ในที่สุดก็มีการยืนยันความสัมพันธ์ของเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินโดยไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขาไม่ใช่พี่น้อง แต่เป็นคู่รัก!
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาทำเรื่องราวทั้งหมดอย่างทำแล้วทำเล่า ในใจของเขาเพียงมุ่งมั่นจะแต่งงานกับเย้นหว่าน ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่คิดเอาเองฝ่ายเดียว
ความหวังในหัวใจทั้งหมดของเขาราวกับพังทลายลงในพริบตา
สีหน้าของเซอร์ยุนซียิ่งซีดเผือด ร่างสูงของเขาก็สั่นสะท้านจวนจะยืนไม่ไหว
ฉู่ฉู่จับพยายามประคองเขาอย่างปวดใจ แล้วกล่าวอย่างกังวลว่า “ท่านดยุก อย่าทำแบบนี้ ฉันเป็นห่วงคุณ”
หากแต่เซอร์ยุนซีไม่ได้ยินคำพูดของฉู่ฉู่ เขามองตรงไปที่เย้นหว่าน แล้วดิ้นรนอย่างน่าเวทนา
เสียงของเขาต่ำมาก ๆ พลางขบฟัน แล้วพูดออกมาทีละคำ
“เย้นหว่าน คุณชอบฉันนี่ ทั้งหมดนั่นก็เป็นเรื่องหลอกลวงเหรอ”
เย้นหว่านทั้งรู้สึกผิดทั้งทำอะไรไม่ถูก
เธอเม้มริมฝีปาก พลางกล่าวอย่างขอโทษจริง ๆ
“ฉันไม่รู้ว่าฉันทำให้คุณเข้าใจผิดตรงไหน ฉันอยากจะเกลี้ยกล่อมให้คุณยอมรามือมาตลอด แต่ตอนนี้ฉันเพิ่งพูดให้ชัดเจน ฉันขอโทษจริง ๆ เซอร์ยุนซี ฉันขอโทษ”
เย้นหว่านกล่าวด้วยความจริงใจ เธอรู้สึกเสียใจกับเซอร์ยุนซีจริง ๆ
แม้ว่าเธอจะถูกครอบงำจนทำอะไรไม่ถูกในเรื่องนี้ และก็พยายามบอกเซอร์ยุนซีให้ยอมรามือ แต่เธอกับโห้หลีเฉินกลับเลือกที่จะไม่พูดให้ชัดเจน เพราะเรื่องของตัวเอง
จนทำให้เซอร์ยุนซียิ่งทุ่มเท คาดหวังมากเท่าไหร่ ความผิดหวังก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้นในช่วงเวลานี้
เซอร์ยุนซีจ้องเย้นหว่านอย่างงุนงง เขาไม่อยากเชื่อ แต่ไม่อาจจะไม่เชื่อได้
ผู้หญิงที่เขารักชอบนั้น ที่จริงแล้วเป็นคู่หมั้นของคนอื่น และไม่เคยมีเขาอยู่ในใจเลย
ความชอบทั้งหมดเหล่านั้นล้วนเป็นภาพลวงตาที่เขาคิดไปเองทั้งสิ้น
“ฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า”
เซอร์ยุนซีหัวเราะอย่างน่าสังเวช “ฉัน เซอร์ยุนซีไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะตกอยู่ในกับดักของผู้หญิงคนหนึ่ง”
เขาดูหยิ่งยโสสำคัญตัว แต่ไม่เคยคิดว่าในสายตาของคนอื่น เสน่ห์ของเขากลับไม่มีค่าอะไรเลย
ในเวลานี้ ทุกความรู้สึกและการกระทำทั้งหมดของเขานั้นน่าขบขันและน่าเศร้าราวกับตัวตลก
เขารอคอยที่จะแต่งงานกับเย้นหว่านแล้วพาเธอเข้าตระกูล
ตั้งแต่แรกมา ก็ไม่สามารถเป็นไปได้
“ดี ดีมาก”
เซอร์ยุนซีค่อย ๆ ก้าวถอยหลังทีละก้าว ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “เย้นหว่าน คุณเป็นผู้หญิงที่พิเศษจริง พิเศษจริง ๆ นะ”
เธอพิเศษและปั่นหัวหลอกล่อให้เขาต้องเสียหัวใจไป
เขาไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดใจขนาดนี้มาก่อน เจ็บปวดราวกับฟ้าถล่มลงมา ทุกอย่างพังทลายหมดสิ้นแล้ว
