ถึงแม้จะเป็นอย่างนี้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถเขย่าตำแหน่งของเธอได้
เธอยังคงเป็นเลขาที่ดีที่สุดเคียงข้างโห้หลีเฉิน และเป็นสาวสวยที่ติดตามโห้หลีเฉินอยู่ทุกวัน
งานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาในครั้งนี้ นอกจากบรรดาคนดังของเมืองแล้ว บรรดาข้าราชการชั้นสูงของเมืองและประเทศก็มาร่วมงานด้วย ซึ่งเธอติดตามอยู่ข้างกายโห้หลีเฉินตลอดเวลา
จึงกลายเป็นคู่ควงของเขา
เธอควงแขนของโห้หลีเฉินเดินไปบนพรมแดง ตอบรับแสงไฟของสื่อทั้งหมดอย่างมั่นใจ ในเวลานี้ เธอดูไม่เหมือนเลขานุการที่กำลังทำงานอยู่เลย แต่เหมือนผู้หญิงจากชนชั้นสูง
อีกทั้งยังสามารถยืนข้างโห้หลีเฉิน เป็นผู้หญิงที่คู่ควรกับความหล่อเหลาของเขา
ทุกคนต่างพากันอิจฉาตาร้อน
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพถ่ายของคนสองคนที่อยู่เคียงข้างกัน ดูเหมาะสมและกลมกลืนกันมาก
ในงานเลี้ยง
เลขาสาวยืนข้างกายโห้หลีเฉินคุยกับแขกในงานอย่างสง่างาม สีหน้าของโห้หลีเฉินเย็นชา ไม่ยิ้มแย้ม เหมือนภูเขาน้ำแข็งที่เคลื่อนไหวได้ แต่เธอกลับมีรอยยิ้มที่เป็นมิตรและอ่อนหวานประดับอยู่ตลอด ซึ่งละลายความหนาวเย็นที่แผ่ออกมาจากตัวของโห้หลีเฉินได้
ทำให้ตอนที่คุยกับโห้หลีเฉิน พวกเขาสามารถผ่อนคลายได้มากขึ้น
คู่ค้าทางธุรกิจส่วนใหญ่ ต่างก็ประทับใจในตัวเธอมาก
หลังจากพูดคุยกันจบ โห้หลีเฉินกับเธอก็ได้ความสนใจมากพอแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ว่าเธอคือคู่ควงของโห้หลีเฉินแล้ว
บางคน ถึงกับพูดหยอกล้อออกมาต่อหน้า
มีผู้หญิงหลายคนเดินมาชนแก้วด้วย พอเห็นเลขาสาวก็ส่งยิ้มอย่างประจบประแจงเป็นพิเศษ
“เลขาเก่อ วันนี้คุณสวยมากเลยค่ะ ผู้หญิงที่อยู่ที่นี่ในคืนนี้ คุณสวยและเปล่งประกายที่สุด เหมือนดอกกุหลาบสีแดงที่บานสะพรั่ง สวยได้น่าทึ่งมากเลยค่ะ”
เก่อหรูซวนมีรอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าของเธอ ไม่มีความหยิ่งผยองอยู่เลย “คุณหนูมู่พูดเกินไปค่ะ ผู้หญิงที่มาในงานต่างก็สวยกันทุกคน ดิฉันเป็นแค่เลขา จะเทียบกับพวกคุณได้ยังไงล่ะคะ”
“ทำไมเลขาจะเทียบไม่ได้ล่ะคะ คนที่สามารถเป็นเลขาของคุณโห้ได้ คุณมีความสามารถที่คนธรรมดาไม่มี แบบนี้ทำให้หญิงสาวคนอื่นๆ เทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”
“ใช่ค่ะ หน้าตาและมารยาทของคุณ ดูยังไงก็เหมือนคุณหนูจากตระกูลใหญ่”
“ผู้หญิงทุกคนในงาน ไม่มีใครเทียบคุณ หรือมีคุณสมบัติที่จะยืนเคียงข้างคุณโห้ได้”
ผู้หญิงต่างพากันพูดประจบสอพลอไม่หยุด
สำหรับพวกเธอแล้ว การพูดประจบสอพลอโห้หลีเฉินเป็นเรื่องที่ยากกว่าขึ้นสวรรค์ซะอีก แต่จากสายตาของผู้ชาย พูดประจบสอพลอเก่อหรูซวนมันง่ายกว่ามาก
โห้หลีเฉินมองพวกผู้หญิงพูดหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานอยู่ตรงหน้า ทำให้เขาเริ่มหมดความอดทน
เขาวางแก้วไวน์ลง แล้วหันไปกระซิบกับเก่อหรูซวน “ผมจะไปห้องน้ำ”
“ได้ค่ะ ดิฉันรอคุณอยู่ที่นี่”
เก่อหรูซวนยกยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนและไม่เกินงาม
โห้หลีเฉินเดินออกไปด้วยขายาวเรียว
ผู้หญิงหลายคนที่อยู่ตรงหน้าเห็นฉากนี้ด้วย ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ และยิ่งให้ความสำคัญกับเก่อหรูซวนมากขึ้น
“เลขาเก่อ ความสัมพันธ์ของคุณกับคุณโห้สนิทสนมกันมากเลยค่ะ เขาจะไปไหนก็ต้องบอกคุณก่อน”
เก่อหรูซวนยกยิ้ม “นี่เป็นเรื่องภายในขอบเขตของงานค่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องปกติแน่นอนค่ะ คุณโห้เย็นชาเย่อหยิ่ง แม้แต่ต่อหน้าประธานบริษัทล้านล้าน เขาอยากจะไปทำอะไรก็ไป ไม่มีทางคิดจะอธิบายแน่ๆ”
“เพราะเป็นคุณ คุณโห้ถึงทำแบบนี้ หลายปีมานี้ ทุกคนเห็นมากับตา คุณที่อยู่เคียงข้างคุณโห้มีฐานะที่พิเศษที่สุดแล้วค่ะ”
“คุณโห้ต้องชอบคุณแน่ๆ ใช่ไหมคะ” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดอย่างสอบถาม “บางทีอีกไม่ช้าคุณจะกลายเป็นคุณนายโห้ก็ได้นะคะ”
สีหน้าของเก่อหรูซวนเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะรีบพูดอย่างร้อนใจ
“อย่าพูดเหลวไหลนะคะ คุณโห้แต่งงานแล้ว และมีภรรยาแล้ว”
“เย้นหว่านน่ะเหรอ เธอหายตัวไปสามปีแล้ว ว่ากันว่าเธอหายตัวไปไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นหรือตาย บางทีตอนนี้อาจจะ…”
“บุคคลที่หายตัวไปเป็นเวลาสามปี เป็นไปไม่ได้ที่จะกลับมา ใบทะเบียนสมรสของเธอกับคุณโห้ก็จะเป็นแค่เศษกระดาษ ที่โยนทิ้งได้ทุกเมื่อ”
“ตอนนี้ข้างกายคุณโห้มีแค่คุณคนเดียว คุณนายโห้คนต่อไปต้องเป็นคุณแน่นอนเลยค่ะ”
คำพูดของบรรดาผู้หญิงเหล่านั้น มองมาทางเก่อหรูซวนด้วยความสายตาหยอกล้อ
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นค่ะ ฉันกับคุณโห้แค่เพื่อนร่วมงานตามปกติเท่านั้นค่ะ” เก่อหรูซวนปฏิเสธสิ่งที่บรรดาผู้หญิงเหล่านั้นพูด แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ท่าทางของเธอก็ไม่ได้อวดดีหรือได้ใจเกินไป
ไม่โอ้อวดแต่ก็ไม่โต้แย้ง ก็เท่ากับสมรู้ร่วมคิด
ผู้หญิงพวกนี้ก็ฉลาดมากเช่นกัน พวกเธอรีบพูดยกยอปอปั้นต่อไปทันที
“คุณโห้ปฏิบัติต่อคุณแตกต่างไปจากคนอื่น ข้างกายมีคุณเป็นผู้หญิงมีเพียงคนเดียว เลขาเก่อ คุณจะต้องเป็นคุณนายโห้อย่างแน่นอนเลยค่ะ”
“เย้นหว่านก็เป็นอดีตไปแล้ว คนที่ไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครสนใจหรอกค่ะ พวกผู้ชายมักจะขี้ลืม บางทีคุณโห้อาจจะลืมเธอไปนานแล้วก็ได้”
“ใช่ค่ะ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเย้นหว่านเลยสักนิด”
“แล้วอีกอย่าง ไม่ใช่แค่พวกเราที่พูด ทุกคนต่างก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน ไม่ว่าจะไปถามใคร คนที่มีฐานะคนไหนจะไม่รู้ ว่าคุณเป็นคนของคุณโห้ พวกเขาล้วนแต่เคารพคุณจากก้นบึ้งของหัวใจในฐานะคุณนายโห้นะคะ”
พวกผู้หญิงกำลังพูดพล่ามไปเรื่อยๆ พยายามพูดประจบสอพลอไม่หยุดว่าเก่อหรูซวนเป็นคุณนายโห้
สีหน้าของเก่อหรูซวนลำบากใจ แต่ริมฝีปากสีแดงของเธอ ก็อดที่จะยกยิ้มขึ้นมาเบาๆ ไม่ได้
เธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นโห้หลีเฉินที่กำลังเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาหาเธอ
ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลา คมคาย ไร้ขอบเขต กล้าหาญชาญชัย นี่คือชายหนุ่มที่อายุยังน้อยแต่กลับมีอำนาจและยิ่งใหญ่มาก
อีกไม่นาน โลกทั้งใบก็จะเป็นของเขา
ผู้ชายแบบนี้ ไม่มีใครไม่หลงรักเขาได้
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ข้างกายเขาไม่เคยมีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาวุ่นวาย ถึงแม้เขาจะมีคู่ควงมาร่วมงานเลี้ยงกับเขาตลอด แต่เขาไม่เคยมองผู้หญิงเหล่านั้นเลย
ผู้หญิงคนเดียวที่เขาจะคุยด้วย มีแค่เธอเพียงคนเดียว
และเขาในตอนนี้ กำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ
นี่เป็นสิทธิพิเศษที่ผู้หญิงคนอื่นไม่เคยได้รับ
เรื่องนี้ยิ่งทำให้เก่อหรูซวนมั่นใจและภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้น ใบหน้าของหญิงสาวประดับไปด้วยรอยยิ้มงดงาม และมองสบตากับเขา ยืนต้อนรับเขานิ่ง
พวกผู้หญิงที่กำลังประจบสอพลอเองก็เห็นโห้หลีเฉินกำลังเดินเข้ามา แววตาของพวกเธอเต็มไปด้วยความอิจฉา
“ดูสิคะ ในดวงตาของคุณโห้มีเพียงแค่เลขาเก่อจริงๆ ด้วย”
“ผู้หญิงคนเดียวที่สามารถทำให้คุณโห้เดินเข้ามาหาได้ ก็มีแต่เลขาเก่อแล้วค่ะ”
“น่าอิจฉาจังเลยค่ะ”
ท่ามกลางเสียงพูดคุยกระซิบกระซาบ โห้หลีเฉินเดินเข้ามาทีละก้าว
พอเดินมาจนห่างจาก เก่อหรูซวนได้ประมาณสิบเมตร ในห้องโถง กลับมีเสียงของผู้หญิงที่อ่อนหวานและแฝงไปด้วยความขี้เล่นดังขึ้นมา
“ฉันได้ยินมาว่าสามีของฉันแอบควงผู้หญิงข้างนอกไม่ซ้ำหน้า ควงเลขาออกงานจนแทบจะแทนที่คุณนายโห้ของฉันไปแล้วเหรอคะ?”
เสียงของเธอชัดเจนมากจนทุกคนในงานต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจน
ทุกคนมองไปทางที่มาของเสียงไอรีนโนเวล
จึงเห็นรองเท้าส้นสูงสีแดงคู่หนึ่ง เดินลงมาจากบันไดชั้นสองอันหรูหราทีละขั้น
เธอสวมชุดสีแดงสด เผยให้เห็นรูปร่างที่เพรียวบางและสง่างามของเธอ
เธอแต่งหน้าอย่างละเอียดอ่อน ใบหน้าของเธอสวยราวกับเทพธิดาที่หลงเข้ามาในดินแดนมนุษย์ ทำให้ผู้คนที่ได้เห็นกลับสูญเสียจิตวิญญาณไปในพริบตา
บางคนตกตะลึงจนร้องเรียก เรียกชื่อของเธอออกมา
เย้นหว่าน