โห้หลีเฉินถูกบีบให้หลับไปอย่างไม่เต็มใจ
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกที ท้องฟ้าก็เริ่มสว่างแล้ว
ในหัวก็นึกถึงภาพก่อนหน้าที่ตัวเองหลับไป เขาปวดหัวจนอยากจะกดไปที่ขมับของตัวเอง แต่พอขยับมือแล้ว ก็ได้ยินเสียงก๊องแก๊งของโลหะกระทบกัน
เขาสะดุ้งตกใจและงงงันกับสิ่งที่เห็น มือของเขาทั้งสองข้างถูกพันธนาการไว้กลับเส้นเหล็กยาว!
นี่เขาถูกคนเอาโซ่ล่ามไว้เหรอเนี่ย? !!!
แต่เมื่อมองภายในห้อง มันคือห้องนอนของเขาไม่ผิดแน่ ถ้างั้นคนที่ล่ามเขาเอาไว้ จะต้องเป็นเย้นหว่านโดยไม่ต้องสงสัยแน่นอน
ผู้หญิงคนนี้ กล้าดียังไง!
” เย้นหว่าน! ”
โห้หลีเฉินร้องเรียกเธอเสียงดัง
” ฉันอยู่นี่ไง~ ”
ชั้นล่างก็มีเสียงผู้หญิงตอบกลับมา ” รอเดี๋ยวนะ อาหารเช้าใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ ”
นี่เธอยังจะมีอารมณ์มาทำอาหารเช้าอยู่อีกเหรอ แต่เขาไม่มีอารมณ์จะกินหรอกนะ
เขาใจคอห่อเหี่ยวถึงขีดสุด และพยายามใช้แรงกระชากเพื่อให้หลุดออกจากโซ่เหล็กอันนั้น แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ ไอ้โซ่เหล็กอันนี้ไม่รู้ว่าทำจากวัสดุอะไร เพราะดูแล้วมันเป็นเส้นบางๆ แต่คุณภาพดีเลยทีเดียว ถึงเขาจะใช้แรงทั้งหมดที่ตัวเองมี ก็ไม่สามารถแกะมันออกได้
ในขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับการต่อสู้กับโซ่เหล็กนี้อย่างสุดชีวิต ประตูห้องก็ถูกใครบางคนจากข้างนอกเปิดออก เย้นหว่านยกนมและไข่ดาวพร้อมเดินเข้ามา
เธออาหารเช้าวางไว้ข้างเตียง เธอยิ้มและพูดว่า” เหล็กอันนี้ฉันให้คนทำมันขึ้นมาโดยเฉพาะเลยล่ะ ถ้าไม่มีกุญแจก็แกะมันไม่ได้หรอกนะ ”
โห้หลีเฉินหน้านิ่งโดยพลัน
เขาจ้องเขม็งไปที่เธอ ” เอากุญแจมาให้ผม ”
เย้นหว่านส่ายหัว ” ถ้าฉันหรอกคุณเอาไว้แล้ว ฉันจะเอากุญแจให้คุณได้ยังไงกันล่ะ? คุณโห้ คุณคิดว่าฉันเป็นคนน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ ”
ไม่น่าเบื่อหรอก แต่ยิ่งอยู่ยิ่งแย่ต่างหากล่ะ
ถ้าคนอื่นกล้าทำกับเขาขนาดนี้ เขาต้องฆ่าคนคนนั้นจนตายแน่ แต่คนคนนั้นดันกลายเป็นคนที่เขาทั้งตีทั้งด่าไม่ลงอย่างเย้นหว่าน ภรรยาของตัวเองนี่สิ
โห้หลีเฉินพยายามกดไฟโกรธที่ปะทุอยู่ในท้องเอาไว้ แล้วพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
” เย้นหว่าน หยุดเล่นไม่รู้เรื่อง ปล่อยผมได้แล้ว ”
” คุณไม่ได้กินอาหารดีๆ มาหลายมื้อแล้วนะ มา กินข้าวเช้ากันดีกว่า นี่ฉันทำเองกับมือเลยนะ ”
ใบหน้าของเย้นหว่านเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และยื่นจานอาหารเช้าในมือไปตรงหน้าโห้หลีเฉิน
โห้หลีเฉินทำหน้าขรึม ” ไม่กิน ปล่อยผมเดี๋ยวนี้ อย่าให้ผมต้องโกรธ ”
ท่าทางของเขาตอนนี้ยังทุกโกรธไม่พออีกเหรอ?