เย้นหว่านหดหู่ใจมาก จ้องมองเซอร์ยุนซี แล้วอ้าปากอย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก
เธอสร้างความเจ็บปวดแก่เขา แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะปลอบโยนเขาได้เลย
เธอรู้ว่าสักวันต้องเป็นอย่างนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ตั้งแต่แรกเธอคิดว่าเธอจะจากไปอย่างเงียบ ๆ ถ้าเซอร์ยุนซีหาเธอไม่เจอ ก็จะลืมเธอไปเอง
ฝ่ามือของโห้หลีเฉินจับกุมมือเล็กบอบเบาอันเย็นเยือกของเธออย่างปลอบโยน
เขามองเซอร์ยุนซีด้วยสายตาเย็นชา “หากคุณมีความไม่พอใจ หรือความขุ่นเคือง ให้มาหาฉัน ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ฉันจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง”
เขาจะชดใช้ความรู้สึกผิดของเย้นหว่าน
แม้ว่าโห้หลีเฉินจะไม่มีความรู้สึกผิดต่อเซอร์ยุนซี ยิ่งไปกว่านั้นเขายังอยากฆ่าเซอร์ยุนซีอย่างนับครั้งไม่ถ้วน
หากไม่ใช่เพราะเป็นการละเมิดกฎหมายประเทศเบียนหนาน ผู้หญิงไม่สามารถปฏิเสธคำขอแต่งงานของผู้ชายได้ มิฉะนั้น เธอจะถูกผู้คนรุมประณาม และขับไล่ออกจากเมือง เขาจะไม่ปล่อยให้เซอร์ยุนซีมีโอกาสใด ๆ ในการตามตื้อเย้นหว่าน
เงื่อนไขทั้งสามนั้นก็เป็นแผนการถ่วงเวลาอันน่าอายเท่านั้นเอง
เซอร์ยุนซีมองปะทะสายตาโห้หลีเฉินด้วยความหดหู่เย็นชา “ฮ่า โอเค โห้หลีเฉินหยอกล้อฉันมานานขนาดนี้แล้ว อย่างนั้นก็มาดูกันว่าคุณจะสามารถรับการยั่วเย้าของฉันได้ไหม!”
เย้นหว่านขมวดคิ้วอย่างแรง เธอไม่อยากก่อปัญหาอีกต่อไปแล้ว ยิ่งไม่อยากขัดแย้ง จนกลายเป็นศัตรูกับเซอร์ยุนซี
“เซอร์ยุนซี คุณอย่าทำแบบนี้…”
“คุณจะปกป้องเขาอย่างนั้นเหรอ หรือกลัวว่าเขาจะต้องอับอายบ้าง?”
ดวงตาแดงก่ำของเซอร์ยุนซีจ้องเขม็งที่เย้นหว่าน เขาสูญเสียความหนักแน่นในหัวใจอย่างรุนแรง “ใช่สิ โห้หลีเฉินถึงจะเป็นคู่หมั้นของคุณ คนที่คุณรักมาตลอดก็คือเขา! ฉันช่างตาบอด ฉันไม่คิดเลยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานี้จะมองไม่ออก ยังคิดว่าระหว่างพวกคุณเป็นแค่พี่น้องที่สนิทสนมลึกซึ้ง ฉันมันโง่ ฉันโง่มากจริง ๆ ”
เซอร์ยุนซีหัวเราะอย่างประชดประชัน หัวเราะอย่างน่าเวทนาและสิ้นหวัง
ฉู่ฉู่มองดูอย่างเจ็บปวดใจมาก พลางกอดแขนของเซอร์ยุนซีแน่น ด้วยกลัวว่าเขาจะประคองตัวไม่ไหว แล้วล้มลงไป
เธอพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า “ท่านดยุก คุณอย่าทำเช่นนี้เลย นี่เป็นเพียงความเข้าใจผิด คุณยังสามารถหาคนที่ดีกว่านี้ได้…”
“จะมีใครที่ดีแบบเย้นหว่านล่ะ? เธอพิเศษจนทำให้ลืมตาไม่ได้”
เซอร์ยุนซีหัวเราะอย่างกระแหนะกระแหนมากขึ้น แล้วยกมือขึ้นมาดึงแขนของตัวเองออกจากอ้อมกอดของฉู่ฉู่
เขาหันหลัง ก่อนจะเดินโซเซตรงไปทางประตูใหญ่แล้วเดินออกไป
เขาไม่อยากอยู่ที่นี่แม้นานสักนาทีเดียว
“ท่านดยุก…”
