สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่ 1225 ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า

บทที่ 1225 ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า

หญิงสาวโกรธจนเส้นเลือดปูดโปน ถ้าหากสามารถฆ่าได้ เธอจะไม่ลังเลแม้แต่น้อยอย่างแน่นอน

ป่ายฉีก็ปากดีไปอย่างนั้น ทำให้หญิงสาวที่เกือบโกรธแทบตายต้องผิดหวังในที่สุด

ที่กลับมาช่วยเธอก็ไม่ใช่เพราะเขาใจดีอะไร แต่เพราะก่อนหน้านี้ได้สัญญากับเจ้าเด็กหมายเลข73นั่นไว้ หากเป็นไปได้ก็จะให้ทางรอดกับมนุษย์พันธุ์แกร่งพวกนี้

ความจริงแล้วพวกเขานั้นน่าเวทนาที่สุด ถูกเลือกมาเข้าร่วมการทดลองยามนุษย์พันธุ์แกร่งตั้งแต่เด็ก ในหลายร้อยเกือบพันคนนั้น ที่เหลือรอดมาได้ก็มีเพียงไม่กี่คน

และต่อให้รอดมาได้ ก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากฤทธิ์ของยาเสริมแกร่งโดยตลอด เมื่อเติบโตขึ้นมาก็ถูกบังคับให้ทำภารกิจ สังหารคน จนกลายเป็นเครื่องจักรไร้ความรู้สึก

พวกเขาไม่เพียงแค่ไม่มีชีวิตของเป็นตัวเอง แม้แต่ความคิดอ่านก็ยังถูกช่วงชิงไปด้วย

ป่ายฉีก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเมื่อช่วยผู้หญิงคนนี้แล้วจะสามารถเปลี่ยนแปลงเธอได้ไหม หากเปลี่ยนไม่ได้ก็มีแต่ต้องฆ่าเธอ แต่ถ้ามันมีโอกาสเพียงน้อยนิดนั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เขาก็รับปากว่าจะช่วยเธอ

นอกจากนี้ กับยัยคิงคองนี่ เขาก็อยากจะลองทำให้เชื่องดูจริง ๆ

ถึงยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นในโลกนี้ที่เกือบจะทารุณเขาจนตาย องอาจเสียจริง ห้าวหาญจนทำให้เขาเกิดอยากท้าทาย อยากจะทำให้เธอเชื่องขึ้นมา

ยังคงมัดหญิงสาวไว้แน่น แล้วโยนเธอขึ้นพาดบนหลังเหมือนกับกระสอบอย่างนั้น

หญิงสาวที่ถูกบังคับให้ติดอยู่กับเขาขมวดคิ้วแน่น รู้สึกเพียงทั่วร่างตั้งแต่หัวจรดเท้าเต็มไปด้วยความต่อต้านและรังเกียจ

“นายฆ่าฉันซะจะดีกว่า ถ้านายพาฉันออกไป ขอแค่มีลมหายใจฉันก็จะหาโอกาสสังหารนายได้ทุกที่ทุกเวลา! ราชสีห์ยังมีเวลาที่งีบหลับนับประสาอะไรกับนาย นายช่วยฉันก็เหมือนกับฆ่าตัวตายนั่นแหละ”

หญิงสาวค่อย ๆ พูดลอดไรฟันอย่างชัดเจนและเย็นชา

ป่ายฉีเลิกคิ้ว แล้วหัวเราะพลางพูดอย่างหยอกล้อ “อยู่ด้วยกันมาไม่กี่วันเธอก็เป็นห่วงฉันขนาดนี้แล้วเหรอ? ยอมให้ตัวเองตาย แล้วยังโน้มน้าวให้ฉันมีชีวิตอยู่อีก ยัยคิงคอง เธอชอบฉันเข้าแล้วใช่ไหมล่ะ?

หญิงสาว “…..!”

ขนาดนี้แล้วยังโยงเข้าด้วยกันได้อีก เขาเป็นโรคประสาทหลอนหรือไง!

หญิงสาวโกรธจนอ้าปากค้าง เธอเบนหน้าออกด้วยความโมโห ไม่จะเสวนากับคนบ้าอีกต่อไปแม้แต่คำเดียว

ป่ายฉีแบกหญิงสาวแล้วค่อย ๆ ปีนขึ้นไปบนหน้าผาทีละน้อย

แม้ว่าอาการของเขาจะดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว แต่ยังไงเขาก็ยังอยู่ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัสและยังไม่ได้กินอะไรอยู่ดี ครั้งนี้ การปีนหน้าผาโดยแบกผู้หญิงอยู่บนหลังถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งและเหนื่อยสุด ๆ

ปกติแล้วเขาสามารถใช้วิชาตัวเบาเดินเหินขึ้นไปบนหน้าผาได้ในไม่กี่นาที ที่เขาตะลึงก็คือเขาต้องพักอยู่หลายครั้งถึงจะเค้นพลังปีนขึ้นไปได้อีกครั้ง

หญิงสาวที่ถูกเขาบังคับมาแบกไว้มองป่ายฉีอย่างเย็นชา ยังไม่วายจะเอ่ยถากถาง

“ถ้าไม่ไหวก็อย่าดันทุรังเลยน่า เดี๋ยวได้ตกลงไปตายร่างแหลกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยกันพอดี”

น้ำเสียงนั้น ฟังดูแล้วเหมือนเธอจะมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ช่างเป็นผู้หญิงที่อยากจะตายไปพร้อมกับเขาตลอดเวลาเสียจริง ๆ

ป่ายฉีใช้แขนเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นอย่างต่อเนื่องที่หน้าผาก สีหน้าซีดขาวจนไร้สีเลือดกลับยังคงมีท่าทีหยอกล้อ

“วางใจเถอะ มีฉันอยู่เธอไม่ตายหรอก ฉันยังต้องพาเธอกลับไป พาเธอไปผ่าตัดกายวิภาคเพื่อศึกษาภายในของเธออย่างเต็มที่เลย”

กายวิภาค?

ศึกษาภายใน?

สมองของหญิงสาวมีภาพเลือดสาดอะไรพวกนั้นปรากฏขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ทำให้เธอตัวสั่นโดยไม่ตั้งใจ

ยิ่งรอคอยให้ป่ายฉีตกลงไปอย่างเร่าร้อน

ดังนั้นเธอจึงออกแรงบิดตัวอย่างแรง ทำให้ป่ายฉีที่ปีนอย่างยากลำบากอยู่แล้วเกือบจะจับไม่อยู่แล้วตกลงมา

ป่ายฉีโกรธจนหน้าเขียวคล้ำ ลมหายใจติดขัด

มีความรู้สึกอยากจะโยนผู้หญิงคนนี้ลงไปทั้งอย่างนี้เลย

เขากัดฟัน “ถึงเธอจะขยับ พยายามถูไถกับร่างกายฉัน ฉันก็จะขึ้นไปจัดการเธออยู่แล้วล่ะน่า!”

การต่อสู้ดิ้นรนของหญิงสาวหยุดชะงักในทันที ใบหน้าทั้งขาวทั้งแดง

ต่อให้เธอจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็สู้ความไร้ยางอายของผู้ชายคนนี้ไม่ได้!

แม้จะไม่เต็มใจ แต่ทั้งสองคนก็กระทบกระแทกกัน ก่อนที่ป่ายฉีจะเหนื่อยจนกระอักเลือด ในที่สุดก็ปีนขึ้นมาได้

เมื่อพลิกตัวขึ้นมาถึงปากถ้ำ ป่ายฉีก็มือไม้อ่อนแรงทรุดลงกับพื้น ร่างกายผูกติดกับหญิงสาวกลิ้งไปตามทางลาดของพื้นทรายไปด้วยกันหลายรอบอย่างควบคุมไม่ได้

หญิงสาวกลิ้งตีลังกาจนหัวหมุนตาลาย กระดูกแทบจะแตกร้าวไปหมด

นั่นยังไม่ใช่เรื่องสำคัญ ประเด็นคือตอนที่กลิ้งไป เธอก็แทบจะแนบเข้าไปในเนื้อของป่ายฉีทั้งตัว โอบกอดกันแนบแน่น

สัมผัสแบบนี้ทำให้เธอแทบคลั่งด้วยความรังเกียจจนอยากจะลอกผิวหนังของตัวเองออกทั้งตัว

น่าขยะแขยงเกินไปแล้ว

ในที่สุดก็กลิ้งมาจนถึงสุดเนิน ร่างกายของพวกเขาจึงหยุดลงได้

ป่ายฉีก้มหน้านอนราบลงกับพื้นทราย กินทรายไปเต็มหน้าแล้ว บนหลังยังมีคนทับอยู่อีกคนหนึ่ง

เขาหมดเรี่ยวแรง ใบหน้าที่ฝังอยู่ในทรายคิดอยากจะคับแค้นตัวเองไปแบบนั้น

นี่มันบาปกรรมอะไรกันเนี่ย มันไม่ใช่แบบที่คนจะมีชีวิตอยู่ได้เลยจริง ๆ

เฮ้อ

เขาถอนหายใจ ป่ายฉีฝืนลุกขึ้นมาแล้วแก้มัดหญิงสาวออกมาไว้ข้าง ๆ

หญิงสาวใช้โอกาสนี้กลิ้งตัวไปหลายครั้ง พยายามจะอยู่ห่างจากป่ายฉีให้มากเท่าที่จะทำได้

ป่ายฉีหัวเราะเยาะ “เธอกลิ้งไปไกลขนาดนั้นแล้วจะได้อะไร? ก็ไม่พ้นฉันเดินไปสองสามก้าวเองนี่”

พูดดังนั้น เขาก็สาวเท้าเดินเข้าไปใกล้หญิงสาว

หญิงสาว “……” เธอไม่อยากจะพูดอะไรแล้ว

ป่ายฉีสงบใจลง เดินไปที่ข้างตัวหญิงสาวและนั่งยอง ๆ สายตากวาดมองทั่วร่างของเธอตั้งแต่หัวจรดหัว

หญิงสาวถูกมองจนขนลุก “นาย นายอยากจะพูดอะไร?”

เธอถดตัวหนี ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชาและหวาดระแวง

ยังมีความกังวลที่ขนพองสยองเกล้าอยู่อีก เธอกังวลว่าคำพูดงี่เง่าของป่ายฉีที่พูดในถ้ำจะถูกนำมาใช้จริงในตอนนี้

ป่ายฉีจ้องหญิงสาวด้วยแววตาที่ลึกลับและนิ่งขรึม น้ำเสียงแหบแห้งอย่างมาก

“ที่นี่คือทะเลทรายสุดลูกหูลูกหา ไม่มีใครเห็นหรอก”

หญิงสาวเย็นเฉียบไปทั่วร่าง เธอค่อย ๆ เปล่งเสียงลอดไรฟันออก “นาย! กล้าดียังไง!”

“เฮอะ ฉันมีอะไรที่ไม่กล้าด้วยเหรอ? ตอนนี้ชีวิตน้อย ๆ ของเธออยู่ในมือของฉันแล้ว ฉันจะทำยังไงก็ได้”

ป่ายฉีลำพองตัวสุด ๆ แล้วเอื้อมมือไปฉีกชุดรัดรูปด้านนอกของหญิงสาวออก

หญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว ใบหน้าซีดเผือดและสิ้นหวัง “ป่ายฉี ฉันจะต้องฆ่านายให้ได้!”

ความอัปยศใหญ่หลวง ไม่ฆ่าเขาก็ไม่ขอเป็นคน

ป่ายฉีเลิกคิ้ว แล้วเปล่งเสียง “อ่าฮะ” ออกมาเรียบ ๆ แล้วลงมือต่อ

หญิงสาวหลับตาแน่นด้วยความสิ้นหวัง

จากนั้นรู้สึกได้ถึง….ความเจ็บแสบจาง ๆ ที่แล่นขึ้นมาจากบาดแผล นั่นคือความรู้สึกทุกครั้งตอนทายาลงบนแผลที่เธอคุ้นเคยที่สุด

เธอเบิกตาขึ้นอย่างตกตะลึง มองอย่างไม่อยากเชื่อ ไม่นึกว่าป่ายฉีจะกำลังทายาที่แผลให้เธออยู่

เขา เขาไม่ได้จะทำเรื่องอย่างนั้นกับเธอหรอกเหรอ……

หญิงสาวนิ่งงันด้วยความตกตะลึง หัวใจเต้นแรง ไม่รู้ว่าเพราะรอดพ้นจากภัยพิบัติมาได้หรือเพราะความรู้สึกที่สลับซับซ้อน

บนตัวของป่ายฉีพกแค่ยาธรรมดาเท่านั้น เขาทำแผลภายนอกให้กับหญิงสาวอย่างง่าย ๆ เพื่อไม่ให้บาดแผลอักเสบเน่าเปื่อยไปมากกว่านี้

เขาทำเรื่องพวกนี้อย่างเป็นระบบระเบียบ แต่ปากก็ยังพูดกระแนะกระแหน

“ไม่ต้องตื่นเต้นเกินไปหรอก ฉันแค่ไม่อยากให้เธอติดเชื้อตายระหว่างทาง ฉันยังต้องพาเธอกลับไป การผ่าขณะยังมีชีวิตอยู่ค่อนข้างน่าสนใจกว่า”

ความหวั่นไหวเล็กน้อยในหัวใจของหญิงสาวหายไปในทันที แทบอยากจะฉีกป่ายฉีเป็นชิ้น ๆ อีกครั้ง

ป่ายฉีทำแผลไปพลางเอ่ย “จิ๊ ๆ ทำไมในเลือดของเธอถึงปนสีเขียวด้วยล่ะ? มันขัดกับสามัญสำนึกทางวิทยาศาสตร์นะ เธอยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่าเนี่ย?”

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท