โห้หยูเซิงยังคงทำหน้าเรียบเฉย แต่ร่างกายเล็กๆ ของเขากลับบนขวางอยู่ตรงหน้าของแรบบิท
พอไอ้อ้วนตบพลาด เขาก็โกรธยิ่งกว่าเดิม
“พวกแกอย่าคิดหนีนะ ไอ้พวกขี้ขลาด”
เขาด่าทอออกมาแล้วพุ่งเข้าไปอีกครั้ง
เขาตัวสูงกว่าพวกโห้หยูเซิงมาก จึงพุ่งเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว อาศัยความได้เปรียบจากร่างกายที่สูง แล้วตบไปที่โห้หยูเซิงอีกครั้ง
ครั้งนี้โห้หยูเซิงไม่คิดจะหลบ
เขายืนบังอยู่ข้างหน้าของแรบบิท แล้วเตะขาออกไปอย่างกะทันหัน เตะใส่ที่น่องของไอ้อ้วนพอดี ไอ้อ้วนเสียการทรงตัว เสียง “ตุบ” ดังขึ้น ไอ้อ้วนล้มลงไปบนกองโฟม
เขาลุกขึ้นมาจากกองสำลี โดยมีโฟมติดอยู่เต็มตัวไปหมด
ในเวลาเดียวกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงนี้ก็ได้ดึงดูดความสนใจของเด็กคนอื่นๆ เข้า พวกเขามองดูไอ้อ้วนที่ท่าทางจนมุมจึงพากันหัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า เขานี่ตลกจริงๆ”
“ตัวโตขนาดนั้นก็ยังสู้คนที่ตัวเล็กกว่าไม่ได้ โง่เง่ามากเลย”
ท้องโดนกระแทกจนเจ็บ แล้วพอมองไปก็เห็นเด็กๆ ที่อยู่รอบๆ หัวเราะเยาะอย่างไม่ไว้หน้า ทั้งโกรธทั้งร้อนรน เขาจึงเบ้ปากแล้ว “แง” ร้องไห้ออกมา
เขาร้องไห้ออกมาเสียงดังมาก ดังเหมือนเสียงฟ้าร้องที่หนวกหู ไม่นานก็กลายเป็นเครื่องขยายเสียงที่อยู่กลางสนาม
“ลูกรัก ร้องไห้ทำไมหืม?”
ผู้หญิงอายุสามสิบที่แต่งตัวหรูหราคนหนึ่ง ย่ำรองเท้าส้นสูงเข้ามาด้วยความเร่งรีบ
เธออุ้มไอ้อ้วนขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
ไอ้อ้วนรีบจับแขนของเธอไว้ แล้วชี้ไปทางโห้หยูเซิงกับแรบบิทพร้อมกับน้ำหูน้ำตาที่ไหลเต็มหน้า
“แม่ครับ พวกมันตีผม พวกมันตีผม!”
“ว่าไงนะ?”
หญิงสาวทำหน้าดุร้ายขึ้นมาทันที แล้วมองไปทางโห้หยูเซิงกับแรบบิทด้วยความโมโห
“นี่พวกแกกินดีหมีหัวใจเสือมาใช่มั้ย ถึงได้กล้ามาทำร้ายลูกชายฉันแบบนี้? คอยดูฉันจะตีเด็กเวรอย่างพวกแกสองคนให้ตายเลย” หญิงสาวพูดไปก็ง้างมือขึ้นมา แล้วตบไปที่โห้หยูเซิง
โห้หยูเซิงรีบหลบออกไป
หญิงสาวโมโหยิ่งกว่าเดิม จึงตัดสินใจจับคอเสื้อของโห้หยูเซิงไว้ จากนั้นง้างมืออีกข้างขึ้นมาสูงๆ แล้ว “ป๊าบ” ตบลงใบที่หน้าของโห้หยูเซิง
เสียงดังจนแสบแก้วหู
เธอเป็นผู้ใหญ่ ส่วนเขาเป็นแค่เด็กสองขวบ เมื่อเทียบกันแล้ว ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อต้านได้เลย
ยังไม่เคยมาใครเคยตีเขามาก่อนเลย
เขารู้สึกว่ามันเจ็บมาก น่าอายมาก
“นางปีศาจ แกอย่ามาทำร้ายพี่ชายของฉันนะ ฉันจะกัดแกให้ตายเลย!”
แรบบิทกรีดร้องแล้วพุ่งเข้ามา ทั้งข่วนทั้งกัดไปที่แขนขอหญิงสาว
หญิงสาวที่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้แขนของเธอถูกข่วนไปจนเป็นแผลไปหลายแผล
เธอโมโหยิ่งกว่าเดิม จึงเหวี่ยงโห้หยูเซิงออกไป จับแรบบิทเอาไว้แล้วตบไปอีกหนึ่งที
ใบหน้าที่ขาวใสของแรบบิท แดงก่ำขึ้นมาทันที
ปรากฏเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้าที่เด่นชัด เห็นแล้วรู้สึกบาดตาเหลือเกิน
โห้หยูเซิงถูกผลักลงไปนั่งอยู่ที่พื้น กำลังเบิกตาโจด้วยความตะลึง สีหน้าวูบวาบเป็นการใหญ่ ในใจได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแค่ตบเขา แถมยังตบแรบบิทที่เขาอยากจะปกป้องด้วย……
ส่วนพวกเขาสองคน กลับไม่มีทางที่จะขัดขืนอะไรได้เลย……
“นี่เธอทำอะไร?!”
พอเย้นหว่านได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นก็รีบวิ่งเข้ามาทันที พอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า สายตาที่โกรธแค้นแทบจะถลนออกมา หัวใจเหมือนกำลังจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
ผู้หญิงคนนี้ กล้าตบลูกสาวของเธออย่างนั้นเหรอ
เย้นหว่านนั้นแทบเป็นบ้าแล้ว
เธอรีบพุ่งเข้าไป ผลักผู้หญิงคนนั้นออก แล้วแย่งแรบบิทกลับมา
“แม่คะ แงแงแง มันตบหนูค่ะ แงแงแง”
แรบบิทโผเข้าไปในอ้อมกอดของเย้นหว่านทันที ร้องไห้ฟูมฟาย “มันยังตบพี่ชายด้วย ผลักพี่ชายด้วย”
หัวใจของเย้นหว่านเจ็บปวดเหมือนถูกเข็มเข้ามาทิ่มแทง
เมื่อกี้เธอกำลังพูดคุยอยู่กับคุณแม่คนนั้น พูดคุยกันถึงเรื่องของใช้ทั่วไปของเด็กๆ เลยก้มลงไปมองของที่คุณแม่คนนั้นเอามา และก็ในช่วงจังหวะเพียงครู่เดียวนั้นเอง ตอนที่เงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นหยูเซิงกับแรบบิทถูกคนรังแกไปแล้ว
เย้นหว่านรู้สึกปวดใจอย่างมาก มือหนึ่งก็ตบๆ ไปที่หลังของแรบบิทเพื่อปลอบขวัญ พร้อมกับมองไปที่โห้หยูเซิง
แล้วเห็นเขาได้ลุกขึ้นมาด้วยตนเอง ยืนตัวตรงอยู่ตรงนั้น ใบหน้าเล็กๆ ได้ปรากฏรอยมือสีแดงที่เด่นชัด ปากเล็กๆ เม้นอย่างเเน่นๆ ทั่วทั้งร่างกายปกคลุมไปด้วยรังสีที่เคร่งขรึม
เย้นหว่านรู้ดีว่าเขาไม่ชอบให้ใครมาโดนตัว จึงทำได้แค่มองเขาด้วยความเป็นห่วงเท่านั้น
“หยูเซิง ลูกไม่เป็นไรนะ?”
โห้หยูเซิงไม่ได้ตอบ เขาเพียงแค่ยืน สายจ้องตรงไปยังผู้หญิงที่ตบหน้าเขา แววตา เหมือนมีความแค้นที่แหลมคมกำลังไหลเวียนอยู่
นี่คือการแสดงออกที่เย้นหว่านพบเห็นได้น้อยมากกับสายตาที่ค่อนข้างเหม่อลอยของโห้หยูเซิง
กับความโกรธแค้นที่มีต่อคนนอกคนหนึ่ง
เย้นหว่านรู้สึกปวดใจขึ้นมา พูดไม่ออกว่ามันเป็นความทรมานแบบไหน
“เธอเป็นแม่ของเด็กสองคนนี้ใช่มั้ย? แล้วเธอยังกล้ามาลงมือกับฉันอีกเนี่ยนะ?”
หญิงสาวถอยหลังไปสองก้าวถึงตั้งหลักได้ หมุนตัวกลับมา โมโหยิ่งกว่าเดิม พุ่งกลับมาแล้วง้างมือขึ้นมาสูงๆ จากนั้นก็ตบไปที่เย้นหว่าน
เย้นหว่านกำลังนั่งยองกอดแรบบิทเอาไว้ เป็นตำแหน่งทำให้เธอเสียเปรียบมาก
แรบบิทกรีดร้องออกมา “แม่คะระวัง”
แววตาของโห้หยูเซิงก็เปลี่ยนไปทันที แม้แต่ปลายนิ้วยังจิกแน่นเลย
สายตาที่เย้นหว่านจ้องมองหญิงสาวนั้นเยือกเย็นอย่างมาก เธอยื่นมือออกไปอย่างกะทันหัน แล้วจับข้อมือที่ตบมาของหญิงคนนั้นได้อย่างมั่นคง
ดูเธอเหมือนจะบีบมันไว้อย่างสบายๆ แต่สีหน้าของหญิงคนนั้นกลับเปลี่ยนตามไปด้วย แสดงสีหน้าที่เจ็บปวดออกมา
หญิงสาวกรีดร้อง “แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนะ!”
เย้นหว่านมือหนึ่งบีบข้อมือของหญิงสาว ส่วนอีกมือก็อุ้มแรบบิทเอาไว้ ระหว่างที่เธอค่อยยืนขึ้น หญิงสาวที่กำลังถูกบีบข้อมือก็ถูกกดดันจนต้องงอตัว
คนหนึ่งสูงคนหนึ่งต่ำ ตำแหน่งถูกสลับกันอย่างรวดเร็ว
เย้นหว่านจ้องมองหญิงสาวดั่งผู้ที่อยู่สูงกว่า สายตาเยือกเย็นอย่างถึงที่สุด
“เธอใช้มือข้างนี้ตบลูกๆ ของฉันใช่มั้ย?”
ความเจ็บปวดแล่นมาจากข้อมือ ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด เหงื่อเย็นไหลออกมาจากหน้าผาก
เธอจ้องมองเย้นหว่านด้วยความหวาดกลัว ทั้งๆ ที่ดูแล้วเป็นแค่ผู้หญิงที่อ่อนแอแท้ๆ แล้วทำไมถึงมีเรี่ยวแรงมากมายขนาดนี้?
เธอพูดออกมาพร้อมกัดฟันแน่น “ฉันตบแล้วมันจะทำไม? ฉันขอเตือนไว้เลยนะ แกรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ผัวฉันนั้นเส้นใหญ่มาก ถ้าแกมาหาเรื่องฉัน ฉันจะบอกให้ผัวฉันฆ่าแกให้ตายทั้งครอบครัวเลย!”
สีหน้าของเย้นหว่านยังคงเดิม จ้องมองหญิงสาวราวกับกำลังจ้องมองขยะอยู่
เธอพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ฉันไม่ได้โหดเหี้ยมขนาดนั้น เธอตบลูกๆ ของฉัน ฉันไม่อยากได้ชีวิตเธอ ฉันแค่หักแขนเธอทิ้งก็พอแล้ว”
หลังจากที่คำพูดนั้นสิ้นสุดลง ก็ได้มีเสียง “แกร๊ก” ดังตามมาทันที
กระดูกแขนของหญิงสาวได้หักลงทันที! “อ้า!!”
เธอครวญครางออกมาราวกับจะขาดใจ ทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว จนต้องคุกเข่าลงกับพื้น
เย้นหว่านเหวี่ยงแขนที่หักของหญิงสาวออกไม่ต่างอะไรกับเศษขยะ ตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว
เด็กๆ กับผู้ปกครองรอบๆ ที่เห็นเหตุการณ์นี้ สีหน้าต่างก็เปลี่ยนไป แล้วมองดูเย้นหว่านดูความไม่อยากจะเชื่อ
ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ ใช้แค่มือเดียวก็สามารถบีบแขนของคนคนหนึ่งให้หักได้
น่ากลัวจริงๆ
โห้หยูเซิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเย้นหว่าน ได้แต่จ้องมองเย้นหว่านด้วยความช็อก ไม่ได้รู้สึกกลัวเลยสักนิด แต่กลับเป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่า หญิงสาวที่ผอมบางที่อยู่ตรงหน้า ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนี้
ข้อมือเล็กๆ ของเธอ เหมือนช่วยพวกเขายันท้องฟ้าที่กว้างใหญ่เอาไว้
“อ้า เจ็บจะตายอยู่แล้ว แก นังสารเลว ทำไมแกถึงกล้า ทำไมถึงล้าทำกับฉันแบบนี้? ฉันจะให้ผัวฉันฆ่าแกซะ ฉันเอาแกตายแน่!”
หญิงสาวกุมข้อมือคุกเข่าอยู่ตรงพื้น กรีดร้องออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
ในเวลาเดียวกัน เธอก็หันไปพูดกับไอ้อ้วนว่า “ร้องอะไรนักหนา ไปเรียกพ่อแกมาสิ ใช้นาฬิกาโทรศัพท์ของแกเรียกพ่อแกมานี่เดี๋ยวนี้!”