สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่ 874 นายรีบไปซะ

บทที่ 874 นายรีบไปซะ

โห้หลีเฉินมองเว่ยชี อารมณ์ดี พูดอธิบายคลายความสงสัยของเขาด้วยเจตนาดี

“ถ้าเขาไข้เขวแล้ว กู้จื่อเฟยก็จะพาเขากลับมา แต่กระบวนการที่พากลับนี้ มันก็มีจุดน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เย้นโม่หลินก็ไม่มีเวลาไปยุ่งเรื่องอื่นแล้วเหมือนกัน”

ดังนั้น แม้ว่าเขาจะลุ่มหลงในความรักจนไม่มีกะจิตกะใจทำอย่างอื่น โห้หลีเฉินก็เต็มใจที่จะเห็นมัน

ถ้าเป็นแบบนี้ เขากับเย้นหว่านอยากจะทำอะไร ก็ทำได้ทั้งนั้น

ทำอะไรได้อย่างอิสระตามใจชอบ

ตอนนี้เว่ยชีถึงได้เข้าใจเจตนาของคุณชายของตัวเองขึ้นมา ยกมุมปากขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แอบพูดแขวะ เจ้าเล่ห์จริงๆ

อย่างที่โห้หลีเฉินคาดเอาไว้ แม้ว่าป่ายฉีจะมองทะลุถึงความรู้สึกที่เย้นโม่หลินมีต่อกู้จื่อเฟย แต่นี่มันก็เป็นแค่เพราะว่าคุ้นเคยเท่านั้น บวกเข้ากับเหตุผลที่ว่าคนนอกเกมมักจะมองเกมชัดเจนมากกว่าตัวผู้เล่นเอง

ส่วนเรื่องที่ว่าจะอธิบายความรักยังไง ความเห็นของเขาก็คือ

“เมื่อคุณยอมทำเรื่องอะไรก็ตามเพื่อเธอแล้ว เธอทำอะไรคุณก็จะรู้สึกว่าสบายตาไปหมด แถมเต็มใจให้ความร่วมมือด้วย นั่นก็คือคุณรักเธอเข้าแล้ว”

ยอมให้ความร่วมมือกับเธอทำเรื่องต่างๆ?

เย่นโม่หลินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่านี่มันคือความรู้สึกยังไงกันแน่ แต่ก่อน ก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรมากมายกับเธอเลย

เหมือนกับว่า เธอไม่เคยขอให้เขาทำอะไรเลย

แต่ต่อจากนี้ เขาอาจจะลองดูก็ได้

“เข้าใจแล้ว นายกลับไปซะ”

พูดจบ เย้นโม่หลินก็หันตัวเดินจากไป

ป่ายฉียืนอยู่กับที่ด้วยใบหน้าอึ้งตะลึงไป

เห้ย ที่เรียกเขามา เพื่อถามประโยคเดียว แล้วก็จบแล้วเนี่ยนะ?

เร็วเกินไปไหม

เสียเวลาที่เขาไปๆมาๆจริงๆเลย

ป่ายฉีทำได้แค่แบกความอัดอั้นตันใจกลับไปยังห้องหนังสือของโห้หลีเฉิน

ชั่วพริบตา ก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว

แม้ว่าพวกโห้หลีเฉินจะมีธุระต้องทำ แต่เนื่องจากกฎเหล็กของเย้นหว่าน คนต้องกินข้าวกินปลา อาหารแต่ละมื้อต้องกินอย่างดีกินให้อิ่ม

พวกโห้หลีเฉินก็เลยลงมากินข้าวด้วยกัน

อาหารก็ปกติดี แต่สำหรับกู้จื่อเฟยแล้วมันไม่เหมือนเดิม

ราวกับมีกวางกำลังกระโดดโลดเต้นอยู่ภายในใจของเธอ รู้สึกกระวนกระวายไม่สงบ ในหัวเต็มไปด้วยความกดดันประหม่าที่กำลังจะได้เจอกับเย้นโม่หลิน

หลังจากที่กลับมา เธอไม่เจอกับเย้นโม่หลินมาหลายชั่วโมงแล้ว

ความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้ กลับเปลี่ยนจากเส้นคู่ขนาน มากลายเป็นคู่รักที่ผูกพันกัน เป็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุดระหว่างชายหญิง

ก่อนที่เธอจะมา ในหัวก็คิดอยู่หลายร้อยหลายพันรอบ ว่าสถานการณ์มันจะเป็นยังไงถ้ามาเจอกับเขาหลังจากนั้น

เป็นครั้งแรกที่ได้มากินข้าวกับเย้นโม่หลินที่มีสถานะเป็นแฟนหนุ่ม เขาจะมองเธออย่างอ่อนโยนไหม? เขาจะคีบอาหารให้กับเธออย่างไม่หยุดหย่อน ให้เธอได้กินเยอะๆไหม?

