สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่ 845 เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว

บทที่ 845 เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว

ราวกับมีเปลวไฟจุดขึ้นมาในตอนนี้ แม้แต่อุณหภูมิในอากาศก็ร้อนระอุขึ้นมาไม่น้อย

กู้จื่อเฟยกินบะหมี่แล้ว ก็เงยหน้าขึ้นมาพูด

“รสชาติไม่ดี ใส่เกลือเยอะเกินไป……”

ยังไม่ทันพูดจบ เธอก็หันไปสบตากับสายตาดำมืดของเย้นโม่หลินที่อยู่ใกล้กันมากอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

ราวกับว่าตารู้สึกร้อนผ่าว เปลวไฟแผดเผามาถึงใจของเธอในทันที

เธอเพิ่งพบว่า เธอมัวแต่สนใจที่จะชิมรสชาติของบะหมี่ กลับลืมสังเกตระยะห่างว่าร่างกายของเธอเข้าไปใกล้มากเกินไป

แล้วระยะห่างเท่านี้ มันใกล้ซะจนทำให้เธอใจสั่น ร้อนผ่าวซะจนใจเตลิดเปิดเปิงไปหมด

“ฉัน ฉัน……”

กู้จื่อเฟยเปิดปากพูดด้วยความตื่นตกใจ แต่กลับเขินอายจนพูดออกมาไม่เป็นประโยค

เธอรีบถอยหลังกลับไปอย่างทันที เพิ่งจะได้ขยับ ข้อมือกลับถูกฝ่ามือใหญ่ของผู้ชายคว้าเอาไว้ก่อน

“อย่าขยับ”

เย้นโม่หลินมองกู้จื่อเฟยด้วยสายตานิ่งขรึม สายตาที่นิ่งลึกราวกับทะเลสาบที่ลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง ที่กำลังจะดูดคนลงไป

ระหว่างที่พูด ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็เหมือนจะขยับเข้ามาข้างหน้า

กู้จื่อเฟยมองเขาอย่างอึ้งตะลึง รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เข้ามากระทบที่หน้าของตัวเอง รู้สึกตกใจซะจนใจหยุดเต้น

เขา เขาจะทำอะไร?

หัวสมองที่ตื่นตกใจของเธอว่างเปล่า เธออึ้งตะลึงไป

เวลาก็ราวกับว่าสูญหายไปแล้วในตอนนี้ ทุกอย่างในโลก ในสายตา มีเพียงแค่สิ่งที่ไม่สามารถควบคุมเอาไว้ได้ตรงหน้านี้เท่านั้น

อากาศก็ร้อนอบอุ่นและหนาแน่นขึ้นมา

บรรยากาศกำลังพอดี

ในเวลานี้ เสียงตำหนิของผู้ชายกลับดังขึ้นมากะทันหัน“พวกลูกกำลังทำอะไร?!”

เหมือนกับฟ้าร้อง ทำให้เธอตกใจจนดึงวิญญาณที่ล่องลอยไปกลับคืนมาที่ตัว

กู้จื่อเฟยสลัดมือของเย้นโม่หลินออกอย่างแรง ถอยห่างออกมาด้วยความตื่นตกใจ สีหน้าแววตาสั่นไม่นิ่ง

เธอพูดตอบกลับไปด้วยความตื่นตกใจ“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”

พูดพลาง ก็หันมองไปยังต้นตอของเสียง ก็เห็นกู้หรงที่กำลังสวมชุดนอนก้าวเท้าเดินตรงเข้ามาด้วยความประหลาดใจ

คิ้วขมวด สีหน้าเข้มงวดที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยๆ

พอนึกถึงภาพเมื่อตะกี้นี้ กู้จื่อเฟยก็ใจเต้นเร็วขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ รู้สึกว่าตัวเองอึดอัดสุดๆ

เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าเมื่อกี้ขืนปล่อยต่อไปล่ะก็ ระหว่างเธอกับเย้นโม่หลินจะเกิดอะไรขึ้น?

“พ่อ พ่อมาได้ยังไง? พวกเรารู้สึกหิว ก็เลยกำลังกินมื้อดึกกันอยู่เลย พ่อจะกินสักหน่อยไหม?”

กู้หรงมองถ้วยบะหมี่ที่วางอยู่ตรงหน้าของพวกเขา สีหน้ากลับไม่ได้ดีขึ้นมาแม้แต่น้อย

เมื่อตะกี้เขาเห็นกับตาตัวเองแล้ว กู้จื่อเฟยกำลังกินบะหมี่ในถ้วยของเย้นโม่หลิน!

แถมทั้งสองคนก็ใกล้กันขนาดนั้น ใกล้ชิดกันแบบนั้น แทบจะจูบกันอยู่แล้ว

ถ้าเขาไม่มาล่ะก็ ไม่แน่ว่าหนุ่มสาวสองคนนี้อาจจะฉวยโอกาสในช่วงเวลาค่ำคืนที่เงียบสงัดแบบนี้ทำอะไรกันก็เป็นได้

แต่ กู้จื่อเฟยมีแฟนอยู่แล้ว จะทำแบบนี้กับเย้นโม่หลินได้ยังไงล่ะ!

ไม่ได้นะ!

กู้หรงเดินเข้ามา คว้าข้อมือของกู้จื่อเฟยเอาไว้ พร้อมกับพูดขึ้นอย่างเข้มงวดจริงจัง

“พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูก ลูกตามพ่อมา”

พูดพลาง เขาก็จูงกู้จื่อเฟยกำลังจะเดินไป

กู้จื่อเฟยขัดขืนด้วยสัญชาตญาณ“หนูยังกินบะหมี่ไม่……”

“สิ่งที่พ่อจะพูดสำคัญกว่า”

กู้หรงจูงกู้จื่อเฟยออกไปโดยที่ไม่สนอะไรทั้งสิ้น

กู้จื่อเฟยสู้แรงของพ่อตัวเองได้ที่ไหน ถูกลากไปขนาดนั้น จึงทำได้แค่เดินตามไปเท่านั้น

ขณะที่กำลังวุ่นวายสับสนอยู่ เธอหันหัวกลับไปมอง ก็สบเข้ากับสายตาที่นิ่งลึกของเย้นโม่หลิน

เขายังคงนั่งอยู่ตรงนั้น เม้มริมฝีปากบางๆ แววตาลึกราวกับน้ำวนที่พร้อมจะดูดกลืนคนเข้าไป จมดิ่งลงไปไม่สามารถหนีออกมาได้

คิ้วที่ดูดีนั้นขมวดอยู่เล็กน้อย

ถูกรบกวนอารมณ์ในการกินอาหาร ก็เลยรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างนั้นเหรอ?

กู้จื่อเฟยในใจอยู่ไม่สุข แล้วก็ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่ากู้หรงที่ปกติแล้วจะสุภาพมีมารยาทมากๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คืนนี้ถึงได้ลากตัวเธอไปอย่างหยาบคายแบบนี้

ไม่แม้แต่จะพูดทักทายเย้นโม่หลินอย่างมีมารยาทเลยสักนิด

หรือว่า มีเรื่องที่สำคัญมากๆที่อยากจะพูดอย่างนั้นเหรอ?

พอคิดถึงความเป็นไปได้นี้ กู้จื่อเฟยก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย จึงยอมเดินตามกู้หรงไปแต่โดยดี

พอเป็นแบบนี้เธอก็จะได้ถอนหายใจออกมาได้อย่างสบายใจ หลีกเลี่ยงความรู้สึกอึดอัดเหมือนกัน

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตะกี้ เธอไม่รู้ว่าควรจะไปเจอหน้าเย้นโม่หลินยังไงจริงๆ บรรยากาศมันคลุมเครือมากพอที่จะทำให้คนคิดไปไกล

กู้หรงพากู้จื่อเฟยจากไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นาน ก็ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกเขาแล้ว

เย้นโม่หลินยังคงนั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ มองถ้วยบะหมี่ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตานิ่งๆ

ในถ้วยยังคงมีตะเกียบที่กู้จื่อเฟยคีบบะหมี่ที่กินเมื่อตะกี้เสียบเอาไว้อยู่

ในหัวของเขา มีภาพเมื่อตะกี้ลอยผ่านเข้ามาอย่างไม่ได้ตั้งใจ คิ้วที่ดูดีขมวดแน่นขึ้นกว่าเดิม

ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อตะกี้คิดที่จะทำอะไร ไปคว้ามือของกู้จื่อเฟย คิดอยากที่จะเข้าใกล้เธอโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ……

ถ้าไม่ใช่เพราะว่ากู้หรงที่จู่ๆก็โผล่เข้ามา เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

จะต้องเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายแน่ๆ

เย้นโม่หลินรู้สึกซับซ้อนในใจ รู้สึกเหมือนมีเรื่องอะไร ราวกับว่าแอบสูญเสียการควบคุมอย่างเงียบๆ

เขาแทบจะอธิบายพฤติกรรมแปลกประหลาดและอารมณ์ความรู้สึกที่จู่ๆก็ชัดเจนรุนแรงขึ้นมาของตัวเองไม่ได้เลย

กู้หรงพากู้จื่อเฟยเดินออกมาไกลมาก

หลังจากมาถึงตรงทางเดินที่เงียบสงบไร้ซึ่งผู้คนแล้ว กู้หรงจึงหยุดลง จ้องมองกู้จื่อเฟยด้วยสีหน้าเข้มงวด

กู้จื่อเฟยถูกมองจน เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาในใจ พูดถามขึ้นอย่างใจเต้น

“พ่อ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

กู้หรงขมวดคิ้ว พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ“คำถามนี้ พ่อน่าจะเป็นคนถามลูกมากกว่านะ”

กู้จื่อเฟยสีหน้าอึ้งตะลึง

หมายความว่ายังไง? ไม่เข้าใจเลยสักนิด

เธอพูดขึ้นอย่างหดหู่“หนูไม่รู้ว่าพ่อกำลังพูดอะไรอยู่ พ่อช่วยอธิบายหน่อยสิ”

“ยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกนะ”

กู้หรงรู้สึกโกรธแทบจะไม่ไหวแล้ว ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเขาถึงเลี้ยงลูกสาวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวขนาดนี้ได้ยังไง

ไม่แปลกที่หลายปีมานี้แม้ว่าเธอจะเติบโตมาอย่างดี ทางบ้านก็ไม่มีปัญหาอะไรขนาดนี้ แต่กลับไม่ได้แต่งงานสักที

ที่แท้เด็กคนนี้ก็มีปัญหาใหญ่นี้เอง

ถ้าไม่ใช่คืนนี้เขานอนไม่หลับ ออกมาเดินเล่น ก็คงจะไม่รู้เรื่องที่กู้จื่อเฟยกับเย้นโม่หลินแอบออกมาทำกันอย่างลับๆแน่นอน

“จื่อเฟย ลูกไม่มีแม่ตั้งแต่ยังเด็ก พ่อรักเอ็นดูลูกมาตลอด แต่พวกกฎหลักการพื้นของการเป็นมนุษย์ที่ควรจะมี พ่อก็คอยสั่งคอยสอนลูกมาตลอด ตระกูลกู้ของพวกเราบริสุทธิ์ผุดผ่อง จะทำเรื่องที่เหยียบเรือสองแคมแบบนี้ไม่ได้ เข้าใจไหม?”

คำพูดที่จริงจังและหนักแน่นของกู้หรง กู้จื่อเฟยเห็นด้วย แต่เธอไม่เข้าใจว่าเธอไปเหยียบเรือสองแคมตั้งแต่เมื่อไร?

ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่เรือสักลำเลยด้วยซ้ำ?

กู้หรงพูดขึ้นอย่างหดหู่“พ่อ พ่อเข้าใจอะไรผิดใช่ไหม?”

“เข้าใจผิด? พ่อเห็นกับตาตัวเองแล้ว ยังจะเข้าใจผิดอะไรได้อีก!”

กู้หรงพูดตำหนิ“ลูกหยุดแก้ตัวน้ำขุ่นๆได้แล้ว ถ้าลูกกล้าเหยียบเรือสองแคมต่อไปล่ะก็ พ่อจะตัดขาลูกทิ้งซะ”

กู้จื่อเฟย“……”ผู้บริสุทธิ์ เธออยากที่จะพูดอธิบาย

กู้หรงพูดขึ้นมาต่อ“จริงอยู่ที่ป่ายฉีกับเย้นโม่หลินล้วนแต่เป็นผู้ชายที่ดีทั้งนั้น แต่ลูกจะโลภมากแบบนี้ไม่ได้ ได้แค่หนึ่งคนเท่านั้น เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ลูกต้องตัดความสัมพันธ์กับเย้นโม่หลินทิ้งซะ ตัดให้ขาดโดยสิ้นเชิง ได้ยินไหม?”

น้ำเสียงที่เข้มงวดจริงจัง เป็นน้ำเสียงของการออกคำสั่ง

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท