สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่ 905 คาดไม่ถึงว่าเธออยากจะแต่งงาน

บทที่ 905 คาดไม่ถึงว่าเธออยากจะแต่งงาน

โห้หลีเฉินเข้าไปในบ่อน้ำพุร้อนและเริ่มแช่ตัว เป็นเวลา 3 วัน เขาไม่สามารถออกจากบ่อน้ำร้อนได้เป็นเวลานาน ต้องสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้ได้ผลดี

ดังนั้นเขาจึงแทบจะแช่น้ำอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนอยู่ตลอด เรื่องอาหารและเครื่องดื่มนั้นเป็นหน้าที่ของเย้นหว่านต้องนำเข้าไป

เดิมทีให้คนนำเข้ามาก็ได้ แต่การเข้าไปในคลังที่ยังไม่เปิดให้ใครเข้านั้น การจะให้คนงานเข้าไปดูไม่เหมาะสม ประการที่สอง การที่ประการที่โห้หลีเฉินต้องอยู่ที่นี่กับเย้นหว่านตลอด 24 ชั่วโมงนั้นมันน่าอึดอัดเกินไป

โห้หลีเฉินจึงให้เย้นหว่านเป็นคนออกไปจัดการเรื่องอาหาร ให้เธอได้ออกกำลังระหว่างเดินไปมา

ในช่วงสามวันนั้น ในตอนกลางวัน เย้นหว่านจะออกไปจัดการเรื่องอาหารให้โห้หลีเฉินเป็นปกติ แต่เธอระหว่างที่เธอเดินกลับมานั้นกลับพบว่าบรรยากาศไม่เหมือนกันช่วงก่อนหน้านี้

เธอเห็นคนงานจำนวนมากขึ้นในสวนและต้นไม้สีเขียวบนถนน วุ่นวายกับการสร้างดอกไม้และทิวทัศน์อันเขียวขจี

ในหลายๆ แห่ง ดอกไม้เหล่านี้ถูกแทนที่ด้วยดอกไม้ตามฤดูกาล และพวกเขาก็ตกแต่งและเต็มไปด้วยดอกไม้ทุกที่

เย้นหว่านสงสัยว่านี่เป็นการตกแต่งเพื่อฉลองงานเปิดคลังสมบัติหรือว่าฉลองที่โห้หลีเฉินจะออกมาแล้ว?

แต่ที่ทำให้เย้นหวานยิ่งไม่เข้าใจก็คือเมื่อเธอเดินไปที่หน้าวิลล่าตระกูลหยู เธอเห็นคนใช้จำนวนมาก ถืออุปกรณ์จัดงานแต่งงานสีแดงไว้ในมือ และเดินเข้าไปทีละคน

แม้แต่ในห้องโถงใหญ่ก็มีการวางอักษรมงคลสมรสสีแดง

เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งใหม่เอี่ยมถูกแทนที่ทุกที่ด้วยของสีแดงสำหรับงานแต่งงาน

นี่ ใครจะแต่งงานเหรอ?

“เสี่ยวหว่าน ในที่สุดก็ออกมาแล้ว มาเร็วๆ จัดอาหารไว้ให้เธอแล้วนะ”

กู้จื่อเฟยยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าห้องรับประทานอาหาร ยิ้มและกวักมือเรียกเย้นหว่าน

เย้นหว่านหันกลับมามองและเดินไปทางกู้จื่อเฟย “รบกวนเธอแล้ว อุตส่าห์เตรียมไว้ให้ฉันล่วงหน้า”

“ยังต้องเกรงใจอะไรฉันอีก พวกเราเป็นเพื่อนกัน อย่าพูดเหมือนเป็นอื่นเป็นไกล”

กู้จื่อเฟยจูงเย้นหว่านเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร สายตาคลุมเครือโดยเฉพาะอย่างยิ่งมองย้อนกลับไปมาที่เย้นหว่าน

รอยยิ้มที่มีความหมายนั้น มองเย้นหว่านจนน่ากลัว

นี่มันอะไรกัน?

เย้นหว่านมองดูห้องอาหารอย่างระมัดระวัง กล่องอาหารกลางวันถูกจัดวางอย่างดี และห้องอื่นๆ ก็สะอาด ไม่มีคนและไม่มีอะไรพิเศษ

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเย้นหว่านก็ถาม “เธอมองฉันแบบนี้ทำไม?”

