กผู้หญิงที่น่ารักฉลาดเฉลียวอย่างนั้น ถ้ามีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ ถูกสามีปฏิบัติอย่างป่าเถื่อนโดยที่ไม่มีความรักใคร่หวงแหนกันเลยแม้แต่น้อย เธอจะเจ็บปวดขนาดไหนกัน
เพียงแค่ลองคิดดู เซอร์ยุนซีก็รู้สึกทนไม่ได้ขึ้นมา
แต่แม้ว่าจะข่มกลั้นไฟโทสะที่อยู่ในใจเอาไว้แล้ว แต่ภาวะของประเทศเบียนหนานในตอนนี้ที่เป็นอย่างนี้ นี่มันเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติต่อกันมาจนแทบจะเป็นกฎหมายที่ไม่ได้เป็นรูปธรรมออกมา
โอหยางฝู่ยืนอยู่ทางฝั่งของธรรมเนียมดั้งเดิมที่มีกันมา เซอร์ยุนซีเดิมทีก็ต่อต้านต่อธรรมเนียมที่ปฏิบัติต่อเนื่องกันอยู่แล้ว พอมาถกกับเขาจากมุมมองนี้ขึ้นมาอีก เดิมทีแล้วมันก็ไม่ได้เป็นประโยชน์เท่าไหร่เลย
ไม่รู้ว่าเป็นผู้ทรงอำนาจคนไหนกันที่แอบปล่อยภาพลับหลังออกมา ไม่ง่ายเลยที่จะบีบให้คนอย่างโอหยางฝู่โกรธถึงขั้นนี้ได้ หรือว่าจะต้องมองดูเขาพูดจาคมคายอย่างกับมีลิ้นที่เหมือนกับขลุ่ยนั้น เปลี่ยนแง่กลับมางั้นเหรอ?
เซอร์ยุนซีข่มกลั้นไฟโกรธในท้องเอาไว้ หงุดหงิดจนแทบจะระเบิดออกมา
ไม่ได้โดยเด็ดขาด
แต่เขาในตอนนี้จะทำยังไงได้ ถึงจะสามารถโยนหินใส่ร่างของโอหยางฝู่ทำลายเขาให้ตายต่อไปได้กัน?
ในตอนที่เซอร์ยุนซีกำลังหงุดหงิดใจอยู่นั้น ผู้ช่วยของเขาก็เดินเข้ามาจากด้านข้าง โน้มเข้ามาข้างๆใบหูของเขา แอบเอ่ยออกมาเบาๆ
“ท่านชินหวัง มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าฉู่ฉู่มาครับ เธอบอกว่ามีของที่สำคัญมาอย่างหนึ่งที่อยากจะส่งให้ถึงมือคุณครับ และก็ต้องเป็นตอนนี้เท่านั้น ให้คุณจะต้องปล่อยให้เธอเข้ามาให้ได้”
ฉู่ฉู่?
นี่ใครกัน?
เซอร์ยุนซีสงสัยออกมาเล็กน้อย จึงนึกขึ้นมาได้ว่าเป็นผู้หญิงคนนั้นที่ติดตามอยู่ข้างๆของเย้นหว่านในทุกๆวัน
ความสัมพันธ์ของเธอกับเย้นหว่านไม่เลวเลย หรือว่าจะช่วยเย้นหว่านเอาของมาให้เขา?
เซอร์ยุนซีกวักมือแล้วเอ่ยออกไปทันที “รีบให้เธอเข้ามา”
ผู้ช่วยถอยออกไป เพียงไม่นาน บานประตูเล็กๆเปิดออก ฉู่ฉู่เดินเข้ามาเบาๆ
การไต่สวนภายในถึงแม้ว่าจะเป็นแบบปิด แต่ก็มีเหล่าผู้ช่วยตัวเล็กๆเดินเข้าออกกันไปมา ฉู่ฉู่เดินเข้ามาก็ไม่ได้ถูกใครมาสนใจ
เซอร์ยุนซีเห็นฉู่ฉู่ ก็ได้เอ่ยพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“เป็นเสี่ยวหว่านที่ให้เธอเอาของมาให้ฉันใช่มั้ย? เธอเป็นห่วงฉันใช่มั้ย?”
จึงได้ให้คนเอาของมาให้เขาในเวลาแบบนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้เขา
ถึงแม้ว่าด้านในจะเป็นเพียงแค่ตุ๊กตาให้กำลังใจตัวหนึ่ง เซอร์ยุนซีก็คิดว่าตัวเองนั้นมีความสุขจะตายอยู่แล้ว
ฉู่ฉู่สบเข้ากับดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของชายหนุ่ม ใบหน้าที่ยอดเยี่ยมนั้น ทันใดนั้นเองก็เหมือนจะเปล่งแสงออกมาก็ไม่ปาน เจิดจ้าน่ามองเป็นอย่างมาก
ชวนให้หลงใหล
การเต้นของหัวใจฉู่ฉู่เต้นรัวออกมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ในขณะเดียวกันมันกลับมีความอิจฉาที่บอกไม่ถูกบางอย่างออกมาด้วย ในใจและในสายตาของท่านดยุกผู้นี้มีแต่เย้นหว่าน
เย้นหว่านนี่ช่างโชคดีเสียจริงเลย
“เป็นอะไรไป?”
เซอร์ยุนซีเห็นฉู่ฉู่ไม่พูดไม่จา ก็ถามซักออกไปอีกที
เขารีบร้อนออกมาเล็กน้อย อยากจะดูว่าเย้นหว่านส่งอะไรมาให้เขากัน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้รับของขวัญจากเย้นหว่าน
เผชิญกับสายตาของความคาดหวังของเซอร์ยุนซีแล้ว ฉู่ฉู่เกิดความรู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อย แล้วเอ่ยออกไปเบาๆว่า
“ไม่ใช่ของที่เย้นหว่านส่งมาหรอกค่ะ เป็นของที่มีคนต้องการให้ฉันเอามาให้คุณ บอกว่ามันจำเป็นสำหรับคุณ”
พูดไปแล้ว ฉู่ฉู่จึงหยิบเอาแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่งออกมาจากในกระเป๋า ส่งไปให้เซอร์ยุนซี
เซอร์ยุนซีมองแฟ้มเอกสารนั้น สายตาก็เข้มออกมาทันที
ไม่ใช่ของที่เย้นหว่านส่งมาให้ รู้สึกหมดกำลังใจไปเลย
แต่ของสิ่งนี้ เขาแทบจะรับรู้ตามสัญชาตญาณได้เลยว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับการพลิกสถานการณ์ของเขาในตอนนี้มากแน่ๆ
โอหยางฝู่ยังคงกำลังนำสถานการณ์ในที่แห่งนั้นอย่างทะนงตัวออกมา
ในเวลานี้บรรยากาศในห้องโถงใหญ่แห่งนี้มันดูจริงจังขึ้นมาแปลกๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวผู้พิพากษาเอง ได้ยินคำพูดของโอหยางฝู่แล้ว ก็ยังไม่รู้เลยว่าควรจะแย้งออกไปยังไง
คำพูดที่เขาพูดออกมา อยู่ในด้านศีลธรรม มันก็อยู่ในกฎหมายด้วยเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าวิธีของเขาจะป่าเถื่อนจริงๆ ทำให้คนไร้หนทางที่จะเผชิญหน้าเข้าไปตรงๆได้ แต่สิ่งเหล่านี้มันกลับไม่มีวิธีที่จะตำหนิอะไรเขาออกไปได้อย่างมีเหตุมีผลมากได้
ในชั่วขณะหนึ่ง ในลานการไต่สวนภายในก็ได้ตกอยู่ในภาวะที่ทุกอย่างได้หยุดชะงักไป
ส่วนโอหยางฝู่ที่มีแนวโน้มจะถดถอยลงไป ค่อยๆขยับเคลื่อนกลับมา
โอหยางฝู่ก็มีความมั่นใจขึ้นมาอีกครั้ง สายตาที่คมกริบมองไปทางเซอร์ยุนซีอย่างยั่วยุ พร้อมเอ่ยเสียงดังออกมา
“การไต่สวนในวันนี้ เป็นการไต่สวนเรื่องที่เซอร์ยุนซีจงใจจะทำร้ายร่างกายผม ทำร้ายท่านเสนาฯ ของประเทศ เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ทุกท่านอย่าได้เบี่ยงเบนประเด็นออกไป ควรจะจัดการเรื่องนี้ได้แล้วล่ะมั้ง!”
ทุกคนในที่แห่งนั้นได้แต่มองหน้ากันไปมา ทั้งหมดต่างไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรกัน
ในทางกฎหมาย จริงๆแล้วก็เป็นเซอร์ยุนซีที่เป็นฝ่ายที่ตกอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบ
แต่จากเรื่องของโอหยางฝู่ ถึงแม้ว่าเขาจะยึดการมีเหตุมีผล แต่การที่จะจัดการกับเซอร์ยุนซีต่อไป ใครๆก็ล้วนแล้วแต่จะรู้สึกว่าภายในใจมันไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่นัก
ความรู้สึกประเภทนั้น มันค่อนข้างจะเหมือนกับการลงทัณฑ์ฮีโร่ของประชาชน
ในชั่วเวลานั้นเอง ในที่แห่งนั้นล้วนแล้วจะอยู่ในความเงียบ รวมไปถึงผู้พิพากษาที่ไม่ได้พูดอะไรกันออกมา
ในดวงตาของโอหยางฝู่เผยความเยือกเย็นออกมา เอ่ยออกมาด้วยแรงกดดัน
“กฎหมายมันก็คือกฎหมาย ท่านผู้พิพากษาทุกท่านครับ พวกท่านมาที่นี่เพียงเพื่อที่จะมาเป็นของตั้งโชว์กันเหรอครับ? ตำแหน่งทางราชการของพวกคุณ ไม่ต้องการกันแล้วใช่มั้ย?”
ขจัดเรื่องวันนี้ออกไป เขาก็ยังเป็นท่านเสนาฯ ที่กุมอำนาจสูงสุดอยู่