ฉู่ฉู่กังวลใจจนรีบวิ่งไล่ตามออกไป อาการบาดเจ็บของเซอร์ยุนซียังสาหัส เขายังเดินบนถนนอย่างมั่นคงไม่ได้เลย ถ้าเขาเดินไปเพียงคนเดียว สักพักก็อาจจะเป็นลมข้างถนน
เย้นหว่านเห็นการเดินจากไปของทั้งสองคน ในใจของเธอก็พลันหนักอึ้งและหดหู่อย่างพูดไม่ออก
เธอไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเซอร์ยุนซีมากถึงเพียงนี้
แต่เธอก็ทำร้ายเขาจริง ๆ ผู้ชายคนนั้นที่ดื้อรั้น ผู้ชายที่ชอบทำตัวปัญญาอ่อนและหัวเราะเสมอ แต่เธอเห็นสีหน้าเจ็บปวดสิ้นหวังของเขา
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เขาก็ยังผู้ชายรักอิสระ หยิ่งทะนง และสบาย ๆ
“นี่ไม่ใช่ความผิดคุณหรอก”
โห้หลีเฉินจับมือเธอไว้แน่นราวกับมองทะลุจิตใจของเย้นหว่าน
“เรื่องของความรู้สึกจริง ๆ ก็ไม่มีถูกหรือผิด เธอดีอย่างนั้นก็มีเหตุผลให้เขามารัก แต่เธอเป็นของฉัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเซอร์ยุนซีหรือใครคนอื่นก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียใจ”
ความคิดทัศนคติที่เป็นไปอย่างธรรมชาติของโห้หลีเฉินทำให้อารมณ์ซึมเศร้าของเย้นหว่านยิ่งจมดิ่งหนักอย่างที่สุดแล้ว
อย่างที่โห้หลีเฉินพูด วินาทีที่เซอร์ยุนซีมองเห็นเธอ เขาก็ถูกกำหนดให้จากไปอย่างผิดหวัง
เพียงแต่เธอไม่ทำให้เขายอมแพ้ตั้งแต่แรก ทั้งยังปล่อยจนล่วงเลยมาถึงตอนนี้
ไม่มีใครก็ยากที่จะบอกได้ว่าเรื่องความรู้สึกนั้นถูกหรือผิด
เวนเดลล์ขมวดคิ้วมุ่น พลางมองไปยังทิศทางที่เซอร์ยุนซีจากไปอย่างวิตกกังวล เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างร้อนใจว่า
“ท่านดยุกดูเหมือนโกรธมาก ตอนนี้โอหยางฝู่ล้มลงแล้ว เขาเป็นคนที่อยู่ใต้หนึ่งคนและเหนือหมื่นคน และกุมอำนาจในมืออย่างแท้จริงในประเทศเบียนหนาน จู่ ๆ พวกคุณคนนอกก็มากันมากมาย เขาจะใช้เรื่องนี้โต้แย้งเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ หรือฉวยโอกาสแก้แค้นส่วนตัวไหม?”
ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ยุ่งยากอีกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้สภาพบาดเจ็บของโห้หลีเฉิน ไม่สามารถทนกับการกระทบกระทั่งใด ๆ ได้อีก
เย้นโม่หลินเม้มริมฝีปากบาง ดวงตาของเขาคมกริบราวกับมีด
“ถ้าเขากล้ามา จะมาเท่าไหร่ ฉันก็รับฆ่าได้เท่านั้น”
ถ้าเขาบ้าเลือด ก็ไม่มีความหมายที่จะล้อเล่นเลยสักนิด
เมื่อเวนเดลล์ได้ยินคำพูดนั้น ก็เกร็งร่างกายโดยอัตโนมัติ และพลันมีเหงื่อเย็นเยียบซึมตกลงบนหน้าผากของเขา
ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมาก
หากสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้น พวกเขาจะต้องสังหารหมู่องครักษ์ในวังหรือไม่? จากนั้นก็เผชิญหน้ากับประเทศเบียนหนาน?
เมื่อเขาลองนึกถึงภาพเหตุการณ์นองเลือดของการต่อสู้สังหารหมู่ ก็พลันสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว