แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 4 จะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจแน่นอน
เสี้ยเมิ่งเหยากัดริมฝีปากซีดของเธอ ดวงตาที่ สวยงามของเธอค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอรู้ว่าแม่ของ เธอพูดถูก เฉินเฟิงก็ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ และสติก็บอก เธอว่า เธอควรจะจากเฉินเฟิงไปนานแล้ว
แต่ทุกครั้งที่นึกถึงสายตาที่อ่อนโยนและเต็มไป ด้วยความรัก เมื่อเฉินเฟิงมองเธอ หัวใจของเสี้ยเมิ่ง เหยาก็อ่อนลงอย่างไม่สามารถช่วยอะไรได้
ใช่ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เรื่องเลย แต่ผู้ชายคนนี้ ทำ เพื่อเธอเพียงแค่คำว่าไม่สบายกระเพาะคำเดียวโดยไม่ ได้ตั้งใจ และตื่นเช้ามาต้มโจ๊กให้เธอกินทุกวัน เป็น เวลาสามปีไม่เคยหยุด
ชายคนนี้ไม่มีความสามารถใดๆ แต่เป็นเวลาสามปี ไม่ว่าจะลมหรือฝน เขาจะไปรับเธอไปและกลับจากที่ ทำงานทุกวัน และเฝ้าดูเธอเข้า บริษัท อย่างปลอดภัย ก่อนจากไป
ในสามปี ผู้ชายคนนี้ ทำเพื่อเธอมามากเกินไป..
ก่อนที่เธอจะรู้ตัว บนใบหน้าสวยของเสี้ยเมิ่งเหยา ก็เต็มไปด้วยน้ำตา
“เมิ่งเหยา ไม่ใช่ว่าเธอ… ตกหลุมรักเฉินเฟิงไป แล้วเหรอ?” หลินหลันมองอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเห็นลูกสาวของเธอหน้าตาเช่นนี้ นี่ยังเป็นลูกสาวของเธอ ที่มีความภาคภูมิใจ เหมือนนกยูงอยู่หรือเปล่า?
เสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้พูดเลย และเธอก็ร้องไห้หนัก
มาก
เธอเอง ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
เมื่อมองไปที่เสี้ยเพิ่งเหยาที่ร้องไห้ดั่งสายฝนใน ดอกแพร์ หลินหลันก็รู้สึกเสียใจ นี่คือสิ่งที่เธอไม่เคย คาดคิดมาก่อน เมื่อก่อนตอนเสี้ยเพิ่งเหยาและเฉินเฟิง แต่งงานกัน เธอคัดค้านอย่างมาก แต่เธอก็ไม่สามารถ เอาชนะได้ สุดท้ายก็ต้องยอมให้ทั้งสองเข้า
ด้วยกัน
แต่อย่างไรก็ตามหลินหลันเข้าใจลูกสาวของตัว เองดี หยิ่งผยองมากกว่าตัวเองในตอนนั้น หลินหลันจึง มั่นใจมากเสี้ยเมิ่งเหยาจะไม่มีวันชอบคนไร้ประโยชน์ อย่างเฉินเฟิงแน่นอน แค่ผ่านไปสองสามปี เสี้ยเมิ่ง เหยาก็จะมองเห็นท่าแท้ของ เฉินเฟิงโดยพื้นฐาน แล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาก็จะจากเขาไปโดยที่เธอไม่ต้องพูดอะไร
เลย
แต่คราวนี้ เธอถูกตบหน้าไปแล้ว!
ลูกสาวของตัวเอง ไม่เพียงแต่ไม่ได้ออกจากคนไร้ ประโยชน์คนนั้น แต่ดูเหมือนเธอจะตกหลุมรักคนไร้ ประโยชน์คนนั้นไปแล้ว!
“เมิ่งเหยา แม่รู้ว่า เฉินเฟิงดีกับแกมาก แต่แกก็ต้องเข้าใจว่า คนสองคนต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต และ มีหลายสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ไม่สามารถมองเพียงว่าอีก ครึ่งหนึ่งดีกับแกหรือเปล่า จากฐานะของแกแล้ว สามารถหาผู้ชายที่ใจดีกับแก และมีเงินมาก..”
“แม่ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันเชื่อมั่นในตัวเฉินเฟิง” หลินหลันอยากจะเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง แต่ถูกเสี้ยเพิ่ง เหยาขัดคำพูด
ในตอนนี้ เสี้ยเมิ่งเหยาได้ยึดมั่นความคิดในใจของ เธอ ไม่ว่าชายคนนี้จะไร้ประโยชน์เพียงใด เธอก็จะไม่ จากไปอีกแล้ว นี่คือชีวิตของเธอ!
“เห้อ เมิ่งเหยาคุณจะเสียใจทีหลังนะ…” หลิน หลันถอนหายใจ เมื่อเห็นการแสดงออกของเสี้ยเพิ่ง เหยา หลินหลันก็เข้าใจแล้วว่าพูดมากแค่ไหนก็เปล่า ประโยชน์แล้ว
เสียใจทีหลังหรือ? ไม่ ไม่! ผมจะไม่ทำให้คุณ เสียใจแน่นอน!
อยู่นอกประตู เฉินเฟิงกำหมัดแน่นขึ้น
ฉันเชื่อมั่นในตัวเฉินเฟิง
เขารอคำพูดประโยคนี้มาสามปีแล้ว!
เมิ่งเหยา ขอบคุณนะ จากนี้ไป แม้ว่าโลกนี้จะ ทำให้คุณเสียใจ ผมเฉินเฟิง ก็จะไม่มีวันทำให้คุณ เสียใจ!
เฉินเฟิงหันหลัง และเดินจากไป จากนี้ไป บนร่างกายของเขาก็มีภาระที่เพิ่มขึ้นอีกแล้ว นั่นก็คือ- ทำให้เสี้ยเมิ่งเหยา กลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด ในโลก!
เขาจะแสดงให้หลินหลันเห็นว่า คนไร้ประโยชน์ ก็ สามารถมอบความสุขให้กับผู้หญิงที่รักของเขาได้!
“นายน้อย ตอนนี้มีเวลาไหม?” เฉินเฟิงได้รับ โทรศัพท์จากเฉินจง ทันทีที่ออกจากโรงพยาบาล
“มีอะไรเหรอ? ” เฉินเฟิงขมวดคิ้ว เขาเคยบอกเฉิน
จงไว้เมื่อวานนี้แล้ว ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญ อย่ามารบกวน
เขา เขาไม่อยากให้วันเวลาที่สงบสุขของเขาต้องพัง
ทลาย
“นายน้อย ข้าน้อยเห็นว่าคุณยังไม่มีที่พักในชาง โจว ดังนั้นเมื่อคืนนี้ข้าน้อยจึงได้ตัดสินใจเอง และซื้อ บ้านพักจากเสิ่นหงส์ขังให้คุณ ซึ่งอยู่บนยู่ฉวนซาน นาย น้อย ถ้าคุณสะดวก สามารถมาดูได้เลยตอนนี้” น้ำ เสียงของเฉินจงเต็มไปด้วยความกรุณา หลังจากโทร หาเฉินเจิ้นหนานเมื่อคืนนี้ เฉินจงก็รู้ว่า แม้เฉินเฟิงจะ เป็นแค่ลูกนอกสมรส แต่ก็ไม่ใช่คนที่เขาจะทำให้ขุ่น เคืองได้เลย ดังนั้นเขาจึงหาซื้อบ้านพักที่ดีที่สุดในยู่ฉ วนซานทั้งคืน ซึ่งถือว่าเป็นของขวัญที่มอบแทนคำขอ โทษให้แก่เฉินเฟิง
บ้านพักหรือ? เฉินเฟิงอยากจะปฏิเสธโดย จิตใต้สำนึก แม้ว่าเขาจะมีทรัพย์สินหลายหมื่นล้าน แต่ เขาก็ยังไม่อยากเปิดเผยต่อสาธารณะมากเกินไป เขาชอบที่จะทำตัวต่ำๆ เขาอยากจะเป็นลูกเขยของตระ กูลเสี้ยมากกว่าคนที่ร่ำรวยที่สุดในชางโจว
แต่หลังจากได้ยินคำว่ายู่ฉวนซาน เฉินเฟิงก็ เปลี่ยนใจทันที
เพราะเสื้อเมิ่งเหยาเคยกล่าวไว้ว่า เธอชอบสภาพ แวดล้อมของยู่ฉวนซานมาก เมื่อหาเงินได้ในอนาคต จะซื้อบ้านในยู่ฉวนซานแล้วตื่นแต่เช้าทุกวัน เพื่อปืน ภูเขาไปชมพระอาทิตย์ขึ้น
ในเวลานั้น เฉินเฟิงไม่สามารถซื้อบ้านในยู่ฉวน ซานได้ นับประสาอะไรกับบ้าน เงินเดือนของเขา แม้แต่ห้องน้ำของยู่ฉวนซานก็ไม่สามารถซื้อได้เลย
เนื่องจากยู่ฉวนซานได้รับการหนุนจากภูเขาและ สายน้ำ ทิวทัศน์จึงมีเสน่ห์มาก และควบคู่ไปกับฮวงจุ้ย ที่ยอดเยี่ยม บ้านบนภูเขาจึงมีราคาแพงที่สุดในชางโจ วทั้งหมด แม้แต่ที่อยู่อาศัยธรรมดาก็เริ่มต้นที่หนึ่งแสน ต่อตารางเมตร นับประสาอะไรกับพื้นที่บ้านพักระดับ ไฮเอนด์
สามารถกล่าวได้ว่า หากไม่มีตระกูลเฉิน เฉินเฟิง จะไม่สามารถซื้อบ้านใน ยู่ฉวนซานได้ตลอดชีวิตของ เขา
แต่หลังจากมีตระกูลเฉินเข้ามาแล้ว ก็ไม่ต้อง จำเป็นที่เฉินเฟิงจะริเริ่มซื้อบ้านเอง เฉินจงได้วางบ้าน พักที่ซื้อไว้ตรงหน้าเขาแล้ว
ช่างมัน ก็แค่รับมันไว้ เป็นของขวัญมอบให้แก่เสี้ย
เมิ่งเหยา เฉินเฟิงถอนหายใจในใจของเขา แต่จะทำ อย่างไรให้เสี้ยเมิ่งเหยายอมรับของขวัญนี้ เป็นอีกหนึ่ง คำถาม
“ตกลง เดี๋ยวผมจะไป” หลังจากที่คิดแล้ว เฉินเฟิ งก็ตอบตกลง
“นายน้อย ผมจะส่งรถไปรับคุณเดี่ยวนี้”
“ไม่ต้อง ผมจะไปเอง” เฉินเฟิงพูด ยู่ฉวนซานอยู่ไม่ ไกลจากโรงพยาบาล และอีกอย่าง เขาก็ไม่อยากจะ ผยองเกินไป
“ครับ นายน้อย” เฉินจงก็ไม่กล้าพูดอะไรมากเลย เฉินเฟิงขี่จักรยานไฟฟ้า ไปตามถนน ไปยังยู่ฉวน
ซาน
ในฐานะที่เป็นย่านที่ร่ำรวยที่มีชื่อเสียงในเมืองชาง โจว ยู่ฉวนซานมีการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี แม้แต่ในบริเวณที่อยู่อาศัยธรรมดาบนครึ่งภูเขา ก็
มีป้อมยามติดๆกันเต็มไปหมด อาศัยอยู่ในสถานที่ดัง
กล่าว ผู้อยู่อาศัยไม่ต้องกังวลกับปัญหาของตนเองเลย
หลังจากมาถึงบริเวณบ้านพักบนยอดเขา เจ้า หน้าที่ก็เข้มงวดมากขึ้น
หากมีเพียงคนร่ำรวยในเมืองชางโจวเท่านั้นที่ อาศัยอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยบนครึ่งภูเขางั้นผู้อยู่อาศัย ในพื้นที่บ้านพักบนยอดเขานั้น ไม่เพียงพอที่จะใช้คำว่าร่ำรวยมาอธิบายแล้ว
มีบ้านพักเพียงเก้าหลังเท่านั้น ที่สร้างขึ้นอยู่บน ยอดเขา
ในบ้านพักทุกหลัง ผู้ที่อาศัยอยู่นั้น ซึ่งเป็นคนที่ มีหน้ามีตา ในเมืองชางโจว
หลี่จุ้นเฉิงผู้นำสูงสุดในเมืองชางโจวและเสิ่นหงชัง ชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองชางโจว….
นี่คือสถานที่รวมตัวของชนชั้นสูงระดับแนวหน้า ของเมืองชางโจว
เป็นไปได้ว่า ถ้าอยากจะซื้อบ้านพักที่นี่ ต้องใช้ กำลังเท่าไหร่ กลัวว่าเงินเพียงอย่างเดียวจะใช้ไม่ได้ แต่ต้องมีพลังด้วย!
เฉินจงมีแรงพลังนี้โดยธรรมชาติ ในฐานะหัวหน้า ผู้ดูแลของตระกูลเฉิน ผู้มั่งคั่งอันดับหนึ่งในเมืองหลวง เฉินจงแค่แสดงด้านที่ต่ำต้อยของเขาต่อหน้าเฉินเจิ้น หนานและเฉินเฟิงเท่านั้น
แต่อยู่ภายนอก ฐานะของเฉินจงไม่ได้ด้อยไปกว่า ผู้มีอำนาจระดับสูงบางคน และยิ่งไปกว่านั้น ยังไงแล้ว ผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังเฉินจงก็คือตระกูลเฉิน!
ตระกูลเฉินที่สามารถปกครองกษัตริย์ ในเมือง หลวงซึ่งมีขุนนางอยู่ทุกหนทุกแห่ง! “เฮ้ เจ้าเด็กนั่น หยุดนะ! ” ทันทีที่เฉินเฟิงขี่มาถึง
ประตูบริเวณบ้านพัก ก็ถูกเสียงตะโกนสั่งให้หยุดทันที
กลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในชุดเครื่อง แบบสีดำ รวมตัวกันอยู่รอบๆ