แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 18 ท้าทายเสี้ยหยุนเส็ง
สมาชิกตระกูลเสี้ยมากมายที่มุงดูอยู่ก็รู้สึกแค้น เคืองอย่างไม่เป็นธรรมขึ้นมา อยู่ในตระกูลเสี้ย เสี้ยหยุ สิ่งคงอยู่เสมือนเทพเจ้า ไม่เคยมีใครกล้ายั่วยุอำนาจ ของเสี้ยหยุนเสิ้ง แต่วันนี้ แค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านคน เดียว ไม่เพียงกล้าเรียกชื่อเสี้ยหยุนเส็งเฉย ๆ ยังกล้า ยั่วยุเสื้อหยุนเสิ้งอีก นี่จะให้สมาชิกตระกูลเสี้ยอดทน ต่อไปได้ยังไง!
แม้แต่หน้าเรียวของเสี้ยเพิ่งเหยาก็มีความกังวล ปรากฏขึ้นมา เธอรู้สึกว่าคำพูดพวกนี้ของเฉินเฟิงดูเกิน ไปหน่อย ถ้าหากไปถึงหูเสี้ยหยุนเส็งแล้วละก็ เสี้ยหยุน เลิ้งคงจะไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ แน่ อาจจะไล่เฉินเฟิงอ อกจากตระกูลเสี้ยก็เป็นไปได้
เฉินเฟิงกวาดตามองสมาชิกทั้งหลายของตระกูล เสี้ยด้วยสายตาเย็นครั้งหนึ่ง ในสายตาของสมาชิกตระ กูลเสี้ย เสี้ยหยุนเสิ้งคงอยู่แบบสูงสุดไม่มีใครเหนือกว่า แต่จากที่เฉินเฟิงดูแล้ว เสี้ยหยุนเส็งก็เป็นเพียงแค่วัตถุ โบราณที่ไม่ยอมรับฟังความคิดผู้อื่น และยังถูกผิดไม่ แยกอีก
จะให้เขาเฉินเฟิงเกรงกลัวเหรอ? เสี้ยหยุนเสิ้งยัง ไม่มีสิทธิ์นั้น!
พอเห็นสมาชิกทั้งหลายของตระกูลเสี้ยที่แต่ละ คนโกรธจนหน้าแดงก่ำ แต่กลับไม่มีใครกล้าเดินเข้ามาทำอะไรตัวเอง แม้กระทั่งคนที่สบตาเย็นเฉียบของเขา เข้าตรง ๆ พวกเขาก็ยังถอยหลังไปสองก้าวอย่าง อัตโนมัติ เฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
เขาส่ายหน้าไปมา แล้วยิ้มอย่างดูถูกว่า “พวกไม่มี
ประโยชน์ทั้งนั้นจริง ๆ !”
พวกไม่มีประโยชน์ที่กล้ารังแกแต่คนอ่อนแอกว่า แต่กลัวคนแข็งแกร่งกว่า! ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรื่องที่พวกเขาถนัด
ที่สุดก็คือ โอ้อวดต่อหน้าคนที่อ่อนแอกว่า ก้มหัวคำนับ
คนที่แข็งแกร่งกว่า
เมื่อก่อนตัวเขาเองเพื่อจะไม่ให้เป็นจุดสนใจของ ตระกูลเฉิน ก็เลยตั้งใจแกล้งทำตัวอ่อนแอ ตอนนั้น สมาชิกคนไหนของตระกูลเสี้ยก็แล้วแต่ ล้วนกล้าดูถูก เหยียดหยามเขาทั้งนั้น
หลังจากอดทนมาสามปี ตัวเองนอนตื่นมา แล้ว ปล่อยด้านดุร้ายด้านหนึ่งออกมา ถึงแม้ตัวเองจะด่า พวกเขาว่าไม่มีประโยชน์ต่อหน้า พวกเขาก็ยังไม่กล้า พูดอะไรสักแอะ
คนแบบนี้ ช่างน่าเศร้าจริง ๆ
อยู่ ๆ เฉินเฟิงก็สูญเสียความสนใจไป รังแกคน แบบพวกนี้ มันไม่สนุกเลยจริง ๆ
“เมิ่งเหยา เรากลับกันเถอะ” เฉินเฟิงมองไปทาง เสี้ยเมิ่งเหยา ยิ้มแล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ
เสี้ยเมิ่งเหยารู้สึกกังวลแล้วมองไปที่เฉินเฟิงทีหนึ่ง แต่แล้วก็พยักหน้าเบา ๆ
จนกระทั่งทั้งสองคนออกจากลานกว้างของบริษัท แล้ว สมาชิกตระกูลเสี้ยทั้งหลายในลานถึงได้พากัน โล่งใจได้เปลาะหนึ่ง แล้วปาดเหงื่อที่ซึมออกมาบนหน้า ผากกัน
เสี้ยห้าวใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกลียด ถ้า จะบอกว่าเมื่อก่อนคนที่เขาเกลียดที่สุดคือเสี้ยเมิ่งเหยา แล้วละก็ งั้นตอนนี้ คนที่เขาเกลียดที่สุดก็ต้องเป็น เฉินเฟิงแน่นอน
เขายอมรับการโดนเสี้ยเมิ่งเหยาตบหน้าได้ แต่เขา ไม่มีทางยอมรับการโดนเจ้าคนไร้ค่าเฉินเฟิงตบหน้าได้ อย่างเด็ดขาด!
“เฉินเฟิง….” ระหว่างทาง เสี้ยเมิ่งเหยามีอะไร อยากจะพูดแล้วก็ไม่พูด เธอไม่เข้าใจ ว่าทำไมอยู่ๆ เฉินเฟิงถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ขึ้นมา แม้กระทั่งเสี้ยหยุ นเส็งก็ยังกล้ายั่วยุ
“เมิ่งเหยา เธอเชื่อใจฉันไหม?” อยู่ ๆ เฉินเฟิงก็ถาม ขึ้น
เสี้ยเมิงเหยามึนไปแล้ว ก็คือเมื่อวาน เฉินเฟิงเคย ถามคำถามเดียวกันนี้ในWechatกับเธอแล้ว เธอเลือก ที่จะเชื่อ
หลังจากนั้นเธอก็เจรจาโครงการยู่ฉวนซานได้สำเร็จ
วันนี้ เฉินเฟิงก็ถามเธอด้วยคำพูดแบบเดียวกันอีก แล้ว..
เสี้ยเมิ่งเหยายิ้มแล้วก็พูดขึ้นว่า “เชื่อซิ”
ไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการเหตุผล
มุมปากของเฉินเฟิงคลี่ยิ้มออก “ผมจะต้องให้คุณ ปุ่มอบโครงการยู่ฉวนซานให้คุณใหม่อีกครั้งแน่”
เสี้ยเมิ่งเหยาอ้าปากค้างอย่างแปลกใจ ให้คุณปู่ มอบโครงการยู่ฉวนซานให้ตัวเองใหม่อีกครั้งเหรอ? เธอไม่กล้าเชื่อจริง ๆ เพราะว่าเธอเข้าใจนิสัยของคุณปู่ ดี คนแก่ที่มองศักดิ์ศรีสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น
ในเมื่อเขาได้ตัดสินใจไปแล้ว ว่าจะเอาโครงการยู่ ฉวนซานมอบให้เสี้ยห้าว ก็จะไม่มีทางเปลี่ยนใจอีก แน่นอน ถ้าเอาโครงการมามอบให้แก่ตัวเธออีก อย่าง งั้นละก็เขาก็ตบหน้าตัวเขาเองแล้ว
และที่สำคัญถ้าจะเอาโครงการมอบคืนให้กับเธอ ใหม่อีกครั้ง งั้นก็แสดงว่าคุณปู่จะต้องก้มหัวให้กับตัว เธอด้วย
คุณปู่จะก้มหัวให้กับตัวเธอไหม? เสี้ยเมิ่งเหยารู้สึก ว่าไม่หรอก ในเมื่อที่ผ่านมาคุณปู่เขาอยู่อย่างสูงส่ง เสมอ ในสายตาเขา ผู้น้อยก็คือผู้น้อยตลอดกาล จะให้ ผู้ใหญ่มาก้มหัวให้กับผู้น้อย นั่นมันทรมานยิ่งกว่าฆ่า เขาซะอีก
แต่เฉินเฟิงกลับพูดได้อย่างแน่วแน่ขนาดนี้ นี้เป็น ครั้งแรกที่เสี้ยเพิ่งเหยารู้สึกสับสนขนาดนี้
คนหนึ่งก็เป็นปู่ของตัวเอง อำนาจที่แน่นอนของ ตระกูลเสี้ย ส่วนอีกคนก็เป็นสามีของตัวเอง คนไร้ค่า ในสายตาของคนตระกูลเสี้ย ตกลงตัวเองควรจะเชื่อ ใครดีนะ?
ที่จริงแล้ว สิ่งที่เสี้ยเพิ่งเหยาไม่รู้ก็คือ เฉินเฟิงคิด ไว้ตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่จะให้เธอไปเจรจาเรื่อง โครงการยู่ฉวนซานกับหลินจงเหว่ย เฉินเฟิงก็คิดไว้ แล้ว ว่าถ้าเจรจาโครงการได้สำเร็จแล้ว เสี้ยหยุนเส็งก็ จะต้องเตะเสี้ยเมิ่งเหยาออกแน่นอน แล้วจะพยุงเสี้ย
ห้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง
เสี้ยหยุนเส็งนึกว่าตัวเองเป็นคนกุมอำนาจที่ แน่นอนของตระกูลเสี้ยไว้ แล้วเสี้ยเมิ่งเหยาจะไม่กล้า, ขัดขืนการตัดสินใจของเขา
แต่เสี้ยหยุนเส็งกลับมองข้ามเขาลูกเขยที่แต่งเข้า บ้านตระกูลเสี้ยที่ดูไม่มีความสำคัญอะไรไป!
เขาต่างหาก ถึงจะเป็นคนที่สามารถกำหนดความ เป็นความตายของตระกูลเสี้ยได้อย่างแท้จริง!
คลับเจวาย เป็นหนึ่งในคลับบันเทิงที่ใหญ่ที่สุด ของชางโจว
ตอนนี้ ในห้องส่วนตัวสุดหรูของคลับ เสี้ยห้าว กำลังนั่งอยู่บนโซฟา สีหน้าดูมีดขรึมถึงขีดสุด
ประตูห้องส่วนตัวถูกผลักเปิดออก ผู้ชายคนหนึ่งที่ ใส่เสื้อเชิ้ตลายดอก บนใบหน้ามีรอยแผลเป็นที่น่ากลัว จากมีดก็เดินเข้ามา
ข้างหลังผู้ชาย ยังมีผู้หญิงอีกสองคนที่ใส่ชุดกี่เพ้า ฝ่าข้างเดินตามมาด้วย เผยให้เห็นถึงขาเรียวยาวสวย ท่อนใหญ่ของหญิงสาวสวยงาม
“ท่านเชิน”
พอเห็นผู้ชายเดินเข้ามา เสี้ยห้าวก็รีบลุกขึ้น ท่าทางนอบน้อม
“เสี้ยห้าว มาถึงที่ของฉัน มีเรื่องอะไรกัน” กู้ตงเชิน นั่งลงไปบนโซฟาอย่างท่าทางสบาย ๆ สาวกี่เพ้าข้าง ๆ รีบเอาซิการ์ออกมามวนหนึ่งแล้วจุดให้กู้ตงเชิน
“ท่านเชิน ดูคุณพูดเข้าซิ ไม่มีเรื่องอะไรก็มาหา คุณไม่ได้แล้วเหรอ” เสี้ยห้าวท่าทางเจ้าเล่ห์ ผู้ชายที่อยู่ ตรงหน้าชื่อกู้ตงเชินสถานะทางด้านสว่างนั้นเป็น เจ้าของคลับเจวาย แต่ทางด้านมืดนั้น กู้ตงเชินกลับ เป็นหัวงูของพื้นที่ทิศตะวันตกในชางโจว คลับบันเทิง เกือบจะทั้งหมดในทิศตะวันตก อยู่ในความดูแลของกู้ ตงเชินทั้งนั้น
กู้ตงเป็นส่ายหัว แล้วพ่นควันซิการ์ออกมายิ้มแล้ว พูดขึ้น “อย่ามาทำเป็นพูดแบบนี้กับฉัน นายแค่ดึง กางเกงลง ฉันก็รู้แล้วว่านายจะขี้แบบไหน พูดมาเถอะ ไปเจอเรื่องอะไรมาอีกแล้ว ต้องการให้ฉันช่วยจัดการ ใช่ไหม?”
“ท่านเชิน ที่จริงก็ไม่มีเรื่องอะไร” น้ำเสียงเสี้ยห้าว หยุดลง แล้วพูดขึ้นว่า “คือว่า ท่านเชิน เมื่อก่อนคุณ เคยพูดไว้ไม่ใช่เหรอว่าชอบลูกพี่ลูกน้องของผมคนนั้น มาก…..”
“ลูกพี่ลูกน้องของนาย? เสี้ยเมิ่งเหยาเหรอ!” กู้ตง เชินตาสว่างขึ้นมาทันที อยู่ ๆ ก็มีกระตือรือร้นขึ้นมา
“ใช่ เธอนั่นแหละ” เสี้ยห้าวพยักหน้า
“เด็กสาวคนนั้นแต่งงานไปสามปีแล้วไม่ใช่เหรอ?” กู้ตงเชินขมวดคิ้วขึ้น “ทำไม เธอยั่วโมโหนายเหรอ?” กู้ ตงเชินลองถามดู
“ก็ไม่ถึงกับยั่วโมโหหรอก คือตระกูลเสี้ยเราเพิ่งไป เจรจาโครงการกับบริษัทติ่งเฟิงมาได้ใช่ไหม แล้วคุณปู่ ก็จะมอบโครงการนี้ให้ผมดูแล แต่ยัยเด็กสาวเสี้ยเมิ่ง เหยานี่ เธอจะเข้ามายุ่งให้ได้ ผมกับเธอก็เลยเกิดเรื่อง ขัดแย้งกันขึ้นนิดหน่อย”
“นายอยากจะเก็บเธอเหรอ?” กู้ตงเชินยักคิ้วถาม ขึ้น
เสี้ยห้าวรีบส่ายหน้า ยิ้มกว้างแล้วพูดขึ้น “ท่านเชิน คุณพูดเล่นแล้ว ผมจะเก็บเธอไปทำไม”
เรื่องฆ่าคนนี้ เสี้ยห้าวคิดยังไม่กล้าคิดเลย
“โครงการของบริษัทติ่งเฟิงเหรอ? หมายถึงยู่ฉวน ซานละซิ” กู้ตงเชินหรี่ตาลงแล้วถามขึ้น เรื่องที่เฉินเฟิง และเสิ่นหงชังร่วมลงทุนบุกเบิกทำโครงการยู่ฉวนซานไปห้าหมื่นล้านเขาต้องรู้อยู่แล้ว หรือพูดอีกอย่างก็คือ ตอนนี้คนทั้งชางโจวต่างก็รู้กันหมด
“ท่านเชิน คุณช่างเป็นคนมีสายตาหลักแหลมจริง ๆ” เสี้ยห้าวพูดอย่างประจบประแจง
“สามส่วน กู้ตงเป็นพูดออกมาเรียบ ๆ สองคำ สามส่วน? อะไรสามส่วน?