หัวหน้าบอดี้การ์ดเงยหน้าขึ้นมอง ท้องฟ้าแจ่มใส เป็นสีฟ้า จะเป็นสีแดงได้ยังไง?
เขายิ่งวิตกกังวลมากขึ้นกว่าเดิม กลัวว่าเย้นหว่านจะเกิดเรื่องอะไร “คุณหนู คุณ…”
“กลับกันเถอะ”
เย้นหว่านพูดขึ้นอย่างกะทันหัน น้ำเสียงนิ่งเรียบมาก
เรียบซะจนไม่อยากจะเชื่อ ว่าเธอจะพูดคำนี้ออกมา ในเวลานี้
บอดี้การ์ดกังวลใจอย่างมาก ตามไปอยู่ข้างๆเธออย่างรีบร้อน “คุณหนู คุณโอเคหรือเปล่า?”
“ฉันไม่เป็นไร” เย้นหว่านเดินไปที่กองบัญชาการทีละก้าวๆ “ฉันก็แค่จู่ๆก็คิดได้แล้ว ว่าฉันควรจะทำอะไร”
ทำอะไร?
บอดี้การ์ดมองเย้นหว่านที่เป็นแบบนี้ กลับยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นไปอีก สู้เธอหาเรื่องใส่ตัวดึงดันจะไปทะเลทรายยังจะปกติกว่า
ชายร่างใหญ่สามสิบกว่าคน เดินตามเย้นหว่านอย่างไร้ความคิด
เย้นหว่านเดินตรงไป ไม่สนใจเลยว่าพวกเขาจะตามมาหรือไม่ กระทั่งในสายตาของเธอไม่เห็นการมีตัวตนอยู่ของคนข้างๆ
เธอเดินเข้าไปในกองบัญชาการ
ผู้ที่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ล้วนเป็นคนระดับสูงและคนสำคัญ เย้นหว่านเดิมทีก็ไม่เคยสร้างปัญหาให้พวกเขา
ดังนั้น ตอนที่ยามเฝ้าประตูเห็นเธอ ต่างสับสนจะหยุดหรือไม่หยุดเธอไว้
ในระหว่างที่กำลังพิจารณาอยู่นั้น เย้นหว่านได้ก้าวเข้าประตูมาเรียบร้อยแล้ว
ยามเฝ้าประตู: “……”
พวกเขามองตากันเล็กน้อย ก้มหน้าละอายใจ ทำเป็นว่าเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เย้นหว่านเข้ามากลับทำให้บุคลากรระดับสูงหลายคนต่างรู้สึกประหลาดใจ แต่ว่าตอนนี้ทุกคนล้วนยุ่งมาก ไม่มีเวลามาสนใจเธอ
เย้นหว่านเดินไปหยุดตรงหน้าของกงจืออวี
“แม่ หนูต้องการเข้าร่วมบัญชาการรบกับตระกูลหยู”
กงจืออวีที่ยุ่งจนสลัดตัวออกมาไม่ได้: “……”
เธอทั้งตกใจทั้งปวดหัว คิดอยู่สักพัก แล้วจึงเกลี้ยกล่อมเธออย่างอ่อนโยน “เสี่ยวหว่าน ลูกวางใจเถอะ แม่ทำเองไหว ลูกไม่รู้เรื่องพวกนี้ อย่ายุ่งเลย ตกลงมั้ย? ”
“ที่นี่ ไม่มีใครคุ้นเคยกับตระกูลหยูดียิ่งกว่าหนู”
เย้นหว่านน้ำเสียงแน่วแน่ “หนูวางแผนจัดการกับหยูฉู่สองได้ หนูต้องการเพียงแค่ส่วนหนึ่งของอำนาจสั่งการตามลำพังเท่านั้น เรื่องอื่นๆหนูจะไม่ยุ่ง”
กงจืออวีตกใจ วางแผนเพื่อจัดการกับหยูฉู่สองตามลำพัง?
หยูฉู่สองนั่งอยู่ในตระกูลหยู ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ไม่ว่าจะลอบสังหาร หรือว่าทิ้งระเบิด ต่อให้ใช้สายลับ ก็ไม่มีทางเอาชีวิตเขามาได้
เย้นหว่านสามารถทำอะไรได้?
กงจืออวีขมวดคิ้วแน่น รู้สึกหนักใจ
เย้นหว่านพูดขึ้นอีก: “เมื่อก่อนหนูถูกพวกคุณปกป้องมาตลอด ทำอะไรไม่ไดสักอย่าง เรื่องมาถึงวันนี้ ถ้าหนูยังไม่เข้มแข็งอีก ยังไม่ลุกขึ้นมาอีก หนูก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกหลานตระกูลเย้น”
“แม่ หนูควรจะโตได้แล้ว”
คำไม่กี่คำเหล่านี้ เปื้อนไปด้วยเลือดเต็มไปด้วยน้ำตา เส้นทางแห่งการเติบโตนั้นเต็มไปด้วยขวากหนามและความเจ็บปวด
หัวใจของกงจืออวีเจ็บเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง ถ้าหากทำได้ เธอยินดีที่จะให้เย้นหว่านเป็นเจ้าหญิงน้อยที่น่ารักและใสซื่อไปตลอดชีวิต ไม่สอนทักษะใดๆให้แก่เธอ ไม่ให้เธอสัมผัสกับโลกมืด ไม่ให้มือของเธอเปื้อนเลือด
แต่ว่าวันนี้…
บนตัวเธอแบกรับมากเกินไป หัวใจของเธอเป็นรูพรุนหมดแล้ว
“ตกลง”
กงจืออวีถอนหายใจเฮือกใหญ่ “แม่จะให้เย้นเซิ่งอยู่กับลูก เขาเป็นคนสนิทของบิดาลูก ความรู้ก็ยังมีมากกว่าแม่ เขาสอนลูกได้ว่าทำยังไง ถ้าลูกไม่เข้าใจ เขาก็จะชี้แนะให้ลูก”
เย้นเซิ่งเป็นรุ่นลุงที่มีอยู่ ติดตามบิดามาหลายสิบปี สถานะในตระกูล เป็นคนที่เย้นหว่านเรียกว่าคุณลุง
อย่างเคารพนับถือเมื่อพบเจอ
กงจืออวีส่งเย้นเซิ่งให้แก่เธอ ก็เพราะปรารถนาดี
ให้เธอได้เรียนรู้หลายๆอย่างจากศึกครั้งนี้ และก็เพื่อปกป้องเธอด้วย ไม่ให้เธอเดินทางที่ผิด
เย้นหว่านรับไว้ ตอบตกลงโดยไม่ลังเล
เธอมีจุดประสงค์เดียวเท่านั้น ชัดเจนมาก นั่นคือต้องฆ่าหยูฉู่สองให้ตาย เรื่องอื่นๆทั้งหมดเธอไม่สนใจ
เย้นหว่านรับช่วงต่อ และเริ่มจดจ่อกับการศึกษาสถานการณ์ปัจจุบัน จะจัดการกับหยูฉู่สองอย่างไร
ตอนนี้อยากจะช่วยพี่ชายและพวกเขา จะต้องหาวิธีที่คาดไม่ถึงเอาชนะอีกฝ่ายถึงจะได้ผลลัพธ์รวดเร็ว
เพื่อหาวิธี เย้นหว่านจดจ่อทั้งกายและใจ อยู่ในห้องบัญชาการตลอด24ชั่วโมง นอกจากกินข้าวดื่มน้ำเข้าห้องน้ำแล้ว แทบจะไม่ให้เวลาตัวเองพักผ่อนเลย
เย้นเซิ่งรายงานกงจืออวีอย่างเป็นห่วง “คุณนาย ถ้าคุณหนูยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะครับ”
กงจืออวีส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ถ้าเธอไม่เป็นแบบนี้ หัวใจเธอคงทนไม่ได้ คุณดูเธอไว้ละกัน เมื่อไหร่ที่ทนไม่ไหว เธอก็จะล้มเอง”
เวลานี้ กงจืออวีกลับคาดหวังให้เย้นหว่านล้มลงมา อย่างน้อยก็เป็นลม เธอจะได้นอนหลับสักหน่อย
ตอนนี้ทุกคนล้วนอยู่บนเส้นแห่งความเป็นและความตาย ทุกคนต่างพบเจอกับเรื่องร้ายๆ
……
ทะเลทราย
ดวงอาทิตย์ร้อนระอุ ทรายคละคลุ้ง ทุกหนทุกแห่งเป็นสนามรบมีควันไฟคลุ้งโขมง ซากศพและคราบเลือด
เดิมทีที่เป็นฐานทัพองค์กร ตอนนี้กลายเป็นหลุมทรายขนาดใหญ่ สิ่งก่อสร้างและดินทรายผสมเข้าด้วยกัน จนแยกไม่ออก
เย้นโม่หลินในขณะนี้กำลังซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ สู้รบกันคนที่บุกเข้ามารอบด้านอย่างบ้าคลั่ง
พวกเขาถูกล้อมไว้แล้ว
กำลังทำการป้องกันการบุกรุกของศัตรูเป็นครั้งสุดท้าย ส่วนคนที่ขุดลงไปเพื่อตามหาคน ก็ยังไม่มีใครขึ้นมาเลยสักคน
“นายน้อย พวกเรารอต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องรีบฝ่าออกไป ไม่อย่างนั้นอยู่ที่นี่ต่อไปมีแต่ตายสถานเดียว” ลูกน้องทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด เสนอความเห็นแก่เย้นโม่หลินอย่างรีบร้อน
คนที่พวกเขาพามาเหลือไม่มากแล้ว
เย้นโม่หลินมองอุโมงค์ที่ขุดไว้ข้างๆ นี่เป็นอุโมงค์เดียวที่สามารถช่วยคนของพวกเขาได้ หากว่าพวกเขาไปแล้ว คนของหยูฉู่สองจะต้องเข้ายึดครองอย่างแน่นอน
พวกเขาลงไป ไม่ว่าจะตายหรือมีชีวิตอยู่ ขอแค่หาคนตระกูลเย้นของพวกเขาให้เจอ ก็จัดการทั้งหมดได้แล้ว
หากเขาไปแล้ว ก็หมายถึงละทิ้งทุกคนที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่ด้านล่างนี้
เย้นโม่หลินสีหน้านิ่งขรึม ผ่านไปสักพัก ก็กัดฟันพูดว่า:
“จะทอดทิ้งใครก็ตามที่ยังมีชีวิตอยู่แม้แต่คนเดียวไม่ได้เด็ดขาด”
บริวารลำบากใจมาก “แต่ว่า…เราอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก พวกพี่น้องใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว”
ฝ่ายสนับสนุนก็ยังมาไม่ถึง
หากว่าไม่เสียสละสิ่งที่สำคัญเพื่อปกป้องสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือสูญสิ้นทุกอย่าง
เย้นโม่หลินเป็นถึงนายน้อย คนที่สำคัญที่สุดในตระกูลเย้นตอนนี้ ยิ่งจะให้เกิดเรื่องไม่ได้
“นายน้อย คิดดูอีกทีนะครับ…”
“ไม่จำเป็นต้องคิดพิจารณา”
ท่าทางของเย้นโม่หลินแน่วแน่มั่นคง เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เดินไปยังอุโมงค์ด้านข้าง “พวกเราทุกคนลงไปทั้งหมด”
“อะไรนะ?” บริวารตกใจ “สถานการณ์ข้างล่างไม่ชัดเจน พี่น้องที่ลงไปก็ยังไม่ขึ้นมาเลย ไม่แน่ว่าอาจจะมีอันตราย พวกเราลงไปในเวลานี้ ด้านบนยังไม่มีใครรับช่วงต่อ คนของหยูฉู่สองก็ปิดกั้นด้านบนไว้ ลงไปก็เท่ากับ…”
เขาไม่ได้พูดจนจบ แต่ความหมายนี้ไม่พูดก็รู้ ชัดเจนก็คือหาที่ตาย
เย้นโม่หลิน: “ถ้าไม่ลงไป ทุกคนที่อยู่ด้านล่างก็คือตายสถานเดียว ถ้าลงไปแล้ว ทุกอย่างยังมีตัวแปรอยู่”
ถึงแม้จะเป็นการก้าวลงนรก ค่อยหาเส้นทางอื่นรอดออกมา
ยิ่งไปกว่านั้น เหตุผลที่เขาไม่ยอมละทิ้งง่ายๆโดยเด็ดขาด ยังมีโห้หลีเฉินและป่ายฉี พวกเขาทั้งหมดยังอยู่ด้านล่าง
ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ปล่อยให้เกิดเรื่องไม่ได้ ยิ่งจะตกไปอยู่ในน้ำมือของหยูฉู่สองไม่ได้!
“ไป!”
เย้นโม่หลินออกคำสั่งที่ขัดขืนไม่ได้ และนำกระโดดจากทางเข้าลงไปก่อน
แม้ว่าบริวารจะเตือนแล้ว แต่เมื่อนายน้อยตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขาก็ไม่มีความหมาย กระโดดตามลงไปพร้อมกัน
คนอื่นๆตามมาทีละคน
หลังจากที่ผู้คนสุดท้ายเข้าไปแล้ว ค่อยใช้ระเบิดปิดทางเข้านี้ไว้
เสียงดัง”บึ้ม” ฝุ่นฟุ้งกระจาย ทรายก็ไหลลงมาเสียงซ่าๆ ฝังกลบทุกสิ่งทุกอย่างอีกครั้งหนึ่ง