กู้จื่อเฟยจับเย้นหว่านแล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม

“เสี่ยวหว่าน ฉันอยากจะถามเธอว่าจะเป็นเจ้าสาวแล้ว เธอรู้สึกยังไงบ้าง?”

“เจ้าสาว?”

เย้นหว่านตะลึงงัน “เธอพูดเรื่องอะไรน่ะ? จะเป็นเจ้าสาวแล้วอะไรกัน?”

เมื่อเห็นเย้นหว่านทำท่าเหมือนยังไม่รู้เรื่องแบบนั้น กู้จื่อเฟยก็นิ่งไปแล้วจึงเข้าใจ

เย้นหว่านอยู่แต่ในคลังตลอดทั้งวัน ข้างในนั้นไม่มีสัญญาณ พอเธอออกมาก็ตรงมาที่ห้องอาหารเลย ยังไม่ทันได้ติดต่อกับเย้นโม่หลิน

ดังนั้นเรื่องงานแต่งงานเจ้าตัวคงจะยังไม่รู้เรื่องแน่

กู้จื่อเฟยจึงรีบตอบคำถามเธอ “พ่อแม่เธอกับคุณปู่ตระกูลหยูได้ตกลงกันแล้วว่าจะให้เธอกับโห้หลีเฉินแต่งงานกัน เธอดูสิข้างนอกมีการตกแต่งประดับประดาแล้ว เป็นการเตรียมงานแต่งงานของเธอไงล่ะ”

เย้นหว่านตกตะลึงเป็นอย่างมาก ที่เธอเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนั่นก็เพื่อเธอเหรอ?

คนที่จะแต่งงานก็คือเธอ?

นี่มัน…

ความประหลาดใจเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเวียนหัวไปหมด และเธอจะไม่สามารถตอบสนองได้อย่างสมบูรณ์ชั่วขณะหนึ่ง

“อะไรกัน ดีใจจนอึ้งหรือว่าไม่อยากจะแต่งกันแน่?”

กู้จื่อเฟยยิ้มอย่างสนุกสนานและตั้งใจพูดล้อเธอ “ฉันก็แค่ได้ยินพี่เย้นพูดน่ะ ว่าถ้าเธอไม่อยากจะแต่งงานเร็ว งานแต่งจะเลื่อนไปก่อนก็ได้ จะนานแค่ไหนก็ได้”

“ไม่ต้องเลื่อน”

เย้นหว่านไม่แม้แต่จะคิดและรีบพูดออกมา

ทันทีที่เธอพูด เธอได้พบกับการจ้องมองที่เฉียบแหลมของกู้จื่อเฟยและแก้มของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

กู้จื่อเฟยหัวเราะอย่างร่าเริงและพูด “ตายแล้ว แทบจะรอที่จะแต่งไม่ไหวแล้วสิ? !”

แก้มของเย้นหว่านแดงยิ่งกว่าเดิม ในใจของเธอเหมือนมีเจ้ากระต่ายน้อยกระโดดโลดเต้นอยู่ และไม่สามารถจะเก็บอาการไว้ได้

เธอกับโห้หลีเฉินคบกันมานานขนาดนี้ เดิมคิดว่ากว่าจะได้รับการยินยอมจากครอบครัวให้แต่งงาน เธอจะรอให้เขาหายดีในอีกสามปีได้ยังไงกัน

กลับคิดไม่ถึงว่า พ่อแม่ของเธอจะรับปากให้เธอแต่งงานกับโห้หลีเฉินในตอนนี้

การได้สวมชุดแต่งงานและเข้าพิธีกับโห้หลีเฉิน นี่เป็นสิ่งที่เย้นหว่านใฝ่ฝัน แน่นอนว่าเธอแทบจะรอไม่ไหวและตั้งตารอเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยความยินยอมของทั้งพ่อและแม่ในการเข้าสู่พิธีแต่งงาน อนาคตของเธอและโห้หลีเฉินจะไม่ถูกขัดขวางจากครอบครัวอีกต่อไป และพวกเขาก็จะปลอดภัยและมีความสุขไปตลอดชีวิต

เย้นหว่านดีใจจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ และไม่สนใจคำล้อของกู้จื่อเฟย “ถ้าอย่างนั้นพี่ชายฉันบอกไหมว่ากำหนดวันไว้เมื่อไหร่?”

“พวกเขายังไม่ได้เลือกเลย รอเธอออกมา ถ้าหากเธอรีบก็เอาเป็นวันมะรืนเลยสิ ฉันช่วยเธอดูแล้ว วันมะรืนเป็นฤกษ์ดีนะ”

มะรืน? เร่งอีกหน่อยได้ไหม

เย้นหว่านดันกู้จื่อเฟย “รู้นะว่าล้อฉันอยู่”

“ที่ไหนกัน? ฉันดูให้เธออย่างจริงจังเลยนะ เป็นเพื่อนสนิทกัน เข้าใจดีว่าเธอกังวลเรื่องแต่งงานนะ

กู้จื่อเฟยขยิบตา

ยิ่งพูดเย้นหว่านก็ยิ่งใจเต้นไม่เป็นส่ำและหน้าแดงเป็นลูกตำลึง

ใจของเธอว้าวุ่น และเมื่อเธอรู้สึกเขินอาย เธอจึงใช้ความคิดริเริ่มในการตอบโต้ จ้องไปที่กู้จื่อเฟยด้วยรอยยิ้ม

“เธอกับพี่ชายก็ถึงฝั่งฝันแล้ว จะใช้โอกาสนี้ พวกเราแต่งงานพร้อมกันเลยไหม?”

กู้จื่อเฟยที่กำลังพูดเล่นอย่างสนุกสนานนิ่งไปครู่หนึ่ง

แก้มของเธอแดงเล็กน้อย แล้วก็ถอนหายใจหนักมากและพูดอย่างเป็นทุกข์ “ฉันก็อยากจะแต่งนะ รอไม่ไหวที่จะเป็นทองแผ่นเดียวกันกับพี่ชายเธอทุกนาที แต่พี่เธอดันไม่มีเซนส์ด้านนี้เลย เขาคงจะตามไม่ทันงานเธอหรอก”

เมื่อเห็นกู้จื่อเฟยมีสีหน้าเป็นทุกข์อย่างนั้น เย้นหว่านก็อดกระตุกมุมปากไม่ได้

การล้อเล่นกลับไปนี้ล้มเหลว แต่กู้จื่อเฟยดูเหมือนจะเป็นคนที่ไม่ซ่อนความอยากจะแต่งงานไว้เลย ไม่สิ เธอเหมือนกับผู้ชายคนหนึ่งที่อยากจะขอผู้หญิงมากกว่า

ไม่ได้มีความรู้สึกเขินอายอะไรเลย

เย้นหว่านรู้สึกหดหู่อยู่ครู่หนึ่ง จึงเดินไปหยิบกล่องอาหารกลางวันและเดินออกไป

ไม่ได้คุยเล่นกับกู้จื่อเฟยอีก ไม่อย่างนั้นก็จะมีแต่เธอคนเดียวที่โดนล้อ ส่วนกู้จื่อเฟยก็จะไม่เป็นอะไรเลย

“เฮ้ เสี่ยวหว่าน เธอจะรีบขนาดนี้ทำไมกัน? พวกเราคุยเรื่องงานแต่งงานกันก่อนสิ”

เย้นหว่านยิ่งเร่งฝีเท้าหนักกว่าเดิม

กู้จื่อเฟยหัวเราะร่วน “ถ้าจะรีบไปหาโห้หลีเฉินขนาดนั้น จะไปปรึกษาเขาว่าจะแต่งงานพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ดีใช่ไหม?”

เย้นหว่านหันไปแล้วหายไปไม่มีแม้เงา

เธอถือกล่องข้าวแล้วรีบเดินออกจากห้องอาหาร จากนั้นก็ได้เสียงตะโกนของกู้จื่อเฟย เธออายจนไม่กล้าจะมองดูคนงานที่กำลังยุ่งอยู่ข้างนอก

พวกเขาได้ยินแล้ว เกรงจะคิดว่าเธออยากแต่งงานจนตัวสั่น

ยายกู้จื่อเฟยบ้าเอ๊ย

เป็นเพื่อนประสาอะไรนะ แย่จริง

เมื่อเดินออกไปไกลๆ นอกจากเย้นหว่านจะเขินอายแล้ว เธอก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและปีติในหัวใจ

ทั้งสองครอบครัวเห็นพ้องแล้ว เธอจะได้แต่งงานกับโห้หลีเฉินแล้วเหรอ?

ถ้าเขารู้จะคิดยังไงนะ จะมีปฏิกิริยายังไงนะ?

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท