แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 26 เธอยิ่งเป็นภรรยาผม
“บังอาจเหรอ?” เฉินเฟิงยิ้มอย่างดูถูก ส่ายหน้าแล้วพูด ขึ้นว่า “อาจจะใช่มั้ง”
“คุณปู่ ตั้งแต่ผมเข้ามาตระกูลเสี้ย คุณก็ไม่เคยมองผม ตรง ๆ สักครั้ง คุณรู้สึกว่าผมออกหน้าออกตาไม่ได้ จะ ทำให้ตระกูลเสี้ยขายขี้หน้า เพราะฉะนั้นคุณเลยจงใจ กดดันพ่อผม อยากจะใช้แรงกดดันที่ให้กับพ่อผม มาบีบให้ เขาไล่ผมออกจากตระกูลเสี้ย” เฉินเฟิงจ้องเสี้ยหยุนเสิ้งไป ตรง ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เหมือนกับกำลัง บรรยายเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองอย่างงั้น
ภายนอกเสี้ยหยุนเส็งเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน แต่ ภายในใจกลับมีคลื่นยักษ์กำลังก่อตัวขึ้น ทำไมไอ้คนไร้ค่า นี่มันถึงรู้ทุกอย่างมาโดยตลอด? ! เสี้ยหยุนเสิ้งนึกว่าตัวเอง ทำทุกอย่างได้อย่างแนบเนียนแล้ว แม้กระทั่งตัวเสี้ยเว่ยกั๋ว เองก็อาจจะไม่ระแคะระคายความหมายของเขาด้วยซ้ำ ใครจะไปคิดว่าเฉินเฟิงจะดูทุกอย่างออกตั้งนานแล้ว
เป็นครั้งแรกที่เสี้ยหยุนเส็งมีความเกรงกลัวขึ้นมา เฉินเฟิง ไม่ได้เป็นคนไร้ค่าเหมือนกับที่เขาคิดไว้ อย่างน้อยในด้าน การวางแผนการนั้น เมื่อเฉินเฟิงเทียบกับเขาแล้วสูสีกัน มาก ทั้ง ๆ ที่มองทุกอย่างออกตั้งนานแล้ว แต่กลับไม่พูด อะไร คอยอดทนอยู่เงียบ ๆ มาตั้งสามปี ปล่อยให้เขาคอย รังแก แค่ในส่วนของความอดทนนี้ บนโลกนี้ก็มีคนทำได้ เพียงไม่กี่คนหรอก
เสี้ยเมิ่งเหยาที่อยู่ข้าง ๆ ก็ตกใจจนอ้าปากเล็ก ๆ นิ่งค้าง ไปแล้ว สายตาที่มองไปทางเฉินเฟิงเต็มไปด้วยความไม่ อยากจะเชื่อ สิ่งที่เธอตกใจคือ เฉินเฟิงมองเรื่องพวกนี้ออก ตั้งนานแล้ว สิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อคือ ตลอดระยะเวลาทั้ง สามปีมานี้เฉินเฟิงกลับไม่เคยพูดกับเธอเลย!
“เรื่องพวกนี้ผมรู้หมดแล้ว” เฉินเฟิงพูดเสียงราบเรียบ ยืนยันความคิดของเสี้ยหยุนเส็ง
“แต่ผมก็ไม่ได้ถือสาอะไร” เฉินเฟิงยิ้มน้อย ๆ แล้วมองไป ทางเสี้ยหยุนเสิ่งที่หนึ่ง น้ำเสียงเริ่มเย็นชาขึ้นมา “แต่ที่ผม ถือสาคือ คุณไม่ควรดึงเมิ่งเหยามาเกี่ยวด้วย!”
สีหน้าของเสี้ยหยุนเส็งเปลี่ยนสี ไม่รู้ทำไม เขากลับรู้สึก ถึงกลิ่นอายบางอย่างบนตัวของเฉินเฟิงที่ทำให้เขาใจสั่น ขึ้นมา
“เมิ่งเหยาเป็นหลานสาวของฉัน…..เสี้ยหยุนเส็งขยับริม
ฝีปากพูดขึ้น
“แต่เธอยิ่งเป็นภรรยาของผม!” เฉินเฟิงเปิดปากพูดเสียง
เย็น
“ต่อให้คนของตระกูลเสี้ยจะดูถูกเหยียดหยามผมยังไง ผมก็ไม่ถือสาทั้งนั้น!”
“แต่ว่าพวกคุณ ไม่ควรให้เมิ่งเหยาต้องรู้สึกน้อยใจแม้แต่ เสี้ยวเดียว!” เฉินเฟิงเงยหน้าขึ้นอย่างเร็ว ในดวงตาของเขา
มีแววอำมหิตระเบิดออกมาได้อย่างน่าตกใจ
เสี้ยเมิ่งเหยาน้ำตานองหน้า เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมแต่งงานมาสามปี เฉินเฟิงถึงไม่เคยบอกอะไรเธอเกี่ยวกับ เรื่องของเสี่ยหยุนเส็ง ไม่ใช่ไม่อยากพูด แต่เขากลัวว่าเธอ จะกังวลใจ กลัวเธอจะน้อยใจและรู้สึกไม่เป็นธรรม!
เจ้าโง่นี่
“ถ้าหากคนตระกูลเสี้ยของฉัน ทำให้เธอรู้สึกน้อยใจแล้ว นายจะทำยังไง?” เสี้ยหยุนเส็งสีหน้าเคร่งขรึม แค่ลูกเขย แต่งเข้าบ้านคนหนึ่ง ยังจะสามารถพลิกฟ้าได้เลยหรือยังไง
“ฉันก็จะให้ตระกูลเสี้ยของพวกคุณตอบแทนให้สาสม!” เฉินเฟิงน้ำเสียงราบเรียบ
สีหน้าของเสี้ยหยุนเส็งเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม “นายกล้าข่มขู่ฉันเหรอ?!”
“ถ้าคุณรู้สึกว่านี่เป็นการข่มขู่แบบหนึ่งแล้วละก็ ก็คงใช่ มั้ง” เฉินเฟิงพูดเสียงเรียบ
“ผมจะเรียกคุณว่าคุณปู่ครั้งสุดท้าย วันหน้าก็ระวังตัวไว้ ให้ดี ๆ ก็แล้วกัน !” พอเฉินเฟิงพูดจบ ก็จูงมือเสี้ยเมิ่งเหยา จากไปไม่เหลียวกลับไปมองข้างหลังอีก
ข้างหลัง ใบหน้าแก่เหี่ยวย่นของเลี้ยหยุนเส็งกำลังเขียว คล้ำไปแล้ว!
เสี้ยเมิ่งเหยาจับมือของเฉินเฟิงไว้แน่น จนกระทั่งออกมา จากอาคารหยุนเส็งแล้ว เธอถึงรู้ตัวขึ้นมาว่า เพื่อเฉินเฟิง แล้วเธอถึงกับยอมแตกหักกับตระกูลเสี้ยเลยทีเดียว!
นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงคิดยังไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ
สิ่งที่ยิ่งทำให้เสี้ยเพิ่งเหยาไม่อยากจะเชื่อก็คือ เมื่อกี้ เฉินเฟิงจะกล้าเผชิญหน้ากับเสี้ยหยุนเส็งโดยตรง ที่สำคัญ เขายังตอกกลับไปอย่างแข็งกล้าจนเสี้ยหยุนเสิ้งพ่ายแพ้ ย่อยยับกลับไป เฉินเฟิงที่เป็นแบบนี้ สามปีมานี้เสี้ยเมิ่ง เหยาเพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรก
เสี้ยเมิ่งเหยารู้สึกสับสนขึ้นมา เธอพบว่าตัวเองดูเฉินเฟิง
ไม่ออกแล้วจริง ๆ
แม้กระทั่งเธอยังไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเฉินเฟิงเป็น คนยังไง
หลังจากกลับมาบ้านกับเสี้ยเพิ่งเหยาแล้ว พอเปิดประตู เข้าไปก็พบหลินหลันนั่งอยู่บนโซฟาสีหน้าเคร่งขรึม
“บอกให้นายไปช่วยเมิ่งเหยาแก้ปัญหา แต่นายกลับแก้ ปัญหาออกมาแบบนี้เหรอ? !”
หลินหลันมองเฉินเฟิงด้วยสายตาเย็นแล้วถามขึ้น เฉินเฟิงและเลี้ยเพิ่งเหยาเพิ่งออกจากอาคารหยุนเสิ้ง เสี้ย หยุนเส็งก็ประกาศต่อสาธารณชนด้วยความโกรธสุดขีดว่า เขาจะเรียกทีมงานทุกทีมที่อยู่ในความรับผิดชอบของเสี้ย เมิ่งเหยากลับคืน และยังไล่เลี้ยเพิ่งเหยาออกจากบริษัทอีก ด้วย รวมทั้งตึกอสังหาริมทรัพย์มูลค่าสามสิบกว่าล้านที่ มอบให้เสี้ยเมิ่งเหยาเป็นรางวัลเมื่อคราวก่อนก็โดนเสี้ยหยุน เซิ้งริบคืนทั้งหมดอีกด้วย
สามารถพูดได้ว่า ครอบครัวของเธอนั้นถูกผลักตกจาก สวรรค์ลงสู่นรกโดยสิ้นเชิงแล้ว
และทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพราะเฉินเฟิงทั้งนั้น! เขาไปขัดแย้งกับเสี้ยหยุนเสิ่ง
หลังจากที่ได้รับข่าวแล้ว หลินหลันมีสีหน้าไม่อยากจะ เชื่อ ถ้าจะบอกว่าเสี้ยเมิ่งเหยาขัดแย้งกับเสี้ยหยุนเสิ้ง เธอ คงจะเชื่อ แต่ว่าพอเป็นเฉินเฟิง ตีให้ตายเธอก็ไม่เชื่อ!
เจ้าคนไร้ความสามารถคนนี้ ถึงจะโดนเธอตบหน้าต่อ หน้าผู้คนก็ไม่ทำอะไรสักอย่าง จะขัดแย้งกับเสี้ยหยุนเสิ้ง เหรอ เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้แน่!
แต่ว่าตอนที่คนทั้งบริษัทต่างก็พูดกันแบบนั้น เธอจะไม่ เชื่อก็ไม่ได้
เจ้าคนไร้ค่านี้ ช่างกล้ามากจริง ๆ
“แม่ อย่าโทษเฉินเฟิงเลย คุณปู่เขาลำเอียงไปทางเสี้ย ห้าว ไม่เชื่อหนูสักนิด” เสี้ยเมิ่งเหยาขมวดคิ้วพูดขึ้น
“เธอยังจะมาช่วยเขาพูดอีก? !” หลินหลันมองเสี้ยเมิ่ง เหยาอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง “ถ้าหากตอนนั้นเขาใช้น้ำเสียง และคำพูดดีหน่อย และปฏิบัติต่อปู่ของเธอเคารพนอบน้อม หน่อย ปู่ของเธอก็ไม่มีทางตัดสินใจแบบนี้หรอก”
“ตอนนี้ดีเลย โครงการยู่ฉวนซานที่ลำบากลำบนกว่าจะ ตกลงกันได้ ไม่ได้เงินสักบาทไม่ว่า ยังมาโดนบริษัทไล่ออก อีก เธอรู้ไหมฉันต้องขายหน้าแค่ไหน?”
เสี้ยเพิ่งเหยาท่าทางเศร้าสลด ก็เหมือนอย่างที่แม่พูด ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรแล้ว แม้แต่ดำรงชีวิตก็ยังเป็น ปัญหา และที่สำคัญคนอย่างเสี้ยห้าว จะต้องปล่อยข่าวลือไปทั่วแน่นอน เขาจะต้องปั่นเรื่องเธอกับกู้ตงเชินขึ้นมา หลัง จากวันนี้เธอและแม่อย่าหวังว่าจะเชิดหน้าชูตาต่อหน้าใคร อีกเลย
“เฉินเฟิง ถ้านายยังเป็นผู้ชายอยู่ละก็ ก็ไปขอโทษปู่ของ เมิ่งเหยาซะ แล้วขอให้เขายกโทษให้นาย” หลินหลันหัน สายตามาทางเฉินเฟิงแล้วพูดอย่างออกคำสั่ง ถึงแม้ เฉินเฟิงจะไปขอโทษเสี้ยหยุนเส็ง แต่โอกาสที่เสี้ยหยุนเส็ง จะให้อภัยเขานั้นช่างริบหรี่นัก แต่ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้เสี้ยเว่ยกั่วนอนโรงพยาบาลอยู่ บวกกับเสี้ยเมิ่งเหยา มาโดนไล่ออกอีก พวกเธอสูญเสียช่องทางการมาของเงิน ทั้งหมดแล้ว
จากที่หลินหลันดูแล้ว ขอแค่เธอเปิดปากพูด เฉินเฟิงก็ไม่ กล้าขัดขืน จะต้องไปขอโทษเสี้ยหยุนเส็งอย่างว่าง่าย แน่นอน แต่ว่าคราวนี้ เฉินเฟิงกลับทำให้เธอผิดหวังซะแล้ว
เฉินเฟิงส่ายหน้า แล้วพูดเสียงเรียบว่า “ผมจะไม่ไปขอ โทษเสี้ยหยุนเส็ง ถ้าจะขอโทษ ก็ควรจะเป็นเขาที่มาขอ โทษเมิ่งเหยามากกว่า”
หลินหลันนิ่งอึ้งไปทันที ตกใจจนพูดอะไรไม่ออกเลย จะให้เสี้ยหยุนเส็งมาขอโทษเมิ่งเหยา หรือว่าเฉินเฟิงบ้า ไปแล้วเหรอ?
ใบหน้าเสี้ยเมิ่งเหยาก็เต็มไปด้วยความตกใจ จะให้เสี้ย หยุนเส็งมาขอโทษตัวเองเหรอ เธอคิดยังไม่กล้าคิดเลย “เฉินเฟิง นายควรจะไปตรวจสมองที่โรงพยาบาลดูนะ”หลินหลันยิ้มเย็นแล้วพูด
เฉินเฟิงยิ้มแล้วพูดขึ้น “คุณแม่ ไม่ว่าคุณแม่จะเชื่อหรือไม่ ผมพูดว่าจะให้เสี้ยหยุนเส็งมาขอโทษเมิ่งเหยา เขาก็จะต้อง มาขอโทษเมิ่งเหยาแน่นอน คุณแม่รอดูต่อไปเถอะ”
หลังจากพูดจบ เฉินเฟิงก็เข้าห้องนอนของตัวเองไปเลย
“รอก่อน นายกลับมาพูดให้ชัดเจนนะ…พอเห็นเฉินเฟิง ทั้งหน้าเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ หลินหลันก็เริ่มมึนงง แล้ว หรือว่าเจ้าคนไร้ค่านี้จะมีความมั่นใจจริง ๆ
“ปัง”
เฉินเฟิงปิดประตูลงทันที
การกระทำนี้ ทำให้หลินหลันโกรธขึ้นมาไม่น้อย เจ้าคน ไร้ค่านี้ ตัวเองให้เกียรติเขาเกินไปแล้วจริง ๆ
เสี้ยเมิ่งเหยากลับมีความคาดหวังขึ้นมา ถึงแม้เธอจะรู้ดี ว่าโอกาสที่เสี้ยหยุนเส็งจะมาขอโทษเธอนั้นช่างริบหรี่ แต่ เธอก็ยังอยากจะคาดหวังสักนิด ไม่ใช่ว่าการขอโทษของ เสี้ยหยุนเส็งนั้นสำคัญกับเธอแค่ไหน แต่เป็นเพราะว่าเธอ อยากจะรู้ว่าเฉินเฟิงนั้นขี้โม้หรือเปล่า