เย้นหว่านไม่ได้มีท่าทียำเกรงแต่อย่างไร เธอตั้งจานเอาไว้ตรงลิ้นชักหัวเตียง
” คุณโห้ วันนี้ฉันยุ่งมาก คงอยู่ถกประเด็นว่าจะปลดโซ่เหล็กนี้ออกให้ได้หรือไม่ได้หรอกนะ ส่วนลวดเหล็กอันนี้ฉันให้คุณ บางทีคุณอาจจะลองเอามันไปไขตัวล็อกด้วยตัวเอง คงจะเร็วกว่าการที่คุณมาขอกุญแจจากฉันเยอะเลยล่ะ ”
เย้นหว่านส่งเหล็กเส้นนั้นเข้าไปที่มือของโห้หลีเฉิน ” วันนี้พี่ชายของฉันมีงานใหญ่ ฉันต้องไปบริษัทน่ะ ฉันจะพยายามกลับมาให้ทันตอนกลางวันเพื่อกินข้าวกับคุณนะคะ จุ๊บๆ ”
เมื่อพูดจบ เย้นหว่านก็เดินออกไปจากห้อง
โห้หลีเฉินอยู่ในอารมณ์โกรธจัด อยากจะตามไปจับตัวเธอไว้ แต่ข้อมือทั้งสองข้างถูกโซ่เหล็กพันเอาไว้อยู่กับที่ ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถดิ้นให้หลุดไปได้
เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ” เย้นหว่าน คุณกลับมาเดี๋ยวนี้! ”
สิ่งที่ตอบกับเขา คือเสียงของประตูที่เย้นหว่านปิดลงด้วยความนุ่มนวล
ภายในห้องเหลือเพียงเขาแค่คนเดียว เงียบเป็นเป่าสาก โห้หลีเฉินมองโซ่เหล็กบนมือของตัวเอง เขาเซ็งจนแทบอยากจะกระอักเลือด
หลังจากที่เขาพยายามและไม่ยอมแพ้อยู่พักใหญ่ แต่เขาไม่นึกเลยว่าตนจะหลงกลภรรยาของตัวเอง จนถูกล็อกอยู่บนเตียงเหมือนนกคีรีบูนแบบนี้!
ช่างน่าอับอายจริงๆ
เย้นหว่านทำเกินไปแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเอาคืนเธอให้ร้องไห้อย่างสาสม!
โมโหไปโมโหมา ไข่ดาวที่วางอยู่ข้างๆก็ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนมาเป็นพักๆ สองวันมานี้เขายังไม่ได้กินอะไรเลย บวกกับอาหารเช้าเป็นอาหารที่เย้นหว่านเป็นคนทำเองกับมือ เขาก็คงอดใจที่จะไม่กินมันไม่ได้
ช่างเหอะ ต้องกินอิ่มก่อนถึงจะมีแรงยื้อยุดฉุดกระชากกับไอ้โซ่เหล็กนี่
โห้หลีเฉินพยายามพูดเกลี้ยกล่อมตัวเองเป็นอย่างดี ก่อนจะลากโซ่เหล็กเป็นเสียงก๊องแก๊ง เพื่อที่จะเริ่มกินอาหารเช้า
เย้นหว่านก็มุ่งหน้าไปยังบริษัทแล้ว
เมื่อถึงบริษัทแล้ว เก่อหรูซวนก็มาขวางหน้าเธอไว้พร้อมกับถามว่า
” เย้นหว่าน คุณโห้ล่ะ? ”
เย้นหว่านเลิกคิ้ว แล้วมองหน้าเธอ ” สามีของฉันอยู่ที่ไหน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอมิทราบ? ”
” เธอ! ” เก่อหรูซวนโกรธจัด แต่ก็ทำได้แค่กดน้ำเสียงเอาไว้ และเปลี่ยนคำถามใหม่ ” เมื่อคืนเธอวางยาคุณผู้ชาย ให้เขามาที่บริษัทไม่ได้ ฉันน่ะไม่อยากจะคิดเล็กคิดน้อยกับวิธีการเลวทรามต่ำช้าแบบนี้ของเธอเลย แต่ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน ทำไมคุณผู้ชายถึงยังไม่มาอีก นี่เธอทำเรื่องเลวๆ อะไรใส่คุณผู้ชายใช่ไหม? ”
” ก็ไม่มีอะไรหรอก มันเป็นเรื่องสามีภรรยาที่สนุกกันก็เท่านั้นเอง ถ้าเธออยากรู้ขนาดนั้น ฉันก็จะบอกให้ ”
เย้นหว่านพูดออกมาอย่างไม่แยแส และไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ” ฉันใช้โซ่เหล็กสองเส้น ล็อกเขาไว้บนเตียง ถ้าไม่มีกุญแจของฉัน เขาก็คงออกมาไม่ได้หรอก ”
” อะไรนะ!? ”
เก่อหรูซวนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูของตัวเองได้ยินจริงๆ
ใช้โซ่เหล็กล็อกตัวโห้หลีเฉินเอาไว้บนเตียงเนี่ยนะ?
นี่มันใช่เรื่องที่คนธรรมดาเขาทำกันหรือไง?!
เย้นหว่านเป็นเมียที่ประสาทไปแล้ว โรคจิตแน่ๆ
เก่อหรูซวนชี้หน้าเธอแล้วด่า ” เย้นหว่าน ฉันขอเตือนเธอเอาไว้นะว่าอย่าทำเป็นได้ใจกับเรื่องชั่วๆ ที่ตัวเอง ที่เธอไม่ให้คุณผู้ชายมาบริษัท เป็นเพราะอยากให้พวกเราเป็นเรือที่ขาดหางเสือ และใช้โอกาสนี้ฮุบบริษัท ตี้เหา จำกัดเอาไว้ซะเอง เธอรีบปล่อยคุณผู้ชายออกมาเดี๋ยวนี้ แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ ”
เย้นหว่านไม่สะทกสะท้าน ” ไม่เกรงใจของเธอนี่คือยังไงเหรอ? จะลงไม้ลงมือกับฉัน? หรือว่าจะไปแย่งถึงบ้านฉันเลย? ไม่เป็นไร ยังไงก็ได้ ตามสบายจ้ะ ”
เก่อหรูซวนโกรธจนจุกอกไปหมด
เมื่อคืนก่อนเธอก็ให้คนบุกเข้าไปในบริเวณของวิลล่าส้ายน่าแล้ว แต่พวกที่เฝ้าคฤหาสน์เอาไว้ ได้ผ่านการถูกฝึกฝนขั้นสูงมา อย่างมากสุดคนของเธอก็ทำได้แค่ยื่นมือออกไป แน่นอนว่าไม่มีความสามารถพอที่จะต่อสู้ได้
ดังนั้น เมื่อวานกลางคืนก็เลยส่งคนสามสี่กลุ่มไป แต่ทั้งหมดก็พ่ายแพ้กลับมา
เดิมทีนึกว่าเย้นหว่านขังโห้หลีเฉินเอาไว้ แค่เพราะอยากให้เขานอนหลับพักผ่อน พอตอนเช้าวันนี้ก็ปล่อยโห้หลีเฉินมาบริษัท แต่นึกไม่ถึงเลยว่า……
เย้นหว่านจะทำเรื่องบ้าบอแบบนี้ออกมา
” เย้นหว่าน นี่เธอบ้าไปแล้วเหรอ ถึงอยากจะให้บริษัทบีบให้ฉันออก แต่ก็ไม่ถึงกับต้องทำแบบนี้กับคุณผู้ชายเลยนี่ เขาเป็นสามีของเธอแท้ๆ นี่เธอไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของเขาเลยเหรอ? เธอบีบบังคับเขาแบบนี้ ก็มีแต่จะทำลายความรู้สึกของเขา เขาจะเกลียดเธอ และไม่รักเธออีก ”
เก่อหรูซวนกัดฟันในขณะที่พูด
ถ้าสู้เย้นหว่านไม่ได้ ก็ใช้คำพูดแทน ให้มันเป็นมีดเสียบเข้าไปในใจของเธอ
แต่เย้นหว่านกลับฝึกความแข็งแกร่งนี้เอาไว้อย่างดี จึงไม่ได้มีท่าทีที่จะรู้สึกรู้สาแม้แต่น้อย
” ถ้างั้นแล้วยังไงล่ะ รักไม่รัก เขาก็ยังเป็นผู้ชายของฉันอยู่ดี รอไล่เธอออกไปได้ แค่ฉันทำอ้อนหน่อย และตั้งใจที่จะซ่อมแซมความรู้สึกระหว่างเรา เขาก็กลับมารักฉันเหมือนเดิมแล้วล่ะ”
เย้นหว่านยิ้มเหยียด เธอขยับเข้าไปใกล้เก่อหรูซวน และพูดจายั่วยุด้วยความอวดดี ” ดังนั้น การที่ฉันตบหัวลูบหลัง มันทำไม่ได้ตรงไหนเหรอ? ”
เก่อหรูซวนหมดคำพูดจะต่อกรกับเธอ
ถึงแม้วิธีการที่เย้นหว่านทำจะดูหน้าไม่อาย แต่มันกลับดูมีเหตุผลมาก เพราะโห้หลีเฉินรักเธอจนแทบจะฝังเข้าไปในกระดูก รักจนถวายชีวิตของตัวเอง ตอนนี้ถึงจะมีเรื่องที่ต้องทำให้สับสนหรือขัดแย้งกัน หรือทะเลาะกันจนฟ้าพลิกแผ่นดินสะเทือน แค่หลังเรื่องมันผ่านไปแล้วเธอยอมอ่อนข้อให้ อ้อนนิดอ้อนหน่อย แน่นอนว่าโห้หลีเฉินต้องใจอ่อนและยอมอภัยให้กับเธอ
พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ก็คงทำตัวตามแบบสามีภรรยาที่รักใคร่กลมเกลียวกันนั่นแหละนะ
แต่เพราะบริษัท ตี้เหา จำกัด เธอกับแผนการที่ตั้งใจวางไว้สามปี จะพังทลายลงไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่ได้
นี่คือเธอ เพราะแม้แต่ทุกคนก็คงไม่สามารถรับกับผลที่ตามมาหลังจากไม่ได้
” เย้นหว่าน เธอมันไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ถ้าคิดว่าสุดท้ายแล้วพวกเธอจะชนะโดยที่ไม่ต้องสูญเสียอะไรเลยอย่างนั้นหรือ? ช่างโง่เง่าสิ้นดี การที่เธอทำแบบนี้ก็มีแต่จะทำร้ายโห้หลีเฉินให้ตายนั่นแหละ ”
เก่อหรูซวนพูดเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะหันตัวแล้วเดินจากไป
เรื่องนี้มันแก้ไขยากเกินไป เธอรับมือกับเย้นหว่านไม่ไหว ก็คงต้องบอกให้เบื้องบนเป็นคนจัดการแล้วล่ะ