แม้ว่าตอนนี้เขาจะลังเลใจอย่างยิ่งที่จะใช้ แคทเธอรีน แต่ก็ไม่มีทาง
อาการเจ็บป่วยขั้นที่สอง มีเพียงแคทเธอรีนเท่านั้นที่สามารถรักษาได้ แม้ว่าอาการของโห้หลีเฉินจะแย่ลงอย่างกะทันหัน แต่ก็มีเพียงแคทเธอรีนเท่านั้นที่สามารถตอบสนองได้เร็วที่สุด ทำให้โห้หลีเฉินมีชีวิตอยู่ได้อีกสองสามวัน
ไม่กี่วันนี้ บางทีอาจจะเป็นเพียงความหวังสุดท้าย
เว่ยชีจะไม่นั่งรอความตาย
เมื่อแคทเธอรีนเห็นเว่ยชีออกไป ท่าทีของเธอก็เปลี่ยนไปทันที
สักพัก เธอก็พูดกับคนอื่นๆ ในห้องว่า
“ฉันจะไปห้องน้ำ พวกนายก็ดูแลคุณโห้ให้ดี เดี๋ยวฉันจะกลับมา”
หลังจากพูดเสร็จ แคทเธอรีนก็เดินออกไปอย่างสง่างาม
ในห้องผู้ป่วยมีห้องน้ำ แต่มีเพียงแค่โห้หลีเฉินและเย้นหว่านเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ เธอเป็นคนนอกและไม่สามารถเข้าไปใช้ได้
เมื่อก่อน เธอจะกัดฟันด้วยความหึงหวง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นข้ออ้างให้เธอแอบหนีออกมาอย่างเปิดเผย
ใช่แล้ว ข้ออ้าง
แคทเธอรีนไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำ แต่เธอแอบออกจากประตูหลัง เพื่อหนีออกมาจากปราสาท
เธอเรียกรถมา โดยใช้เหตุผลว่าจะไปหาเย้นหว่าน เธอตรงไปที่วิลล่าที่เย้นหว่านพักอยู่
คนอื่นๆ ไม่ทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันของโห้หลีเฉิน และพวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเว่ยชีไม่อนุญาตให้เธอไปหาเย้นหว่าน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ห้ามเอาไว้
ไม่ว่าอย่างไร เวลาอยู่ข้างนอก แคทเธอรีนก็ถือว่าเป็นผู้ช่วยพิเศษที่มีความสามารถของโห้หลีเฉิน
เทียบเท่ากับสถานะของเว่ยชี
แคทเธอรีนไปถึงวิลล่าที่เย้นหว่านพักอยู่อย่างรวดเร็ว
เมื่อเดินเข้าไปได้ไม่ไกล เธอก็เห็นเย้นหว่านอยู่ในสวนดอกไม้ ท่ามกลางดอกไม้ที่เบ่งบาน เธอกำลังเดินเล่นอย่างสบายใจ
เธอจับหน้าท้องที่ยื่นออกมาด้วยมือของเธอ ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้ม และเธอกำลังพูดอย่างอ่อนโยนกับท้องของเธอ
ภาพนี้ ดูมีความสุขมากเสียจริง
เป็นลักษณะที่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรจะมี
แต่มันทำให้แคทเธอรีนรู้สึกอิจฉาในทันที ในท้องของเธอ เธอกำลังตั้งท้องลูกของโห้หลีเฉิน แม้ว่าโห้หลีเฉินจะไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอ แต่เธอก็ยังมีลูกที่เป็นความสุขของเธอ
นี่คือสิ่งที่แคทเธอรีนไม่สามารถเข้าใจได้เลยในชีวิตของเธอ
ในเมื่อเธอไม่สามารถได้สิ่งนี้ เธอจะทำลายมัน
แคทเธอรีนยิ้มเยาะเย้ยและเดินไปทางเย้นหว่าน น้ำเสียงของเธอแอบแฝงไปด้วยความประชดประชัน
“คุณเย้น คุณสบายดีนี่ ถึงตอนนี้ แต่คุณก็ยังยิ้มได้”
เย้นหว่านทำตามที่คุณหมอบอก เธอต้องพยายามอารมณ์ดี และให้เดินเล่นทุกวัน รวมถึงพูดคุยกับลูก
มันเป็นเพียงช่วงเวลานี้เท่านั้น ที่เธอสามารถสงบสติอารมณ์ได้เล็กน้อย และเอาเวลามาหมกมุ่นกับลูกๆ
เธอไม่คิดว่า จู่ๆ แคทเธอรีนจะมาที่นี่อย่างกะทันหัน
รอยยิ้มบนใบหน้าของเย้นหว่านหยุดนิ่งทันที และเธอก็มองไปที่แคทเธอรีนด้วยสายตาที่เย็นชา
“คุณมาทำอะไรที่นี่?”
เย้นหว่านกอดท้องอย่างไม่สบายใจเล็กน้อย และอดคิดไม่ได้ถึงตอนครั้งแรกที่แคทเธอรีนมาหาที่นี่ แล้วเธอก็พูดคำพูดยั่วยุมากมาย
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเชื่อใจโห้หลีเฉิน เกรงว่าบางทีเธออาจจะทำสำเร็จไปแล้ว
เป็นเวลากว่าครึ่งเดือนแล้วที่เย้นหว่านถูกบังคับให้จากไป ตอนนี้แคทเธอรีนมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อมาแสดงให้เห็นว่าโห้หลีเฉินได้เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเธอ หรือเกิดอะไรขึ้นกับเธองั้นเหรอ?
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เย้นหว่านก็เชื่อในตัวโห้หลีเฉิน เธอไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูดแน่นอน
แคทเธอรีนมองเย้นหว่านด้วยสายตาที่เย็นชา และมองไปที่ท้องของเธอด้วยสายตาที่อันตราย
จากนั้นเธอก็พูดว่า “ฉันมารับคุณเพื่อไปเยี่ยมโห้หลีเฉิน”
เย้นหว่านรู้สึกแปลกใจ
เธอระวังตัวมากขึ้นในทันที “เธอกำลังเล่นอะไรอีก?”
ก่อนหน้านี้เธอเป็นคนบังคับให้เย้นหว่านออกไป
แต่ตอนนี้เธอกลับเป็นคนที่มารับเธอ เธอต้องมีความคิดที่ไม่ดีแน่นอน
แคทเธอรีนส่ายหัว “อย่าคิดว่าฉันแคบ ยังไงฉันก็รักโห้หลีเฉินจริงๆ ตอนนี้เขากำลังจะตาย ฉันก็อยากจะเติมเต็มเขาเช่นกัน”
เย้นหว่านกรีดร้องด้วยความตกใจ “คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร? ทำไมเขาต้องตาย?”
ช่วงเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ ยังเหลืออีกสามเดือน
แม้ว่าโห้หลีเฉินจะมีสุขภาพไม่ดี เขาควรได้รับการรักษาที่ดีที่สุดสิ
เย้นหว่านจ้องไปที่แคทเธอรีนอย่างโกรธเคือง “อย่าพูดเรื่องไร้สาระที่นี่อีก ถ้าฉันโกรธจนกระทบลูกในท้อง ในหนึ่งร่างมีถึงสามชีวิต และจะไม่มีวิธีช่วยโห้หลีเฉินอีก สิ่งนี้จะไม่ดีต่อคุณ”
“ใช่ มันไม่ได้ดีต่อฉันเลย แล้วทำไมฉันต้องโกหกด้วย?”
แคทเธอรีนถามกลับอย่างเฉียบขาด “ดังนั้น สิ่งที่ฉันพูดนั้นเป็นความจริง อาการของโห้หลีเฉินแย่ลง และฉันควบคุมมันไม่ได้ เขากำลังจะตาย”
เย้นหว่านตัวแข็งทื่อ เธอรู้สึกว่าในสมองของเธอมีระเบิดเกิดขึ้น ตอนนี้เธอรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที
เธอกรีดร้องว่า “คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระ ฉันไม่เชื่อ! ฉันไม่เชื่อ!”
แคทเธอรีนยิ้มเยาะเย้ย ราวกับว่านี่เป็นสิ่งที่เธอคาดหวังไว้ จากนั้นเธอก็หยิบเครื่องบันทึกออกมา
ก่อนจะกดเปิด
ในนี้มีบทสนทนาระหว่างเธอกับเว่ยชี
เธอเป็นคนบอกเรื่องระยะเวลาการตายของโห้หลีเฉิน และเว่ยชีลังเลที่ และจะไม่บอกเรื่องนี้กับเย็นหว่าน
หลังจากที่เย้นหว่านฟังจนจบ เธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองตกลงไปในห้องใต้ดิน และร่างกายของเธอนั้นสั่นทันที
เครื่องบันทึกเสียงเป็นหลักฐาน ว่านี่เป็นความจริง
และความลังเลของเว่ยชี ก็ยังอธิบายได้ด้วยว่า ทำไมถึงไม่ใช่เว่ยชีที่ส่งคนมารับเธอ แต่เป็นแคทเธอรีน
เย้นหว่านตัวสั่นอย่างรุนแรง ขาของเธออ่อนระทวย และเธอแทบจะไม่สามารถยืนได้อีก
สมองของเธอมีเสียงสั่นระรัว และเธอไม่สามารถเชื่อหรือยอมรับความจริงที่โหดร้ายนี้
โห้หลีเฉินป่วยหนักอย่างกะทันหัน
เหลือเวลาอีกไม่ถึงสัปดาห์
เป็นไปได้ยังไง มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง!
ตาของเย้นหว่านเบลอไปหมด และเธอกำลังจะวิ่งออกไปข้างนอก
เธอกำลังจะไปหาโห้หลีเฉิน เธอกำลังจะไปหาเขา
“รอก่อน”
ทันใดนั้นแคทเธอรีนก็เอื้อมมือไปจับเย้นหว่านไว้ เธอออกแรงเยอะมาก เพื่อทำให้เย้นหว่านหยุด
เย้นหว่านพยายามจะดิ้นรนด้วยความรีบร้อน “ปล่อยฉันนะ! คุณมารับฉันไม่ใช่เหรอ อย่าห้ามฉัน”
เธอต้องการพบโห้หลีเฉินตอนนี้ เดี๋ยวนี้
หัวใจของเธอกำลังจะแหลกสลาย มันเจ็บปวดจนแทบจะหายใจได้อีกต่อไป
แคทเธอรีนห้ามเย้นหว่านไว้ สีหน้าของเธอดูเย็นชามาก
“ฉันยังพูดไม่จบ จะรีบอะไรนักหนา?”
เธอจ้องไปที่เย้นหว่าน ดวงตาของเธอดูดุร้ายและอันตราย “เย้นหว่าน โห้หลีเฉินมีเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ฉันยังมีวิธีที่จะช่วยเขาได้”
การขัดขืนของเย้นหว่านสิ้นสุดลงอย่างกะทันหัน
เธอรู้สึกเหมือนเห็นแสงสว่างในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง เธอถามอย่างรีบร้อน
“วิธีอะไร? รีบพูดมาสิ คุณช่วยเขาได้จริงๆ เหรอ?”
แคทเธอรีนพยักหน้า สายตาที่ชั่วร้ายของเธอค่อยๆ เลื่อนลงไป และในที่สุดเธอก็มองตรงท้องของเย้นหว่าน
คำพูดที่เธอพูดออกมาแต่ละคำ มันก็โหดร้ายเหมือนกับปีศาจ
“เลือดจากสายสะดือของเด็กพร้อมใช้งานแล้ว ถ้าคุณยอมเอาลูกออกจากท้องของคุณตอนนี้ โห้หลีเฉินก็สามารถมีชีวิตรอดได้”
เย้นหว่านตกใจ เธอเบิกตาโต
ผ่าท้องตอนนี้?
หมอไป๋เน้นย้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าเธอจะผ่าเอาลูกมาต้องให้อายุครรภ์ถึงแปดเดือนครึ่งก่อน ไม่อย่างนั้นทั้งเธอและลูกก็ต้องตาย และไม่มีความเป็นไปได้ที่จะอยู่รอดอย่างแน่นอน
แคทเธอรีนมองไปที่เย้นหว่าน ก่อนจะยิ้มดูถูกอย่างเย็นชา
“ทำไม กลัวเหรอ? คุณต้องตายไปก่อน ถึงจะช่วยโห้หลีเฉินได้ คุณกล้าไหม?”
เย้นหวานยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น ร่างกายของเธอเยือกเย็นไปหมด
ตัวเลือกที่แคทเธอรีนให้ เธอจำเป็นต้องเลือกหนึ่งในสอง
เป็นการเลือกหนึ่งในสองที่โหดร้ายที่สุด
จะเป็นโห้หลีเฉินที่ตาย หรือจะเป็นเธอที่พาลูกทั้งสองไปตาย
นี่เป็นทางเลือกเหรอ? แต่นี่คือการฆาตกรรม นี่คือการทำลายทุกอย่าง!
“เย้นหว่าน ฉันจะบอกคุณอีกว่า นี่เป็นวิธีเดียวที่จะรักษาโห้หลีเฉินให้มีชีวิตต่อ แม้ว่าคุณหมอป่ายฉีอัจฉริยะที่พวกคุณตั้งตารอมาถึง สุดท้ายผลก็ออกมาเป็นแบบเดียวกัน”
“คุณบอกว่าคุณรักโห้หลีเฉินมากไม่ใช่เหรอ ในเมื่อคุณรักเขามาก คุณกล้าตายเพื่อเขาไหม?”
“หรือว่า คุณจะรู้สึกเห็นแก่ตัว และอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปคนเดียว? ฮ่าฮ่าฮ่า”