แค่คิด กู้จื่อเฟยก็เพ้อฝันไปอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

ท่าทางตื่นเต้นดีใจอยู่ตลอดเวลา

เป็นแบบนี้ เธอจึงนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความไม่เป็นตัวของตัวเอง ในที่สุดก็รอจนโห้หลีเฉินกับเย้นโม่หลินมาถึง

กู้จื่อเฟยมองเย้นโม่หลินด้วยสายตาสั่นเป็นประกาย แก้มแดง

เย้นโม่หลินหันมองเธอ ใบหน้าที่หล่อเหลาไม่ได้มีสีหน้าอารมณ์มากมาย

จากนั้น เขาก็นั่งลงตรงที่นั่งตามปกติ ท่าทางสุภาพมีมารยาทตลอดเวลา หาจุดพลาดไม่ได้เลยสักนิด

แต่กู้จื่อเฟยจ้องมองเขา สายตาราวกับถูกกดปุ่มหยุดชั่วคราวเอาไว้

ทำไมเขายังต้องนั่งตรงข้ามกับเธอด้วย ในเวลานี้ควรจะมานั่งที่นั่งใกล้กับเธอไม่ใช่หรือไง?

โห้หลีเฉินก็นั่งลงไป ยังคงนั่งลงข้างๆเย้นหว่านเหมือนกับเมื่อก่อน

เขาเพิ่งจะนั่งลง แขนที่แข็งแรงก็ยื่นออกไปโอบร่างกายอันเล็กบางของเย้นหว่านเข้ามาในอ้อมแขน

เขาโอบกอดเธออย่างใกล้ชิดสนิทสนม พร้อมกับพูดถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“เพิ่งจะทำอะไรไปเหรอ?”

โอบกอดต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เย้นหว่านก็ยังคงแก้มร้อนผ่าว รู้สึกเกรงใจอยู่ไม่น้อย

เธอก้มหน้าเล็กน้อย พูดขึ้นเบาๆ

“ไม่มีอะไร ก็แค่ดื่มชายามบ่ายกับจื่อเฟยน่ะ”

“อื้อ”โห้หลีเฉินพยักหน้า”อยากกินซุปอะไร?”

บนโต๊ะมีซุปสามชนิดวางอยู่ สามารถเลือกรสชาติได้ ทุกวันโห้หลีเฉินจะเป็นคนตักให้กับเย้นหว่าน

เย้นหว่านชินไปแล้ว”ซุปกระดูกหมู”

โห้หลีเฉินก็หยิบถ้วย ตักซุปให้เธอด้วยตัวเองอย่างคล่องแคล่ว

การบริการแบบนี้ มันดูไม่ค่อยสอดคล้องกับท่าทางและอุปนิสัยของเขาเลย แต่พอเขาทำแล้วกลับดูเข้ากัน ดูสง่างามสุดๆ ยิ่งทำให้คนเห็นแล้วอิจฉาผู้หญิงที่ถูกดูแลเอาใจใส่คนนั้นอย่างช่วยไม่ได้

การกระทำของโห้หลีเฉินกับเย้นหว่าน เป็นการกระทำฆ่าคนโสดที่ต้องทำทุกวันเวลาทานอาหาร

ทุกคนชินกันไปแล้ว

แต่พอวันนี้กู้จื่อเฟยเห็นแล้ว กลับรู้สึกตงิดๆอยู่ในใจนิดหน่อย มองโห้หลีเฉินตักซุปวางไว้ตรงหน้าของเย้นหว่าน แถมยังกำชับเธอว่าเย็นก่อนแล้วค่อยกินแบบนั้นอีก เธอหันมองไปยังเย้นโม่หลินอย่างช่วยไม่ได้

เขาก็มีสถานะเป็นแฟนเหมือนกัน เขาต้องตักซุปให้เธอไหม?

แต่ว่า กู้จื่อเฟยรออยู่นานสองนาน ก็ไม่เห็นว่าเย้นโม่หลินจะมีทีท่าหยิบถ้วยมาตักซุปให้เธอสักที

จนกระทั่งเห็นเย้นโม่หลินหยิบตะเกียบแล้วเริ่มคีบอาหารกินอย่างสง่างาม ความหวังที่อยู่ภายในใจของกู้จื่อเฟย ก็ดับสูญทันที

เธอคิดเยอะเกินไป

แฟนไม่เหมือนกัน วิธีการปฏิบัติก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เธอจะไปคิดเรื่องที่จะให้เย้นโม่หลินปฏิบัติเหมือนกับโห้หลีเฉินแบบนี้ไม่ได้

กู้จื่อเฟยปลอบตัวเอง ก่อนจะหยิบถ้วยตะเกียบเริ่มลงมือกิน

ระหว่างที่กินข้าว สายตาก็ชำเลืองมองไปยังเย้นโม่หลินอย่างไม่รู้ตัว มองใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ก็รู้สึกว่าหลงใหล กินข้าวเปล่าก็รู้สึกความอยากอาหารเพิ่มขึ้นมาก

“เฟยเฟย ลูกอย่าเอาแต่กินข้าวสิ กินกับเยอะๆสิถึงจะได้สารอาหาร”

กู้หรงคีบกระดูกหมูเปรี้ยวหวานสองสามชิ้นใส่ลงไปในถ้วยของกู้จื่อเฟย

วันนี้เด็กสาวคนนี้ดูไม่ปกติเลยสักนิด กินข้าวก็เหม่อลอย

กู้จื่อเฟยเหม่อไปสักพัก พอเห็นกระดูกหมูแห่งความห่วงใยของพ่อตัวเองที่อยู่ในถ้วยแล้ว ก็รู้สึกอัดอั้นตันใจขึ้นมาทันที

เธออยากได้ความห่วงใยที่มาจากแฟนนะ

แต่ว่าไม่มี

แม้แต่กระดูกหมูเปรี้ยวหวานก็ยังรู้สึกว่ามันไม่หวานเลย

เย้นโม่หลินมองกู้จื่อเฟย แล้วกินข้าวต่ออย่างสง่างาม แต่ความเร็วในการกินข้าว มันช้าลงไม่น้อย

คนที่หูไวตาไวแบบเขา แน่นอนว่าต้องสังเกตเห็นว่ากู้จื่อเฟยแอบมองเขามาโดยตลอดอยู่แล้ว

ในเมื่อเธอชอบมอง ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะอยู่นานๆสักหน่อย ให้เธอได้มองได้ดูเยอะๆก็แล้วกัน

ข้าวมื้อนี้ ดูผิวเผินแล้วกินกันอย่างกลมเกลียวสุดๆ

หลังจากที่กู้หรงกินเสร็จแล้ว ก็พูดทักทาย ก่อนจะปลีกตัวไป

จากนั้นก็เป็นโห้หลีเฉิน เขาวางถ้วยตะเกียบลง หันไปพูดกับเย้นหว่าน

“ผมไปทำงานก่อนนะ”

เย้นหว่านรีบวางถ้วยที่ยังกินอยู่ลงทันที พยักหน้า”ค่ะ”

โห้หลีเฉินมองท่าทางที่ยังมีน้ำมันติดอยู่ที่ปากของเธอ สายตาก็รักเอ็นดูสุดๆ โค้งตัวไปข้างหน้า จูบลงที่หน้าผากของเธอ

เขาเข้าไปใกล้ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาๆน่าดึงดูดที่ได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น

“ผมจะรีบทำให้เสร็จเร็วๆ คุณไปรอผมที่ห้องนะ”

จูบที่กะทันหัน บวกเข้ากับคำพูดที่คลุมเครือทำให้รู้สึกเขินตรงข้างๆหู ทำให้เย้นหว่านหน้าแดงเหมือนกับผลแอปเปิ้ลสุกทันที ร้อนผ่านไปทั้งตัว

เธอผลักเขาออกด้วยความเขินอาย “คุณรีบไปเร็วเข้า”

จริงๆเลย ที่กินข้าวเสร็จเร็วขนาดนั้น ก็เพื่อจะได้ไปทำงานให้เสร็จไวๆ คืนนี้จะได้ไปหาเธอสินะ

เย้นหว่านทนไม่ได้ที่จะมองตรงๆ

โห้หลีเฉินถูกผลักออก มุมปากยังคงยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะหันตัวเดินออกจากห้องอาหาร

เงาที่สูงใหญ่เดินไปค่อนข้างเร็ว เจตนาเหมือนไม่อยากจะเสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียว

ยิ่งเห็นเขารีบร้อนขนาดนี้ เย้นหว่านก็ยิ่งหน้าแดงใจเต้นเร็วมากขึ้น

เย้นโม่หลินมองสำรวจเย้นหว่าน พร้อมกับพูดถามขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม

“เขาพูดอะไรกับเธอ?”

ปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้ของเย้นหว่าน คงจะไม่ได้จะรังแกเย้นหว่านหรอกใช่ไหม?

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท