สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่862 ลองเดาการตัดสินใจของเขา

บทที่862 ลองเดาการตัดสินใจของเขา

เย้นโม่หลินสีหน้ามืดทะมึน ไอเย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เขาเดินดิ่งไปยังทิศทางที่กู้จื่อเฟยกับป่ายฉีวิ่งไป

ท่าทางนั้น คือท่าทางที่กำลังจะไปฆ่าคน

เย้นหว่านจ้องมองไปยังทั้งสามคนที่กำลังเดินดุ่มๆ อย่างมึนงง เธอตกอยู่ในสภาพงงงวยอย่างสมบูรณ์

เธอกะพริบตาปริบก่อนหันไปถามโห้หลีเฉิน

“คุณรู้ไหมว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น? พี่ชายฉันกับกู้จื่อเฟย ทำไมถึง…..”

คำพูดข้างหลังนั้น เธออายเกินกว่าที่จะพูดออกมา

แต่ก็เข้าใจความหมายได้

สายตาของโห้หลีเฉินกวาดมองจากแผ่นหลังของโห้หลีเฉินไปอย่างมีความหมาย จากนั้นก็มองไปที่เย้นหว่านอย่างอ่อนโยนแล้วลูบผมเธอด้วยความเอ็นดู

เขาเอ่ยเสียงเบา “เรื่องแบบนี้รู้มากไปไม่ดี ถึงยังไงก็ไม่เหมาะหญิงสาวหรอก”

น้ำเสียงนุ่มนวลนั้นราวกับกำลังคุยอยู่กับเด็กน้อย

แต่เธอไม่ใช่เด็กเล็กๆ เสียหน่อย?

ถึงเรื่องแบบนั้นจะไม่เหมาะกับผู้หญิงและเขาไม่อยากจะบอกเธอ แต่ว่า เวลาที่เขาทำเรื่องลับๆ กับเธอทุกคืนทำไมไม่เห็นคิดว่ามันไม่เหมาะบ้างล่ะ?

จริงๆ เลย ห้ามคนอื่นทำแต่ตัวเองทำได้งั้นเหรอ?

เย้นหว่านตีมือของเขาเบาๆ แล้วถาม

“นายรู้ใช่ไหม? โห้หลีเฉิน นายบอกเหตุผลมาเถอะ”

อย่างไรเสียยังไงเธอคิดไม่ออก คนหนึ่งคือเจ้าท่อนไม้เย้นโม่หลินที่ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองชอบเขา อีกคนคือกู้จื่อเฟยที่ตัดสินใจจะยอมแพ้ในความสัมพันธ์นี้ไปแล้ว

ทั้งสองคนนี้ ด้วยสภาพทางอารมณ์ความรู้สึกในตอนนี้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางประมาทเลินเล่อจนไปมีอะไรกันได้หรอก

เมื่อคืนเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น จะต้องมีอะไรปิดบังอยู่แน่

โห้หลีเฉินเม้มปาก แล้วเปลี่ยนทิศทางการพูดอย่างกะทันหัน

“เธอทายดูสิว่าเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว พี่ชายเธอจะปฏิบัติต่อกู้จื่อเฟยยังไง? เขาจะชดเชยค่าตอบแทนอย่างกีดกันเหรอ หรือว่าจะรับผิดชอบต่อหล่อนกันล่ะ?”

รอยยิ้มที่มุมปากของเขาแฝงความปลุกปั่น “เธอทายถูกแล้วฉันจะบอกเหตุผลกับเธอนะ”

เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินอย่างมึนงง ไม่นึกว่ายังต้องมาเลือกคำตอบ เจ้าเล่ห์ชะมัด

เธอครุ่นคิดอย่างสับสน

ด้วยนิสัยใจคอและระดับEQของเย้นโม่หลิน มีความเป็นไปได้80% ว่าเขาจะขีดเส้นแบ่งและชดเชยให้เท่าที่จะทำได้ตามวิธีของผู้ชายทั่วไป

ส่วนตัวเลือกอีกข้อ เพราะค่ำคืนอันไม่ถูกต้องเย้นโม่หลินจะรับผิดชอบต่อกู้จื่อเฟย ซึ่งความเป็นไปได้ในข้อนั้น……

ความเป็นไปได้อย่างต่ำก็ไม่ถึง0.1%

การเลือกหนึ่งในสองข้อใน ตามเหตุผลแล้วแทบจะไม่ต้องคิดเลย

เย้นหว่านมองไปที่โห้หลีเฉิน แล้วเอ่ย

“ฉันทายว่าพี่ชายฉันจะรับผิดชอบต่อกู้จื่อเฟย!”

ทุกคำที่เธอพูดนั้น หนักแน่นราวกับเป็นคำอวยพร

ต่อให้มีความเป็นไปได้เพียง0.1% เธอก็ยังหวังว่ามันจะเป็นบทสรุปนั้นได้

เป็นบทสรุปที่สามารถมีความสุขได้

โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านด้วยแววตาลึกซึ้ง “งั้นก็ตั้งตารอดู”

เมื่อทั้งสองตกลงกันเสร็จสิ้น จึงได้เดินมุ่งไปทางห้องพิเศษ

พวกเขาไม่ได้ช้าไปมากนัก ตอนที่มาถึง พวกของกู้จื่อเฟยและเย้นโม่หลินก็กำลังรออยู่ที่ประตู

ในขณะเดียวกัน ด้านนอกห้องพิเศษเองก็มีบอดี้การ์ดชุดดำร่างสูงกำยำยืนอยู่ยี่สิบสามสิบคน แต่ละคนต่างก็ดูเคร่งขรึมและไม่เป็นมิตร เตรียมพร้อมที่จะพุ่งเข้าไปได้ทุกเมื่อ

เห็นได้ชัดว่า ห้องพิเศษนี้ถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว

โห้หลีเฉินจูงมือเล็กของเย้นหว่านเดินเข้าไป บอดี้การ์ดที่ขวางอยู่ที่ประตูรีบเปิดทางให้และแสดงความเคารพทันที

เมื่อโห้หลีเฉินเดินมาถึงประตู จิตสังหารทั่วร่างก็พุ่งสูงขึ้นในทันทีอย่างอันตรายน่าหวั่นเกรง เขาเตะออกไปอย่างรุนแรงและรวดเร็ว

“ตูม!”

เกิดเสียงดังขึ้น ประตูที่ดูแข็งแรงไร้ที่ติพลันส่งเสียงและล้มลง

จากนั้น เขาก็จูงเย้นหว่าน ขาข้างหนึ่งเหยียบลงบนบานประตูที่ล้มลงไป

แล้วเข้าไปข้างใน

เสียงดังนี้ทำเอาคนข้างในตกใจจนกระโดดขึ้นมาจากโซฟาทันที ก็คือคนขับรถคนนั้นและชายหนุ่มวัยรุ่นอีกคนหนึ่ง

พวกเขาตะคอกเสียงดัง “พวกแกจะทำอะไร?”

แต่โห้หลีเฉินกลับไม่แม้แต่จะปรายตามอง สายตานั้นจ้องตรงไปยังตำแหน่งของประตูห้องลับที่เย้นหว่านบอก

เขายกมือขึ้นและออกคำสั่ง “ทุบ!”

บอดี้การ์ดพากันกรูเข้ามา บอดี้การ์ดสองสามคนบังคับจับชายทั้งสองคนเอาไว้ ส่วนคนอื่นๆ ก็พุ่งไปยังประตูของห้องลับและทุบมัน

ประตูบานนั้นผ่านการจัดการมาเป็นพิเศษและค่อนข้างทนทาน แต่ไม่เกินสองนาทีมันก็เริ่มสั่นคลอน

“หยุดมือให้หมด!”

เมื่อเห็นว่าประตูกำลังจะพังลง ภายในห้องก็มีเสียงตะคอกอย่างเฉียบขาดของชายหนุ่มดังขึ้น

การเคลื่อนไหวของบอดี้การ์ดหยุดลง

จากนั้นก็เกิดเสียง”ครืดคราด”ขึ้น ประตูถูกเปิดอย่างสั่นๆ ออกมาจากข้างใน

พ่อบ้านตระกูลฝู้เดินนำหน้าออกมาจากช้างใน มองกลุ่มคนที่ราวกับโจรผู้ร้ายก่อนตะโกนก่นด่า

“พวกแกต้องการจะทำอะไรกันแน่? รู้จักกฎเกณฑ์บ้างไหม ไม่นึกว่าจะกล้า….อะ! เจ็บๆๆ!”

เสียงด่าว่าของแม่บ้านยังไม่ทันพูดจบก็ถูกบอดี้การ์ดจับลากมือทั้งสองข้างอย่างหยาบคายแล้วกดเข้ากับกำแพง

กำลังของบอดี้การ์ดนั้นเยอะมาก แขนของพ่อบ้านราวกับใกล้จะหักเลยทีเดียว เขากรีดร้องอย่างเจ็บปวด

“เฮอะ เป็นใครกันแน่ ไม่นึกว่าจะหยิ่งยโสขนาดนี้ ถึงกล้ามาทำป่าเถื่อนในเขตของฉัน”

น้ำเสียงตวาดของผู้ชายดังออกมาจากในห้อง

ท่านฝู้รองที่สวมชุดสีดำทั้งตัวเดินออกมาจากข้างใน

ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเดือดดาล รังสีน่าเกรงขามกระจายออกมาทั่วร่าง แต่ก็กลับมีความน่าสยองอยู่เล็กน้อย

หากเป็นคนธรรมดา มาเห็นบรรยากาศนี้ของเขาคงจะถอยไปเล็กน้อยเพื่อรักษาหน้าอย่างไม่รู้ตัว

แต่คู่มือของเขา กลับเป็นโห้หลีเฉิน

โห้หลีเฉินยืนอยู่ในห้องพิเศษ ในพริบหาแววตาก็เย็นเยียบราวหนาวแหลม เหมือนจะทิ่มแทงไปบนร่างของท่านฝู้รองได้จริงๆ

เขาเอ่ยถามเย้นหว่านที่อยู่ข้างกาย

“เขาเป็นคนวางยาเธอใช่ไหม?”

เย้นหว่านมองไปที่ใบหน้านั้นของท่านฝู้รอง ก็ยิ่งเร่งเปลวเพลิงในใจ

เป็นไอ้หน้าซื่อใจคดนี่ที่วางยาพิษเธอกับกู้จื่อเฟยเมื่อวานนี้ อีกนิดก็เกือบจะฆ่าพวกเธอแล้ว

เย้นหว่านไร้ซึ่งความรู้สึกที่ดีใดๆ ต่อเขาอีกต่อไป เธอชี้นิ้วไปที่เขาแล้วพยักหน้าอย่างแน่วแน่

“ใช่ เขานี่แหละ!”

ท่านฝู้รองเป็นคนฉลาดระดับไหน เมื่อได้ยินบทสนทนานั้นก็เข้าใจขึ้นมาในทันที

สาวน้อยสองคนที่ส่งไวน์รมควันให้เมื่อคืน ไม่นึกว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นเย้นหว่าน!

งั้นอีกคน ก็คือกู้จื่อเฟยสินะ!

เขามาเพื่อช่วยฝู้เหวยข่าย แน่นอนว่าเคยเห็นรูปของพวกเย้นหว่านทั้งหมดมาก่อนแล้ว ตอนนี้เย้นหว่านไม่ได้แต่งหน้า เขาจึงจำได้ในทันที

แต่เมื่อวานนั้น เขาเพียงแค่คิดจะถอนรากถอนโคน แต่ก็ไม่ได้ยืนยันตัวตนของเย้นหว่านมาก่อน

แต่กลับไม่คิดเลยว่าคนที่เขาวางยาพิษไปนั้นจะเป็นเย้นหว่านกับกู้จื่อเฟย!

แต่เย้นหว่านนั้นไม่เป็นอะไร พวกเขาได้เป็นศัตรูกับโห้หลีเฉินไปแล้ว ไม่ตายก็หยุดไม่ได้แล้ว ไปฆ่าผู้หญิงของเขายังไม่เป็นไร แต่กู้จื่อเฟยนั้นไม่ได้ นั่นคือคนที่ฝู้เหวยข่ายระบุว่าต้องการ ที่ต้องมีชีวิตอยู่จนสิ้นสงครามธุรกิจนี้ เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะให้กับฝู้เหวยข่าย

หล่อนจะตายไม่ได้

ท่านฝู้รองมองผ่านเย้นหว่านไปยังกู้จื่อเฟยที่เดินตามหลังเข้ามาทันที หล่อนยังมีชีวิตอยู่ เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก

แต่ต่อว่าเขาก็เห็นกู้จื่อเฟยที่สวมเสื้อคลุมตัวเล็กๆ แต่งตัวห่อด้วยผ้าห่ม แล้วยังมีรอยจูบที่โผล่ขึ้นมาวับๆแวมๆบนคอของเธออีก ทันใดนั้นเขาก็หน้าดำคร่ำเครียดขึ้นมา

เขาก่นด่าด้วยความรังเกียจ

“ผู้หญิงไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ไม่นึกว่าจะกล้ามั่วผู้ชายไปวันๆ !”

ในใจของเขา กู้จื่อเฟยถูกตีตราว่าเป็นผู้หญิงของฝู้เหวยข่ายไปแล้ว กับผู้ชายคนอื่นแล้ว นั่นก็คือพฤติกรรมของหญิงสารเลว

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท