สองวันของการมาเที่ยวทะเล ภายใต้ความพยายามของเย้นหว่าน ทำให้เขาไม่มี‘โอกาส’แตะโทรศัพท์ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นเหตุให้ไม่ได้รับข้อความจากเก่อหรูซวน จนตระกูลเย้นตกอยู่ในความลำบาก ตี้เหากรุ๊ปถูกถล่มอย่างหนัก
เรื่องเหล่านี้ถ้ามองจากภายนอก จะคิดว่าเป็นเพราะโห้หลีเฉินที่ได้เย้นหว่านกลับคืนมาหลังจากที่สูญเสียไป จึงทำให้ใส่ใจ ห่วงใย รักและตามใจเธอมากเกินไป ดังนั้นจึงสูญเสียสติในการวิเคราะห์ และตกหลุมพรางของเย้นหว่านที่ใช้ความรักเป็นกับดัก
เขาถูกความรักบังตาถึงได้เป็นเช่นนี้
และเมื่ออยู่ต่อหน้าเจมส์และพรรคพวก โห้หลีเฉินก็แสดงท่าทีแบบนี้ตลอด ทุกๆ เรื่องจะต้องทำให้เจมส์โมโหจนต้องกระทืบเท้า จนโห้หลีเฉินถูกข่มขู่และลงโทษหลายต่อหลายครั้ง
แต่ความรักของโห้หลีเฉินที่มีต่อเย้นหว่าน บวกกับการแสดงที่สุดยอดของเขา ทำให้พวกเจมส์ไม่เคยเกิดความสงสัยคลางแคลงในตัวเขา
แต่ที่คิดไม่ถึง โห้หลีเฉินจะดูออกในวินาทีแรกถึงเจตนาของการชวนทะเลาะเพราะความหึงหวงของเย้นหว่านในตอนนั้น และเรื่องราวต่อจากนั้น เขาจึงพายเรือตามน้ำตามสถานการณ์ไป โดยอ้างความรักความตามใจในการทำลายตี้เหากรุ๊ปด้วยมือตัวเอง
เย้นโม่หลินอดไม่ได้ที่ทอดถอนใจ “ที่เสี่ยวหว่านทะเลาะกับนายก็แค่ต้องการไล่เก่อหรูซวนออกเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นอยู่ข้างกายคุณมาเป็นเวลาสองปี เป็นผู้หญิงปกติก็ต้องหึงหวงเป็นธรรมดา การขอให้ไล่เธอออกไม่ได้เป็นการขอมากเกินไป ทำไมนายถึงสงสัยเจตนาของเสี่ยวหว่านตั้งแต่ตอนนั้นล่ะ”
โห้หลีเฉินยิ้มแล้วก็ลูบศีรษะเย้นหว่าน “ภรรยาของผม ผมรู้ดี เธอเชื่อมั่นในความรักที่ผมมีต่อเธอ ก็จะไม่เป็นคนที่ไม่มีเหตุผล ต่อให้จะเกิดการหึงหวงถึงขั้นนี้ จะต้องไล่เก่อหรูซวนออกไปให้ได้ ถ้าหากว่าผมปฏิเสธ เธอก็จะไม่ตอแยและก็คงจะจากไปในตอนนั้นแล้ว”
แต่ว่าเย้นหว่านกลับอยู่ต่อ ยังประหนึ่งกับไก่ชนตัวผู้ก็ไม่ปาน ต้องการที่จะเข้าไปนั่งตำแหน่งหัวหน้าเลขาฯในตี้เหากรุ๊ป
ในสายตาคนนอกอาจมองว่าทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับโห้หลีเฉินที่รู้จักเย้นหว่านเป็นอย่างดี กลับรู้สึกว่าทุกการกระทำล้วนแปลกและมีเจตนา
ตอนที่เย้นหว่านทะเลาะเพราะความหึงหวงนั้น โห้หลีเฉินเกิดสงสัยเพียงเล็กน้อย จนกระทั่งเธอยื่นเงื่อนไขต้องการเป็นหัวหน้าเลขาฯ โห้หลีเฉินจึงได้มั่นใจว่า เย้นหว่านน่าจะรู้เรื่องราวทั้งหมด และกลับมาต่อกรกับอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง
เขาเคยกังวลถึงความปลอดภัยของเย้นหว่าน และก็เคยห้ามเธอ แต่ว่าปฏิกิริยาและความมุ่งมั่นของเธอ สุดท้ายทำให้โห้หลีเฉินยอมจำนนอย่างจนปัญญา
ห้ามปรามเธอไม่ได้ ก็ช่วยเธอแล้วกัน
สามีภรรยาจึงร่วมมือกันต่อกร คนหนึ่งอยู่ในที่แจ้ง อีกคนอยู่ในที่ลับ จัดการเจมส์และองค์กรนี้ ช่วยแรบบิทออกมา
“อย่างนั้นเสียวหว่านล่ะ เธอรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันว่าโห้หลีเฉินยืนจะอยู่ข้างเธอ เมื่อกี้เธอยังยั่วโมโหเจมส์ไม่ยั้ง แม้เขาจะกดปุ่มสวิตช์นาฬิกาพก เธอก็ไม่กลัว เธอแน่ใจได้อย่างไรว่าโห้หลีเฉินจะต้องมาได้ทันเวลา”
การบุกลุยเข้ามาไม่ใช่ประเด็นสำคัญของวันนี้ ประเด็นสำคัญของวันนี้คือ การแสดงของเย้นหว่านกับโห้หลีเฉิน เย้นหว่านยั่วยุโมโหเจมส์จนเอานาฬิกาออกมาเพื่อปกป้องตัวเอง มั่นใจว่ามีเพียงชิปนี้ชิปเดียว ส่วนโห้หลีเฉินก็มาลอบฆ่าในตอนท้าย จากนั้นเอานาฬิกาพกกลับคืนมา
ทั้งสองคู่ร่วมมือกันได้อย่างแนบเนียน
เย้นหว่านยิ้มขมขื่น “ตอนแรกฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าโห้หลีเฉินถูกล้างสมองไปถึงขั้นไหน บุคลิกและนิสัยของเขามีการเปลี่ยนแปลง ในคืนแรกที่กลับมา ฉันก็รู้แล้วว่าร่างกายของเขาได้รับสารพิษทางจิตประสาท”
“ในตอนแรกฉันจึงต้องเห็นโห้หลีเฉินเป็นเพียงศัตรู ต่อต้านอีกฝ่าย หรือแม้แต่ตอนที่อยู่ในห้องประชุมผู้ถือหุ้น ฉันก็จงใจวางแผนให้โห้หลีเฉินเลือกปกป้องระหว่างฉันกับบริษัท”
“เรื่องของเจมส์ก็มีเหตุผลที่ต้องจัดการก่อนแล้วค่อยมาบอกทีหลังเช่นกัน ฉันต้องแกล้งทำเป็นผยองลำพอง บอกกับสื่อและทุกคนว่าต้องการจะจัดการกับบริษัทเจมส์ให้สิ้นซาก เพื่อบีบบังคับให้คุณโห้ช่วยรักษาหน้าฉันอีกครั้ง จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องต่อกรกับเจมส์”
“ก่อนหน้านี้ ฉันยังคิดว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะฉันที่ได้วางแผนมาอย่างดิบดี บีบบังคับให้โห้หลีเฉินต้องทำแบบนี้ แต่ต่อมาเห็นเขาต่อกรกับฟีเจ๊กมอน ซึ่งต่อกรอย่างจริงใจและตั้งใจ ฉันจึงเริ่มระแคะระคายสงสัย”
“ในสายตาของคนอื่น เขานั้นทำเพื่อภรรยา แต่โห้หลีเฉินที่ฉันรู้จัก ต่อให้เขาจะทำเพื่อภรรยาอย่างไรเขาก็จะต้องตั้งสติ ตอนที่จัดการฟีเจ๊กมอนให้สิ้นซากเพื่อให้ฉันได้ระบายอารมณ์นั้น เขาจะต้องลดการสูญเสียของตัวเองให้น้อยที่สุด จะต้องไม่ทำให้ตี้เหากรุ๊ปได้รับความเสียหายมากมายขนาดนั้น”
พลางพูด เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินแล้วก็พลางยิ้ม “นี่เป็นแค่เพียงความสงสัยเท่านั้น ตอนที่มั่นใจจริงๆ นั้น คือตอนที่คุณโห้ทิ้งการทิ้งงาน แล้วไปทะเลกับฉัน ตอนนั้นถึงแม้ว่าคนอื่นจะไม่สังเกตเห็นถึงการกระทำของตระกูลเย้นที่ปฏิบัติต่อตี้เหากรุ๊ป เป็นไปไม่ได้ที่โห้หลีเฉินจะไม่รู้ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงมีท่าทีที่ไม่รู้ แล้วออกไปท่องเที่ยวทะเลกับฉัน
ตอนนั้น ฉันมั่นใจเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว และระหว่างที่คลุกคลีอยู่ด้วยกัน โห้หลีเฉินรับปากว่าจะไปเล่นน้ำทะเลด้วย แล้ววางโทรศัพท์ของเขาลง ฉันจึงมั่นใจ”
“และก็เป็นตอนนั้นที่ฉันอาศัยตอนที่กำลังสนุกกับการเล่นน้ำทะเล ยื่นมือไปให้กับเขา บอกเขาว่าจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกัน ซึ่งเป็นการทำข้อตกลงกับเขา ตอนนั้นที่พวกเราบอกว่าเคียงบ่าเคียงไหล่กัน เป็นการเคียงบ่าเคียงไหล่กันจริงๆ ร่วมต่อต้านกับคนที่อยู่เบื้องหลังด้วยกัน”
หลายปีแห่งความเข้าใจ ทำให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากออกมาเป็นคำพูด และในเวลานั้น แค่มองตาก็สามารถรับรู้เจตนาของอีกฝ่ายจากดวงตา
จากนั้นทุกอย่างก็ชัดเจนโดยไม่จำเป็นต้องอธิบาย
ตี้เหากรุ๊ปถูกโจมตี โห้หลีเฉินกับเย้นหว่านแตกหัก ต่างฝ่ายต่างทำร้ายซึ่งกันและกัน เย้นหว่านกักขังโห้หลีเฉินเป็นต้น……
แต่ว่าก็เป็นแค่การแสดงของคู่สามีภรรยาอย่างพวกเขา
เพื่อให้การแสดงสมจริง ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด จนกระทั่งก่อนเจมส์จะเสียชีวิต เย้นหว่านก็ไม่เคยนำเรื่องนี้ไปบอกกับใคร
เป็นเหตุให้เย้นโม่หลินเข้าใจว่าโห้หลีเฉินนั้นถูกล้างสมองจริงๆ และปกป้องเจมส์จากหัวใจ เมื่อเย้นหว่านจากไป ถึงได้ลูกน้องขวางโห้หลีเฉินไว้ แล้วทำการลอบสังหารเจมส์
และภายใต้การขวางแบบนี้ ทำให้เจมส์รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย จึงได้เข้าใกล้โห้หลีเฉินโดยไม่มีการป้องกัน และก็ถูกเขาสังหารในที่สุด
เรื่องราวทั้งหมดต่างเชื่อมโยงต่อกันเป็นขั้นเป็นตอน หากผิดพลาดไปขั้นตอนหนึ่ง จุดจบก็คงจะไม่เป็นแบบนี้
เย้นหว่านเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ นี่เป็นการเดิมพัน สิ่งที่เดิมพันคือเธอ คือโห้หลีเฉิน คือลูกๆ ทั้งสองคน คือชีวิตครอบครัวทั้งสี่คน
หากสำเร็จชีวิตที่เหลือก็จะอยู่เย็นเป็นสุข หากแพ้สิ่งที่ตามมาคือควาหายนะที่รุนแรง หรือบางทีอาจถึงแก่ชีวิต
“แต่ว่าพวกคุณไม่ได้มีการสื่อสาร โห้หลีเฉินนายมั่นใจได้อย่างไรว่าเสี่ยวหว่านจะต้องรู้เรื่องของแรบบิท ถ้าหากว่าเธอไม่รู้ล่ะ คงไม่มีความกังวลใดๆ คงไม่บีบเจมส์ให้ตายจริงๆ ”
โห้หลีเฉินกล่าวตอบ “เพราะว่าหานจื่อ”
“ผมถูกเจมส์ควบคุม ก็เป็นธรรมดาที่จะรู้สถานการณ์ของพวกเขา ลูกน้องที่เป็นมนุษย์พันธุ์แกร่งเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถใช้ได้ก็คือหานจื่อ การต่อกรกับป่ายฉีก็จะต้องเรียกตัวหานจื่อกลับมา และเมื่อหานจื่อลงมือ ป่ายฉีก็จะต้องสงสัยอย่างแน่นอน”
ที่เย้นหว่านกับป่ายฉีสามารถสืบเรื่องของแรบบิทได้ เป็นเพราะการปรากฏตัวของหานจื่อจริงๆ
“แต่ว่าเรื่องของแรบบิทนั้นเป็นความลับสุดยอดอย่างยิ่ง นายจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเย้นหว่านจะต้องสืบหาเจอ”
และก็เป็นเพราะรู้เรื่องราวของแรบบิท เย้นหว่านถึงได้เร่งความคืบหน้า กักขังโห้หลีเฉินทันที
แต่ตอนนี้เห็นทีการกักขังครั้งนี้เป็นไปตามที่โห้หลีเฉินคาดเดาไว้
โห้หลีเฉินมองเย้นหว่าน แววตาหรี่ลง น้ำเสียงแหบแห้ง
เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม :”ขอโทษ ความจริงแล้วสองปีก่อนผมก็หาตัวคุณเจอแล้ว”
“อะไรนะ”
คำพูดนี้ทำให้เย้นหว่านรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก