ฉู่ฉู่ก้มหน้าด้วยแก้มแดงเรื่อ มุมปากกลับยกขึ้นอย่างอดไม่ได้ มีความสุขเกินจะปกปิด
เย้นหว่านเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น จึงวางใจลงได้ในที่สุด
ทว่าหลังจากที่ฝ่ายชายผู้นี้ของประเทศเบียนหนานขอแต่งงาน ธรรมเนียมที่ในคืนนั้นจะต้องตามฝ่ายชายไปยังเรือนหอในบ้านของเขา ก็ยังทำให้เธอรู้สึกยากจะอธิบาย
ค่อนข้างสงสัย หลังจากกลับไปก็ตรงเข้าหอ งั้นพวกพิธีแต่งงานจะมีไหม?
คงจะเป็นไปตามประเพณีท้องถิ่นสินะ
แต่ไม่ว่ายังไง วันนี้ฉู่ฉู่ จะต้องเป็นคนที่มีความสุขที่สุดอย่างแน่นอน
ระหว่างที่คิดฟุ้งซ่าน เซอร์ยุนซีก็จับมือของฉู่ฉู่ เดินมายังเบื้องหน้าเย้นหว่าน
“เสี่ยวหว่าน”
เซอร์ยุนซีมองตรงไปที่เย้นหว่าน บนใบหน้าหล่อเหลาประดับรอยยิ้มของเขาอย่างเคย “เธอจะไปแล้วเหรอ?”
เมื่อเผชิญหน้ากับเซอร์ยุนซี อารมณ์ของเย้นหว่านก็ค่อนข้างซับซ้อนอยู่ไม่มากก็น้อย
จากความยุ่งยากที่พยายามหลีกหนีมาตั้งแต่ในตอนแรก สู่ความปรองดองที่ถูกเขาช่วยเหลือไว้ระหว่างทาง จนถึงตอนนี้ เขาพบรักแท้ และปล่อยเธอไป
เมื่อเห็นรอยยิ้มของเซอร์ยุนซี ราวกับได้เห็นแบบนั้นเป็นครั้งแรก มันผ่าเผยและเบิกบาน
กลับมีความรู้สึกที่ต่างกันมากมายขึ้นอีก
เย้นหว่านพยักหน้าเบาๆ “ฉันควรกลับบ้านแล้ว”
แววตาของเซอร์ยุนซีหมองลง แล้วพูดติดตลกทันที
“ที่จริงฉันควรจะกอดลาเธอสักหน่อย แต่ว่า ฉันไม่อยากให้ฉู่ฉู่หึงน่ะ งั้นช่างมันก็แล้วกันนะ”
เมื่อถูกพูดถึงตัวเอง แก้มของฉู่ฉู่ก็แดงขึ้นมาทันที
เธอแย้งอย่างเขินอาย “ฉันหึงที่ไหนกัน ฉันไม่หึงหรอก”
เซอร์ยุนซีเลิกคิ้ว เอ่ยอย่างมีเลศนัย
“ไม่หึงงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้น ฉันจะกอดเย้นหว่านแล้วนะ?”
น้ำเสียงนั้น ราวกับต้องการจะกอดอย่างแนบชิดอย่างนั้นทีเดียว
ฉู่ฉู่รู้สึกแปลกๆ เธออ้าปากไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือไม่พูดดี
คนทั้งหมดต่างงุนงง
เซอร์ยุนซีมองท่าทางแบบนั้นของเธอ แววตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จนเหมือนกับจะล้นออกมา
เขาชอบท่าทางไร้เดียงสาแบบนั้นของฉู่ฉู่มาก ไม่ว่าดูยังไงก็น่ารักมาก
เย้นหว่านมองการโต้ตอบกันและกันของทั้งสองคน รู้สึกว่าอยู่ๆ ก็มาเห็นคนพลอดรักกัน จึงอดกลั้นอยู่เล็กน้อย
เซอร์ยุนซีนั้นเคยเสียเปรียบมาก่อน ดังนั้นถึงจงใจมาพลอดรักโชว์เพื่อแก้แค้นเธอรึไง?
ไร้เดียงสาชะมัดเลย!
ระหว่างห้วงความคิดแขนข้างหนึ่งก็พาดลงบนไหล่ของเย้นหว่านแล้วกอดเธอไว้ รั้งเธอถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แผ่นหลังแนบติดบนแผงอกกว้างของชายหนุ่ม
แขนของโห้หลีเฉินโอบเย้นหว่านไปครึ่งตัว ร่างสูงใหญ่ราวภูเขานั้นแผ่ปกคลุมเธอไว้
สีหน้าของเขาเย็นชา ก่อนเอ่ยกับเซอร์ยุนซีด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“ร่ำลากันเสร็จแล้วใช่ไหม? งั้นก็ล่าก่อนล่ะ”
เซอร์ยุนซีมุมปากกระตุก จะอำลาเสร็จแล้วได้ยังไง เขานั้นคำกล่าวอำลาอย่างเป็นทางการสักคำก็ยังไม่ได้พูดเลย
โห้หลีเฉินตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ไม่เจริญตาเขาเลย ไม่ถูกกับเขาเลยสักนิด
แต่เขาดันถูกโห้หลีเฉินโอ้อวดมาตั้งนานขนาดนั้น
คิดแล้วก็โมโห
เซอร์ยุนซีขบฟันพูด
“พวกเธอจะแต่งงานเมื่อไหร่ล่ะ ถึงตอนนั้นฉันจะไปร่วมงานแต่งของพวกเธอแน่นอน”
ในเมื่อโห้หลีเฉินไม่อยากเห็นเขา เขาก็กลับอยากจะป้วนเปี้ยนอยู่ต่อหน้าเขาและเย้นหว่าน ให้เขาอกแตกตายไปเลย
โห้หลีเฉินเหลือบมองเซอร์ยุนซีอย่างเย็นเยียบ “ฉันไม่ได้คิดจะเชิญนายหรอกนะ”
เซอร์ยุนซี “……!” โห้หลีเฉินมารยาทสุภาพบุรุษที่นายมีล่ะ?
เมื่อเห็นท่าทางของเซอร์ยุนซีที่โกรธจนหน้ากลายเป็นสีเขียวแล้ว เย้นหว่านก็จนใจ ผู้ชายสองคนนี้นี่ไม่ถูกกันสุดๆ เลย
แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้ประมาทศัตรูแล้ว แต่ความขัดหูขัดตา ดูเหมือนว่าไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้
เย้นหว่านรีบเอ่ยขึ้น
“เซอร์ยุนซี ฉู่ฉู่ วันนี้พวกเราต้องรีบเดินทาง มีเวลาไม่มาก จะหยุดชะงักอยู่ที่นี่ไม่ได้มากนัก ขอให้นายและฉู่ฉู่มีความสุขในวันแต่งงานนะ พวกนายจะต้องมีความสุขแน่”
เซอร์ยุนซีมองแววตาของเย้นหว่าน มันนุ่มนวลขึ้นมาก
เขาโอบฉู่ฉู่ไว้ พูดด้วยรอยยิ้ม “นั่นมันแน่นอน ฉันกับฉู่ฉู่ จะต้องมีความสุขแน่นอน”
น้ำเสียงของเขามาดมั่น
เย้นหว่านเบนสายตาไปยังฉู่ฉู่ เห็นหยาดหวานแห่งความสุขที่ไม่อาจปิดบัง ก็รู้สึกดีใจแทนเธอไปด้วย
“ฉู่ฉู่ จากนี้ใช้ชีวิตกับเซอร์ยุนซีให้เต็มที่นะ ถ้าเขากล้ารังแกเธอ เธอก็ออกมาหาฉัน ฉันจะพาเธอไปรู้จักหนุ่มหล่อคนใหม่ ให้เขานึกเสียใจไปเลย”
ฉู่ฉู่ยิ้มอย่างอดไม่ได้ “ได้เลย….”
“ได้อะไรกัน”
เซอร์ยุนซีดึงฉู่ฉู่ไปด้านหลังเล็กน้อยด้วยสีหน้าทะมึน มองเย้นหว่านอย่างระแวดระวัง พูดอย่างลนลาน
“อย่าคิดจะล่อลวงฉู่ฉู่ไปจากฉันนะ เธอเป็นของฉัน อีกอย่าง ฉันไม่มีทางรังแกเธอ ตลอดชีวิตฉันก็จะปฏิบัติต่อเธอย่างดี”
น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและจริงใจ
ออกมาจากใจจริงอย่างหมดจด
เซอร์ยุนซีพูดต่อ
“อีกไม่นานฉันก็จะยึดครองประเทศ สิ่งที่เธออยากทำเป็นอย่างแรกก็คือปฏิรูปนโยบายบ้านเมือง ผู้หญิงของประเทศเบียนหนานถูกรังแกมานานเกินไปแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไป ชายหญิงเท่าเทียม ยกเลิกกฎหมายทั้งหมดที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้หญิง
ฉู่ฉู่เองก็จะเป็นภรรยาที่จะทะนุถนอมและปกป้องเพียงคนเดียวของฉัน”
ปฏิรูปนโยบายบ้านเมือง?
เย้นหว่านมองไปยังเซอร์ยุนซีอย่างประหลาดใจ ราวกับได้เห็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่ลงมาจากฟากฟ้า
นโยบายที่ชายเหนือกว่าหญิงของประเทศเบียนหนาน สร้างฐานะอันต่ำต้อยของผู้หญิงชาวเบียนหนาน ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงหลายคนจึงได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียม มีชีวิตที่เลวร้ายเสียยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน
หลังจากปฏิรูปนโยบายบ้านเมืองแล้ว ผู้หญิงของประเทศเบียนหนานก็จะไม่ต้องได้รับการปฏิบัติและชีวิตแบบนั้นอีกต่อไป
พวกเธอจะเป็นเหมือนผู้หญิงในโลกที่เปิดกว้างภายนอก เป็นนายของบ้าน เท่าเทียมกับสาม
นั่นถึงจะเป็น ชีวิตที่แท้จริง
เย้นหว่านยกย่องอย่างจริงใจ “เซอร์ยุนซี นายเป็นคนดีคนหนึ่ง ประเทศเบียนหนานมีนายอยู่ เป็นเรื่องโชคดีอันยิ่งใหญ่ที่สุด”
มีความสามารถและความเมตตา
“เธออย่ามายื่นการ์ดคนดีให้ฉันเลยน่า ไม่งั้นอีกเดี๋ยวใครบางคนคงจะอยากแทงฉันอีกรอบ”
เซอร์ยุนซีมองไปที่โห้หลีเฉินอย่างเย้าแหย่พลางเอ่ย ทั้งยังพูดกำกวมถึงตำแหน่งที่ได้รับบาดเจ็บบนหน้าอกของตัวเองเป็นพิเศษ
เดาได้ไม่ยาก ด้วยความสามารถและกลยุทธ์ที่โดดเด่นของโห้หลีเฉิน ในเวลานั้นหากต้องการล้มโอหยางฝู่ เขาย่อมต้องมีแผนสำรอง
แต่โห้หลีเฉินดันไปเลือกวิธีการที่จำเป็นต้องเห็นเลือดแบบนั้น ส่วนประกอบของการอาศัยอำนาจส่วนรวมเพื่อแก้แค้นส่วนตัวในนั้น อย่างน้อยก็ร้อยละห้าสิบ
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากบาง พลันก้าวไปข้าวหน้าก้าวหนึ่ง
ร่างกายของเซอร์ยุนซีตอบสนองอย่างกริ่งเกร็ง เขารีบถอยหลังไปหนึ่งก้าว มองโห้หลีเฉินอย่างระแวดระวัง
“เฮ้ ฉันไม่แย่งเย้นหว่านกับนายแล้ว นายอย่าลงไม้ลงมืออีกนะ!”
ตอนนี้บาดแผลของเขายังปวดแสบปวดร้อนอยู่เลย
แววตาของโห้หลีเฉินเบาบางลง พูดอย่างราบเรียบ
“หลังจากนี้ถ้าออกมาทำงาน หากลำบากอะไรก็มาหาฉันที่ตระกูลหยูได้”
เซอร์ยุนซีนชะงักอึ้ง ่นึกไม่ถึงว่าโห้หลีเฉินจะพูดคำพูดแบบนั้นออกมา
แต่เมื่อเห็นท่าทีของเขา เขาจริงจังที่จะช่วยเหลือเขา
คนคนนี้ จริงๆ เลย….
บนใบหน้าของเซอร์ยุนซีแย้มรอยยิ้ม เขาพูดเสียงดัง
“ถ้าฉันเจอปัญหาอะไร ที่ต้องหาก็คงไปที่ตระกูลเย้นขอความช่วยเหลือก่อนสิ เสี่ยวหว่าน เธอจะช่วยฉันใช่ไหม?”
ในน้ำเสียงนั้น เต็มไปด้วยความยั่วยุรนหาที่
เย้นหว่านมองไปยังเซอร์ยุนซีอย่างจนใจ คนคนนี้ นิสัยนี้คงจะแก้ไม่หายแล้วล่ะ
โห้หลีเฉินกลับไม่ได้โกรธเคือง สีหน้าเฉยเมย
พูดอย่างเนิบๆ “ตามสบาย ตราบใดที่นายหาเจอว่าตระกูลเย้นอยู่ที่ไหน”
ได้ยินดังนั้น เย้นหว่านก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
ตามคาดโห้หลีเฉินก็ยังคงเป็นโห้หลีเฉินจอมสองหน้าล่ะนะ จะไปยอมจำนนง่ายๆ ได้ยังไง
ที่ตั้งของตระกูลเย้นอยู่ในที่ที่เป็นดั่งตำนานบน